Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อ้อนรักอาเสือ
5.0
ความคิดเห็น
33.7K
ชม
31
บท

“นึกดูดีๆ เจ้าเอยเรามีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดไหม ตัดคำว่าอาหลานออกไปก่อน ตอนนี้เราก็คือผู้หญิงกับผู้ชายที่มีความต้องการเหมือนกัน ถ้าอาปล่อยให้เจ้าเอยกลับห้องตอนนี้เจ้าเอยก็นอนไม่หลับและอาก็คงเป็นผู้ชายที่โง่มาก”

บทที่ 1 รับปากไว้ก่อน

ปีขาลชายหนุ่มวัย 35 กำลังเซ็งสุดขีดเมื่อมารดาโทรมาบอกให้เขารออยู่ที่ห้องทั้งที่เย็นนี้เขานัดเพื่อนเอาไว้แล้วว่าจะไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อน

เขาหวังว่าธุระที่มารดาจะมาพูดกับเขาจะเสร็จก่อนที่จะถึงเวลาที่นัดไว้กับเพื่อน นานๆ ปีขาลกับเพื่อนถึงจะมีเวลาว่างตรงกันเขาก็เลยอยากจะสนุกอย่างเต็มที่

ชายหนุ่มไม่รู้ว่าธุระที่มารดาพูดถึงนั้นมันจะสำคัญอะไรมากมายจนทำให้เธอต้องมาหาเขาถึงคอนโดก่อนถึงวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่จะกลับไปทานข้าวที่บ้านกับครอบครัวเป็นประจำ ดูท่าทางท่านจะใจร้อนเอามากๆ

ระหว่างรอให้มารดามาหาปีขาลก็เก็บนิตยสารที่กองอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมหน้าโซฟาแล้วจับมันยัดไว้ในชั้นวางหนังสืออย่างลวกๆ เพราะถ้ามารดามาเห็นก็คงจะบ่นเขาแน่ๆ ว่าทำห้องรก

ทั้งที่เขาเองก็มีแม่บ้านมาทำงานที่นี่วันเว้นวันอยู่แล้วแต่ไม่ว่าจะทำความสะอาดหรือเก็บกวาดยังไงห้องของเขามันก็กลับมารกเหมือนเดิมทุกที

เสียงออดที่หน้าประตูทำให้ปีขาลรีบลุกขึ้นไปเปิดอย่างรวดเร็ว

“สวัสดีครับ แม่คิดถึงผมมากเลยต้องมาหาใช่ไหมครับ” ปีขาลกอดมารดาก่อนจะพาเธอมานั่งที่โซฟาและเปิดตู้เย็นหยิบน้ำทับทิมของโปรดมาให้

“น้ำทับทิมครับแม่”

“ขอบใจจ้ะ เสือยังรู้ใจแม่อยู่เหมือนเดิม”

“ก็ผมลูกแม่นี่ครับ ว่าแต่ทำไมให้ผมไปหาที่บ้านล่ะครับ มาถึงที่นี่ทำไมลำบากแย่เลย”

“แม่อยากมาดูด้วยว่าเสือแอบซุกใครไว้ที่นี่หรือเปล่า”

“โธ่..แม่ผมจะแอบซุกใครไว้ล่ะถ้าผมมีป่านนี้แม่บ้านก็คงรายงานแม่ไปแล้ว”

“แม่ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าใช่ไหม”

“มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนโสดครับแม่ ว่าแต่แม่บอกว่ามีธุระจะคุยกับผม มันด่วนมากเหรอครับถึงไม่รอให้ถึงเย็นวันเสาร์

“แม่มีเรื่องจะรบกวนเสือนิดหน่อย”

“ว่ามาเลยครับ”

“สัญญาก่อนว่าจะทำให้แม่”

“สัญญาสิผมรักแม่ขนาดนี้แม่ขออะไรผมก็ต้องยอมทั้งนั้นแหละ ปีขาลกอดมารดาอย่างประจบเขาก็แค่อยากรับปากไปก่อนส่วนจะทำตามหรือไม่ก็ต้องดูอีกที แต่ถ้าปฏิเสธมารดาก็คงจะอยู่คุยกับเขายาวแน่ๆ

“เสือจำน้าพัชรีเพื่อนแม่ได้ไหม” คุณนิตตราเริ่มเปิดประเด็น

“น้าพัชรีที่บ้านอยู่ทางเหนือใช่ไหมครับแม่” เขาพอจะนึกออกเพราะมารดาเคยพาไปเที่ยวที่นั่นอยู่หลายวันแต่มันก็ตั้งแต่สมัยที่เราเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง

“นั่นแหละจ้ะ”

“แม่มีอะไรหรือเปล่าหรือธุระที่แม่มาวันนี้เกี่ยวกับน้าพัชรีใช่ไหมครับ”

“จ้ะ น้าเขามีเรื่องรบกวนเสือนิดหน่อย”

“ว่ามาเลยครับแม่ ถึงผมกับน้าพัชรีจะไม่สนิทกันแต่ผมรู้ว่าแม่กับน้ายังติดต่ออยู่ แล้วน้าเขาก็ใจดีส่งส้มมาให้เรากินกันทุกปี”

“คือน้าเขาอยากฝากให้เสือช่วยดูแลลูกสาวเขาหน่อย”

“อะไรนะครับแม่”

“เบาๆ สิเสือพูดเสียงดังแบบนี้แม่ตกใจหมดนะ”

“แม่หมายความว่ายังไง แม่คงไม่คิดจะให้เธอมาอยู่กับผมที่นี่หรอกนะ ไม่เอานะแม่ผมไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนอื่น” ปีขาลรีบปฏิเสธ

“แม่ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะให้เขามาอยู่กับเสือที่นี่ แม่อยากให้เสือช่วยดูแลระหว่างที่หนูเจ้าเอยมาทำงานช่วงแรกๆ”

“ค่อยโล่งใจไปหน่อยแล้ว จะให้ผมช่วยเหลือยังไงครับ”

“คือหนูเจ้าเอยเขาจะมาอยู่ห้องตรงข้ามกับลูก”

“แล้วยังไงต่อครับ”

“แม่ก็อยากจะฝากให้เสือช่วยดูแลเธอหน่อย เธอเพิ่งมาอยู่กรุงเทพคงไม่ค่อยรู้เรื่องถนนหนทางเท่าไหร่ ถ้าไม่ลำบากมากนักแม่ก็อยากให้เสือช่วยรับส่งช่วงเล็กแรก”

“ไม่รู้เรื่องถนนหนทางแล้วจะมาอยู่กรุงเทพทำไมให้ลำบาก”

“ก็เจ้าเอยเขาได้งานที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆ กับบริษัทของเสือไง”

“เด็กคนนั้นเรียนจบแล้วเหรอครับ”

“ใช่จ้ะเธอเรียบจบบรรณารักษ์และได้มาทำงานในมหาวิทยาลัย”

“แล้วทำไมเขามาทำงานไกลจังเลยครับแม่”

“ก็มหาวิทยาลัยที่นี่มีห้องสมุดก็ค่อนข้างจะใหญ่น้องเขาก็เลยอยากได้ประสบการณ์น่ะ”

“ผมคงช่วยได้ไม่มากนะครับ ถ้าจะให้รับส่งทุกวันก็คงไม่ไหว”

“คงไม่อย่างนั้นหรอก เสือก็แค่คอยรับส่งช่วงแรกๆ จากนั้นก็ให้เจ้าเอยนั่งรถไปเองก็ได้”

“เขาขับรถไม่เป็นเหรอครับแม่”

“น้าพัชรีบอกว่าพอขับได้อยู่นะแต่น่าจะไม่ค่อยคุ้นเส้นทางเท่าไหร่ รอให้คุ้นเคยก่อนก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าน้องจะเลิกนั่งรถไปเองหรือจะเลือกเอารถมาใช้ที่นี่”

“ผมหวังว่าเธอคงไม่สร้างปัญหาให้ผมนะครับ” ปีขาลจำได้ว่าเขาเคยเจอเด็กที่ชื่อเจ้าเอยนานมากแล้วเด็กคนนั้นเป็นคนที่ช่างพูดช่างคุยและช่างซักถามจนเขารู้สึกรำคาญ พยายามเดินหนีแต่ดูเหมือนยิ่งหนีเธอก็จะยิ่งตามเขาราวกับลูกเป็ดเดินตามแม่

“แค่นี้ใช่ไหมครับธุระที่แม่จะคุยกับผม”

“ใช่จ้ะ”

“แล้วลูกสาวของเพื่อนแม่เขาจะมาเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้เย็นแม่อยากให้เสือไปรับน้องที่สนามบินกับแม่”

“ผมนึกว่าน้าพัชรีจะมาส่ง”

“ช่วงนี้น้าพัชรีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่จ้ะ เสือก็ช่วยแม่ดูแลน้องหน่อยนะ แม่รับปากนะพัชรีไว้แล้วว่าจะช่วยดูแลลูกสาวเขาอย่างดี”

“ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมจะแวะไปรับแม่ที่บ้านนะครับ ถ้าจะไปตอนไหนแม่โทรตามผมละกัน”

“ได้จ้ะ”

“แม่จะกลับเลยไหม”

“นี่แม่มายังไม่ถึงชั่วโมงเลยนะ เสือจะไล่แม่กลับแล้วเหรอ มีนัดใช่ไหมล่ะ” เธอมองการแต่งตัวของลูกชายแล้วก็ถามอย่างรู้ทัน

“ผมมีนัดไปดื่มกับเพื่อนนิดหน่อยครับแม่ นานๆ จะว่างตรงกันก็เลยว่าจะเมาให้เต็มที่หน่อย”

“อยากไปไหนก็ไปแต่อย่าลืมว่าพรุ่งนี้เย็นเรามีนัดกันนะเสือ”

“ครับแม่”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
อ้อนรักอาเสือ
1

บทที่ 1 รับปากไว้ก่อน

14/09/2024

2

บทที่ 2 ไม่ใช่คนเดิม

14/09/2024

3

บทที่ 3 แอบคิดไปไกล

14/09/2024

4

บทที่ 4 เริ่มมองเห็นความวุ่น

14/09/2024

5

บทที่ 5 ไม่ชอบตื่นเช้า

14/09/2024

6

บทที่ 6 ทำงานวันแรก

14/09/2024

7

บทที่ 7 คิดถึงบ้าน

14/09/2024

8

บทที่ 8 ไม่เป็นแฟนกับญาติผู้ใหญ่

14/09/2024

9

บทที่ 9 รู้สึกแปลกกว่าจับมืออาใหญ่

14/09/2024

10

บทที่ 10 Sexy

14/09/2024

11

บทที่ 11 ถอยห่างหรือทำตามใจตัวเอง

14/09/2024

12

บทที่ 12 เด็กหนีเที่ยว

14/09/2024

13

บทที่ 13 เกือบไปแล้ว

14/09/2024

14

บทที่ 14 สานต่อ nc

14/09/2024

15

บทที่ 15 ปล่อยไปก็โง่ nc

14/09/2024

16

บทที่ 16 สับสน

14/09/2024

17

บทที่ 17 ทำให้เห็นว่าจริงใจ

14/09/2024

18

บทที่ 18 สะใภ้ใหญ่ดีไหมนะ

14/09/2024

19

บทที่ 19 อย่าใจแคบ

14/09/2024

20

บทที่ 20 รูปผู้หญิงคนเดียวในมือถือ

14/09/2024

21

บทที่ 21 ไม่แก่

14/09/2024

22

บทที่ 22 เริ่มต้นพิสูจน์ nc

14/09/2024

23

บทที่ 23 ไม่ได้บอกว่าชอบ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ nc

14/09/2024

24

บทที่ 24 ไม่เหมาะสมจริงๆ

14/09/2024

25

บทที่ 25 จับคู่ให้ผิดคน

14/09/2024

26

บทที่ 26 ไว้ใจ

14/09/2024

27

บทที่ 27 เครื่องประดับที่เหมาะสม

14/09/2024

28

บทที่ 28 ไม่ไหวจริงๆnc

14/09/2024

29

บทที่ 29 สงสัย

14/09/2024

30

บทที่ 30 ใจร้อนทั้งบ้าน

14/09/2024

31

บทที่ 31 ตอนจบ

14/09/2024