icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
21.2K
ชม
132
บท

แม้ใครจะมองว่าเป็นเพียง ‘ดอกดิน’ ไร้ค่า แต่เธอจะไม่ด้อยค่าสำหรับตัวเอง ‘คนปฏิบัติตนอยู่ในความดีงาม แม้จะไปตกอยู่ในที่อบายภูมิ ความดีก็จะหนุนนำให้ตัวเรารอดพ้นสิ่งไม่ดีนั้นได้’ ชีวิตของ ‘หล้า’ ไม่ต่างจาก ‘ดอกดิน’ ที่ไร้ค่า แต่เธอเลือกที่จะยึดมั่นในการทำความดีและไม่มองว่าตัวเองด้อยค่า เลือกที่จะรักตัวเองและไม่ทำให้ตัวเองตกต่ำไปตามหนทางอบายมุขและสิ่งยั่วเย้ายวนใจ เพราะชีวิตคือสิ่งที่เธอลิขิตเอง การยึดมั่นและเชื่อมั่นในความดีที่ไม่ว่าอย่างไร คนกระทำดีก็ย่อมจะได้รับผลดีตอบแทน ทุกเส้นทางที่ก้าวเดินสำหรับเธอนั้นแม้จะเจือไปด้วยความขื่นขมปนสุขสมในบางครั้ง แต่นั่นก็เป็นเพียงจังหวะของชีวิตที่งดงามปาน ‘เริงระบำ’

บทที่ 1 EP.01

ดอกไม้สีม่วงอมแดงมีเกสรสีเหลืองดูแตกต่างไปจากดอกไม้ในกระถางนับสิบที่วางเรียงรายกันอยู่บริเวณด้านนอกของระเบียงบ้าน สีที่ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และลักษณะคล้ายรูปถ้วยคว่ำที่เขามักจะคิดว่าดอกไม้แบบนี้น่าจะเป็นดอกไม้จากป่าลึก หรือไม่ก็อาจเป็นดอกไม้จากในวรรณคดีที่มีเพียงในจินตนาการ หรืออาจเป็นเพราะดอกไม้ชนิดนี้ไม่มีใบ ไม่มีกิ่งก้าน ลักษณะลำต้นตรงขึ้นมาจากพื้นดิน ก่อนจะออกดอกเบ่งบานอวดความงดงามตามธรรมชาติที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครให้ชาวโลกได้ประจักษ์ว่า ความงามฉายชัดและยังเบ่งบานได้แม้จะไม่มีกิ่งใบคอยพยุงหรือโอบอุ้มเลยมีอยู่จริง

ริมฝีปากนั้นคลี่ยิ้มละไมก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ดอกเดี่ยว ดวงตาคมเข้มทอดมองแสงไฟสลัวที่เล็ดลอดออกมาจากม่านลูกไม้สีขาวของหน้าต่างห้องนอนด้านบน สลับกับมองสิ่งที่เขาโอบอุ้มไว้อย่างแสนรัก

“ฮือ...ฮือ...”

เสียงร้องไห้ที่ดังติดต่อกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำยันค่อนดึกทำให้คนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ในมุ้งสีเทาเก่าจนเกือบจะขาดใกล้จะหมดความอดทนเข้าไปทุกที ชายผ้าห่มทั้งสองข้างถูกดึงขึ้นมาคลุมปิดใบหูด้วยหวังว่าเสียงนั้นจะเล็ดลอดเข้าไปไม่ได้ แต่ผิดคาดเพราะยิ่งพยายามจะปิดเท่าไรก็ยิ่งเหมือนเสียงนั้นจะดังอื้ออึงอยู่ภายในหัวมากขึ้น และมันทำให้เธอหมดความอดทนในที่สุด

“โว้ย! อีหล้า! หยุดร้องซะที กูจะหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ กูจะหลับจะนอน มึงจะคร่ำครวญหาสวรรค์วิมานอะไร แม่ง! จะร้องหาโคตรพ่อโคตรแม่ของมึงรึไง อีนี่! วอนซะแล้ว มึงรีบมานอนเลยนะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน อีหล้า! กูบอกให้หยุดร้อง! มึงจะมานอนไหม! หรือจะให้กูเอามึงไปมัดกับเสาไฟ จะมานอนไหม! อีนี่! จะลองดีกับกูใช่ไหม!”

เด็กหญิงวัยประมาณหกขวบสะดุ้งสุดตัวเพราะคำด่าทอและเสียงแหลมใส่อารมณ์นั้น ไม่ต่างอะไรจากเสียงของพญามัจจุราชที่กำลังตวาดเหล่าดวงวิญญาณที่เธอเคยเห็นในละครทีวีที่ร้านค้าหน้าปากซอยเข้าตลาด เพราะยายมักจะใช้ให้เธอไปซื้อกะปิ น้ำปลา และเครื่องครัวจิปาถะอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งเด็กหญิงก็มักจะถูกลากกลับพร้อมกับก้านมะยมที่ประเคนใส่น่องเล็กไม่ยั้ง เหตุเพราะดูทีวีเพลินจนลืมของที่ยายสั่งซื้อ

ดวงตาบอบช้ำเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัวเต็มที่ ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาส่ายไปมาแรงๆ จนผมหน้าม้าสะบัดตามแรงขยับ เพราะสถานที่ที่น้าสาวกล่าวถึงนั้นไม่ต่างจากที่สิงสถิตของเหล่าผีร้ายที่คอยหลอกหลอนและข่มขวัญเด็กให้ขวัญกระเจิง เสาไฟฟ้าต้นสูงใหญ่หน้าบ้านที่ทางการเพิ่งมาติดตั้งแทนเสาไม้ที่เก่าคร่ำคร่าตามอายุของตลาดเก่าในชุมชนเป็นสิ่งที่สร้างความหวาดผวาแก่เด็กในซอยที่สุด

ในยามค่ำคืนสายลมพัดเอื่อย มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟเก่าๆ ที่ไม่สามารถส่องแสงสว่างนำทางแก่ผู้สัญจรไปมาได้เท่าที่ควร ช่วงดึกที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดผ่านเข้าออกในถนนส่วนบุคคลนี้ กลับมีร่างน้อยถูกจับมัดตรึงไว้กับเสาไฟ ความทรงจำอันน่าหวาดผวาเกิดขึ้นเพียงเพราะเด็กหญิงบังอาจร้องไห้คร่ำครวญหาพ่อแม่ในยามดึก ซึ่งจะแปลกอะไรกับเด็กหญิงตัวน้อยที่ขาดทั้งพ่อและแม่ เพราะที่พักพิงอย่างดีที่สุดสำหรับเด็กน้อยตาดำๆ ก็คืออ้อมอกของแม่

“โอ๊ย! น้าลมอย่าทำหล้า หล้ากลัวแล้ว อย่าทำ...หล้าขอโทษ อย่าทำหล้าเลย ฮือ...หล้ากลัว น้าลมหล้ากลัวแล้ว น้าลม ฮือ...อย่าทำหล้า อย่า...น้าลม ฮือ...”

เด็กหญิงพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากเงื้อมมือมัจจุราชที่ยื่นออกจากมุ้งเก่าสีมอมาคว้าตัวเธอไว้ เมื่อไม่สามารถทำได้ จึงเปลี่ยนเป็นพนมมืออ้อนวอนทั้งน้ำตา

“มึงอยากร้องนักใช่ไหม งั้นมึงไปร้องให้พอ ร้องอย่าหยุดนะมึง! กูจะดูสิว่าวิญญาณพ่อวิญญาณแม่มึงมันจะมาหาไหม ถ้ามันรักอีลูกไร้ค่าอย่างมึงมันก็ต้องกลับมา ไม่ใช่ไปอยู่กับฝรั่งแล้วไม่เอามึง แม่มึงทิ้งแล้วยังจะไม่เจียมตัว มานี่เลยมึง อีหล้า!”

คนพูดใช้น้ำเสียงดุเข้มเกินความเป็นจริง เพียงแค่พี่สาวหายสาบสูญผู้เป็นน้องสาวก็ไม่น่าจะโกรธแค้นและทารุณหลานสาวได้มากขนาดนี้ แต่ลมรำเพยก็ทำ ไม่มีอะไรที่เธอจะทำกับ ‘มัตติกา หรือ หล้า’ หลานสาวตัวน้อยของเธอไม่ได้ มือแข็งปานคีมเหล็กบีบกระชับที่ต้นแขนเล็กก่อนจะออกแรงกระชากโดยไม่กลัวสักนิดว่าท่อนแขนน้อยๆ นั้นจะหลุดติดมือออกมาหรือไม่

“น้าลมอย่าว่าแม่ แม่รักหล้า แม่ไม่ได้ทิ้งหล้า โอ๊ย! น้าลมหล้าเจ็บ! น้าลม ปล่อยหล้านะ ฮือ...แม่จ๋า...พ่อจ๋า... ยาย...ยายจ๋าช่วยหล้าด้วย ยาย...ฮือ...”

เสียงด่าทอด้วยแรงอารมณ์สลับกับเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวของเด็กหญิงทำให้ร่างท้วมที่พยายามข่มใจนอนอยู่อีกฟากหนึ่งของบ้านไม้หลังเท่ารูหนูต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ดวงตาฝ้าฟางคล้ายจะมีน้ำเลี้ยงคลออยู่ในนั้น นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง แม้ไม่อยากยุ่งเกี่ยวแต่ก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ไม่เช่นนั้นวันพรุ่งนี้คงต้องคอยตอบคำถามชาวบ้านร้านตลาดอีกตามเคย และดีไม่ดีข้าวของจะพลอยขายไม่ออกไปด้วย

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ