1. เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80s
7. เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
9. ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25
10. ชายาร้าย ที่ไม่ได้รัก NC18
ผู้เขียน: เพลงมีนา
เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง และยังเป็นคุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอย...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
ตอนที่1. ลืมตา
ทันทีที่ตัดสินใจลืมตา ภาพแรกที่เห็นคือเด็กน้อยสองคนที่หน้าตาคล้ายกันจนเหมือนพิมพ์เดียวกันนั่งจ้องหน้าด้วยแววตาวิตกกังวล มันไม่ใช่แววตาที่เด็กสามขวบควรมี ทำให้เธอตัดสินใจยื่นมือไปคว้าเอาเด็กสองคนมากอดแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ เสียงหัวเราะคิกคักจึงดังขึ้น
“แม่ตื่นแล้ว” หญิงสาวบอกกับเด็กน้อยที่ตอนนี้ปีนขึ้นเตียงเธอเรียบร้อยแล้ว “ทำไมลูกๆ ตื่นเช้ากันจัง หรือว่าหิวกันแล้ว”
“หม่ำๆ”
“ขอโทษนะ แม่ตื่นสายเอง” เธอจุ๊บแก้มนุ่มๆ ของเด็กๆ ไม่กี่นาทีต่อมา แม่บ้านวัยห้าสิบก็โผล่หน้าเข้ามาด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“ขอโทษค่ะคุณผู้หญิง ป้าเตรียมอาหารเช้าอยู่ไม่คิดว่าคุณหนูจะตื่นแล้วมากวนคุณผู้หญิง”
“ช่างเถอะ” หญิงสาวโบกมือไปมาแล้วบอกกับเด็กฝาแฝดชายหญิงทั้งสอง “ขอแม่ล้างหน้าแปรงฟันก่อน ไปรอแม่ข้างนอกก่อนนะคะ”
เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้ารับแล้วกระโดดลงจากเตียงเดินไปพร้อมกับคุณป้าแม่บ้าน หลังจากบานประตูห้องปิดสนิทแล้ว หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมา พลางหันไปมองตัวเองในจากกระจกโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ใกล้เตียงนอน
นี่คือใบหน้าของผู้หญิงที่ชื่อ หลินเหยาซื่อ เจ้าของใบหน้างดงามอ่อนหวาน แม้จะอายุเพียงยี่สิบสองแต่ก็มีลูกแฝดชายหญิงแสนน่ารักชื่อ กั๋วจางลี่และกั๋วจางหย่ง ทั้งสองใช้แซ่กั๋วตามบิดาก็คือกั๋วคังเหรินที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง
หลินเหยาซื่อได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้เลย เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง คุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980
ครั้งแรกที่เธอลืมตาขึ้นคือเมื่อเจ็ดวันที่แล้ว หลินเหยาซื่อไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเลยสักนิด เธอรู้เพียงแค่ว่า ร่างกายนี้อ่อนแอจนน่าเวทนา ตรอมใจกับการหายไปของสามีจนร่างกายทรุดโทรมลงทุกวัน สุดท้ายก็เป็นลมหมดสติไปถึงเจ็ดวัน การหลับไปยาวนานของเจ้าของร่างเป็นสาเหตุให้เด็กแฝดทั้งจะมองแม่ด้วยแววตาหวั่นวิตก ด้วยกลัวว่าแม่จะหลับไปยาวนานไม่ตื่นขึ้นมาอีก หลินเหยาซื่อต้องตั้งสติอยู่เป็นวันๆ เธอยังคิดว่าตัวเองคงแค่ฝันไป หากตื่นมาอีกครั้งคงกลับไปสู่ร่างของตนเอง แต่ลืมตากี่ครั้ง เธอก็ยังอยู่ในร่างนี้และสิ่งแวดล้อมในยุค 80
ผู้เขียน: Axel Bob
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่า...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 การแต่งงานที่น่าสมเพช
ในค่ำคืนอันมืดมิด
แสงไฟภายในคฤหาสน์ของตระกูลยู่ยังส่องสว่างไสว เสียงหัวเราะครื้นเครงดังออกมาเรื่อย ๆ จากทางห้องนั่งเล่น
เจียงซุ่ยยืนอยู่เพียงผู้เดียวภายในห้องครัว ใบหน้าของหญิงสาวขึ้นสีแดงอย่างผิดปกติ เธอมองหม้อซุปด้วยความวิงเวียน ไอจากหม้อที่ลอยขึ้นมาปะทะใบหน้าทำให้เธอมองอะไรไม่ค่อยชัด
หญิงสาวมีไข้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
แต่เธอไม่มีแม้แต่เวลาจะออกไปหาซื้อยามากิน เธอมัวแต่สาละวนอยู่กับงานบ้านพวกนี้จนไม่ได้ออกไปไหนเลย
“นี่ เสร็จหรือยังวะ! เธอขนาดแค่ทำกับข้าวก็ช้าขนาดนี้ นี่พี่ชายของฉันไปคว้าเอาขยะอย่างเธอมาแต่งงานด้วยได้ยังไงเนี่ย!”
ยู่โหลเดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เจียงซุ่ยได้แต่เลียริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง หญิงสาวคุ้นชินกับท่าทีเช่นนี้ของน้องสามีตนเองแล้ว
“อีกไม่นานก็เสร็จแล้วค่ะ”
“งั้นก็เร็ว ๆ เข้า พี่ชายของฉันกับพี่เมิ่งหนิงกำลังรออยู่” ยู่โหลออกคำสั่งให้อีกคนเร่งมือ “พี่เมิ่งหนิงน่ะไม่เหมือนกับสาวบ้านนอกคอกนาอย่างเธอหรอกนะ พี่เขาเพิ่งจะกลับมาจากการรักษาที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นจะปล่อยให้พี่เขาหิวไม่ได้ เพราะถ้าพี่เขาหิวขึ้นมา พี่ชายของฉันไม่เอาเธอไว้แน่!”
เจียงซุ่ยกำช้อนในมือของตนเองแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกแทงทะลุหัวใจ มันเจ็บปวดเหลือเกิน
เธอคอยดูแลยู่จินเฉินและตระกูลยู่ด้วยกำลังทั้งหมดที่เธอมีมาตลอดระยะเวลาสามปี ไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้คนหนึ่ง แต่ในสายตาของสามี เธอเทียบอะไรกับเสิ่นเมิ่งหนิงไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผมด้วยซ้ำ
ผู้เขียน: อัญญาณี
ทุกอย่างจบสิ้น ขาทั้งสองข้างปรินดาสั่น ร่างกายอ่อนเพลียมากเพราะนับตั้งแต่เครื่องบินขึ้นสู่รันเวย์ เธอตกเป็นนางบำเรอของฌอร์นนานหลายชั่วโมง และเวลานี้เธอก็ทนไม่ไหว ความเป็นหญิงร้อนฉ่าและเจ็บปวด ปรินดาหล...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1
เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวราคาเกือบหนึ่งพันล้านบาทกำลังลอยตัวอยู่บนฟากฟ้า จุดหมายปลายทางคือประเทศไทย ภายในตกแต่งอย่างเลิศหรูตามราคา ล้วนแล้วแต่เป็นของแบรนด์เนม ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายเต็มที่ เพราะมีแอร์โฮสเตสที่จ้างมาเฉพาะคอยบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มตลอดการเดินทาง
ปรินดาสาวชาวไทยที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษหนึ่งปี อีกสองปีเธอจมอยู่ในกรงทองล้อมกรอบด้วยหนามแหลมคมของมาเฟียหนุ่ม ฌอร์น โทแลตโต้ เดอมาร์ชี ในมิลานประเทศอิตาลี หลายคนอาจมองว่าเธอสุขสบายอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ อยู่ดีกินดี มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับตรงกันข้าม ความรู้สึกหนึ่งที่เธอได้รับเรื่อยมากตั้งแต่วันแรกที่อยู่ในเอื้อมมือฌอร์น ลากยาวมาจนถึงปัจจุบันคือ ความเจ็บปวดที่ไม่อาจเปล่งเสียงร้องขอหรืออ้อนวอนให้เขาหยุดการกระทำนี้ได้ เพราะความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
“โอ้ว...โคตรมันเลย...อา...กระแทกใครไม่มันเท่านี้เลย...โอ้” ฌอร์นเป็นบุรุษที่มีพลังทางเพศล้นเหลือ เขาสาดพลังความใคร่ใส่ร่างเล็กแบบไม่ออมมือ ไม่ออมแรง หมัดกล้ามทุกสัดส่วนแน่นตึงจากความปรารถนา ทุกท่วงท่ามากกว่าเข้าสุดออกสุด เปรียบเสมือนการระบายอารมณ์ใส่ร่างปรินดามากกว่า “เพี้ยะๆ...โอ้ว”
มือหนักๆ ตีลงไปบนแก้มก้นปรินดา ความแรงทำให้เกิดรอยฝ่ามือ แล้วยังมีรอยมือก่อนหน้านี้จากการบีบเคล้นอีกหลายรอย เหมือนไม่หนำใจ ก้นขาวๆ ทั้งสองข้างถูกมือใหญ่ขยำแรงๆ พร้อมกัน ขณะแก่นกายใหญ่สอดประสานไม่หยุดพัก ทุกจังหวะคือความเร็วและแรง เป็นความแรงที่ทำให้เธอจุกแน่นช่วงท้อง
“คุณฌอร์น...อา...อืม”
เป็นความเจ็บปวดซ้ำๆ ที่ไร้ความชาชิน เกมสวาทของฌอร์นไม่เคยนุ่มนวล เขาไม่ปรานีร่างกายบอบบางของปรินดาเลยสักนิดเดียว โกรธหรือไม่พอใจใครมาก็จะมาลงที่เธอ หญิงสาวต้องแบกรับความกักขฬะของเขาด้วยความรู้สึกเดิมๆ ที่อัดเข้าไปในหัวใจบอบช้ำ เธออยากร้องไห้มากกว่า ร้องระบายความปวดร้าวระบมกาย ทุกข์ระทมใจ ทว่าน้ำตาสาวคือพลังฮึกเหิม ยิ่งทำให้เขาเพิ่มความรุนแรงหลายเท่า
อย่าคิดว่าฌอร์นมอบความเจ็บให้สาวใต้ร่างเพียงแค่นี้ เขาสอดมือไปส่วนหน้าที่เบียดชิดกับที่นอน ทรวงอกสาวคือเป้าหมาย เขาลงน้ำหนักมือแรงมาก หนักแน่น ก่อนดึงตัวเธอขึ้นสูง โดยมือทั้งซ้ายขวาประคองเต้าอวบพอดีมือยังคงขยำบีบ เอวใหญ่ซอยเข้าใส่ต่อเนื่อง
“มันดีจัง...อา...อูวว์” เขาหยุดการเคลื่อนไหว ถอนร่างกายออกจากความนุ่มชื้น ผลักปรินดาล้มลงบนที่นอนอย่างไม่ใยดี พลิกร่างเล็กให้นอนหงาย ดึงเธอเข้ามาใกล้ความเป็นชายที่รวมร่างกับเธอทันที ต่อจากนั้นคือพายุเสน่หาลูกใญ่ถาโถมเข้าหาร่างสวยแบบไม่ยั้ง อัดแต่ละครั้งเข้าลึกสุดทาง ฌอร์นเร่งความเร็วเต็มกำลังเพื่อทะยานตนไปถึงจุดหมาย
ผู้เขียน: อัญญาณี
"ยัยลูกหมา..." คือชื่อเรียกหล่อน จากปากสามีไร้ใจ ... เขาหมายตาน้องสาว แต่ดันได้พี่สาวมาเป็นแม่ของลูก ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของลัดดา ทำให้เขากับครอบครัวไม่พอใจ แล้วนำความรู้สึกมาลงที่หล่อน หน้าที่หลักของหล่อ...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1
เหมือนเช่นทุกปี วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่คือวันรวมญาติ คนในตระกูลวัฒนะพันธ์ จะมารวมตัวกันที่บ้านหลังนี้ บ้านที่มีผู้อาวุโสสุดพักอาศัยอยู่ ปีนี้นางมีอายุแปดสิบปี ทว่าร่างกายยังแข็งแรง ลุกเดินได้โดยไม่ต้องมีใครช่วยพยุงหรือใช้เครื่องทุ่นแรง โดยเฉพาะฝีปาก ยังกล้าแข็งไม่แผ่ว และเป็นที่นับถือของลูกหลาน ที่ออกเกรงกลัวพลังอำนาจของนาง เพราะนางเป็นคนเดียวที่ช่วยให้ธุรกิจครอบครัว ผ่านวิกฤตมาได้อย่างหวุดหวิด
ลัดดาคนกุมอำนาจในบ้านนั่งอยู่ในห้องรับแขก โดยมีลูกหลานราวเจ็ดคนนั่งล้อมรอบ ใบหน้าทุกคนเกลื่อนด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข พูดคุยเรื่องธุรกิจที่เพิ่งฟื้นตัวอย่างภาคภูมิใจ
ต่างกับผู้หญิงคนหนึ่ง ดวงหน้าหวานอาบความเศร้า นัยน์ตาหล่อนหมองหม่น ความเสียใจ น้อยใจโบกทับจิตใจจนมันสูงเสียดฟ้า แล้วดูเหมือนว่า ความรู้สึกทั้งหลายจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ หญิงสาวเดินถือกระเป๋ากลางเก่ากลางใหม่เข้ามาในห้องดังกล่าว กุลธิรัตน์นั่งคุกเข่าบนพื้น
“ลูกหมีมาลาคุณย่าค่ะ” ลัดดาปรายตามองหลานสาวแสนชังแวบเดียว คล้ายไม่ใส่ใจคำพูด
“อืม ก็ไปสิ มัวรออะไร คนของบ้านโน้นมารอรับแล้ว อย่าพิรี้พิไรเลย” ไม่มีคำอวยพร ไม่มีประโยคที่ชวน
ให้รู้สึกว่า เป็นห่วงเป็นใย ชวนให้รู้สึกว่าเป็นการเสือไสไล่ส่งมากกว่า กุลธิรัตน์น้ำตารื้น หัวใจเจ็บปวดมาก
“ลูกหมีลาคุณพ่อคุณแม่ค่ะ” หล่อนยกมือไหว้บิดามารดาที่แทบไม่สนใจ อภิรักษ์ก้มหน้ากดมือถือ อนงค์ยกน้ำชาขึ้นมาจิบ ไม่มีใครกล่าวคำใด มีแต่ความหมางเมิน ไม่เห็นกุลธิรัตน์อยู่ในสายตา กุลธิรัตน์ยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ก่อนลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าเดินทาง ก้าวเดินออกไปนอกบ้าน
“นี แกเอาน้ำมนต์มาถูกบ้านฉันด้วยนะ แล้วฉีดให้ทั่วบ้านด้วยนะ ตัวเสนียดไปแล้ว ฉันไม่อยากให้เศษเสนียดในตัวมันอยู่ในบ้านหลังนี้”
เสียงคำสั่งดังมากพอให้คนกำลังเดินออกจากบ้านได้ยิน กุลธิรัตน์กลั้นน้ำตาไม่ได้ มันหยดลงเคลียร์แก้มนวล หยาดน้ำตาที่ไม่เคยห่างใบหน้าสาว มันหลังรินมาตลอดนับตั้งแต่หล่อนเกิดมา ยี่สิบเจ็ดปี เป็นเวลาอันยาวนานมาก กุลธิรัตน์หวังเหลือเกินว่า ที่อยู่ใหม่ของตน จะทำให้หล่อนไม่ต้องหลั่งน้ำตา หล่อนอยากมีรอยยิ้ม มีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง
กุลธิรัตน์หวังเช่นนั้น...
ผู้เขียน: ณดารินทร์
ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..เขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น อย่าฝันจะเป็นอิสระ
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 สบตา
ตอนที่ 1 สบตา
พชร คลาร์ก มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน ผู้มีเรือนร่างสูงใหญ่ ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด ใบหน้ารูปไข่ สันกรามโค้งมนเด่นชัด คิ้วเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาล จมูกโด่งจัด รับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดราวผู้หญิง ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนทำให้มาเฟียหนุ่มหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่ง จนทำให้เป็นที่หมายปองของสาวๆครึ่งค่อนประเทศ ยังไม่รวมถึงการเป็นทายาทคนที่สองของตระกูลคลาร์ก ตระกูลมาเฟียที่เก่าแก่ของอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมและกาสิโนชื่อดังอย่าง แกรนด์ คลาร์ก
และการที่ผู้หญิงเข้ามาให้เขาเลือกมากมาย มันทำให้เขากลายเป็นคาสโนว่า เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น และไม่ยอมคบกับใครจริงจังเลยสักคน แม้ปีนี้เขาจะอายุย่างเข้า 27 ปีแล้วก็ตามที
มาเฟียหนุ่มยืนมองความยิ่งใหญ่และหรูหราของกาสิโนที่พ่อของตัวเองบุกเบิกสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากด้วยความภาคภูมิใจ และสองปีที่เขารับหน้าที่บริหารแทนพ่อ เขาสามารถทำให้มันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลจนต่อยอดความยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีก
“รถพร้อมแล้วครับนาย”
หลุยส์ และลูคัส บอดี้การ์ดคนสนิท โค้งตัวให้เจ้านายหนุ่ม ก่อนจะพากันขึ้นรถยนต์คันหรู เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารไทยชื่อดังของลาสเวกัส เพื่อทานข้าวกับนางแบบสาวชื่อดังของประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในคู่ควงของเขาในอดีต ซึ่งตอนนี้เธอเดินทางมาทำงานที่นี่ เลยหาโอกาสมากระชับความสัมพันธ์กับเขาอีกนิด เพราะหวังที่จะได้เป็นตัวจริงของเขาหากเธอปรนนิบัติเขาได้ถูกใจ
“แพท วิกกี้คิดถึงจังเลยค่ะ”
ร่างบางในชุดเดรสสั้นแสนเซ็กซี่สีแดง ตรงเข้าสวมกอดเขาทันทีที่เขาเข้ามาในร้านอาหารไทยแห่งนี้ เธอสื่อสารกับเขาด้วยภาษาอังกฤษที่เธอถนัด เพราะเธอเองก็เป็นลูกครึ่ง และที่เธอได้เจอและมีความสัมพันธ์กับเขา เพราะเธอเรียนปริญญาโทคลาสเดียวกับเขาที่อเมริกานั่นเอง
หนุ่มหล่อกอดเธอตอบ ก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน และเป็นสาวสวยคนนั้นที่เขย่งตัวขึ้น ใช้แขนตวัดรอบลำคอหนา แล้วจูบเขาอย่างเร่าร้อนโหยหาซึ่งเขาเองก็จูบตอบเธอเสียเร่าร้อนพอกัน โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นนับสิบคู่ที่มองตรงมาที่เขาและเธอเลย
ผู้เขียน: pimchan publication
ชีคซาอิดถือจอกน้ำผึ้งหวานมานั่งที่ริมขอบเตียง เขาจะจ่อมันที่ปากของคนหลับอยู่ แต่ก็เปลี่ยนใจยกจอกนั้นมาดื่มแทนแล้วก้มลงมอบจุมพิตหวานให้หล่อน เพื่อถ่ายเทน้ำหวานเชื่อมในอุ้งปากป้อนหล่อน... ไอยวรินทร์รู้ส...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 2 บทนำ
ณ ฮาเร็มแห่งชีค ซาอิด บิน โมริด อัล คาลิฟาห์ รัฐ ราสอัลไมคาราฟ หนึ่งสี่รัฐแห่งสหรัฐแลตโกเวีย
เสียงเอะอะโหวกเหวกโวยวายราวกับฮาเร็มจะแตกนั้นทำให้คนที่รออยู่ด้านนอกห้องแต่งตัวนางสนมคนใหม่ที่จะขึ้นถวายตัวแก่ชีคซาอิด ชีคผู้ครองนครราสอัลไมคาราฟนั้นประหวั่นพรั่นพรึงกันอย่างถ้วนทั่วหน้า... แต่ละคนล้วนเกรงจะโดนท่านชีคผู้ทรงอำนาจและแสนเด็ดขาดบั่นหัวที่ส่งตัวนางสนมผิดประเพณีที่เคยได้ทำสืบต่อกันมาเป็นร้อยๆ ปี เนื่องจากคำสั่งของมารดาแห่งท่านชีคให้ส่งตัวนางสนมด้วยวิธีที่ไม่เคยใช้มาก่อน...
นางรับใช้แต่ละคนล้วนลำบากใจที่ต้องทำตามความต้องการท่าน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทำ เพราะขืนขัดคำสั่งท่านชีคคาผู้เป็นมารดาของชีคซาอิดนั้นก็คงได้ต้องโทษหากท่านไม่ได้ดั่งใจ แต่กระนั้นการกระทำเช่นนี้หากท่านชีคซาอิดไม่พอใจ พวกนางก็คงไม่แคล้วต้องโทษเช่นกัน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเชื่อฟังฝ่ายใดก็มีสิทธิถูกบั่นหัวได้พอกัน
ตามประเพณีที่ถูกต้องนั้น สตรีนางใดที่จะถวายตัวนั้นต้องถูกเตรียมความพร้อม สอนวิชาการบริหารเสน่ห์และกามสูตรเพื่อให้นางเหล่านั้นปรนเปรอความสุขแก่ท่านชีคให้ได้พอใจมากที่สุด...แต่ละนางต้องถูกสั่งสอนให้เชื่อฟังและยกยอท่านชีคเหนือหัว ไม่แม้แต่จะเถียงหรือขัดเรื่องใดให้ท่านชีคเคืองอุรา... แต่ผู้หญิงที่มารดาแห่งท่านชีคพามาคนนี้ นอกจากจะเป็นคนต่างชาติต่างภาษาและไม่ได้รับการอบรมใดๆ ก่อนเข้าฮาเร็มแล้ว... นางยังไม่ได้ถูกทดสอบหรือทำลายเยื่อพรหมจรรย์ ไม่ได้เตรียมร่างกายให้พร้อมนอกเหนือไปจากการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น... ท่านชีคกำลังจะมาที่ฮาเร็ม และพระมารดาสั่งให้พวกนางถวายตัวนางสนมที่เป็นต้นเหตุแห่งเสียงสนั่นราวกับโลกาวินาศนี้แก่ท่านชีค!...
พวกนางกำนัลที่ดูแลอยู่นั้นต่างส่ายหน้าแล้วมองหน้ากันอย่างให้กำลังใจ ราวกับว่าพวกตนกำลังจะถูกประหารลงตรงนี้...
“นี่ยังไม่หยุดเสียงดังอีกหรือ” เสียงพูดของผู้มาใหม่นั้นทำเอานางกำนัลที่กำลังพากันกลัดกลุ้มอยู่นั้น ต่างกรูกันเข้าไปเกาะที่แข้งขาของชีคคามูนา ผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้าแห่งชีคซาอิด
“ท่านชีคคา.. โปรดเถิด ให้พวกเราเปลี่ยนตัวนางสนมที่จะถวายตัวเถิด พวกเราขอรมยาสลบนางม้าดีดกะโหลกนี้แล้วซ่อนตัวนางไว้ก่อน ให้เราได้อบรมนางก่อนที่จะถวายตัวแก่ท่านชีคเถิดนะคะ ไม่อย่างนั้นเกิดนังนั่นทำอะไรไม่ถูกใจท่านชีคขึ้นมา เราได้หัวขาดกันทุกคนแน่”
ผู้เขียน: Pinkygirl
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ น...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 นางมีชีวิตใหม่อีกครั้ง!
ในคุกใต้ดินที่ทั้งมืดและชื้น ตะขอเหล็กหนาสองอันเจาะเข้าไปในเนื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเลือดสาดกระเซ็นออกมา มันเจาะเข้าไปในกระดูกไหล่ของเซียวหยี่เกออย่างไร้ความปรานี
“อ้า!”
นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และสะดุ้งทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ตัวของนางสั่นไม่หยุด ดวงตาข้างซ้ายที่บวมเป่งกับรอยแผลเป็นที่คล้ายกับไส้เดือนบนหน้าของนาง เหมือนว่าจะทำให้นางดูน่าสยดสยองน่าหวาดกลัวมากขึ้น และเลือดก็ไหลออกมาตามตะขอจนแดงเต็มพื้น
ผู้ชายสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง เมื่อเห็นสภาพน่าอนาถของนาง เหมือนกับว่าพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
“ทำไม? ทำไมถึงทำกับข้าแบบนี้?” เซียวหยี่เกออดทนกับความเจ็บปวดที่แทบจะขาดใจตาย เงยหน้าขึ้นมองไปทางพวกเขาด้วยความยากลำบาก พวกเขาคนหนึ่งคือผู้ชายที่นางรักอย่างสุดใจ คนหนึ่งคือท่านพี่ของนาง คนหนึ่งคือเพื่อนที่รักกันมาตั้งแต่วัยเด็ก นางไม่อยากเชื่อว่า พวกเขาจะทำกับนางอย่างโหดร้ายขนาดนี้
เชียนซือเฉินเดินเข้ามาตรงหน้านาง “เกอเอ๋อร์ เจ้าไม่ควรหนี ฝูเอ๋อร์เป็นพี่สาวของเจ้า นางร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก แต่เลือดของเจ้ามียาวิเศษปะปนอยู่กว่าร้อยชนิด พิษทั้งปวงไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ แล้วยังสามารถทำให้คนฟื้นคืนชีพได้ หมอหลวงได้บอกแล้วว่า ใช้เลือดในตัวของเจ้าแลกให้กับฝูเอ๋อร์ นางก็จะสามารถมีอายุยืนยาวได้ เจ้าครอบครองตัวตนของฝูเอ๋อร์มานานหลายปี นางไม่เคยตำหนิอะไรเจ้า แล้วยังดีกับเจ้าเป็นอย่างมากด้วย เจ้าเองก็ไม่อยากให้นางเป็นอะไรไป ถูกต้องหรือไหม? ”
“นางสามารถมีอายุยืนยาว แล้วข้าล่ะ? ข้าก็ต้องตายอย่างนั้นหรือ?” เซียวหยี่เกอมองผู้ชายที่ตัวเองรักอย่างสุดหัวใจตรงหน้า แต่ในเวลานี้กลับดูแปลกหน้าเป็นอย่างมาก “ท่านพี่ซือเฉิน ท่านบอกเองว่าจะไม่ทำให้ข้าเสียใจ!” นางลองพิษทุกชนิดเพื่อเขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถึงได้สามารถฝึกตัวเองให้พิษทั้งปวงมิอาจเข้ามากล้ำกลายนางได้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นข้ออ้างที่เขาจะนำมาใช้ทำร้ายนาง
ผู้เขียน: เนื้อนวล
เพราะความเข้าใจผิดทำให้เขาคิดว่าเธอโสเภณีราคาถูก เพราะพิษรักทำให้เธอดำดิ่งลงสู่อเวจีแสนหวานไปชั่วนิรันดร์ “คุณยั่วจนผมสติแตกได้ทุกทีสิน่า...” เขาพึมพำ ขณะล้วงลิ้นเข้าไปในอุ้งปากหวานที่เผยออ้าออกรับอย...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1
บรรยากาศอื้ออึงของสถานบันเทิงมีชื่อที่สุดกลางเมืองหลวง กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมผสานกับควันบุหรี่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ นักท่องราตรีนับร้อยชีวิตอัดแน่นเข้ามาในที่อโคจรแบบนี้กันอย่างล้นหลาม บางคนก็ดื่มเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนก็เต้นแร้งเต้นการาวกับคนเสียสติ
หากเป็นในยามที่จิตใจปกติ บัวบุษบาก็คงแทบจะอาเจียนกับสิ่งที่ได้สัมผัสตรงหน้า แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ มันไม่ใช่ตอนที่หัวใจพังยับเยิน ภาพแฟนหนุ่มกำลังประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะกับเพื่อนสาวที่ตัวเองไว้ใจกระหน่ำเข้ามาในหัว ความผูกพันตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา ทำไมช่างไม่มีความหมายเอาเสียเลย
นาวินเพื่อนร่วมชั้นที่พัฒนามาเป็นแฟน กลับนอกใจหล่อนอย่างไม่ละอาย เขาไม่มีท่าทีตกใจสักนิดที่เห็นหล่อนยืนร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู แถมแม่เพื่อนสุดรักของหล่อนก็ยังมอบรอยยิ้มแห่งชัยชนะสาดใส่หน้าหล่อนสมทบมาอีก และพวกเขาก็ยังเล่นรักกันต่อหน้าของหล่อนอย่างเมามันไร้สิ้นความอับอาย เป็นหล่อนเสียอีกที่ต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีออกมา ภาพการร่วมรักสด ๆ ที่มีแฟนหนุ่มกับเพื่อนสาวเป็นพระเอก - นางเอก ทำร้ายหัวใจดวงน้อยจนพังยับเยิน เลือดสด ๆ ไหลทะลักออกมา
หญิงสาวมองแก้วที่ใส่เครื่องดื่มสีสวยอย่างชั่งใจ หล่อนไม่รู้หรอกว่าไอ้ของเหลวในแก้วนี้มันเรียกว่าอะไร รู้เพียงแต่ว่ามันคงแรงน่าดู เพราะหล่อนเป็นคนร้องขอกับบริกรเอง มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาที่มันไหลออกมาเรื่อย ๆ ทิ้งอย่างไม่ไยดี ก่อนจะยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมด สาวน้อยเบ้หน้าเมื่อของเหลวรสชาติบาดคอพวกนั้นไหลผ่านลำคอลงสู่กระเพาะอาหารอย่างรวดเร็ว
แก้วแล้วแก้วเล่าถูกทั้งกรอกทั้งสาดใส่ลำคอระหง สาวน้อยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สมองลบเลือนภาพที่ได้เห็นเมื่อเย็นนี้ ต้องการให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อทุกอย่างที่ได้เห็น ทุกอย่างที่ได้ยินมันคือเรื่องจริง
ผู้เขียน: ซีไซต์
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคื...
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 องค์หญิงสิบสาม
ภายในตำหนักฉงหวาบัดนี้นอกจากจะมีไทเฮาที่ประทับอยู่ภายในแล้ว
ยังมีจินเทียนฮ่องเต้และเต๋อฮองเฮาประทับอยู่อีกด้านของเตียงเตาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"เสด็จแม่หยางเอ้อหลางกลับจากชายแดนมาครานี้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ ลูกเห็นว่าควรตอบแทนเขาให้สมเกียรติ"
ไทเฮาแย้มพระพักตร์เยือกเย็นแล้วตรัสว่า
"ฝ่าบาทนับวันอิทธิพลของตระกูลหยางยิ่งมากขึ้น ประชาชนล้วนรักใคร่อีกทั้งตระกูลหยางเสียสละเพื่อแคว้นของเราเพียงใดแม้แต่เด็กแดงยังรู้ อย่าหาว่าแม่ยุ่งเรื่องราชกิจแต่เพราะเป็นห่วงเจ้าจริงๆ จึงอยากให้เจ้าคิดให้ถี่ถ้วน"
"ที่เสด็จแม่กล่าวมาไม่ผิด ตระกูลหยางทำความชอบใหญ่หลวงแต่อำนาจมากเกินไป ขุนนางต่างอยู่ใต้อำนาจแม้ไม่ได้ยุ่งการภายในแต่ทุกคนล้วนเกรงใจ หากปล่อยต่อไปลูกเกรงว่าอาจจะเป็นภัย"
"ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แก่ใจควรจะหาวิธีลดทอนอำนาจเสีย"
"ฝ่าบาทเพคะหม่อมฉันคิดว่ามีวิธีที่ตระกูลหยางไม่อาจขัดได้อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อพวกเรา"
ฮองเฮาตรัสนิ้วมือเรียวเต่งตึงราวกับสตรีแรกแย้มยกป้านน้ำชาขึ้นรินลงในจอกด้วยท่วงท่าสง่างามแล้วนำถวายแด่ฝ่าบาท
"วิธีการใดเล่าเจ้ารีบพูด"
"อภิเษกอย่างไรเล่าเพคะ" ฮองเฮาตรัสเบาๆ ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
ฝ่าบาทคล้ายจะชะงักไปก่อนจะแย้มสรวลออกมา
ผู้เขียน: ซีไซต์
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 วางยา
กลางดึกยามจื่อคืนนี้ครึกครื้นนัก ภายในจวนใหญ่ของอ๋องเจ็ดเต๋อลู่หานผู้ที่กำลังเกิดความต้องการอันบ้าคลั่ง สองมือปลดเปลื้องชุดแต่งงานของสตรีที่ชื่อว่าเป็นพระชายาของตนเองออกโดยแรง กระทั่งชุดแต่งงานขาดออกเป็นชิ้น ๆ กระจายอยู่เต็มพื้น
สตรีนางหนึ่งกลับนอนแน่นิ่ง ปล่อยให้เต๋อลู่หานย่ำยีร่างกายตนเองตามที่เขาปรารถนาโดยไร้อาการต่อต้านอย่างสิ้นเชิง
เมิ่งลี่เฟยมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังจับร่างของตนด้วยอาการหยาบโลนด้วยสายตาอันว่างเปล่าไร้ความรู้สึก
นางได้แต่คิดถึงงานมงคลของตนเองที่เพิ่งจะผ่านพ้น
ช่างเป็นวันมงคลที่น่าอดสูสิ้นดี
สามีเกลียดชัง ไร้การคล้องแขนดื่มสุราอวยพร ไร้ซึ่งการเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวอย่างที่ควรจะเป็น
เสียงของผู้คนภายนอกยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอากาศด้านนอกนั้นจะหนาวจัด แต่ผู้คนยังปักหลักอยู่ในจวน ร่ำสุราฟังเสียงหวานของนักดนตรีผู้งดงามขับกล่อมด้วยความสนุกสนาน
ผ้าสีแดงถูกประดับเต็มอาณาเขต ภายนอกเรือนหอผู้คนเริงสำราญ ทว่าบรรยากาศภายในเรือนนั้นกำลังเดือดพล่านด้วยความร้อนแรงของเต๋ออ๋องที่คล้ายจะคลุ้มคลั่งด้วยความหื่นกระหายจนไม่อาจควบคุม
อ๋องเจ็ดเต๋อลู่หานปลดผ้าคาดเอวของตนเองออกแล้วโยนทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่แยแส มือของเขาสั่นเทา รู้สึกปวดร้าวไปทั่วกายราวกับว่าหากเขามิได้ปลดปล่อยความใคร่ออกไปในยามนี้ เขาคงต้องตายเป็นแน่แท้
สายตาของเต๋อลู่หานเต็มไปด้วยไฟราคะกวาดมองร่างงดงามจนทั่ว พระชายาของเขาผู้นี้มีผิวพรรณขาวผ่องรูปร่างเย้ายวล ใบหน้างดงามประดุจเทพเซียนที่ลงมาจุติจากสวรรค์ ในยามที่เขามองนางด้วยสายตาหื่นกระหายนั้นเมิ่งลี่เฟยกลับไม่ร้อนรนเลยแม้แต่น้อย
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
2024-03-12
1439
1307
501
311
247