อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
โชคชะตาของพระชายา
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว
รักใหม่พันล้าน
เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
ตอนแรงปรารถนา
ลัมโบร์กินี ฮูราแคนสีขาว แล่นเข้าประตูโรงพยาบาลเอกชน ‘คฑากรณ์ เมโมเรียล’ ไปช้าๆ คนขับต้องใช้เวลาวนหาช่องว่างในลานจอดอยู่สองสามรอบกว่าจะเจอ เลยรีบเสียบหน้ารถเข้าไปหยุดกึกในช่องทันที เจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบสองก้าวออกมายืนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินเข้าทางประตูใหญ่ มีคนไข้กับบรรดาญาติๆ ต่างยืนหรือนั่งรอให้รถมารับหลายคน
แม้จะมาแบบไม่ได้บอกกล่าวใคร และเป็นการมาแบบนับครั้งได้ แม้จะมีหุ้นสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นก็ตาม แต่พนักงานต่างก็รู้ว่าเขาเป็นใคร พอเห็นหน้าก็เลยรีบยกมือไหว้เป็นทิวแถว ‘คฑาธร ไวทยาพาณิชย์’ ยกมือรับไหว้ด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ แทบสังเกตไม่เห็นด้วยซ้ำ
แล้วรีบเดินผ่านผู้คนไปยืนอยู่หน้าลิฟต์รวมกับแขกยืนรออยู่นับสิบ
แว่นกันแดดช่วยบดบังไม่ให้ผู้คนเห็นว่า สายตาคู่คมกำลังจับจ้องอยู่จุดไหนหรือที่ใคร เขาผายมือให้ทั้งคนเจ็บและแขกเข้าไปก่อนด้วยความเต็มใจ เพราะไม่ได้รีบเร่งอะไรนักหนา อีกทั้งอยากดูของสวยๆ งามๆ ที่เขาเองก็เพิ่งรู้ว่ามีอยู่ในโรงพยาบาลของตัวเองก็วันนี้
ชุดไทยบรมพิมานสีน้ำเงิน ห่อหุ้มเจ้าของรูปร่างผอมเพรียวดูบอบบางน่าทะนุถนอม ทว่าช่างแข็งแรงกระฉับกระเฉง เวลาเดินไปทักทายลูกค้า ใบหน้าสวยใสแต่งแต้มไว้แต่พอดีนั้น ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ทุกครั้งที่สาวเจ้าเยื้องย่างไป ช่างสง่างามประหนึ่งนางในวรรณคดีที่เขาคิดไม่ออก ว่าควรจะเป็นใคร เขาคะเนในใจคร่าว
‘ส่วนสูงน่าจะร้อยเจ็ดสิบสามบวกลบสอง น้ำหนักน่าจะไม่เกินห้าสิบสี่บวกลบอีกสอง’
เพียงแค่ได้ยืนมองอยู่ไม่กี่นาที เขาก็จินตนาการว่ามีเจ้าหล่อนอยู่ในอ้อมแขน พาเดินตรงไปหาเตียงคิงไซส์ ค่อยๆ เปลื้องชุดไทยนั้นออกจากเรือนกายขาวราวหิมะได้เป็นฉากๆ แล้ว พลอยทำให้เลือดในกายสูบฉีดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ คฑาธรขัดเคืองนิดๆ กับเสียงอันนุ่มนวล ที่เรียกให้เขาเข้าไปในลิฟต์เมื่อไม่หลงเหลือผู้โดยสารใดๆ แล้ว
เขาเดินเข้าไปกดขึ้นชั้นบนสุด ซึ่งเป็นห้องทำงานของตัวเองกับหุ้นส่วนใหญ่ เลขารุ่นใหญ่วัยสี่สิบห้าหน้าห้องของเขาและของเพื่อนตกใจไม่น้อย กับการมาแบบไม่บอกกล่าว เมื่อเขายื่นความจำนง ว่าจะเข้าไปห้องเพื่อนก่อน เลยถอยห่างออกไปหลังเอ่ย
“เดี๋ยวผกาจะเอากาแฟเข้าไปให้นะคะคุณเบียร์”
“ขอบคุณครับ”
เขาก้าวเข้าไปในห้อง โดยมีเลขาเปิดประตูให้อย่างเอาอกเอาใจ หนุ่มเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตาสองคน กำลังเดินสวนออกมาพอดี ทั้งเขาและสองหนุ่มต่างยกมือไหว้อีกฝ่ายแทบจะพร้อมๆ กัน เลยไม่รู้ว่าใครไหว้ใครก่อน
“ว่าไงครับท่าน! ลมอะไรหอบมาถึงนี่ครับ หรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วยประการใดขอรับ”
‘นายแพทย์ชยุกรณ์ โรจนพานิชย์’ หรือทุกคนในโรงพยาบาลจะเรียกสั้นว่า ‘คุณหมอขวด’ เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“เปล่า! พอดีมาทำธุระแถวนี้ ก็เลยแวะมาหาแกหน่อย”
ส่วนเพื่อนที่สนิทสนม และคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย อย่างคฑาธรและเพื่อนคนอื่นๆ ก็จะเรียกกันว่า
‘ไอ้ขวด’ จนติดปาก แม้แต่ละคนจะย่างเข้าวัยสี่สิบและต่างก็เป็นเจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารระดับสูงแล้วก็ตาม ในกลุ่มเพื่อนกลับไม่มีอะไรเปลี่ยน
“เสร็จงานหรือยัง ไปนั่งดื่มด้วยกันมั้ย”