ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์
้าออกกว้างเผยให้เห็นภายใน กลับเลือนหายไปโดยพลันก่อนจะกลับก
เสียงศีรษะโขกกับ
่รู้” แม่สาวน้อยคนงามบ่นกระปอด กระแปดก่
ตาฝาดหรือเห็นจริงๆ กันแน่ เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงเรียกของเขาคนนั้นเรียกหาอยู่เลย”
หรอลูก” เสียงของคุณวิลาสินีเอ
รียกชื่อของเธอ ใบหน้าสวยหันกลับมาก่อนจะยิ้มแห้งๆ เม
พลางทำหน้าเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปในตำหนักแต่ในขณะเดียวกันเธอก็พยายา
นู และถือวิสาสะรับสายแทน บริษัทของหนูโทรมาให้เข้าไปในพื้นที่หน้างาน เขาบอกให้โทรกลับด้วยนะลูก” คุณวิลาส
วิลาสินีมองไปยังตำหนักจันทราด้วยสายตาเช่น
างคุณแม่กลัวๆ มี
นไปสบตาลูกสาวหัวแก้วหัว
เขากว่าจะเดินไปเดินกลับ เหนื่อยกันตายพอดี มีโอกาสแล้วแม่จะเล่าให้ลูกฟังว่าเพราะอะไรแม่ถึงได้เป็นแบบนั้น ออกมาจากตรงนั้
ๆ เลย” หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะก้าวเท้าออกจากหน้าประตู แ
อยู่หน้าประตูดั่งเดิม พร้อมคว้ากระดิ่งลมออกจาก
ิวข้าวแล้ว” หญิงสาวบอกพร้อมเดินโ
ือมาด้วย” คุณวิลาสินีถามกลับไปด้วยความสงสัย สายตาจับ
ดลายสวยแปลกตาไม่เคยเห็นก็เลยขอคุณปู่เอาไปศึกษาประกอบการทำงาน เสร็จแล้วก็จะเอาไปคืนให้คุณปู่ลงบัญชีเก็บร
กรอย่างวิจิตร สลักพระจันทร์เอาไว้ด้วย และตรงพระจันทร์เหมือนเคยมีอะไรฝังไว้เลยค่
ญมณีหรืออาจจะเป็นอะไรสักอย่างเป็นรูปร่างข
แล้วจะประดับไว้ทำไมบนกระดิ่งลม... ไม่เข้าใจ” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ
นทร์และสีของพระจันทร์ก็มีแค่สีขาวนวลๆ อ่อนๆ จนถึงสีเหลืองนวล ถ้าไม่ใช้ทองคำก็คงจะเป็นหยกสีขาวหรือหยกสีที่ค
หน้าขึ้นลงติดๆ กันเมื่อได้
ว่าคุณแม่ของหนูก็ล่วงรู้ตำนาน
งหญิงสาวทำให้คุณแม่ข
พ่อจะพาแม่ไปไหว้ขอพรท่านเสมอ เทพจันทราเป็นเทพเจ้าแห่งความรักตามความเชื่อตั้งแต
อภายในบริเวณบ้านหลังนี้ต้องลงบัญชีทรัพย์สินหมดทุกรายกา
ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด” หญิงสาวลากเสียงล้อเลียน ทำให้คนเป็
ั่งทิศเหนือ ท่ามกลางกลิ่นหอมรัญจวนของดอกโบตั๋นยังคงฟุ้งกระจาย
เชียง! ชิงเชียง
ยวกันใน
เชิงเขา
งกองทัพขอ
่ในมือของแคว้นฉิน ซึ่งการสู้รบในครั้งนี้เป็นที่พึงพอพระทัยของพระเจ้าโจวโยวเป็นยิ่งนัก ทรงมีกระแสรับสั่งประทานดินแด
ื่นๆ ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์โจวตะวันตกอยู่ในขณะนั้น แต่ละแคว้นหวั่นเกรงพระปรีชาสามารถในการทำศึก
การบริการและการรบต่างๆ ล้วนแล้วแต่มาจากพระสติปัญญาขององค์ชายรอง
ยอยู่ภายในกระโจมที่สร้างขึ้นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ร่างทหารแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยเลือด แต่ละคนมีบาดแผลลึกเหวอะหวะจนน่ากลัวพร้
ะทำศึก มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณกลางอกซึ่งเกิดจากคมหอกของพวกชวนหรงแล
อิ่มที่เคยมีเลือดฝาดบัดนี้ซีดเซียวราวคนใกล้ตายด้วยเพราะพิษบาดแผล ทำให้เกิดอ
มนางหนึ่งมิให้ล้มลงไปกับพื้น ตรงบริเวณอุทยานดอกโบตั๋น และครั้งนี้ทรงได้ทอดพร
ไรมากหรือเปล
พ้อถึงชื่อของนางในฝันใ
ั่งถามด้วยความเป
ันพระองค์รับสั่งถามกลับไป พร้อมเสียงหวานนั
บ... ไม่เจ็บเลยค่ะ” ค
ึ่งพระองค์กำลังทอดพระเนตรจากในพระตำหนักออกมาทางด้านนอก ทรงทอดพระเน
เชียง
ยงนั้น นางในฝันกลับมิได้ยินแม้แต่น้อย และร่างงามก็ค่อยๆ เลือนหายไปโดยพ
ชิงเชียงอย่า
งผู้งดงามทรงลุกพรวดพราด
งเรียกของเหล่าทหารที่คอยเฝ้าดูแลด้วยความวิตก ต่าง
็นระดับชั้นผู้ใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยความดีใจสุดขีดที่เห็นองค์ชายของตนได้พระสติ
าดเจ็บเสียเหลือเกิน ยิ่งทรงมิได้สติติดต่อกันมาสามวันสามคืนเช่นนี้ ทหารทุกคนต่างพากันใจไม่ดีเ
โจมที่ประทับอย่างใจจดใจจ่อ พระเนตรสีนิลกาฬค่อยๆ ก้มลงทอดพระเนตรพระวรกายของพระองค์พลางยกพระหัตถ์สัมผัสตรงกลางพระอุ
็นนางที่มิใช่ความจริงอย่างนั
งอุตส่าห์ได้ทอดพระเนตรรูปโฉมอันงดงามอันแท้จริงของนางได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ทรงฝั
ยงเพรียกหาแผ่วเบา พระเนตรคมบ่งบอกว่
ถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อได้ยินองค์ชายรองทรงมีรับสั่งพึมพำ และนั่นทำให้ฉินเ
สุด” รับสั่งสุรเสียงแผ่วเบา เต็มไปด้วยความอิดโรยด้วยฤท
ี้ยนกงทำให้บรรดาเหล่าแม่ทัพนายกองท
ากเคลื่อนทัพกลับเสียนหยางจะทำให้พระองค์ทรงมีพระอาการทรุดหนักไปมากกว่านี้ อีกอย่างม้าเร็วได้กลับไปกราบทูล
องหาเป็นผลไม่ พระสุรเสียงข
ขอกลับไปตายที่บ้านเกิดในตำหนักจันทรา นอกเสียจากว่าข้าจะพลีชีพกลางสนามรบ นั่นแหละถึงจะนำร่างอันไร้วิญญาณของข้ากลั
ตามรับสั่งเดี๋ยวนี้!” เหล่าแม่ทัพแล
ด้แล้ว!” สุรเสี
์ยัง” เสียงของเหล่าแม่ทัพ
่เงียบๆ เพียงลำพัง หากหมอมาแล้วก็ให้เข้ามาทำแผล... ข้าอนุ
” เหล่าแม่ทัพข
จม ท่ามกลางสายพระเนตรขององค์ชายรองทรงทอ
ปจากกระโจมที่ประทับ จู่ๆ พระวรกายขององค์
อษฐ์พระองค์ทรงสำลักพระโลหิตออกมากองใหญ่ลงบนพ
์และพื้นบริเวณนั้น ก่อนจะค่อยๆ เงยพระพักตร์ที่ขาวซีดขึ
นอยู่เต็มไปหมด ก่อนจะทอดพระเนตรป้ายหยกประจำพระองค์ซึ่งอยู
ู่พระวรกายซึ่งแกะสลักเป็นรูปมังกรและ
ขอเทพจันทราทรงเมตตาให้ข้าได้พบกับชิงเชียงนางในฝันก่อนจะเดินทางไปเฝ้าองค์เง็กเซียน สักเพียงครั้งก็ยังดี ก่อนข้าตายด้วยเถิด...” พระสุร
ิดเทพจันทรา” องค์ชายฉินเสวี้ยนกงทรงอ้อนวอนขอความเมตตาจากเทพจันทรา ซึ่งเจ็ดแคว้
รรค์เบื้องบนจะได้ยินรับสั
่งประกายระยิบระยับพร้อมสายลมพาดผ่านพระวรกายขององค์
่อองค์ชายรองแห่งแคว้นฉินกำลังใกล้หมดพระสติไปอีกคร
งไหลออกมาจากพระอุระโดยเฉพาะพระอุทรไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผลประหนึ่งเขื่อนกั้นทำนบแต
าว่ามีบรรพบุรุษมาจากหมาป่าสีขาวมีการถูกกล่าวถึงนับแต่ราชวงศ์โจวยังรุ่งเรือง เป็นชนเผ่าบรรรณาการของต้าโจว แต่กลับถู
หรงยกทัพลงใต้ตีนครหลวงโจวโฮวจิงจนแตกพ่าย สังหารโจวหวังเหยา ส่งผลให้นายเหนือแห่งฉิน เสี่ยงยกกำลังมาขับ
ครองราชย์คือ 780 ปีก่อนคริสตกาล ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่กวนจง ทรงเป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอไร้ความสามารถ เสวยแต่น้ำจัณฑ์ หลงผู้หญิงถึ
าเมื่อมีข้าศึกมารุกรานจริง ๆ พระเจ้าโจวโยวโปรดให้จุดพลุเตือนภัยขึ้นฟ้า แต่เหล่าท่านอ๋องก็ไม่สนใจ เหล่าข้าศึกบุกเข้าพระราชวัง พระเจ้าโจวโยวเห็นจวนตัวก็ทรงปลงพระชนม์เอง ส่วนพระนางเปาซือและองค์รัชทายาทก็ถูกจับไ