ลิขิตแค้นแสนรัก
มุมมองของซือเจียเหลย:
หลังจากเสร็จงาน ฉันก็เดินกลับบ้านท่ามกลางแสงตะวันที่กำลังลับขอบฟ้า ฉันรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจ อยากกลับบ้านไปอาบน้ำอุ่น ๆ แล้วก็นอนหลับให้สบายสักที
แต่แล้วกลับไม่คาดคิดว่า จู่ ๆ รถเบนท์ลีย์คันหนึ่งค่อย ๆ ขับเข้ามาหาฉัน แล้วก็มาจอดข้างฉันซะอย่างนั้น จากนั้นชายวัยกลางคนท้องใหญ่คนหนึ่งก็ลงมาจากรถ แล้วก็เดินเข้ามาหาฉัน
“สวัสดีครับ คุณซือ” ชายวัยกลางคนทักทายกับฉันอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะ คุณคือ?” ฉันมองเขาด้วยหน้าตาสงสัย แล้วในสมองก็เริ่มย้อนคิดว่า เราเคยรู้จักกันรึเปล่า
“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก แต่สิ่งสำคัญก็คือ ตอนนี้คุณซือว่างรึเปล่าครับ? พอดีเจ้านายของผมอยากจะเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อครับ” ชายวัยกลางคนถามฉันด้วยหน้าตาที่เป็นมิตรมาก
ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็มองไปที่รถเบนท์ลีย์สีดำด้วยความสงสัย
ทันใดนั้นหน้าต่างของรถเบนท์ลีย์สีดำคันนั้นก็เลื่อนลง ในรถเป็นชายรูปงาม อายุประมาณสามสิบปีคนหนึ่ง เขากำลังมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม
ชายผู้นี้ดูเป็นคนมีชาติตระกูลมาก แต่แล้วจู่ ๆ เขากลับเป็นฝ่ายเข้ามาทักทายฉันที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งก่อน เห็นได้ชัดเลยว่าเขาต้องมีจุดประสงค์อื่นแฝงอยู่แน่ ๆ
“สวัสดีค่ะ” ฉันทักทายเขา ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะปฏิเสธไปอย่างสุภาพ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
“สวัสดีค่ะ คุณวอเค่อ”