ชีค หัวใจทระนง
มนั้นอ่อนโยน แววพระเนตรจับ
นเฉพาะสองคน พระเนตรดำขลับไม่ต่างจากเจ้าชายกาเบรียนพระโอรสวาววับ พระขนงแต่งเข้มเลิกสูงแล้ว
าศิตสำหรับฝ่ายในหรือวังหลังสำหรับเชื้อพร
ชีคอับดุลรอชีดพระสวามีก็มานั่งหมอบอยู
สายพระเนตรมองใบหน้าภายใต้ผ้าคลุม อันถือเป็นเค
นึกตำหนิและเคืองโกรธคนที่นำเรื่องนี้มาทูลฟ้อง และจะเป็นใครไปเสียไม่ได้นอกจากหญิงวัยกล
นั้น ถึงจะมีผ้าดำบางเบาค
จกลับ หม่อมฉันจึงเข้าเฝ้าแสดงความ
ยมูนะห์นังลูกทาส” พระสุรเสียงเกรี้ยวกราดค้านคำพูด พร้อมประกาศย้ำในตำแหน่งที่ยังมาไม่ถึงของสายโลหิตทั้
กกดขี่เหมือนแม่ของมัน แน่นอนถ้ามัยมูนะห์ถวายตัวด้วยสายเลือดครึ่งหนึ่งในกายของชีคอับดุลรอชีด มันย่อมมีตำแหน่งสนมไม
ทบจะจิกแทงฝ่ามือตนเอง แต่ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด เพราะความเจ็บปวดนั้นหัวใจของเธอซึมซับไปหมดแล้วกับดำรัสเรียกเธอว่า ‘นังลูกทาส’
ค์” ยามพูดถึงน้องร่วมบิดา มัยมูนะห์จำต้องนอบน้อมด้วยศักดิ์ที่ต่างกันลิบลับ แม้แม่ของทั้งสองจะได้ชื่อว่าเป็นเมียเท่ากัน แต่ตำแหน่งนั้นต่างกัน แม่ของเธอเป็นแค่เมียทาส แม้อยู่ในฮาเ
าตลอด เสียแต่ไม่ได้ยินบทสนทนาเท่านั้นเอง และมันก็คือสิ่งที่นางอัดอั้นตันใจเพราะความอยากรู้อย
ที่โพล่งคำถามทะลุกลางปล้องออกมา ก่อนหันมาคาดค
” มัยมูนะห์รีบปฏิ
ท่อนพระกรพระองค์อีก ช่างไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง อย
่ยวกับพระโอรสของพระองค์อยู่แล้ว ด้วยทรงคิดตลอดเวลาว่า หญิงสาวที่ค
ไป ตบปากสิบทีฐานโกหก
งกำนัลและทหารหญิงร่างใหญ่ผิวดำ เพร
มเจ็บปวดและหวาดกลัว แม้ร่างสมส่วนของเด็กสาววัยสิบห้าจะสะดุ้งสุดตัวในทุกแส้ที่ฟาดลงมาบนแผ่นหลังที่เปลือยเปล่า ยามถูกเปลื้องผ้าจนล่อนจ้อนแล้วให้นอนคว่
ำตาและเสียงร้องไห้ไว้ เมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะได้หัวเราะสุดเสียง หัวเราะดังกว่าที่
หน่ำลงมาแรงขึ้น อย่าคิด อย่านับ เธอได้แต่เตือนสติให้ลืมเสีย อย่าจดจ่อรอคอย เพราะการคอยจะทำให้รับรู้ว่า มันนานเพียงไหนแล้วที
้าเป็นใหญ่เมื่อใด พว