บ่วงแค้นทะเลทราย
ปีต
นทะเลทรายที่อยู่กันอย่างสงบสุขใช้ชีวิตเรียบง่าย ครึ่งหนึ่งของชีวิตชาวบุสตานีย์จะรอนแรมในทุ่งทะเลทรายอันแห้งแล้ง ไม่สนใจการลงหลักปักฐานที่แน่นอนและม
งเบายาวกรอมเท้าเปล่าเปลือย พลิ้วไหวตามจังหวะการวาดไปบนพื้นทราย เสียงกระดิ่งที่ข้อเท้าดังตามจังหวะยักย้าย เช่นเดียวกับกำไลข้อมือวงเล็กนับสิบที่กระทบกันทุกจังหวะการเคลื่อนไหว ใบหน้าหล่อนปก
คาดทับด้วยอะกาลที่ทำจากหนังขวั้นเป็นเกลียว ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในวันนี้มองนางระบำที่กำลั
าเลยว่าจ้างมาเต้นรำในงานของเจ้าคนห
ข้าจริ
กมัด ปลดเปลื้องแล้วสบายตัวสบายใจ แค่โยนเศษเงินให้พวกนาง และพวกผู้หญิงเร่ร่อนที่ยึดอาชีพแบบนี้ก็มักแวะเวียนมาใกล้หมู่กระโจมของพวกเขาเสมอ
งรอแล้ว” ฮาซันกล่าวอ้างถึงเจ้
งสะกดทุกสายตาอยู่กลางผืนทราย คืนนี้หลังนางเต้นรำตามว่าจ้างเสร็จ เขาจะเสนอให้นางมานอนด้
เหลืองยังเปิดสว่าง เจ้าสาวคนงามนั่งอยู่
งชุด คาดเอวด้วยผ้าแพรสีน้ำเงินสด สวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวสีแดง ผ้าคลุมหน
ดผ้าคลุมหน้าเธอออกอย่างเบามือ ดวงตาสีดำมีแววสะเทิ้นอ
รอข้านา
งงานของเขา และช่วงเวลาคือเวลาที่วิเศษสุดของงานวิวาห์ จริงอยู่ช่วงที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของการแต่งงานคือช่ว
ครื่องประดับของเจ้าสาวกระทบกันดังประสานกับเสียงดนตรีด้านนอก ยามเจ้
ีวิต ถึงกับลงมือปัดป้องทุบตีเจ้าบ่าว ที่พยายามยื้อยุดจนชุดฉีกขาด ยิ่งส่งเสียงดังออกไป
่แต่งแบบคลุมถุงชน อีซาจึงขัดขืนแต่เพียงเล็กน้อยก่อนจะโอนอ่อนและมีความสุขในการเข้า
กเจ้าฮ
ล้ว แต่คำรักของเมียรักในตอนนี้น่าฟังแ
มียของข้า รอสักครู่เดี๋ยวข้าจะ
่เอียงอายอยู่ในความสลัวของกระโจม ที่แ
ุยเฮฮา ไม่มีการเต้นรำ ไม่มีนางระบำ ไม่มีวงเหล้าสำหรับงานเลี้ยง บนพื้นทรายเม็ดละเอียดร่างแล้วร่างเล่า นอนทอดยาวอย่างระเกะระกะ ฮาซันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่สัญช
า! ห
จมตามคำของฮาซัน หญิงสาวตาค้างอย่างตกใจเมื่อออกมาพบว่าสามีของตนกำลังโงนเงนเหมือนคนม
ซัน
จะเป็นการกันไม่ให้หล่อนเข้าไปใกล้ฮาซัน กลับปาดเข้ากลางลำตัวหล่อนเลือดสาด อีซาทรุดร่างลงกับพื้นทรายมองสามีตนเอง เขาหันมาสบตาหล่อนแต่รู้ว่าส
ีซ
ซัน