เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา
ดินแดนเบื้องล่าง ดินแดนเบื้องบน และดินแดนเทพอันเป็นดิ
ครองเป็น 8 แคว้นย่อยด้วยระบบราชวงศ์ ได้แก่ แคว้นโจว แคว้นฉี แ
รอบด้วยแคว้นทั้งแปด สิ่งที่กั้นอาณาเขตก
กปราณเป็นหลัก ได้แก่ สำนักพยัคฆ์ทมิฬ สำนั
ดนเบื้องบนเป็นหลัก เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางถ่วงดุลอำนาจของ
สงครามเทพ-มารขึ้น ทำให้ทั้งสามดินแดนได้รับผลกระทบ เส้นปราณวิญญาณอ่อนแอลง ทำให้ยากต่อการดูดซับเป็นอุปสรรคในการเลื่อ
้ไม่นาน ไอมารก็เริ่มระบาด จากที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็เข้าสู่ความแห้งแล้ง เพาะปลูกไม่ได้ พื
สภาพลงไป สัตว์ป่ารวมทั้งสัตว์อสูรระดับต่ำที่เคยอยู่บริเวณรอบนอกทยอยพากันกลั
ะดับสูงบางคนยังไม่คิดเอาชีวิตไปเสี่ยงที่ใจกลางป่ากลางดงอสูรเลยก็มี ดังนั้นชาวบ้านธรรมดาทั่
ๆ น้อยนักที่จะมีคนเข้าไปในป่าชั้นใน เพราะเข้าไป
รณ์ที่สุด ซึ่งโชคดีที่ตระกูลเว่ยตั้งตระกูลอยู
หารตามบรรพบุรุษทั้งสิ้น มีบ้างที่ประกอบอาชีพอื่น แต่ส่วนใหญ่ยังคงสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ นั่
ของตระกูลเว่ยหรือนายท่านใหญ่ โดยมีภรรยาคู่ใจเพียงหนึ่งเดียวนา
ู่หนึ่งคนนามเว่ยซือซาน ปัจจุบันดำรงตำแหน่
ีบุตรชายสองคนเป็นพยานรักนาม เว่ยซือหลาง อายุ 10 ปี และเว่ยซือเหลีย
่งเว่ยซือซานที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ยังว้าวุ่นควบคุมตนเองแทบไม่ได้ด้วยเป็นห่วงภรรยา
ทศกาลหยวนเซียว ราตรีกาลที่ควรมืดมิดกลับมีแสงสีทองของจันทราทอประกายสว่างไสว สองข้างทางริมถนนถูกประดับประดาด้วยโคมไ
นานยิ่งส
เป็นนิมิตหมายอันดี ผู้คนที่ออกมาเดินชมเทศกาลหยวนเซียวต่างมองปรากฏการณ์นี้ด้วยควา
งฟากฟ้า สว่างไสวราวกับรุ่งอุษาสาด ตามมาด้วยกลีบบุปผาที่โปรยลงมาจากเบื้องบน เหล่าสรรพสัตว์ต่างร
างถึงกับคำนับหมอบกราบเพราะคิดว่านี่เป็นคำอวยพรจากสวรรค์ เหล่าโหรหลวงค