เสน่หานางมารหน้าใส
ม่เชี่ยวชาญในเพลงกระบี่เท่าที่ควร จึงขอประมือกับไท่จื
่เป็นประจำ หลินเจี้ยนหลิงจับกระบี่ตั้งแต่ห้าขวบ ร่ายรำเพลงกระบี่ไ
ใบหน้าหล่อเหลาหาใครเทียบได้ยาก สายตาคมกริบจ้อง
ยคน หากพบหน้าไท่จือก็คงมีอาการไม่ต่างจากเสี่ยวหลิน จะมีเพียงหนึ่งทในร้อยที่มีอาก
งไม่อยากประลองกับน้องสาวของตนเองจึงอยากให้ไท่จื
นดีอย่
็นางอ่อนหวานเพียงนั้น เมื่อเขาพบนางครั้งแรกถึงกับไม
ขี้โมโห เสียงคมกระบี่ในมือคนทั้งสองปะทะกันเกิดประกายไฟแล่บแปล็บปลาบ ร่างสูงของไท่จือดันร่างเล็กของ เจี้ยนหลิงไถลไปกับพื้นแต่ทว่า หาได้ล้มลุกคลุกคลานอย่างที่หยางฟงฉีคิด
่ได้หนักหนาอย่างที่หยางฟงฉีค
ุจหินผาตวัดรัดล้อมเข้าหาศัตรูจนจนมุม แต่เจี้ยนหลิงกลับพลิกตัวหลบทะยานออกจากกับ
กโถมเข้าใส่ อย่างบ้าคลั่งรุนแรงคลายจะให้อีกฝ่ายแดดิ้นด้วยอารมณ์คุกรุ่น รู้สึ
งเจี้ยนหลิง เขาอดที่จะคิดไม่ได้ว่ายังคิดว่าจะชนะเจ
้าหา อยู่ๆเจี้ยนหลิงก็ปล่อยกระบี่หลุดทรุ
ีบขานโ
อเป็นฝ
ดังหงส์ในลายปักไม่มีผิด หยางฟงฉีเหลือบตามองเจี้ยนหลิงด้วยความรู้สึกประหลาดใจเพียงแค่นางไม่ปล่อยกระบี่หาก
ยนกระบี่ในมือให้กับเพ่ยตง ก้าวขาย่อกายลงเบื้องหน้าฮ่องเต้ ไท่จือที่จ้องมองท่าทีองอาจของเจี้ยนหลิง
่อนหวาน รอยยิ้มหวานหยดถูกส่งไปยังหยางฟงฉีไ
เลือ
สียงราษฎรและขุนนางที่มาชมการประลองต่างอื้ออึงด้วย
อนหวานน่าเอ็นดูต่างจากหลินเจี้ยนหลิงค
างผลงานไว้มากมาย ที่ทำให้ผู้คนเกลียดชัง หากเป็นที่ตระกูลหลิ