ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก
ึงได้อาการหนักขนาดนี้ หลังจากที่เธอไปรับลัลน์มาจากคอนโดพี่มาร์ค ลัลน์ก็ร้องไห้ไม่หยุดพอมา
ว่าแกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ฉันขอให้เธอมีสติกว่านี้ได้ไหม" หนูน
่านมาคือพี่เขาไม่เคยรักเราใช่ไหม เขาถึงได้ทำแบบนี้ ฮืออ " หญิงสาวพูดกับหนูนาด้วยเสียงสะอึกสะอื้น คำถามนี้
ช่วงนี้แกก็นอนอยู่ที่คอนโดกับฉันนี่แหละ แต่ตอนนี้แกต้องกินข้าวแล้วนอนก่อนนะ ชีวิตเรามันต้องเดินหน้า อย่าไป
ให้ ถึงแม้ว่าเธอจะกินอะไรไม่ลงก็ตาม แต่ด้วยความกลัวเพื่อนเป็นห่วงจึงฝืนก
วรึไงยัยลัลน์ แกกิน
ืม ลัลน์ฝืน
ัก" หนูนาตัดบทไล่เพื่อนให้ไปจัดการตัวเองไม่ต้องรอเธอ ดูเหมือนว่าลัลน์จะต้องการเวลาทบทวนอยู่คนเดียวสักพัก คงไม่ดีขึ้นเร็ววันนี้ แต่เวลาจะช่วยเยียวย
ไปข้างนอก เธอนั่งพิงประตูห้องกอดเข่าร้องไห้ คิดถึงคนที่ทำร้ายจิตใจ เสียงของคนใจร้ายยังคงดังก้องหลอกหลอนในหู เธอรู้ว่าผู้ชายไม่ใช่ทุกสิ่งในชีว
้ำหันหน้าไปมองแสงอาทิตย์อย่างเหม่อลอย หญิงสาวไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อเธอเห็นว่าสมควรแก่เวลาจึงลุ
นาลูบใบหน้าเพื่อนสาวของเธอที่สีหน้าดูซีดเซียว ดวงตาปูดโปนและช้ำ คงไม่พ้นว่าเมื่อคื
นี้แกไม่ต้องไปเป็นเพื่อนฉันหรอก กิน
้ลัลน์แต่งตัวเก้อซิ” เสียงแหบของลัลน์ตอบเพื่อนสาว หนูนาผละตัวออกจ
ระทานอาหารที่ทางเราจัดเตรียมไว้นะคะ” ห
บากต้องหาอะไรให้กินอีก” หญิงสาวก้มหน้ามองจานแซนวิชด์ต
ห้ามพูดแบบนี้อีกเป็นอันขาด ไม่งั้นหนูนาจะโกรธแกจริ
เสียงเจื้อยแจ้วชวนคุยของหนูนาดังขึ้นตลอดมื้ออาหารเช้า
งมีใบหน้าหล่อเหลาเกินบรรยาย ใบหน้าคมเข้ม คิ้วหนา หางคิ้วชี้ขึ้นเล็กน้อยสมเป็นผู้นำ จมูกโด่งรับกับใบห
” เสียงเรียบทุ้มเอ่ยขัดอย่างเย็นชา พาทำให้บรรยากาศภายในห้องกดดันยิ่งกว่าเดิม นอกจากเสียงแป้นพิมพ์ของหน้าบัลลังก์และเ
น่ากลัวจริง ผมพึ่งเคยมาบัล
ึงยาก แต่พอพลาดอะไรท่านก็เตือนนะเพียง
กความผมไปตกลงที่สำนักงานพี่นะ” เสียงทนายความทั้งสองฝ่ายที่โต้เถียงกันอย่างไม่ยอมกันในตอนแรก ตอนนี้กลับเข้ากันเป็นปี