วิญญาณพาวุ่น
บิดาเคยบอกไว้ว่าหากจะเดินทางเข้าเมืองหลวงด้วยรถม้าต้องใช้เวลาถึงสามเดือน เจียอีเพียงแค่คิดก็
=2ชั่วโมง) หากเดินเท้าก็สองชั่วยาม แค่คิดก็ปวดขาแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะนั่งเกวียนไป มีเกว
าข้างแล้ว เพราะลุงใหญ่ที่ทำงานในเมืองกลับมาบ้านด้วยสภาพทุลักทุ
ี่หัวหันมาสบตานางแล้วพูดว่า "ช่วยด้วย" นางก็อดที่จะขุนลุกไม่ได้ ช่วยอ
้" เจียอีขมวดคิ้วเกี่ยวอันใดกับนาง ก่อนที่จะสงสัยไปมากกว่านี้ นางไ
ทำร้ายลูกจ้างในร้านจนบางคนเสียชีวิตลง ลุงใหญ่ที่สภาพไม่น่าดูแต่ก็มิได้รับบาดเจ็บมากนักเป็นเพราะเขาซ่อนตัวได้ทัน ร้านขายข้
่จะมีวิญญาณติดตามมาเช่นนี้ได้อย่างไร ลุงใหญ่ต้องทำสิ่งใดไว้เป็นแน่ แต
่มให้บุตรชายหญิงของลุงใหญ่ท่านย่าก็ไม่อยากจะควักเงินออกมา และลุงใหญ่ที่ไ
ออกไปแล้วยกเรือนให้บุตรชายหญิงของลุงใหญ่แทน เจียอีดวงตาสว่างวาบขึ้น แต่มารดาของนางกลับร่ำไห
เลี้ยงดูพวกตนที่มิอาจจะทำงานอันใดได้มากนัก แต่หากนึกได้จริงๆ คนที่หาข้าวใ
ในหมู่บ้าน หากใครเอ่ยปากให้ช่วยเหลือสิ่งใดทั้งคู่ก็รีบช่วยเหลือทันทีเท่าที่ทำได้ คงมีเพียงหูซื่อแม่สามีที่รังเกียจสะใภ้จนมอง
้าแล้ว ข้าก็จะพาท่านแม่และน้องชายไปอาศัยอยู่อื่น แต่ว
ับน้องชายที่เล็กของเจ้าไปอยู่ที่
จะช่วยซ่อมแซมให้พวกเจ้าอยู่เสียก่อน" หัวหน้าหมู่บ้านยกบ้านร้างท
ขออีกอย่างได้
กินไป เจ้าก
ป็นหลานแล้วก็ขอให้ท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้า
็อย่าได้มาขอข้าวขอน้ำบ้านข้าอีก ตัดขาดไปเลยยิ่งดี"
ลู่เสียนแม้จะยังเป็นเด็กแต่ก็ที่จะแปลกใจกับความคิดของพี่สาวไม่ได้ ถึงเขาจะอยาก
ดีขึ้น" เจียอีที่เห็นความกังวลของลู่เสี
มู่บ้านหนึ่งแผ่น เยว่เลี่ยงหนึ่งแผ่น และท่านลุงใหญ่หนึ่งแผ่น แต่เจียอียังให้ผู้นำ
ะต้องเสียเงินให้บ้านนางหนึ่งร้อยตำลึง เจียอีก็แจ้งว่า หากท่านย่าหรือค
มากจนพวกข้าต้องไปวุ่นวาย เสียแต่พวกเจ้า