icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon

คนอุ่นเตียง

บทที่ 2 แย่แล้วข้าถูกพิษเหมันต์

จำนวนคำ:2828    |    อัปเดตเมื่อ:28/12/2021

หลังจากที่ทั้งสองสืบเสาะว่าเป็นผู้ใดแอบขึ้นบนหลังคาเพื่อตามสืบข่าวของชุนหวงหรือไม่ แต่กลับไร้วี่แววว่าจะเป็นผู้ใดกันแน่ คนทั้งคู่กลับมาจัดการแต่งตัวให้นายน้อยชุนหวงให้เรียบร้อยเสียใหม่ ดูเหมือนว่าสีขาวจะกลายเป็นสีประจำตัวของเขาไปเสียแล้ว เลยพลอยทำให้ผู้ติดตามทั้งหลี่เจี๋ยและไน่ยไน่ยต้องใส่สีขาวตามไปด้วยเพียงแต่เนื้อผ้าแตกต่างกันเท่านั้นเอง

"พู่ขอรับ"ชุนหวงรับพู่หยกมาห้อยข้างเอวด้วยท่าทีปรกติ สีหน้าหม่นหมองเขาอยู่ที่นี่ไม่ได้เป็นที่ประจักษ์แน่ชัดว่าตนเองอยู่ในฐานะใด มิใช่บุตรแต่ก็มิใช่คนที่มาทำงานในหอนี้เขาฐานะของเขาจึงดูเหมือนดีแต่ก็ไม่ดี หากเขาได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ผู้ทรงความรู้ ทั้งศิลปะและดนตรีทั้งยังได้ศึกษาตำราเรียนต่างๆ มากมาย หน้าที่ประจำของเขาคือการขับกล่อมบรรเลงเพลงฉินให้ผู้คนที่เข้ามาฟังและคุยกับบรรดาคุณชายทั้งหลายเกี่ยวกับบทกวี เรื่องที่เขาพอใจ ในการดำรงชีวิตอยู่ที่นี้คือคนที่เลี้ยงดูเขาไม่เคยบังคับทางตรงให้ออกมาขับกล่อมดนตรีหรือต้อนรับแขกเหมือนชายคณิกา หอจันทร์ส่องนี้มีทั้งคณิกาหญิงชายและยังมีอี้จีที่มีชื่อเสียงโด่งดังขจรไกลถึงต่างเมือง โดยเฉพาะเขา เพียงแค่คิดเท่านั้นชุนหวงก็อดทอดถอนใจในโชคชะตาตัวเองไม่ได้ดูคล้ายครึ่งผีครึ่งคนจะดีก็มิใช่จะเลวร้ายก็มิเชิงได้แต่คาบลูกคาบดอกอยู่เช่นนี้

"ได้ตัวคนหรือไม่"เขาเอ่ยถามหลี่เจี๋ย

"ยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดนายน้อยโปรดระวังด้วยนะขอรับ"หลี่เจี๋ยเอ่ยปาก

"ข้ามีเจ้าสองคนยังต้องระวังตัวอีกหรือ คนที่มาสอนวรยุทธให้พวกเจ้าใช่น้อยหน้าใครที่ไหนกัน วิชาออกจะแก่กล้าปานนั้น"

"แต่เรายังไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่นะเจ้าคะ ระวังตัวไว้บ้างก็ดี"ไน่ยไน่ยหยิบเสื้อคลุมสีขาวขอบประดับขนกระต่ายสีเดียวกันคลุมไหล่ให้ จริงอยู่ช่วงนี้คือฤดูใบไม้ผลิอากาศไม่ได้หนาวเย็นแต่เป็นเพราะความเคยชินเสียมากกว่า

"ข้าจะลงไปข้างล่างวันนี้มีงานชีซีข้าอยากเห็นโคมไฟ"บรรดาโคมไฟงดงามต่างประดับประดาเต็มท้องถนน หญิงสาวต่างถือโคมออกมาเพื่อเซ่นไหว้เทพธิดา "จือหนี่ว์" เทพแห่งการเย็บปักถักร้อย และยังเป็นการแสดงออกถึงความรักของหนุ่มสาว ในตำนานก็คือหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าที่มาเจอกันบนทางช้างเผือกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหญิงงามจากชนชั้นสูงหรือชาวบ้านต่างแต่งกายงดงามน่าดูชมยิ่งอีกทั้งโคมไฟประดับประดาตามถนนก็งดงามราวกับแดนฝัน

"มันอันตรายนายน้อยอย่าออกไปเลยเจ้าค่ะ"ไน่ยไน่ยทำหน้าหนักใจชุนหวงบ่ายตัวเองหันไปมอง หลี่เจี๋ยด้วยสายตาออดอ้อนริมฝีปากแดงฉ่ำเม้มน้อยๆ คล้ายกำลังจะร้องไห้ด้วยรู้ดีว่าคนผู้นี้มักตามใจเขาเสมอมิกล้าขัดใจ แค่เห็นเขาปากคว่ำก็รีบเอาอกเอาใจแล้ว

"ช่างเถอะ ไน่ยไน่ยให้นายน้อยออกไปชมความงดงามของโคมประดับเถอะ เราสองคนอยู่ด้วยไม่น่าจะมีปัญหาใด"หลี่เจี๋ยยอมแพ้ต่อสายตาคล้ายเด็กทารกอ้อนขอถังหูลู่เช่นใดเช่นนั้น ไน่ยไน่ยได้แต่ค้อนควักมิกล้าขัดกับความเออออของหลี่เจี๋ย

"ก็เป็นเช่นนี้ เพราะมีคนคอยตามใจแบบนี้ นายน้อยเลยมิตระหนักถึงภยันตราย"ไน่ยไน่ยอดบ่นไม่ได้ หลี่เจี๋ยยิ้มน้อยๆ เขาต้องกลายเป็นคนใบ้ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก ร่างสูงใหญ่ร่างกายกำยำเกิดจากการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเป็นคนคุ้มกันให้กับชุนหวง ใบหน้าคมคายทำให้รู้ว่าหาใช่ชาวฉางอันแต่กำเนิด ไม่ต่างกับไน่ยไน่ยที่ร่างกายบอกบางอ้อนแอ้นดวงหน้าถือว่างดงามสะดุดตาไม่น้อยเรียกได้ว่าทั้งนายบ่าวชายหญิงล้วนสะดุดตาผู้คน ไน่ยไน่ยถูกคัดตัวมาตั้งแต่วัยเยาว์ทั้งถูกกรำฝึกฝนและถูกสอนสั่งให้เป็นคนดูแลชุนหวงอีกทางหนึ่งเรื่องความซื่อสัตย์ของทั้งคู่มิต้องเอ่ยถึงเรียกได้ว่าหากเกิดเรื่องถึงนายตนต้องผ่านสองคนนี้ไปเสียก่อน

"เช่นนั้นพวกเราจะช้าอยู่ใยไปกันเถอะ"ชุนหวงกล่าวอย่างร่าเริง รีบก้าวเท้าออกจากห้องทางด้านหลังของหอจันทร์ส่อง ซึ่งย่อมมีทางออกอีกทางเพื่อมิให้ปะปนกับแขกเหลื่อที่มาดื่มกินในหอนี้ ทั้งสามรุดออกไปยังท้องถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนหนึ่งหญิงหนึ่งชายทั้งคู่ต่างสอดส่ายสายตาระแวดระวังภัยให้คนที่เดินนำอยู่ด้านหน้า คนที่ไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองเลยสักนิดและไม่ตระหนักถึงภัยที่คืบคลานเข้ามาหาตัวเองด้วยซ้ำ

"ถังหูลู่! พวกเจ้าเอาหรือไม่"ชุนหวงออกมาด้านนอกได้นับครั้ง บัดนี้เขาอายุสิบเจ็ดปีย่อมมีอิสระมากขึ้น ถึงแม้ว่าฉีเฮ่อจะไม่อยากให้ออกมาแต่ขัดหลี่เจี๋ยกับไน่ยไน่ยไม่ได้ ทั้งยังมีจดหมายลึกลับส่งมาว่าห้ามกักขังชุนหวงอีกต่อไป สองคนส่ายหน้าชุนหวงจึงเลือกสั่งให้ตัวเองหนึ่งไม้เดินชมโคมไปกินไปตามทาง เพราะผู้คนหนาแน่นทั้งยังมีเด็กน้อยวิ่งไล่กันไปมา ความที่ไม่ทันระวังมีชายหนุ่มท่าทางเมาเดินสะเปะสะปะมาชนเข้ากับชุนหวงจนเซ สองคนจึงปรี่ไปรั้งตัวเอาไว้สีหน้าของหลี่เจี๋ยร้อนรนไน่ยไน่ยเองก็ไม่แตกต่าง ร่างบางในชุดขาวจึงถูกบังจนมิดด้วยคนร่างสูงกับหญิงสาวใบหน้าจัดว่าดีอีกผู้หนึ่ง

"นายน้อยชุนหวงเจ็บหรือไม่เจ้าคะ"

"ไม่เป็นไรแค่คนเมาปล่อยไปเถอะน่า"ชุนหวงส่งเสียง ไน่ยไน่ยจึงจำต้องปล่อยไปตามคำสั่ง ขณะที่กำลังเพลิดเพลินจู่ๆ ร่างบางก็ซวดเซไปกระแทกเข้ากับแผงขายเครื่องประดับและทรุดตัวลงโดยไม่รู้สาเหตุ ยังโชคดีที่หลี่เจี๋ยปราดเข้าไปประคองร่างเอาไว้ได้ทันท่วงที

"นายน้อย!! "ไน่ยไน่ยอุทานด้วยความตกใจ หลี่เจี่ยคว้าร่างบางขึ้นในอ้อมแขนทันควันมิยอมให้เสียเวลาแม้แต่นิด

"เร็วรีบพานายน้อยกลับหอ"หลี่เจี๋ยกัดฟันพูด ทั้งคู่ใช้กำลังภายในรุดไปที่หออย่างรวดเร็ว ใบหน้างดงามซีดเผือดจนเริ่มเขียวปากได้รูปปรากฏสีม่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาดูเลื่อนลอยไม่ได้สติ

"นายน้อยโดนพิษจากที่ใดกัน เร็วเข้าหาว่าอยู่ตรงไหน"ไน่ยไน่ยรีบถอดเสื้อผ้าของชุนหวงออกเหลือแต่เสื้อกลางชั้นในสีขาว ฝ่ามือหยาบกร้านจากการทำงานและจับกระบี่ลูบไปทั่วตัวตั้งแต่หลังกกหูแผ่นแผ่นหลังแขนขาเพื่อสำรวจว่าโดนพิษตรงส่วนไหนของร่างกาย

"ข้าจะส่งจดหมายเจ้ารีบหาร่องรอยเร็วเข้า"หลี่เจี๋ยโผล่ไปตรงระเบียงนกพิราบสีขาวที่เกาะขอบอยู่ถูกจับมาใส่กระดาษเล็กๆ สีขาวจากนั้นถูกปล่อยตัวให้บินไปในอากาศหายไปในพริบตา

"หลี่เจี๋ยท่านดูนี่"เสียงไน่ยไน่ยร้องเรียกด้านในเขาจึงรีบเข้าไปดูตรงลำคอขาวผ่องของชุนหลีปรากฏรอยแดงเป็นจุดเล็กๆ เลือดที่ซึมออกมาเล็กน้อยกลายเป็นสีดำเขารีบคว้าข้อมือบางขึ้นมาจับชีพจร จังหวะการเต้นเริ่มแผ่วลงไปเรื่อยๆ จนเกือบจะราบเรียบ

"แย่แล้วนายน้อยถูกเข็มพิษของตำหนักมู่ชิง"

"เป็นไปได้อย่างไรกัน การคุ้มกันพวกเราใช่จะบกพร่อง"ไน่ยไน่ยกัดปากยังไม่ทันถึงครึ่งเค่อ ก็มีชายฉกรรจ์สวมชุดดำปกปิดหน้าตาลอยเข้ามาในห้องด้วยท่าทีร้อนรนถึงสามคนหนึ่งในนั้นปราดเข้าไปหยุดที่ตั่งนอนทันทีโดยไม่ได้กล่าวคำใด

"ถอยออกมา"เสียงหนึ่งออกคำสั่งอีกหนึ่งทรุดตัวลงคุกเข่าข้างเตียงรีบจับชีพจรของชุนหวงนิ่งฟังจังหวะของการเต้นแววตาที่อยู่ภายใต้ผ้าสีดำดูวิตกกังวลยิ่งนัก

"พิษเหมันต์! ผู้ใดโดนเข้าจะค่อยๆ หนาวเหน็บจากภายใน เส้นเลือดจะจับตัวกันเป็นน้ำแข็งจนตาย"ผู้ที่คุกเข่ารายงาน

"ยาถอดพิษเล่า"ชายชุดดำที่ยืนอยู่อีกผู้หนึ่งร้อนรนถามไถ่

"ไม่มี เราทำได้แค่สกัดพิษไว้ก่อนแล้วให้คนไปเอามา"

"ช้าอยู่ไยรีบสิ"คนชุดดำทั้งคู่ร้อนรน ดูท่าคนที่คุกเข่าจะเป็นหมอรีบลุกขึ้นดันหลังของชุนหวงให้ลุกนั่ง สองมือทาบกับแผ่นหลังขาวนวลสกัดจุดส่งปราณภายในของตนเองให้แก่ชุนหวง ใช้เวลาเพียงไม่นานสีหน้าของชุนหวงเริ่มมีสีซับเลือดขึ้นแต่ยังไร้สติใบหน้าซีดเผือดไร้สี

"รีบไปเอายาแก้พิษมาเถอะอาการนายน้อยยังทรงตัว โชคดีที่เรารู้ไวมิเช่นนั้นอาจจะช้าเกินไป"คนที่สกัดจุดเอ่ยปาก

"ได้"คนที่ยืนออกคำสั่งปราดออกหน้าต่างไปอย่างรวดเร็วกลืนหายไปกับความมืดยามราตรี

"เกิดขึ้นได้ยังไง รายงาน! "ชายชุดดำที่ค่อยประคองชุนหวงลงนอนราบหันมาถามทันที

"ขออภัยพวกเราทำงานผิดพลาดเจ้าค่ะ"ไน่ยไน่ยคุกเข่าสองมือประสานกันเหนืออก หลี่เจี๋ยเองก็ทำเช่นเดียวกันทั้งคู่ก้มหน้านิ่งยอมรับการลงโทษแต่โดยดี

"ข้าว่าคนเมาที่ชนนายน้อยแน่ๆ "หลี่เจี๋ยออกความคิด

"เป็นพวกมัน"ไน่ยไน่ยสำทับ

"นายน้อยใกล้จะยี่สิบแล้ว อีกแค่สามปีจงระมัดระวัง หากนายน้อยเป็นอะไรขึ้นมาสำนักลี่ไป๋จะไร้ผู้นำ"

"เจ้าค่ะ//ขอรับ"สองคนรับปากดวงหน้าเคร่งขรึมไม่ต่างกัน ต่างชะเง้อมองคนที่นอนนิ่งบนเตียงด้วยความวิตก หนึ่งชั่วยามต่อมาชายชุดดำกลับมาพร้อมกับขวดหยกสีขาวขนาดเล็ก ส่งให้กับคนที่ยืนเอามือไพล่หลังยืนรอผลด้วยความอดทน

"หัวหน้าตงยาถอนพิษขอรับ"

"อืม"รับคำแล้วเดินกลับไปหาร่างบางเทยาเม็ดสีน้ำตาลใส่ปากชุนหวง ครั้งแรกที่ป้อนร่างบางไม่สามารถกลืนยาลงคอได้ร้อนถึงคนป้อนคือหัวหน้าตงต้องคลึงลำคอเบาๆ เพื่อให้เม็ดยาไหลลงคอ

"เอาล่ะอีกสองชั่วยามอาการนายน้อยก็จะค่อยๆ ดีขึ้น อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีกเข้าใจหรือไม่"

"เจ้าค่ะ//ขอรับ"คนทั้งคู่ประสานคือคารวะ สามคนชุดดำรีบพุ่งปราดออกนอกหน้าต่างหายไปราวกับสายลม ไน่ยไน่ยพุ่งตัวเข้าไปหาชุนหวงที่ยังหลับตานิ่ง บัดนี้ใบหน้าเริ่มกลับมามีสีดังเดิมลมหายใจไม่สะดุดอีกแล้ว

"หลี่เจี๋ย"

"หืม"

"ทำไมไม่พานายน้อยกลับสำนักเลยล่ะ"

"อันตรายเกินไป"

"แต่นายน้อยไร้ซึ่งวรยุทธเหล่าหัวหน้าจะยินยอมหรือ"

"นายน้อยจะได้เรียนวรยุทธก็ต้องอายุยี่สิบ เคล็ดวิชาประจำสำนักห้ามมิให้ผู้รับตำแหน่งรู้วิชาพื้นฐานมาก่อน จิตจะต้องสัมพันธ์กับเคล็ดวิชาเหล่าผู้อาวุโสจะเป็นผู้ถ่ายทอดเองเท่านั้น"หลี่เจี๋ยตอบข้อสงสัย

"อีกสามปีไอ้พวกต้องการล้มล้างอำนาจยังไม่เลิกตามรังควานพวกเราอีก ผ่านมาถึงสิบเจ็ดปีแล้วแท้ๆ "ไน่ยไน่ยทุบเตียงแรงๆ ทีหนึ่งด้วยความคับแค้น

"หึ! ฝั่งของปาถงอยากขึ้นเป็นใหญ่ สำนักลี่ไป๋ยิ่งใหญ่ทั่วแผ่นดิน มีหรือคนโลภจะไม่หวังช่วงชิง"หลี่เจี๋ยเยาะยิ้มมุมปาก

"ช่างเถอะๆ เราดูแลนายน้อยดีกว่า"บทสนทนาทำให้คนที่แนบหูกับประตูทำหน้าฉงน จากนั้นก็ต้องรีบกระโดดขึ้นบนหลังคาจากแรงสะกิดของอีกคนที่อยู่ด้านหลัง สองคนใช้กำลังภายในกระโดดหนีจากเข็มพิษของไน่ยไน่ยที่ปาออกจากห้อง หลี่เจี๋ยถีบประตูออกไปเพื่อจะมองหาคนที่แอบเข้ามาดักฟังแต่กลับไร้วี่แววเช่นเคย คนทั้งคู่หันมามองหน้ากันด้วยความหวาดหวั่น

"มีคนสอดแนม"ไน่ยไน่ยกระซิบเสียงเบา หลี่เจี๋ยเป็นผู้ออกไปติดตามทิ้งไน่ยไน่ยเป็นผู้ดูแลชุนหวงแทน บุคคลลึกลับรีบถอนตัวจากไปเพราะรู้ดีว่าหลี่เจี๋ยมีวรยุทธสูงส่งไม่น้อย หากประมือกันความสูญเสียย่อมเกิด เขาจึงล่าถอยไม่ยอมให้เกิดการปะทะกันขึ้นเพราะเรื่องที่เขาปรากฎตัวยังเป็นความลับอยู่

"ท่านเจอหรือไม่"ไน่ยไน่ยถามเมื่อเห็นใบหน้าเกือบจะดำคล้ำโผล่เข้ามา

"เป็นผู้ใดกันแน่ มันมิยอมปรากฏกาย ร่องรอยก็ไม่มีให้สืบค้น"หลี่เจี๋ยกำรอบจอกชาเอาไว้แน่น บีบบี้จนป่นเป็นผงด้วยความแค้นเคือง เสียงครางเบาๆ ดังจากเตียงทำให้คนทั้งคู่เลิกพูดจาปรี่เข้าไปดูอาการโดยเร็วไม่สนใจคนที่พวกเขากำลังวิตกอยู่ว่าชื่อเสียงเรียงนามใดและเป็นคนของฝ่ายไหน

"นายน้อย/นายน้อย"

"เจ็บ...."เสียงครางแผ่วดังจากปากรูปกระจับสีซีด มือบางยกขึ้นมากดคลึงขมับตัวเองไปมา

"ท่านแค่ถูกคนเมาทำร้าย"หลี่เจี๋ยรีบบอก

"ตอนไหน"

"มันปล่อยเข็มพิษใส่ท่านโชคดีที่พวกเราไหวทัน ทนเจ็บนิดนะขอรับ"หลี่เจี๋ยประคองชุนหวงให้ลุกขึ้นนั่งหลังพิงกับขอบเตียง ไน่ยไน่ยเดินไปหยิบถ้วยยาที่ต้มรอเอาไว้มาส่งให้ถึงมือ

"ยา..."

"ดื่มเถอะเจ้าค่ะอาการพิษที่ตกค้างจะได้หายไป"ไน่ยไน่ยยิ้มแย้มปลอบประโลมคนที่นั่งพิงขอบตั่งอยู่

"เห้อ! เอามา"ชุนหวงจำต้องรับถ้วยยาที่รู้ฤทธิ์ดีว่าขมขนาดไหนมาดื่ม ใบหน้างดงามเหยเกหลับตาปี๋ยามเมื่อยาไหลลงคอ

"ต่อไปห้ามออกไปข้างนอกนะเจ้าคะไม่ปลอดภัยจริงๆ "ไน่ยไน่ยสำทับ ปรายตาไปมองหลี่เจี๋ยคล้ายกับจะต่อว่าด้วยแววตา

"เอาน่าๆ พวกเจ้าไยต้องมาทะเลาะกันเอง หากจะโทษต้องโทษข้าที่อยากออกไปรนหาที่ตาย"ชุนหวงอาการดีขึ้นมาก เอ่ยปากลดความขัดแย้งของทั้งคู่

"เจ้าค่ะๆ เป็นไน่ยไน่ยที่ห่วงไปเอง"

"อย่าโกรธข้าเลยไน่ยไน่ย ถ้าเราไม่ออกไปข้างนอกจะรู้หรือไม่ว่ายังมีคนปองร้ายอยู่"

"ข้าเห็นด้วยนะขอรับต่อไปอย่าออกไปจะดีกว่า"หลี่เจี๋ยเปิดปากชุนหวงถึงกับอ้าปากค้าง ลองถ้าหลี่เจี๋ยเอ่ยก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นโลกภายนอกอีกเลย

"นี่พวกเจ้า!! "ชุนหวงหน้าหงิกลงทันที เพราะรู้ดีว่าอิสระของตนเองถูกจำกัดขอบเขตเอาไว้อีกแล้ว

เปิดรับโบนัส

เปิด
1 บทที่ 1 การปรากฏตัวของชุนหวง2 บทที่ 2 แย่แล้วข้าถูกพิษเหมันต์3 บทที่ 3 บรรเลงเพลงฉิน4 บทที่ 4 คุณชายท่านนี้ไม่น่าไว้ใจ5 บทที่ 5 กล้าวางยาเปิ่นหวางเชียวรึ!6 บทที่ 6 คบหาเพื่อนใหม่7 บทที่ 7 เปิ่นหวางจะนำเจ้าเข้าจวนอ๋อง8 บทที่ 8 เจ้าคือสมบัติของเปิ่นหวาง9 บทที่ 9 คุ้มครองเจ้ากลับสู่เมืองหลวง10 บทที่ 10 เรื่องราวของเรือนหลังช่างน่าปวดหัว11 บทที่ 11 อะไรนะข้าต้องเข้าจวนอ๋องจริงๆหรือนี่12 บทที่ 12 ที่แท้เจ้าก็คืออ๋องโฉดคนนั้น13 บทที่ 13 มาเจรจากันก่อนเถอะนะ14 บทที่ 14 ข้าไม่กลัวท่านหรอกนะ15 บทที่ 15 ท่านกล้ารังแกข้าหรือ16 บทที่ 16 กล้าทำร้ายเปิ่นหวางหรือ17 บทที่ 17 ข้าเป็นถึงเปิ่นหวางเฟยเชียวนะ18 บทที่ 18 ถูกบังคับให้คำนับฟ้าดิน19 บทที่ 19 ช่วงเวลาแห่งห้วงวสันต์20 บทที่ 20 ผลซิ่วสุกยื่นพ้นกำแพง21 บทที่ 21 วางแผนหลบหนี22 บทที่ 22 กล้าหนีจากอ้อมกอดของเปิ่นหวางรึ23 บทที่ 23 พิษที่ร้ายกาจ24 บทที่ 24 กล้าลองดีกับเปิ่นหวาง25 บทที่ 25 เจ้างูน้อยซนมากไปแล้วนะ26 บทที่ 26 ก่อกบฎรึ!27 บทที่ 27 ความจริงปรากฎ28 บทที่ 28 ขยันสร้างเรื่องเสียจริง29 บทที่ 29 หลอกลวง30 บทที่ 30 สั่งให้ผีปรากฎตัว!31 บทที่ 31 ลูกพลับนิ่มในมือ32 บทที่ 32 ฎีกาถึงฝ่าบาท33 บทที่ 33 เฟยเหลียงxเสิ่นเล่ย34 บทที่ 34 ไม่ใช่ตัณหาแต่เพราะรัก35 บทที่ 35 องค์หญิงจากอันหยาง36 บทที่ 36 จำต้องแต่งตั้งฮองเฮา37 บทที่ 37 แผนการณ์38 บทที่ 38 อดทนอีกนิดนะชุนหวง39 บทที่ 39 ความเชื่อใจ40 บทที่ 40 ปรับความเข้าใจ41 บทที่ 41 สมรัก42 บทที่ 42 รับซูเฟยจากอันหยาง43 บทที่ 43 เจรจา44 บทที่ 44 ข้าไม่ใช่คนรักหยกถนอมบุบผา45 บทที่ 45 สั่งสมความแค้น46 บทที่ 46 ปรับความเข้าใจ47 บทที่ 47 ดำเนินการตามแผน48 บทที่ 48 ปลดฮองเฮา49 บทที่ 49 ความทรงจำกลับคืน50 บทที่ 50 หายโกรธข้านะชุนหวง51 บทที่ 51 ซุกซนนักต้องได้รับกรรม52 บทที่ 52 ดวงใจรักมีเพียงหนึ่งเดียว53 บทที่ 53 แผนซ้อนแผนซ้อนแผน54 บทที่ 54 ลงโทษ55 บทที่ 55 ลงเอยด้วยดี56 บทที่ 56 ตอนพิเศษ อี้จางxหลี่เจี๋ย (ตอน1)57 บทที่ 57 ตอนพิเศษจบ อี้จางxหลี่เจี๋ย (ตอน2)58 บทที่ 58 ตอนพิเศษ จิ้นหยางxชุนหวง (ตอน1)59 บทที่ 59 ตอนพิเศษจบ เฟยเหลียงxเสิ่นเล่ย The End