ผีผายามังกร
เหตุเกิดในสำนักแพทย์หลวง ได้มีเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากเหล่าชนชั้นสูงผู้หนึ่ง ต้องการแพทย์ไปรักษาตัวบุตรสาวของตนที่ป่วยเป็นโรคประหลาด
ในเวลานั้นขงเฉว่กำลังกลายเป็นที่รักใคร่ของเหล่าแพทย์หลวงทั้งหลาย เขาจึงได้มีโอกาสติดตามบรรดาแพทย์หลวงออกไปที่เรือนของเสนาบดีหลินด้วยเช่นเดียวกันกับเหวินหยางซื่อ
เหล่าแพทย์หลวงจำนวนสามนายรอตรวจอาการไข้ของคุณหนูใหญ่สกุลหลินผู้นั้นทว่ากลับไม่มีผู้ใดได้เข้าไปตรวจสักคน มีเพียงเสียงโหวกเหวกโวยวายของนางที่ดังเล็ดลอดออกมาในทำนองที่ว่าให้ขับไล่เหล่าแพทย์พวกนั้นไปให้พ้น
ด้วยความที่เขาเป็นคนจากศตวรรษที่ ๒๑ ถึงเขาจะไม่ได้มีตัวสีฟ้าและมีกระเป๋าหน้าท้องที่พกของวิเศษ แต่เขาก็เป็นหมอที่มีความรู้คนหนึ่ง เขาจึงไม่เชื่อเรื่องโรคประหลาดเท่าไหร่นัก อย่างแม่ของเขาเองก็ป่วยเป็นโรคเท้าแสนปม เพียงแค่เรื่องที่นางสำรอกเงินทองได้นั้นมันออกจะเหลือเชื่อไปหน่อย แต่เขาก็ถือว่าอย่างไรเรื่องโรคภัยย่อมเป็นสิ่งที่รักษาได้
ขงเฉว่อยู่ในวัยหนุ่มน้อยผู้ตื่นรู้ตื่นวิชา ถือวิสาสะในเวลาที่เหล่าแพทย์ถูกเชิญไปจิบน้ำชาเพื่อลอบเข้าไปข้างในห้องของบุตรสาวเสนาบดีหลินผู้นั้น
เหวินหยางซื่อเองก็สมรู้ร่วมคิดกับเขาด้วยเช่นกัน ทำให้ทั้งสองแพทย์หนุ่มน้อยได้มาพบกับหนึ่งคุณหนูกับหนึ่งสาวใช้ที่นั่งร้องไห้กอดกันเสียจนตาบวม หญิงสาวผู้แต่งกายด้วยผ้าแพรไหมเนื้อดีนั้นย่อมเป็นบุตรสาวของเสนาบดีเป็นแน่
เพียงแค่ผิวพรรณของนางกลับแตกต่างจากผิวกายของบุตรสาวตระกูลผู้สูงศักดิ์ ทั้งมีตุ่มบวมแดงและสร้างอาการคันคายให้นางคอยยกมือเกาตลอดเสียจนกลายเป็นภาพที่ไม่น่ามอง
ในตอนที่เขากำลังลอบวินิจฉัยอาการจากการสังเกต นางก็ได้อ้าปากร้องพลันด้วยความตื่นตกใจ ทว่าขงเฉว่ก็เข้าไปเอามือปิดปากของนางไว้จนมีแต่เสียงอู้อี้ เช่นเดียวกันกับสาวใช้ที่เตรียมจะหนีออกไปร้องขอความช่วยเหลือก็ถูกเหวินหยางซื่อวิ่งเข้าไปตะครุบเอาไว้
“หยุดก่อนคุณหนู ข้าเป็นเป็นหมอ ท่านตรวจดูตราของข้าได้” เขารีบอธิบายพลันแบฝ่ามือให้นางดูตราประทับดอกบัวตูมของเขาบนฝ่ามือ
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเกลี่ยกล่อมคนไข้ด้วยทักษะของมืออาชีพ “ท่านแม่ของข้าเองก็มีผิวกายคล้ายดังที่ท่านเป็นเพียงแค่ตุ่มไตนั้นแข็งกว่าและใหญ่กว่า ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอันใด เพียงแต่ท่านแม่ของข้านั้นไม่ยอมให้ข้ารักษา แต่ข้าสามารถรักษาเจ้าได้”