icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon

Like Daddy, Like Baby แด๊ดดี้ครับ...

บทที่ 5 แด๊ดดี้ครับ

จำนวนคำ:2001    |    อัปเดตเมื่อ:21/02/2022

ออสตินดูแลลูกเลี้ยงของตนเป็นอย่างดี ดีมากเสียจนกานต์ที่คิดว่าตัวเองน่าจะเริ่มไม่ค่อยเกร็งเวลาอยู่กับเขาเกร็งมากขึ้นไปอีก นอกจากอาการเกร็ง ยังจะมีความเกรงใจที่พร่างพรายขึ้นมาไม่หยุดหย่อน เพราะทุกสิ่งที่ออสตินทำนั้น ไม่ต่างอะไรจากการเป็นพ่อของใครสักคนเลยแม้แต่น้อย

เรียกได้ว่าดูแลเด็กหนุ่มดีกว่าพ่อแท้ๆ ของเขาอีก กานต์ซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งเลยพยายามทำตัวดี ตั้งใจว่าจะเป็นเด็กดีของแด๊ดดี้อย่างที่เคยคิดไว้ในตอนแรก แต่ความเป็นเด็กดีของเขานั้นก็คงอยู่ไม่ได้นานสักเท่าไร ชีวิตของเด็กวัยรุ่นแน่นอนว่าจะต้องมีบางครั้งที่ดื้อบ้าง ซึ่งการดื้อของกานต์ก็คือ...

“ตั้งแต่วันนี้ มาเรียจะแวะมาดูแลเธอในช่วงเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น เธอจะได้มีเพื่อนเวลาฉันไม่อยู่บ้าน”

ออสตินว่าขณะที่แนะนำผู้หญิงชาวตะวันตกวัยกลางคนให้กับเด็กหนุ่มรู้จัก มาเรียเป็นผู้หญิงรูปร่างอ้วนท้วม หน้าตาและท่าทางใจดี เหมือนกับซานตาคลอสในเวอร์ชันผู้หญิงก็ไม่ปาน เมื่อเห็นหล่อนยกยิ้มให้อย่างเป็นมิตร กานต์ก็ยิ้มตอบด้วยท่าทางประดักประเดิด

“อยู่กับมาเรียอย่าดื้อ” ออสตินบอกตบท้ายก่อนจะหันไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นเป็นภาษาอังกฤษ “ฝากดูแลเขาด้วย”

“ได้ค่ะคุณสเวน”

จากนั้นชายหนุ่มก็หันมาบอกกับลูกเลี้ยงของตนด้วยภาษาเดียวกัน พักนี้ออสตินเริ่มพูดภาษาอังกฤษกับเด็กหนุ่มตรงหน้าแทนภาษาไทยมากขึ้นแล้ว ด้วยเหตุผลว่ากานต์จะได้ค่อยๆ ปรับตัวกับสังคมที่นี่

“ฉันไปล่ะ เจอกันมื้อเย็น”

มือคว้าเสื้อสูทมาสวม ก่อนจะวางมือลงบนศีรษะของเด็กหนุ่ม ออกแรงยีเบาๆ เป็นการบอกลาอย่างที่เคยทำ

ทุกครั้งที่ออสตินจะออกไปไหน เขามักจะทำอย่างนี้กับลูกเลี้ยงของตนเสมอ ประหนึ่งว่าเป็นการลูบหัวสุนัขเพื่อบอกให้เป็นเด็กดีอยู่เฝ้าบ้านอย่างไรอย่างนั้น

กานต์เห็นภาพตัวเองเช่นนั้นเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้คิดอะไร ออกจะชอบเสียอีกที่อีกฝ่ายปฏิบัติกับตนเช่นนั้น เพราะฝ่ามือหยาบกร้านของพ่อเลี้ยงเขามันอบอุ่นมากจนไม่อาจปฏิเสธสัมผัสได้เลยแม้แต่น้อย

คล้อยหลังของชายหนุ่มไป มาเรียก็ออกปาก

“ไปที่ครัวกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะทำมื้อเที่ยงให้”

กานต์นิ่งไปครู่หนึ่ง หัวสมองกำลังประมวลผลกับสำเนียงภาษาที่สองที่เขายังไม่คุ้นชินสักเท่าไร ก่อนจะพยักหน้ารับในท้ายที่สุดเมื่อเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไร

เด็กหนุ่มตรงไปนั่งยังเก้าอี้ประจำ สายตามองไปยังผู้หญิงคนนั้นที่สาละวนกับการทำมื้อเที่ยงให้เขา ทุกอย่างน่าจะเป็นไปด้วยดีถ้าหากว่ามาเรียไม่พยายามชวนเขาคุย

“มาที่นี่แล้วเป็นไงบ้าง”

“ครับ?”

“ฉันถามว่าเป็นยังไงบ้าง หมายถึงเธอชอบที่นี่ไหมน่ะจ้ะ”

กานต์เข้าใจที่อีกฝ่ายพูดอย่างชัดเจน เขาไม่มีปัญหาเรื่องการฟัง แต่ปัญหาของเขาก็คือการพูดมากกว่า

“คือผม...”

แน่นอนว่าปัญหาเรื่องการพูดก็ไม่ใช่เพราะเขาเรียบเรียงประโยคไม่ได้ ต่อให้มันจะยากในตอนแรก แต่พอมาอยู่ที่นี่ได้ร่วมสัปดาห์ เขาก็ขยันหัดฟังสำเนียงภาษาจากภาพยนตร์บ้าง ซีรีส์บ้าง จนกระทั่งค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่น่าจะมีปัญหาในส่วนนี้

“ว่ายังไงจ๊ะ เป็นยังไงบ้าง เธอชอบไหม”

มาเรียยังคงถาม หน้าที่ชวนคุยนั่นก็เป็นหน้าที่ซึ่งเธอได้รับมอบหมายจากผู้เป็นนาย ทว่ากานต์กลับอึกอักแล้วก้มหน้างุด

“ผม...” พลันก็ว่าเสียงแผ่ว “ครับ ผมชอบ”

“แล้วเธอตื่นเต้นไหมที่จะได้ไปโรงเรียนใหม่”

“ครับ”

“ทำไมล่ะ”

ดูก็รู้ว่าถ้าตอบไป มาเรียจะต้องเล่นเกมหนึ่งร้อยคำถามกับเขาแน่ เพราะทุกครั้งที่ตอบ เธอจะถามต่อเนื่องขึ้นมาทันที และนั่นมันทำให้กานต์กดดันเป็นอย่างมาก

“คือ...”

นอกจากตอบแค่ ‘ครับ’ กานต์ก็ไม่รู้ว่าจะพูดประโยคอื่นอย่างไรดี กับออสติน เขายังกล้าพูดเพราะเริ่มคุ้นชินบ้าง แต่พอต้องพูดประโยคยาวๆ กับคนอื่น เขากลับไม่มีความมั่นใจ

“ตกลงแล้วทำไมถึงตื่นเต้นล่ะ”

ทนไม่ไหวแล้ว...

“ผมขอตัวก่อนนะครับ”

เด็กหนุ่มตัดบทฉับพลัน เป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่เขาคุยกับแม่บ้านคนนี้ ก่อนจะหุนหันลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งขึ้นไปหลบในห้องตัวเองที่ชั้นบน

เขาไม่ชอบ...ไม่ชอบเลยที่จะต้องถูกกดดัน

แต่การกระทำของเขานั้นก็ไม่ใช่มารยาทที่ดี การที่เดินหนีไปเฉยๆ อย่างนั้นทำให้มาเรียถึงกับขมวดคิ้วมุ่น เธอพอจะเข้าใจเรื่องความขี้อายของชาวเอเชีย แต่ก็ไม่เคยพบเคยเจอใครบางคนเดินหนีเธออย่างนี้มาก่อน เท่านั้นมืออวบอูมของเธอก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง คว้าเอาโทรศัพท์มือถือออกมา กดโทรหาผู้เป็นนายทันที

“คุณสเวนคะ...”

[เขาดื้อใช่ไหม]

ปลายสายถามกลับมาอย่างรู้ทัน

“ค่ะ”

[ไม่ต้องไปตาม ปล่อยไว้ เดี๋ยวฉันจัดการเอง]

สิ้นเสียง ปลายสายก็ตัดไป โดยที่เด็กหนุ่มข้างบนบ้านไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

ตกเย็นมาเรียกลับไปแล้ว อันที่จริงกลับไปตั้งแต่ช่วงบ่ายเพราะออสตินสั่งให้กลับไป ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะให้มาเรียคอยดูท่าทีของกานต์ก่อน เผื่อว่าเด็กหนุ่มจะกลับลงมาเมื่อปรับตัวได้ แต่หลังจากที่อีกฝ่ายหนีขึ้นห้องไป กานต์ก็ไม่กลับลงมาเลย แม้แต่จะลงมาหาอะไรกินก็ไม่ทำ สิ่งนั้นทำให้ออสตินไม่ชอบใจสักเท่าไรนัก เพราะมันคือการหนี

ออสตินไม่ชอบการที่เด็กหนุ่มเปิดรับแต่เขาเพียงคนเดียว แล้วก็ไม่ชอบความไม่มั่นใจที่กานต์แสดงออกมาด้วย พอเขาถึงบ้าน ก็ไม่รอช้าที่จะร้องเรียกให้อีกฝ่ายลงมาข้างล่าง

กานต์ได้ยินเสียงทุ้มเรียกชื่อตนก็ลุกจากเตียงนอน ก้าวลงมาข้างล่างก็พบว่าคนเรียกกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา สูทที่สวมอย่างเรียบร้อยในตอนแรกถูกพาดอยู่บนพนักพิง บนตัวของออสตินมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่หลุดลุ่ยกับกางเกงสแล็กส์สีกรมท่าเท่านั้น

“มานั่งนี่สิ”

ออสตินพยักพเยิดไปยังโซฟาบุนวมตัวเดี่ยวที่อยู่ไม่ไกล กานต์ก้าวไปทรุดตัวนั่ง จากสถานการณ์ที่เขาเผชิญอยู่ก็พอจะรับรู้ได้ว่าเขาคงไปทำอะไรผิดมา ออสตินถึงได้เรียกเขาให้มานั่งแบบนี้ ซึ่งนั่นก็จริงเสียด้วยเมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้น

“วันนี้เกเรอะไรมา”

ออสตินไม่พูดภาษาไทยอย่างเคยแล้ว ประโยคนี้ว่าออกมาด้วยภาษาอังกฤษ กานต์ชะงักไปครู่ก่อนจะตั้งสติได้

“เกเรอะไรครับ”

“เธอน่าจะรู้ดีแก่ใจ”

สมองของกานต์ประมวลผลทันที แต่ยังไม่ทันจะคิดออก ออสตินก็ปรายตามองพลางว่าเสียงเข้ม

“มาเรียบอกกับฉันว่าวันนี้เธอเดินหนีหล่อน”

ตอนนี้เข้าใจได้แล้วว่าเกเรที่ออสตินว่านั้นหมายถึงอะไร

“ทำไมถึงไม่คุยกับหล่อน?”

เขาถามมาอีก กานต์ตอบกลับมาเป็นภาษาไทย

“ผมไม่คุ้นกับเธอครับ”

“ฉันไม่เข้าใจ” ออสตินสวนด้วยภาษาอังกฤษทันที “พูดภาษาฉันสิ พูดภาษาเธอแล้วฉันจะเข้าใจได้ยังไง ฉันไม่ใช่คนไทย”

เป็นการประชดประชันที่ทำให้กานต์เข้าใจได้อย่างชัดเจน

ออสตินกำลังบีบให้เขาต้องพูดภาษาที่สอง...

ในหัวเรียบเรียงคำและประโยคฉับพลัน

“ผมไม่คุ้นกับเธอครับ พอถูกเธอถามมากๆ ก็เลยอึดอัด”

“เลยเดินหนีเธอว่าอย่างนั้น?”

ปฏิเสธไม่ได้จึงตอบรับ “ครับ”

“มันเหมาะสมเหรอ”

ถึงตอนนี้ กานต์ก็พูดไม่ออก

ไม่...มันไม่เหมาะสมหรอก เป็นการกระทำที่เสียมารยาทเป็นอย่างมาก อีกอย่าง มันเป็นการปฏิเสธความหวังดีของออสตินด้วย ซึ่งนั่นทำให้ออสตินไม่พอใจจนอดไม่ได้ที่จะดุออกมา

“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนเสียมารยาทขนาดนี้ น่าผิดหวังนะ เธอคิดว่าที่ฉันส่งให้เธอไปเรียนปรับพื้นฐานก่อนมาที่นี่เป็นเพราะอะไรกัน ก็เพื่อให้เธอได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมที่นี่ไม่ใช่เหรอ ฉันช่วยเธออย่างเต็มที่แล้ว ทำไมเธอถึงไม่รู้จักคิดที่จะพัฒนาตัวเอง”

“...”

“เรื่องอนาคตของตัวเองก็ไม่รู้จักวางแผน ไม่คิดที่จะพัฒนาตัวเอง ไม่ตอบรับความหวังดีของคนอื่น ฉันผิดหวังในตัวเธอจริงๆ”

เปิดรับโบนัส

เปิด
1 บทที่ 1 แด๊ดดี้ครับ2 บทที่ 2 แด๊ดดี้ครับ3 บทที่ 3 แด๊ดดี้ครับ4 บทที่ 4 แด๊ดดี้ครับ5 บทที่ 5 แด๊ดดี้ครับ6 บทที่ 6 แด๊ดดี้ครับ7 บทที่ 7 แด๊ดดี้ครับ8 บทที่ 8 แด๊ดดี้ครับ9 บทที่ 9 แด๊ดดี้ครับ10 บทที่ 10 แด๊ดดี้ครับ11 บทที่ 11 แด๊ดดี้ครับ12 บทที่ 12 แด๊ดดี้ครับ13 บทที่ 13 แด๊ดดี้ครับ14 บทที่ 14 แด๊ดดี้ครับ15 บทที่ 15 แด๊ดดี้ครับ16 บทที่ 16 แด๊ดดี้ครับ17 บทที่ 17 แด๊ดดี้ครับ18 บทที่ 18 แด๊ดดี้ครับ19 บทที่ 19 แด๊ดดี้ครับ20 บทที่ 20 ไม่พอใจ21 บทที่ 21 แด๊ดดี้คร้าบ22 บทที่ 22 ไม่สามารถควบคุม23 บทที่ 23 ไม่ควร...24 บทที่ 24 กอดฉัน25 บทที่ 25 ผิดพลาดครั้งใหญ่26 บทที่ 26 คิดมากไป27 บทที่ 27 ไม่ควรที่จะเปิด28 บทที่ 28 สัญญา29 บทที่ 29 ไม่มีอะไร30 บทที่ 30 Goodnight31 บทที่ 31 ความลับ32 บทที่ 32 น่าตื่นเต้น33 บทที่ 33 มากไปหน่อย34 บทที่ 34 ไม่ควรเลย...35 บทที่ 35 อยากลอง36 บทที่ 36 แสนจะซื่อตรง37 บทที่ 37 ขึ้นห้องก็ดี38 บทที่ 38 สอนภาคปฏิบัติ39 บทที่ 39 กลายเป็นเด็กดื้อ40 บทที่ 40 พ่อเลี้ยง41 บทที่ 41 เชื่องช้า42 บทที่ 42 มันยาก...43 บทที่ 43 บอกว่าไม่ได้44 บทที่ 44 เด็กมันยั่ว45 บทที่ 45 ลมหายใจ46 บทที่ 46 อย่าเสียใจทีหลัง47 บทที่ 47 หมายความว่า... 48 บทที่ 48 ก็ไม่ต้องทน49 บทที่ 49 จะต้องเสียใจ50 บทที่ 50 แด๊ดดี้จะอึดอัด51 บทที่ 51 อยากให้ถึงเวลาเลิกเรียน52 บทที่ 52 อยากเจอ53 บทที่ 53 เป็นเรื่องจริง54 บทที่ 54 บุตรบุญธรรม55 บทที่ 55 แด๊ดดี้เป็นอะไร...56 บทที่ 56 มันจะไม่มีวันนั้น57 บทที่ 57 ใคร่ครวญ58 บทที่ 58 ตาลุงเจ้าเล่ห์59 บทที่ 59 โลกใบนี้เป็นของพวกเขา60 บทที่ 60 เคยเจอมาแล้ว61 บทที่ 61 แต่งงาน 62 บทที่ 62 ครอบครัวเดียวกัน63 บทที่ 63 จดทะเบียน64 บทที่ 64 รักฉันให้มากเท่าที่เธอจะทำได้65 บทที่ 65 ความต้องการของตัวเอง66 บทที่ 66 คู่ชีวิต67 บทที่ 67 เป็น – ของ – ฉัน!68 บทที่ 68 ยิ้มเจ้าเล่ห์ 69 บทที่ 69 เล่นอะไรซุกซน70 บทที่ 70 โกหกเก่ง71 บทที่ 71 มันไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง72 บทที่ 72 ต่างคนต่างรู้ดี73 บทที่ 73 พ่อเลี้ยง74 บทที่ 74 หมากเกมนี้75 บทที่ 75 พูดความจริง76 บทที่ 76 หยุดทำเรื่องบ้าๆ77 บทที่ 77 พรากผู้เยาว์78 บทที่ 78 เอาจริง79 บทที่ 79 ทุกค่ำคืน80 บทที่ 80 ถวิลหา...นิรันดร์81 บทที่ 81 Call me husband in Thai82 บทที่ 82 Will you marry daddy