มนต์ไอยคุปต์
หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินก็ทะยานขึ้นฟ้าตรงตามเวลาที่กำหนด ในยามที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนจากสีแห่งราตรี เป็นผืนฟ้าที่ค่อยๆ ฉาบด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ สุกสว่างจากดวงอาทิตย์ที่ปรากฏขึ้นตรงเส้นขอบฟ้า เป็นภาพที่สวยงามจนหลายๆ คนอดที่จะใช้กล้องดิจิตอลและโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพไว้ไม่ได้
“ดีจังคราวนี้ได้นั่งข้างหน้าต่างด้วย” มินตราหันไปคุยกับเกสรี โดยไม่รู้ว่าชนะชนแอบมองเธออยู่
“แบบนี้ต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เดี๋ยวฉันถ่ายให้มินก่อน แล้วมินถ่ายให้ฉันบ้างนะ” เกสรีบอกเพื่อน ท่าทางเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ และแม้จะสังเกตเห็นว่าชนะชนยังคงแอบชำเลืองมองเพื่อนสาวคนสนิทผู้ใสซื่อของเธอเป็นระยะๆ เหมือนเคย แต่สาวหมวยก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นเสีย เพราะตั้งใจไว้ว่าจะแอบสนับสนุนชายหนุ่มแบบลับๆ ไม่ให้มินตรารู้ตัว ในทุกช่วงเวลาที่มีโอกาส “นี่ๆ มิน ถ่ายรูปตอนอยู่บนเครื่องเก็บไว้บ้างก็ดีเนอะ ผอ.คะ ขออนุญาตถ่ายรูป ผอ.ด้วยนะคะ”
“ได้สิจ๊ะ เอามุมไหนดีล่ะ มุมนี้ดีไหม?” เจ๊แหม่มโพสต์ท่ายิ้มหวาน มีแบ็คกราวนด์เป็นสามหนุ่มที่นั่งอยู่ที่นั่งฝั่งซ้ายมือ ตรงตามแผนการเก็บภาพชนะชนของเกสรี
“ดีค่ะๆ มิน! ฉันยืมมือถือเธอถ่ายรูปหน่อยนะ ของฉันเมมมันใกล้เต็มแล้ว”
“ก็เล่นกระหน่ำถ่ายซะขนาดนั้นนี่นา มันจะไม่ใกล้เต็มได้ยังไง” มินตรายิ้มขำ แล้วปล่อยให้เกสรีใช้โทรศัพท์มือถือของตนถ่ายรูป โดยไม่รู้ว่าทุกใบล้วนติดภาพของชนะชนที่กำลังแอบชำเลืองมองเธอมาแทบทั้งสิ้น