แก้วอสุรา (ภาคแรกของ เสน่หากุมภัณฑ์)
ที
เพราะปรมะนครเป็นแว่นแคว้นดินแดนใหญ่ อำนาจแผ่ไพศาลไปทั่วแดนยักษา ทำให้กษัตริย์ผู้ครองนครได้พระทัย หมายจะชิงชัยเอาแคว้นน้อยใหญ่มาอยู่ในการปกครอง การยุรยาตรทัพทหารเกรียงไกรจึงเป็นไปทั้งหัวและท้ายปีไม่มีเว้นว่าง ยักษาวัยฉ
ด้วยแคว้นเวรุฬานั้นมีถิ่นฐานอยู่ยังยอดเขาสูงลึกเข้าไปในพนาวัน การยาตราทัพเข้าประชิดเมืองนั้นเป็นไปได้ยากยิ่ง อีกทั้งเหล่ารากษสเวรุฬายังมีอุปนิสัยดุร้าย เมื่อถูกรุกราน
ราะปราชัยให้แก่เหล่ายักษ์ป่
ล่าเสนาอำมาตย์และจอมทัพฝีมือดีมาปรึกษาหารือ ด้วย
องทหารยกทัพมารุกรานเวรุฬา ทว่าเพราะเสียไพร่พลในการออกศึกเมื่อ
ก็มีเพียงกระผีก วิรัลย์...ราชกุมารยักษาของกษัตริย์แคว้นเ
ระองค์จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามีพระโอรสองค์นี้อยู่ด้วย ซึ่งนั่นก็ไม่น่าแปลก วิรัลย์เป็นถึงราชกุมา
้พระราชโอรสซึ่งมีสิทธิ์ในราชบัลลังก์เอาชีวิตไปเสี่ยงเท่าใดนัก จึงไม่ทัดทานอันใด มอบหมายให้วิรัลย์ทำตามใจประสงค์ เพราะหากวิรัลย์ได้รับชัยชนะ
ุญาต นั่นก็เพียงพอ
หนดจากนางสนมท้ายแถว เพียงได้ถือกำเนิดโดยสืบเชื้อสาย
กุมาร หากมิได้เป็นยุพราชแ
จอาสานำทัพ นอกจากจะสร้างความดีความชอบให้กับตน เขายังหมายจะเอาชนะใ
? แล้วไม่มีสิทธิ์ชิงบัลลังก์ย
มเกราะ มือถืออาวุธ เข้าดำร
สัปดาห์ เขาก็แลเห็นว่ากองทัพของเขาสามารถเอาชัยมาให้แก่เวรุฬาได้ไม่ยากนัก และการที่มานั่งเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของทัพอร
นดีด้วย ครั้นยักษ์หนุ่มเอ่ยปากจะยกพลเข้าโจมตี เหล่าเสนาบด
ันควรที่จะยาตราทัพเข้าตีกองทัพของปรมะนครใ
ยู่ในพลับพลา สายตาเย็นเยียบของยักษ์หนุ่มชำเล
พลานี้ แล้วจะให้ข้า
ความไม่พอใจ เขาใคร่จะสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์เ
รที่พระองค์ยกทัพเข้าตีอาจจะทำให้ตกหลุมพรางเ
ล่ายักษ์เฒ่าพูดพร่ำประโยค
บศึกหรือไร พวกเจ้าก็รู้มิใช่หรือว่าข้าเองก็เคยออกรบ
น้อย ไม่ว่าจะศึกเล็กหรือใหญ่ ล้วนนำชัยมาทั้งสิ้น เพียงแต่...ผู้นำทัพหาใช่เขา ทว่าเป็นจอมทัพผู้เกรียงไกรคนอื่นๆ
ย์จึงระบายลมหายใจออกมา ก่
สียให้สิ้น จงมีคำสั่งออกไปว่าให้
ตกกังวลฉาบพรายราวกับเห็นเค้าลางร้า
ของกองทัพปรมะ ครั้นเหล่าทหารอริราชย์เห็นกองทัพอีกฝ่ายดาหน้าเข้ามา พลันก็พากันวิ่งว
็ย่ามใจ คิดว่าตนจะเอาชัยมาให้พระราชบิดาเชยชมได้ก็ออกคำสั่งใ
ไว้โดยการส่งกองทัพส่วนหนึ่งขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อหลอกล่อให้ทัพของอีกฝ่ายลงมา เมื่อแผนการสัม
ในเพลานี้ก็ไม
บไปยังแคว้น มือแกว่งไกวดาบอันเขื่องสังหารทหารศัตรูคนแล้วคนเล่า เขี้ยวโค้งยาวโผล่อ
งใบหน้าชวนให้สะอิดสะเอียนยิ่งนัก แต่วิรัลย์ก็มิอาจหยุดแกว
น้อยของปรมะยิ่งนัก ในเมื่อไม่มีผู้ใดเอาเขาอยู่ได
ูรย์ ก็ควบโตเทพอัสดร3ไปยังทัพหน้า ครั้นได้เห็นอสุราวัยฉกรรจ์ห้ำหั่นกับทหารของตน
ที่ดื้อด้านอะ
ห้ด้วยหมายจะปลิดชีพอีกฝ่ายด้วยธนูดอกเดียว หากแต่เมื่อ
ดงามดั่งเช่นยักษีก็ไม่ใช่ รูปร่างและใบหน้าของวิรัลย์ล้วนมีความเป็นบุรุษอยู่เต็มเปี่ยม หากแต่กลับดึงดูดสายตาเสียจนมิอาจละไปทางใดได้ อีกทั้งเมื่อพินิจอย่างถ้วนถ
ศล้ำอะไรถึง
้องใบหน้านั้นด้วยหลงใหล ไม่คาดคิดมาก่อนว่าตนจ
สาเหตุ ทหารเอกที่รอรับใช้
ไอศูร
..
อสุรายังคงจับจ้องอีกฝ่ายท
ศูรย์พ่
์จึงรู้สึกตัวในครานี้ ก่อนที่จะชำเ
ะย่ะค่ะ นั่นเป็
ั้น แต่ไอศูรย์กลั
ป็นศพเน่าเปื่อยในป่าก็ค
ลุดออกจากปากของจอมทัพผู
ให้ร่างกายมีบาดแผลอั
ึกมา หาได้มีครั้งใดที่จอมทัพผู้นี้จะไว้ชีวิตอริราชศ
ศูรย์ตร
ตัวมา.
ไม่กล้าเอ่ยถามสิ่งใดต่อ นำความไปบอกแก่เหล่าจอมทัพยักษาตนอ
หนะ เรือนกายคว่ำอยู่บนพื้นดินเย็นเยียบ ความแค้นใจเข้าเกาะกุมจิ
ป็นองค์ประกันจากเ