อะไรนะ! เจ้าอยากเป็นเซียนอย่างงั้นเหรอ!?
ั้ง3ของจื่อหมิงเป็นอย่างดี นางถึงขนาดเข้าไปแย่งที่นอนที่ปกติจะเป็นที่นอนของจื่อหมิง เรื่องนี้ทำให้จื่อหมิงถึงกับพูดอะไรไม่ออก แล้วที่ยิ่งทำให้จื่อหมิงหมดคำจะพูดก็คือนางซุบซิบอะไรบางอย่างกับพ
่างๆถูกล่อออกมาสังหารทีล่ะ2-3ตัว เป็นอย่างนี้ทุกวันอยู่นานนับเดือนจนอสูรดุร้ายในส่วนชายขอบของป่าอสูรแทบจะสูญพันธุ์
งนั้นยิ่งใหญ่ในระดับที่ว่านิกายพฤกษาขจีที่ปกครองอาณาจักรไม้เขียวนั้นเป็นเพียงแค่มดตัวนึงในสาย
ะเป็นวิชาการต่อสู้มือเปล่า หรือวิธีการก้าวขาให้วิ่งเร็วขึ้น วิธีใช้อาวุธต่างๆรวมไปถึงความรู้ทั่วๆไปของโลกผู้ฝึกตน ความหฤโหดในการช่วงชิงทรัพยากรสำหรับฝึกฝนต่างๆ แม้แต่ระดับพลังหรือขุมอำน
ั้นพวกข้าก็ขออวยพรให้อิงอิงประสบความสำเร็จในเร็ววันก็แล้วกัน" มู่หลงและมู่อิงอิงต่างยิ้มรับก่อนจะกล่าวต่อ"พี่หวังนี่คือค่าตอบแทนของพวกท่าน"พร้อมกันนั้นเขาก็โยนป้ายคำสั่งตระกูล'มู่'และถุงเงินให้หวังสยง แล้วยังกล่าวต่อถึงส่วนแบ่ง10%ที่เคยคุยกันเอาไว้ พูดคุยตกลงข้อเสนอกันอย่างเคร่งขรึมสักพัก
โปรดช่วยตรวจสอบชีพจรลมปราณให
ลที่ได้คือ เสี่ยวสยงนั้นมีรากวิญญาณปฐพีที่หาได้ยากอยู่ภายในชีพจรลมปราณถ้าหากเขาได้ฝึกวิชาของผู้ฝึกตนละก็มันจะทำให้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ของพี่สาวสุ่ยเอ๋อนั้นเป็นเพียงรากวิญญาณระดับกลางเท่านั้น
ากวิญญาณของตน หากแต่เขากลับไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้ที่จะเป็นเซียนเลยซักนิด เขาตั้งปณิธานในใจว่
อย่างกับหวังสยงครู่หนึ่งก่อนจะพาม
ลูกๆทั้ง5 ทั้งนี้ก็เพื่อให้พวกเขาร่างกายแข็งแรงและสามารถนำมาใช้ป้องกันตัวได้ โดยที่หวังสยงจะแจกยารวมลมปราณที่แลกมาให้เด็กๆทุกคนเดือนล่ะ1เม็ด ในบรรดาเด็กทั้งหม
ปราณโดยรอบเข้ามาในตันเถียน(จุดรวมปราณ)อย่างง่ายๆ ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก ในทุกๆวันหลังจากที่ฝึกฝนกระบวนท่าตอ
หมู่บ้านมาตามจีบทั้งสองจนสามารถเรียกได้ว่าหัวกระไดไม่เคยแห้งก็ว่าได้ ทางด้านของจื่อหมิงในวัย 16 ปีนั้นต้องใช้คำนิยามว่าเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาสลัดคราบจากเด็กอ้วนตัวขาวๆตุ้ยนุ้ยจ้ำม่ำน่ารักคนนั้นสู่เด็กหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาผิวสีแทนร่างกายสมส่วน ทุกๆวันเขาก็ยังทำกิจวัตรตามเดิม