อะไรนะ! เจ้าอยากเป็นเซียนอย่างงั้นเหรอ!?
เขาก็สามารถออกจากเขตของป่าอสูร ตลอดเวลาที่เขาเดินทางในป่านั้นเขาพบสัตว์อสูรแปลกประหล
กได้ว่าใกล้เคียงกับคำว่า เมือง เป็นอย่างมากและด้วยชัยภูมิที่เชื่อมต่อกับสามอาณาจักรและยังมีอาณาเขตติดอยู่กับป่าอสูรที่แห่งนี้ยังเป็นสวรรค์สำหรับเหล่านักล่ารางวัลมือฉมังเพราะที่นี้คือศูนย
เกี่ยวข้องอาณาจักรรกร้างทั้งหมด หลังไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็เข้าไ
ูลคหบดีผู้มั่งคั่งในเมืองหลวงของอาณาจักรรกร้าง เขาเดินทางค้าขายทำธุรกิจต่างๆไปพร้อมกับภรรยาและลูกๆ ในกองคาราวานนี้มีทหารคุ้มกันร่วมร้อยชีวิต มีพ่อค้า คนงานแล
งจากอาณาเขตส่วนใหญ่ที่เขาต้องเดินทางผ่านเป็นทะเลทรายและเขตรกร้างจื่อหมิงจึงต้องปรับเปลี่ยนชุดที่สวมใส่เล็กน้อย เขาในตอนนี้นั้นสวมผ้าคลุมผืนใหญ่และมีผ
ราวกับว่าจับสัมผัสการมีตัวตนของเขาไม่ได้ แต่แล้วเขาก็ต้องตะลึงในยามที่เขารายงานตัวเสร็จแล้วนั้นเขาก็เหลือบสายตาไปสบเข้ากับสตรีนางนึงที่กำลังพูดคุยหยอกล้อกับเหล่าเด็กๆและฮูหยินของเถ้า
ข้าได้ ในเมื่อข้าไม่มีเจตนาร้ายใดๆต่อนาง ต่างคนต่างอยู่นั้นแหละดีที่สุด" จื่อหมิงยิ้มเจื่อนๆที่การปลอมตัวค
นก็หน้าขึ้นสีวูบหนึ่งก่อนจะปรับสีหน้าหันมาค้อนใส่ฮูหยิน"พี่หญิงท่านอย่าได้พูดเช่นนี้ ข้าอวี้เสวี่ยไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้ ทั้งชีวิตข้าอุทิศให้การฝึกตนไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องไร้สาระระหว่างหนุ่มสาวหรอก" นางเอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดพลางเชิดหน้าน้อยๆอย่างทะนงตน ภาพ
มข้อมูลของอาณาจักรรกร้างให้ได้มากที่สุดเพื่อประกอบการตัดสินใจของเขายามเมื่อไปถึงเมื
นทางอยู่กลางทะเลทรายด้านใต้สุดของอาณาจักรรกร้าง ตลอดทางที่ผ่านมาจื่อหมิงพบเจอซากปรักหักพังของโบราณสถ
สังเกตุเห็นความผิดปกติบางอย่างรอบๆกองคาราวาน ในทุกๆ1-2ชั่วยาจะ
ื่องของกลุ่มโจรโฉดกลางทะเลทรายจะเป
ะเลทรายตอนกลางของอาณาจักรรกร้างและนี่คือเหตุผลที่เขาเจาะจงเลือกคาราวานที่ใหญ่ที่สุดในการเดินทางเพื่อห
งไม่ทันตั้งตัว จื่อหมิงได้ตัดสินใจแจ้งข่าวให
เป็นอย่างมากเพราะพวกเขาย่อมเคยได้ยินข่าวลือถึงความโหดร้ายของเหล่าโจรทะเลทราย