สามีสุดที่ร้าย ภรรยาสุดที่รัก
จงจิ่งเฮ่าขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเขาลุกโชนไปด้วยไฟโทสะ
ขณะเดียวกันที่ห้องรับแขก ป้าหวีเห็นหลินซินเหยียนยังนั่งอยู่บนโซฟาในชุดนอน ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่าคะ?”
เมื่อคืนเธอได้ยินเสียงแปลก ๆ ก็เลยลุกขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าคุณจงของตนกลับห้องไปแล้วก็ชื่นใจเป็นที่สุด
อีกฝ่ายเป็นภรรยาที่นายหญิงเลือกไว้ให้ ย่อมต้องดีแน่ ๆ
น้ำเสียงของป้าหวีกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
หลินซินเหยียนฝืนฉีกยิ้มให้ “ก็ดีค่ะ ดีมาก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะ คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ อาหารเช้าเตรียมไว้พร้อมแล้ว” ป้าหวีพูดพลางเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร
หลินซินเหยียนนวดที่เบ้าตาของตัวเองแล้วอ้าปากหาว
ตอนนี้จงจิ่งเฮ่าคงสวมเสื้อผ้าแล้วกระมัง
เธอเดินขึ้นไปบนห้องนอนแล้วเคาะประตู แต่ไม่มีคนตอบ
หลินซินเหยียนจึงเปิดประตูเข้าไป ทันใดนั้นลมหายใจเย็น ๆ ก็พลันโถมเข้าหน้าเธอทันที
จงจิ่งเฮ่าสีหน้าเย็นเยียบ เขากำกระดาษในมือไว้แน่น
เมื่อเหลือบไปเห็นข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น ใจหลินซินเหยียนก็เต้นรัวระส่ำ
เธอพยายามตั้งสติให้นิ่งเข้าไว้แล้วถามออกไป “คุณมีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องของของฉัน นี่มันของส่วนตัวรู้ไหม?”
“ของส่วนตัวอย่างนั้นเหรอ?” จงจิ่งเฮ่าแค่นหัวเราะเย้ยหยัน
เขาลุกพรวดขึ้นโยนกระดาษใบนั้นใส่หน้าหลินซินเหยียน “ในท้องมีลูกใครอยู่ก็ไม่รู้แล้วยังมาแต่งงานกับผม ตอนนี้ยังจะมาพูดเรื่องความเป็นส่วนตัวอะไรอีก?”
“ฉัน...” หลินซินเหยียนหน้าซีดเผือดลงในทันที
จงจิ่งเฮ่าลุกขึ้นบีบคางเธอไว้ “บอกมา คุณเข้าหาผมทำไม?”
คิดจะให้เขาเป็นพ่อที่หลงเลี้ยงลูกคนอื่นไปอย่างนั้นเหรอ แล้วให้เด็กในท้องกลายเป็นหลานคนแรกของตระกูลจงอย่างนั้นใช่ไหม?
ข้อตกลงก่อนหน้านี้ก็เป็นแค่แผนเฉพาะหน้าของเธอสินะ?
ใบหน้าของจงจิ่งเฮ่าเครียดขึ้งขึ้นกว่าเดิม
หลินซินเหยียนใจเต้นระส่ำอย่างบ้าคลั่ง ทว่าใบหน้ายังคงสงบนิ่งอยู่เช่นเดิม “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังคุณ แต่แค่แต่งงานกันตามข้อตกลง หลังจากนี้หนึ่งเดือนเราก็จะหย่ากันแล้ว ฉันถึงไม่ได้บอกคุณ ฉันไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแน่นอน”
“งั้นเหรอ?” จงจิ่งเฮ่าออกแรงบีบหนักขึ้นกว่าเดิม
หลินซินเหยียนพยายามเอ่ย “ที่ฉันพูดเป็นความจริง เรื่องแบบนี้จะปิดกันได้ยังไง? อีกอย่าง ถ้าฉันคิดจะเกาะคุณจงจริง ๆ ฉันคิดว่าคุณก็มีวิธีที่ฆ่าฉันให้ตายได้”
จงจิ่งเฮ่าเหลือบลงไปมองที่บริเวณท้องของเธอ ก่อนจะถามขึ้นเสียงเย็น “เป็นแบบนั้นได้ก็ดี ไม่อย่างนั้นผมไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ แน่”
หลินซินเหยียนพยักหน้า จากนั้นก็ยกมือขึ้นลูบที่ท้องของตัวเอง
เด็กคนนี้มาเกิดแบบเกินความคาดหมายจริง ๆ แต่เขาเป็นคนในครอบครัวที่ผูกพันกันด้วยสายเลือดของเธอ เธอทำใจเอาเขาออกไม่ลง
เธอไม่กล้าแม้แต่จะบอกแม่ด้วยซ้ำ เธอพกใบเสร็จที่ได้หลังจากไปตรวจที่โรงพยาบาลไว้กับตัวตลอด เพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า
คิดไม่ถึงว่าแต่งงานไปได้วันเดียว วันต่อมาจงจิ่งเฮ่าก็เห็นเข้าเสียแล้ว
สีหน้าของจงจิ่งเฮ่าเขียวคล้ำจนถึงขีดสุด เขาเตือนเธอขึ้นอีกครั้ง “ในหนึ่งเดือนนี้ก็ทำตัวให้มันดี ๆ ถ้าผมรู้ว่าคุณทำอะไร...”
“ไม่มีหรอก ไม่มีแน่นอน ฉันจะทำตัวดี ๆ ถ้าฉันทำอะไรผิดอีก ก็แล้วแต่คุณจงจะจัดการเลยค่ะ” จงจิ่งเฮ่ายังพูดไม่ทันจบ หลินซินเหยียนก็รีบเอ่ยรับประกันทันที
ถึงจะไม่ได้ความเชื่อใจจากเขา แต่จะทำตัวชวนให้เขาระแวงไม่ได้
ตอนนี้เธอยังอาศัยสถานะนี้เพื่อทวงทรัพย์สมบัติคืนจากหลินกั๋วอัน
จงจิ่งเฮ่าก้มลงจ้องหน้าเธอนิ่ง ๆ ด้วยสายตาลึกล้ำ
ก๊อก ๆ ——
“คุณจงคะ นายหญิงคะ อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ” ป้าหวีบอก
จงจิ่งเฮ่าดึงมือตัวเองกลับมาแล้วสงบสติอารมณ์ “เก็บของที่พื้นให้สะอาด”
เขาพูดจบก็หันหลังจากไป
พอจงจิ่งเฮ่าออกไปแล้ว หลินซินเหยียนก็ต้องจับตู้หลังเล็ก ๆ ด้านหลังไว้ กว่าเธอจะตั้งสติกลับมาอยู่ในความสงบได้ก็ใช้เวลาพักใหญ่
เธอนั่งลงเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่กับพื้นขึ้นมา ครั้นพอมองผลอัลตร้าซาวด์อีกครั้ง น้ำตาเธอก็พลันไหลออกมา
เธอปาดน้ำตาสูดน้ำมูก แล้วเก็บกระดาษแผ่นนั้นให้เรียบร้อย ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากห้อง
ในห้องรับประทานอาหาร บนโต๊ะมีเพียงจานเปล่ากับแก้วกาแฟวางอยู่ ปราศจากเงาของจงจิ่งเฮ่า
หลินซินเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย เธอก็กลับบ้าน
ทันทีที่เข้าไปในบ้าน จวงจื่อจินก็ดึงเธอไว้ “คุณจงเขา...”
มารดายังพูดไม่ทันจบ หลินซินเหยียนยิ้มบาง ๆ ขึ้น “เขาดีมากค่ะแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอกนะคะ”
ดวงตาของจวงจื่อจินแดงก่ำ “แม่นี่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ ขอโทษด้วยนะลูก”
หลินซินเหยียนกอดผู้เป็นแม่ไว้พลางลูบหลังเธอเบา ๆ “ขอแค่แม่อยู่กับหนูตลอดไปก็พอแล้วค่ะ”
มื้อกลางวัน จงจื่อจินเห็นหลินซินเหยียนสีหน้าไม่สู้ดีนัก จึงตั้งใจทำซุปปลาของโปรดเธอให้เป็นพิเศษ
หลินซินเหยียนเพิ่งตักขึ้นมาคำหนึ่ง ก็ได้กลิ่นคาวคลุ้งแสบจมูกก็พลันพุ่งขึ้นมา
เธอทนความคลื่นไส้อยากอาเจียนไม่ไหวจึงรีบวิ่งไปห้องน้ำทันที
“เหยียนเหยียน”
จวงจื่อจินตามไปดูด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นหลินซินเหยียนเกาะขอบอ่างล่างมืออาเจียน ในหัวเธอก็พลันว่างเปล่าขึ้นมาชั่วขณะ
เธอถามเสียงสั่นเครือ “เหยียนเหยียน เป็นอะไรหรือเปล่าลูก?”
ร่างทั้งร่างของเธอแข็งทื่อ มือทั้งสองข้างกำขอบอ่างล้างหน้าไว้แน่น
เธอหันกลับมามองมารดา แล้วรวบรวมความกล้า
“แม่คะ หนูท้อง”