ทิวาโลมดาว
ยู่ด้านนอกไม่รู้ว่ายังอยู่หรือไม่ เงี่
นไปที่ประตูแล้วเอาหูแนบ สิ่งที่ได้ยินนอกจา
อกไปแล
เบามือ ยังไม่ทันเปิดประตู เสียงเคาะประตูรัวเร็วจากด้านนอกพร้อมกับ
ม่น้อย และดูเหมือนว่าจะไม่มีความอดทนเท่าไรนัก เพราะถ้าผู้เป็นพี่ชา
ไรแต่เช้
ำสีขาว ผูกเชือกที่เอวแบบหลวมๆ ดังนั้นสาบเสื้อจึงหย่อนค
ตัวชายหนุ่มอย่างไม่ตั้งใจ ทว่าในเวลานี้ท่านหญิงทัสดาร้อนอกร้อนใจจึงไม่ทั
่! เห็น
ผนัง อีกข้างหนึ่งจับขอบประตูไว้ “พี่จะเห็นไ
ัสดาก็เกรงกลัวสายตาเช่นนี้ของเชษฐาอยู่แล้ว พออีกฝ่ายจ้องมองเขม
น้องตื่นมาไม่พบเธอเลยร้อนใจมาก ไม่รู้เมื่อคืนไปนอนเสียที่ไหน หาดูจนทั่วแล้วก็ไม่พบ” ท่านหญิงกล
ะกลับบ้านไ
ก่อนส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “เป็นไปไม่ได้
ก จำอะไรไม่ไ
ญิงก็เริ่มลังเล “เอ...หรือจะ
ของเชษฐาก็ทำให้ท่านหญิงคล้อยถามอย่างไม่ยากเย็น “น้
ถ้างั้นหญิงไปก่อนนะคะ ไว้เรีย
่วโมง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว รับประทานอาหารเช้า เผื่อเวลาเดินทางอีกสิบห้านาที คะเนดูแล้วคงไปไม่ทันเวลาเป็นแน่ เรียนปริญญาโทว
ิทยุจึงปิดประตูลงกลอน สาวเท้ายาวๆ ไ
ยินเสียงสวบสาบเบาๆ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปลดกลอ
งไปแล้วห
ว ออกม
้องของเชษฐา ไม่รู้ว่าท่านหญิงจะตกใจเพียงใด จะตระหนก หวาดหวั่น หรือโกรธขึ้ง
เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และตัวเธอเองยังปรารถนาให้เหตุการณ
สื้อผ
รับ ใบหน้าก้มต่ำ ดวงตาหลุบมองพื้นไม่กล้าที่จะสบสายตาคนตรงหน้า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอตกอยู่ในสภาพน่าอับอายขายหน้าเช่นนี้...ทั้งกลายเป็นผู้หญิงที่ปล่อยตัวปล่อย
ียงนอนที่ยับย่นแล้วขมริ
ำไมต้องเป็นท่
งหรือให้
้งเฮือก ท่าทางตื่นตระหนกราวกระต
ู่สักเล็กน้อยก็เพียงแค่อรอนงค์คือสหายคนสนิทของขนิษฐา เห็นมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก วิ่งผมเปียชี้ หน้ากลมแก้มอูม ขี้มูกน้ำลายเปรอะเปื้อนแห้งกรังเต็มหน้าก็เคยเห็นมาแล้ว ตอนที่เ
ไม่ต้อ
ก้าว ก่อนจะย่อตัวผลุบ แล้ว
็กลับออกมาพร้อมกับเสื้อผ้า
ลำคอระหงและลาดไหล่เนียนชวนมอง ทว่า...ท่านชายทิทยุแทบจะยกมือกุ
นกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดแหว่งวิ่นเช่นนี้ เขาเคยควบคุมสติได้เสมอ แล้วเหตุใดเมื่
้เสื้อผ้า หยิบเสื้อสูทตัวหนึ่งออกมา เดินกลับมาคลุมสูทตัวนั้นให้เธออย่างสุภาพและระมัดระวัง