บนสุด
0
เติมเงิน
ประวัติการอ่าน
ออกจากระบบ
ดาวน์โหลดแอป
ปูริดา
หนังสือของ ปูริดา(41)
จับนายไว้ในอ้อมกอดฉัน
โรแมนติก
5.0
เมื่อเพื่อนถามถึงสถานะ... "พวกแก...เชี่ย! แล้วไหมล่ะ อย่าบอกกูนะไอ้ลูกเต่า ที่มึงพูดไปวันนั้นเป็นเรื่องจริง มึงด้วยไอ้ยอด...มีผัวเป็นตัวเป็นตนกับเขาด้วยใช่ไหม" "ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยชี้แจงเรื่องของมึงสองตัวกับพี่สองคนให้กูฟังหน่อย...เร็ว ๆ อย่าชักช้าร่ำไร" "คนที่นั่งข้าง ๆ กูชื่อพี่คาย...กูอาศัยอยู่กับพี่เขาแล้วก็คอยดูแลซีโร่ให้" ศรวัณบอกสั้น ๆ เพราะยังไม่ค่อยกล้าบอกสถานะของตัวเอง เขากลัวเพื่อนจะรับไม่ได้ "ช่วยบอกสถานะให้กูรู้ด้วย...แค่แฟนหรือเป็นผัวมึง!"
ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ
โรแมนติก
5.0
ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”
ขอให้รักกลับคืนมาได้ไหม
โรแมนติก
5.0
ความรักไม่ผิด...เรารักเขา เขาไม่รักเรา ก็ไม่ผิด แต่การรอคอยมันย่อมมีระยะเวลาสิ้นสุดลงเมื่อ...ใจเราไม่อาจรอรักจากเขาได้อีกแล้ว มันก็ถึงเวลา...สิ้นสุดยุติการรอคอที่เลื่อนลอยไร้จุดหมาย “นั่นสิคะ หนูดาวก็งงอยู่ ทำไมถึงหนีพี่เหนือไม่พ้นสักที ตั้งแต่หนูดาวตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป พี่เหนือทำให้หนูดาวแปลกใจจนงงและสับสนไปหมด” “หือ” “ปกติพี่เหนือจะผลักไสให้หนูดาวไปไกล ๆ ชอบใช้สายตาแบบว่า...ฉันรำคาญเธอนะ เห็นหน้าเธอแล้วมันหงุดหงิดใจมาก จะไปเองดี ๆ หรือจะให้ฉันเตะโด่งเธอไป...ประมาณนี้นะคะ แต่พอหนูดาวเอาแหวนหมั้นไปคืน กลับต้องเจอกับพี่เหนือทุกวัน...และยังอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดทั้งวันเลยด้วย ขนาดคิดหนีมาทำงานที่นี่ สุดท้ายยังหนีพี่เหนือไม่พ้นเลยด้วย” “เราคงเป็นคู่เวรคู่กรรมกันละมั้ง ทำยังไงก็หนีกันไม่พ้น เสร็จงานที่นี่ เห็นทีพี่คงจะต้องจับมัดเราให้หนักกว่าเดิม” พันดาวมองแดนเหนืออย่างตื่นตะลึง เรียวปากสีชมพูอ้าค้าง “นี่พี่เหนือ...”
ไฟรักไฟเชลย
โรแมนติก
5.0
เพื่อน้องสาว เขาจึงหลอกลวงนำตัวเธอมา “คุณโกรธอะไรใครก็ไปเอาคืนกับคนนั้นสิ มายุ่งกับฉันทำไม ปล่อยฉันนะไอ้วายร้าย!” “เผอิญว่าฉันดันอยากได้เธอด้วยผิง ก็เธอมันขาวอวบยั่วยวนราคะใช่ย่อยนิ แค่จับลูบไล้หน่อยเดียวก็พร้อมจะร้อนเป็นไฟแล้ว” ชายหนุ่มลูบไล้ฝ่ามืออุ่นร้อนบนลำตัวกลมกลึง สะกิดเอากระดุมหลุดออกจากรางทีละเม็ดจนหมด จูบอุ่นร้อนทาบทับซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง “ฉันขอร้องนะคุณใหญ่...ถ้าฉันผิดจริง ฉันยอมให้คุณลงโทษได้ทุกอย่าง คุณจะย่ำยีลงทัณฑ์ฉันยังไงก็ได้ ฉันจะไม่ร้องขอความปราณีแม้แต่นิดเดียว จะไม่หนีอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน จะไม่คิดไม่เคียดแค้นคุณเลย แต่ถ้าฉันไม่ผิด คุณปล่อยฉันไปนะ...ได้โปรด” “รู้อะไรไหมผิง...ไม่มีผู้ชายคนไหนโง่ยอมปล่อยให้ผู้หญิงสวย ๆ เซ็กซี่ แล้วก็ปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างกับน้ำมันราดลงไปกองไฟให้หลุดรอดมือไปหรอกนะ” แต่ใครจะรู้ล่ะ...ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น จะนำสิ่งใดมาสู่เขาบ้าง เรื่องหัวใจก็ยังต้องจัดการ เรื่องการงานก็ต้องตรวจสอบหาความจริง
นางไพรยั่วสวาท
โรแมนติก
5.0
กฎของหมู่บ้าน ทำให้สองศรีพี่น้องต้องเร่งหา...ผัว! ให้ได้ “ตัวสั่นเชียว กลัวหรือจ๊ะฟองจ๋า” “โถ...น่าสงสารจริง เมียของผัว” มือหนาลูบไล้ผิวเนื้อนวลนุ่มลื่นขณะเดียวกันก็เกี่ยวเอาชายเสื้อของหญิงสาวดึงมันออกไปจากกายสาวก่อนจะแนบฝ่ามือลงบนทรวงอกอวบใหญ่ เสียงหวานแหบพร่าดังออกมาจากกลีบปากเล็ก “ร้องได้เลยจ้ะฟองจ๋า ผัวอยากได้ยินเสียงหวาน ๆ ของฟองที่สุด” “โถ่...จะปิดทำไมละจ๊ะสร้อยจ๋า” แม่เจ้าโว้ย! ใหญ่ฉิบหายเลย ใหญ่จนเขาอยากเห็นใกล้ ๆ อยากได้ลิ้มลองรสชาติในตอนนี้เลย “เดี๋ยวเราสองคนจะไม่เพียงแค่ได้เห็นทุกซอก...ทุกมุมของสร้อยแล้ว เราสองคนจะทั้งจับ...ทั้งเลีย แล้วก็อัดกระแทกให้ร่องสวาทของสร้อยแทบพังไปเลยจ๊ะ” ตรวนสวาทนางไพร : ใครกันแน่ที่เป็นผู้ล่า ใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อ แน่ใจหรือว่าแพรพลอยคือเหยื่อให้ห้าหนุ่มอย่างพวกเขาเสพสวาทอย่างเร่าร้อน “ไม่เอาอย่างนี้นะโรม...อย่าทำแพรเลยนะ” แพรพลอยร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อรู้ว่าโรมรันจะทำอะไร ไหนจะหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ที่ไร้อาภรณ์ปกปิด ทำให้เธอได้เห็นอาวุธของแต่ละคนที่มันช่าง...ใหญ่! ไหนจะคำพูดที่บอกก่อนหน้านี้ที่บอกว่า...จะอัดกระแทกเธอให้ยับ! ทำเอาเธอถึงกับกับหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย ยิ่งตอนนี้ทุกคนได้มายืนล้อมรอบเธอแล้วด้วย “พี่ได้ยินไม่ผิดใช่ไหมจ๊ะ...ที่น้องแพรบอกว่าอย่าช้า ให้พวกเรารีบเอาน้องแพรเร็ว ๆ นะ”
เกลียวรักคลื่นปรารถนา
โรแมนติก
5.0
เพียงแค่เห็นหน้า เขาก็ถูกใจแล้ว แม้เธอจะมีลูกติดมา เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อย ยังคงตามเอาใจลูกสาวตัวน้อยและจีบเธออย่างไม่ลดละ “เย้ เย้ แม่เอาอีกหนุก หนุก เอาอีก เอาอีก” โซดาเริ่มลุยน้ำลงไปกอบทรายที่เปียกน้ำใส่ศีรษะอันนิโต้เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด สิมิลันหัวเราะจนท้องแข็ง อันโตนิโอ้เอาคืนคนอารมณ์ดีด้วยการกอบทรายเปียกใส่ร่างบางบ้าง “ว้าย! เล่นอะไรนะคุณสกปรกจะตาย” “อ้าวที่คุณกับลูกทำผมล่ะ นี่แนะ” มือใหญ่ขยี้ผมบนศีรษะสิมิลัน โซดาเริ่มเอาอย่างสองมืออวบขยี้ผมบนศีรษะมารดาและศีรษะตัวเองจนยุ่งเหยิงและเปียกชื่น แล้วยืนหัวเราะเสียงใสแจ๋ว ดวงตาเป็นประกายสดใส ยิ้มจนเห็นฟันในปากแทบทุกซี่ “ไม่เลิกใช่ไหมคุณเอ โซดารุมพ่อเอเลยลูก” สองมือเล็กเรียวผลักร่างใหญ่ลงนอนบนพื้นทราย พร้อมกอบทรายเปียกชื้นละเลงบนกายแข็งแกร่ง สองแรงแข็งขันสองมือรุมกอบทรายละเลงบนกายหนาใหญ่จนเปียกชื้น ยังไม่พอสองนิ้วเล็กๆ จี้ไปเอวหนาจนชายหนุ่มหัวเราะท้องแข็ง โซดาเองก็เอาอย่างคนเป็นแม่ มือใหญ่ทั้งห้านิ้วจี้เอวแข็งแกร่ง อันโตนิโอ้ก็ไม่ยอมแพ้ มือใหญ่จี้เอวสองแม่ลูกกลับบ้าง เสียงหัวเราะของสองผู้ใหญ่หนึ่งเด็กดังลั่นหาดทรายสีขาว
วาสนารักคุณชายจอมวุ่นวาย
โรแมนติก
5.0
เพราะครอบครัวเกิดเรื่องไม่ดี เขมกรจึงตัดสินใจทำการแลกเปลี่ยนกับใครบางคน...จากนั้นเขาก็กลายมาเป็นคุณชายเกาหยุนเอ๋อร์ที่ไร้ความทรงจำ ที่...ก่อเรื่องราวไว้นั่นคือ การป่าวประกาศต่อหน้าผู้คนว่าจะเป็น “ฟูเหรินของซ่งหยวนเจ๋อ” อีกฝ่ายคงจะโกรธเขาอยู่นะ ถึงได้ตามติดไม่ยอมห่าง หรือว่าเขาเข้าใจอะไรผิดไป เพราะการตามติดของซ่งหยวนเจ๋อทำให้เขาเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แต่คงเท่าอีกฝ่ายที่เดี๋ยวก็เลี้ยงอาหารเขา เดี๋ยวก็ให้เขาขี่หลัง นั่นก็มิหนักเท่ากับคอยป้อนอาหารเขานะสิ... หยุนเอ๋อร์...” ซ่งหยวนเจ๋อเอ่ยเรียกเสียงเข้มแต่นุ่มนวล ขณะทอดสายตาที่อบอุ่นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนสบกับดวงตาของเกาหยุนเหลียง “ไม่...ดื้อนะ” หากมิใช่ถูกซ่งหยวนเจ๋อกอดกระชับเอวเอาไว้...เกาหยุนเหลียงรู้เลยว่าเข่าตนเองจะต้องอ่อนยวบทรุดลงไปกองอยู่บนพื้นแน่นอน ไหนจะหัวใจที่มันเต้นราวกับจะทะลุออกมาจากอกอีกเล่า ทำให้เขาคิดว่า กลับถึงเรือนเมื่อไหร่ ควรให้ท่านแม่เชิญท่านหมอมาดูหน่อย เหตุใดถึงได้มีอาการประหลาดเช่นนี้มากนักเมื่ออยู่กับซ่งหยวนเจ๋อ ถ้าหากว่าเป็นอะไรร้ายแรงจะได้รีบทำการรักษาได้ทันท่วงที “ดีมาก...หยุนเอ๋อร์ที่ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เกเร ทำตัวเป็นอันธพาล...น่ารัก”
Secret Love of Vampire
มนุษย์หมาป่า
5.0
ยามค่ำคืนภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องสว่าง ยังมีความลึกลับซุกซ่อนอยู่ จากกลุ่มซึ่งอยู่ด้วยความเหงาเศร้า โดดเดี่ยวเดียวดาย อ้างว้างและเจ็บปวด เมื่อการอยู่เหมือนตายทั้งเป็น ใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดมิด เขาผู้ซึ่งถูกเรียกว่า “มนุษย์กึ่งอมตะ” ผู้ที่อาศัยอยู่ด้วยการเป็นนักล่ายามราตรี หิวโหยการเสพสมเพื่อให้ได้มาซึ่งเลือดสดๆ เป็นอาหาร มีคนนิยามเขาไว้ว่า “แวมไพร์...กระหายเลือด!” “Chapter I : Vampire ล่ารัก” เนิ่นนานที่ “คีธ” เดินอยู่บนเส้นทางแสนเดียวดาย ไร้สิ้นความหวังกลับคืนมาเป็น “มนุษย์” แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อค่ำคืนหนึ่งมีสาวน้อยแสนแปลกนาม “ชมบุหลัน” เดินเข้ามาในชีวิต เธอผู้ไม่เหมือนใคร คนที่ก้าวเข้ามาเติมเต็มความอ้างว้างแสนเปล่าเปลี่ยว และทำให้เขารู้ว่า... โชคชะตายังไม่โหดร้ายเกินไป เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมีความหวัง แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นอีกหนทางที่ต้องรอการพิสูจน์! มนตร์เสน่หา Lycan : เธอปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความมืด ของค่ำคืนเหน็บหนาวและสายฝนโปรยปราย กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนในกายยักษ์ใหญ่สี่ขาขนปุยให้... กระหายเสพรักจากเลือดเนื้อและกายา! อย่างเร่าร้อนดุเด็ดและเผ็ดมัน ชีวิตนี้เพื่อเธอ... “Angel” Vampire เจ้าเสน่ห์ : “ที่เธอพูดมาน่ะ ฉันต้องได้อยู่แล้ว แต่ที่ต้องการนะเป็น...” เขามันพวกมักมาก ถ้าได้คือต้องทั้งหมด แต่ถ้าไม่ได้...เขาก็จะกำจัดมิให้เหลือซาก! “อะไร” สุพรรณิการ์เอ่ยถามด้วยหัวใจสั่นๆ Lycan แสนเสน่หา : แน่ะ...ยายตุ้ยนุ้ยจอมตะกละกลบความเขินด้วยการทำหน้ากระฟัดกระเฟียดและประทุษร้ายเขาเสียนี่ อย่างนี้ต้องถูกลงโทษ! เจอโรมีสอดแขนรัดรอบเอวคอดกิ่วและพลิกกายกลับให้ร่างนุ่มนิ่มตกอยู่ใต้อาณัติ “ว้าย! ไม่เอานะเจโร ไม่เล่นอย่างนี้นะ” เจ้าสาว Vampire : “ให้หัวใจนำทาง รักจะพาเราผ่านเรื่องเลวร้ายทุกอย่างไปได้” พลังแห่งรักชนะทุกสิ่ง!
สาปรักมนตราเชลย
โรแมนติก
5.0
เหตุจากฝันร้าย! ขอขวัญ ไพรีรักษ์ จึงตัดสินใจเดินทางเหินฟ้าสู่ดินแดนแห่งทราย การยื่นเท้าไปสอดกับบางเรื่อง เป็นเหตุนำเธอไปพบเจอกับผู้ชายที่แรกพบเจอก็มองเห็นเป็นศัตรู ความต้องการของมารดาทำให้นำพาให้ อันเดซาอี ซีกัลป์ กัลป์วามุเอ! เจอกับหญิงที่มีใบหน้าเหมือนคนรักเก่าอย่างกับพิมพ์เดียวกัน แม้ปรารถนาไขว่คว้ามาแนบกาย แต่เหตุผลบางอย่างทำให้เขามิอาจทำได้อย่างตั้งใจ การก้าวมาของเธอจึงเป็นเสมือนลิ่มเหล็กตอกย้ำลงบนหัวใจให้ย้อนคิดถึงอดีตอันเจ็บปวด เธอจะสามารถละลายน้ำแข็งที่เคลือบหัวใจเขาได้หรือเปล่า เขาจะปล่อยให้ความเจ็บปวดผลักไสให้เธอไปห่างไกลสุดไขว่คว้าหรือไม่ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่... “ฉันไม่ได้ขอ...แต่สั่ง” “คุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ฉันทำโน่นนี่ตามใจน่ะ” “อยากได้สิทธิ์แบบไหนล่ะขอขวัญ ฉันให้ได้ทุกอย่างเลยเชียวละ” โอ๊ย!! ขอขวัญอยากยกมือทาบหน้าผากพร้อมตบลงไปแรงๆ เธอมาเจอเข้ากับคนบ้าอะไรนี่ ถึงได้เอาแต่ใจพูดจาไม่รู้เรื่องอย่างนี้ ปวดหัวชะมัด! “และเธอต้องอยู่ข้างกายฉัน ห้ามห่างเกินสามก้าวด้วย” แทบต้องหงายหลังลงนอนยาวบนเตียง อย่างที่ว่าเป็นลมยังไม่ตื่น “ถ้าไม่...” “ฉันมีอำนาจมากพอ ที่จะทำให้เธอกลายเป็นของเล่นได้นานเท่าที่ต้องการ!”
สาวน้อยหัวใจไต่รัก
โรแมนติก
5.0
“คิดอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ เลยเรา” “เปล่านะคะ เพียงแค่...” หญิงสาวเบี่ยงกายเล็กน้อย สองแขนกลมกลึงยกขึ้นโอบรอบบ่ากว้าง ช้อนสายตากลมโตพลางกระพือปีกบินราวกับผีเสื้อโบยบิน นิ้วยาวยกขึ้นทาบบนกลีบปากหนา คลี่กลีบปากแย้มยิ้มหวานฉ่ำเชื่อม “ถ้าพ่อเมฆหรือแม่ข้าวมาเห็นเราสองคนในสภาพอย่างนี้...” กันต์กนิษฐ์บดเบียดเรือนร่างนุ่มนิ่มกับความแข็งแกร่ง ยั่วยวนป่วนอารมณ์โดโนแวนให้ลุกพรึบจนยากระงับความต้องการส่วนลึกเอาไว้ “หยุดเลยยายตัวแสบ ทำอย่างนี้ได้ยังไงกันฮึ เราเป็นผู้หญิงนะ ใครรู้เข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” “เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วนี่คะ แค่จูบกันนิดหน่อยไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ยังไงก็ไม่สึกไม่หรอ เอ๊ะ...หรือคุณป๋าถือว่าได้เจาะไข่แดงกระถินแล้วจะไม่รับผิดชอบ กระถินไม่ยอมน่ะ จะฟ้องแม่ข้าวและพ่อเมฆให้ตีจนหัวแบะเลย” “เฮ้ย!” โดโนแวนถึงกับมึนงงราวกับถูกตีที่ทัดดอกไม้ กลอกนัยน์ตาไปมา “คุณป๋าไปทำอย่างนั้นกับเราตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่ามาตู่นะยายตัวยุ่ง” กันต์กนิษฐ์เคาะนิ้วกับข้างแก้ม เบ้ปากไปมาพลางเลิกคิ้วเหมือนคิดหาคำตอบที่โดโนแวนหาข้ออ้างหลีกหนีไม่ได้ ก่อนคลี่ยิ้มนัยน์ตาวาวใส “เมื่อคืนไงคะ เราจูบกัน มีพยานเห็นเยอะแยะเลย” “พยาน!” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เมื่อคืนมีใครเสียที่ไหนกัน “ที่ไหนกันฮึยายตัวแสบ เรานี่นะ...ฉลาดแกมโกงจริงๆ ยั่วจนคุณป๋าเผลอสะดุดเท้าตัวเองชนกับปากยายเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมต่างหากล่ะ”
ลูกหนี้ตีตรา
โรแมนติก
5.0
บุญคุณต้องชดใช้ก็จริง แต่ถ้าหัวใจเขาไม่ปรารถนา คำขอของผู้ใหญ่ก็ไม่อาจเป็นจริงได้ แต่นั่นก็ไม่ยากเท่ากับการทำให้เธอรัก หรือสุดท้าย เขาจะต้องปล่อยให้เธอทำอย่างใจต้องการ...จริงๆ คมน์เงยหน้าขึ้นมองสาวน้อยที่กำหัวใจเอาไว้ตั้งแต่แรกที่เขาเติบโตเป็นหนุ่ม เริ่มที่จะรู้จักความรัก ไม่เคยที่จะมอบหัวใจให้กับผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่าจะตัดสินใจแล้ว แต่พอถึงเวลาที่จะต้องพูดจริงๆ มันเหมือนกับมีหินหนักๆ มาถ่วงเอาไว้ บวกกับดวงตาเป็นประกายเอาเรื่องคู่นั้นอีก มันทำให้เขา...ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงดี “ต้นหลิว...พี่จะคืนอิสระให้เรานะ เรา...หย่ากันเถอะ”
ใยรักเพลิงเสน่หา
โรแมนติก
5.0
“อย่าตามมานะตาบ้า คุณจะไปไหนก็เชิญ คนเฮงซวย จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย” “แต่เธอได้ฉันแล้วนะ” “กรี๊ด! ตาบ้า” ราชาวดีถลาวิ่งกลับมาปิดปากคนบ้าที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่แทบจะไม่ทัน ใบหน้าสวยแดงระเรื่องเพราะอับอาย เธอตวัดค้อนคนหน้าไม่อายหลายครั้ง “จะประจานให้คนเขารู้กันหมดหรือไงว่าฉันเป็นของคุณแล้ว คุณไม่อายแต่ฉันอายนะ” “อ้าว...ก็เธอคิดจะทิ้งฉันนี่น่า” ถ้าเป็นช่วงที่มีคนเดินติดตาม ไม่ทางที่เขาจะพูดอะไรแบบนี้เลย ไม่รู้ทำไมพออยู่กับราชาวดีแล้ว ความเย็นชาที่เขาเพียรพยายามสร้างไว้มันหลุดหายไปจนหาทางกลับเข้าตัวไม่ถูก มันเหมือนกับเขาได้กลายเป็นเด็กตอนที่ยังไม่ต้องคิดอะไร ไม่รับรู้ว่าเบื้องหลังภายใต้ความอบอุ่น สีหน้าที่ยิ้มแย้มของพี่ชายคือการต้องเข่นฆ่าผู้อื่นให้ตายทั้งเป็น
มนตราจอมพยศ
โรแมนติก
5.0
“แล้วใครกันที่เมื่อกี้พูดว่า...คุณต้องช่วยฉันนะ” “ใคร้...ใครพูด ฉันไม่ได้พูดสักหน่อย” ถึงจำได้ แต่ทำไมละ จะทำตัวเป็นพวกความจำปลาทองในตอนนี้ ดาราเนตรเชิดหน้าไปฝั่งที่ไม่มีดวงคมพราวระยิบระยับที่ทำให้หัวใจหวั่นไหว “ใครเป็นคนพูดกันนะ ใช่คนนี้หรือเปล่า” ปรมัตถ์ดึงเอาผ้าห่มที่หญิงสาวใช้ห่อตัวจนแทบจะเป็นดักแด้ออกมาได้เล็กน้อย นิ้วยาวลากไล้ลำคอระหงเคลื่อนไปถึงปลายคางมน “อืม...เอายังไงกับคนขี้ลืมดีนะ ขอรางวัลเป็นจุ๊บหนึ่งที หรือว่าจะจับลอกเปลือกแล้วกินจนหมดทั้งตัวดีนะ” ถามพร้อมมองไปทั่วกายกลมกลึงที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่ฝังตรึงอยู่ในสมองเขาจนแกะไม่ออก “งั้นฉันหอมแก้มคุณก็ได้” รีบตอบดักคอไปก่อนด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เมินหน้าหนีนัยน์ตาพราวระยับจึงไม่ทันได้เห็นความเจ้าเล่ห์ที่แฝงอยู่ “ไม่ละ เปลี่ยนใจแล้ว ขอเป็นหนึ่งจูบและผมเป็นคนจูบด้วย” “อืม...งั้น ให้สองจูบเลย แต่...” คิดว่าเธอรู้ไม่ทันใช่ไหม ถึงจะฉลาดไม่มากนัก แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เอาตัวรอดได้ล่ะกัน ดาราเนตรแขนกลมกลึงยื่นออกมาโอบรัดรอบลำคอแกร่ง ปลายนิ้วลากไล้บนแผ่นหลังกว้าง ซอกซอนไปพัวพันจิกทึ้งกับเส้นผมหนานุ่ม “แต่ขอเป็นพรุ่งนี้ ตกลงไหม แบบว่าตอนนี้ฉันเหนื่อย อยากที่จะนอนแล้ว” “อืม...ก็ได้ แต่ว่า...” เอาสิเขาเองก็มีข้อแม้เหมือนกัน
เพลิงหัวใจไฟเสน่หา
โรแมนติก
5.0
“ฉันไม่ได้บ้านะน้ำพราว” “อ้าว...ก็อาการที่นายเป็นมันใช่นี่น่า อยู่ดีไม่ว่าดีทำตัวเหมือนกับคนบ้าที่ยาหมด เลยอาละวาดใส่คนอื่นเขาไปทั่ว แล้วไปโกรธใครมาอีกล่ะ แต่ฉันไม่น่าจะถามเลยนะที่ทำให้นายเต้นเป็นเจ้าเข้าแบบนี้ได้ ก็มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ” หญิงสาวยิ้มหยันให้อย่างที่รู้ว่าตัวเองไม่น่าจะคิดผิด สีหราชหันมองคนที่กำลังพูดจ๋อยๆ อย่างไม่เกรงกลัวเขาด้วยสายตาขุ่นขวาง “ไม่ต้องมาทำตาแบบนั้นเลยตาบ้า ไม่กลัวแล้ว คนอะไร บ้าได้ไม่มีวันหยุดจริงๆ ผู้หญิงคนไหนได้นายเป็นสามีนี่คงจะต้องเป็นคนมีกรรมอย่างหนักแน่” “ไม่รู้เหมือนกันว่าใคร แต่ที่แน่ๆ นะกำลังพูดจ๋อยๆ จนลิงจะหลับอยู่ไงล่ะคนหนึ่ง” ****************** “ชาติหน้าเถอะน้ำเพชร เธอเป็นของฉัน! เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น!” จมูกโด่งกดไปใบหน้าและลำคอระหงพร้อมกับที่เสื้อผ้าที่หญิงสาวและตัวเขาเองใส่ หลุดออกจากร่างกายของทั้งคู่ด้วยสภาพฉีกขาดไม่สามารถนำมาใส่ซ้ำได้อีกแล้ว ชายหนุ่มมือเรียวที่ผลักดันใบหน้าและร่างกายเขาออกตรึงไว้เหนือศีรษะ “ไม่นะนายเสือ....” บุษย์น้ำเพชรเริ่มกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้นเมื่อเจอความโกรธของพยัคฆ์ หญิงสาวพยายามหนีให้พ้นจากปากและกายใหญ่ที่จับต้องร่างกายของเธออย่างรุนแรง ดวงตากลมโตเบิกกว้างน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าและซึมออกมาอย่างหักห้ามไม่ได้
ปล้นหัวใจจอมเถื่อน
โรแมนติก
5.0
“ฉันลืมไปได้ยังไงกันนี่ เป็นเพราะคุณอยากเป็นเมียพี่กลางจนตัวสั่นนะเอง แต่เห็นทีจะยากนะคะ เพราะผู้ชายดีๆ อย่างพี่กลาง ฉันไม่ยกให้ใครง่ายๆ หรอกค่ะ” บุษกรโต้ตอบทั้งที่หวั่นๆ กับสายตาที่เป็นเหมือนกับมีปลายแหลมทิ่มแทงเข้าไปในเรือนกายอยู่ไม่น้อย เธอไม่ได้อยากสร้างศัตรู แต่เมื่อรับงานมาแล้ว ก็ต้องทำให้สุดความสามารถ “บัวทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อยเลยคะพี่กลาง” บุษกรจับเอามือพีรายุมาวางบนบ่า “ตะกี้ตอนขับรถมาพี่กลางบอกจะนวดให้...ไม่หลอกบัวนะคะ” หญิงสาวทำหน้าเหนื่อยและเพลียขึ้นมองพีรายุ “อ๋อ...อีกเรื่องหนึ่ง ที่บอกจะจดทะเบียนกับบัว...ไม่หลอกให้บัวดีใจเล่นนะคะ”
ทัณฑ์รักสวาทร้าย
โรแมนติก
5.0
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
เกมสวาททัณฑ์ซาตาน
โรแมนติก
5.0
“มะ...ไม่นะเจ้านาย กานต์ขอโทษ ยะ...ยกโทษให้กานต์นะ” สงกรานต์อ้อนวอนเสียงสั่น พลางพยายามกระถดหนีด้วยความกลัวว่าจะถูกชายหนุ่มใช้กำลังบังคับแต่ก็ถูกตรึงไว้ด้วยกายแกร่งอย่างแนบชิดทุกสัดส่วน ฮึ...ขอโทษหรือสงกรานต์ มันคงเทียบไม่ได้กับความหลอกลวงที่เธอทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่...เป็นเจ้าสัตว์สี่ขานั่นหรอกนะแม่ตัวแสบ นี่เธอคงแอบหัวเราะอย่างสะใจข้างหลัง เพราะเธอกับพ่อหลอกลวงฉันมาได้ตั้งหลายปีสินะ
กลลวงบ่วงบุพเพ
โรแมนติก
5.0
“คิดจะอ่อยให้ฉันสงสารและอุ้มเธอกลับบ้านอย่างสบายๆ หรือไง แต่เสียใจด้วยนะ ที่มารยาของเธอคราวนี้ใช้กับฉันไม่ได้อีกแล้ว” เขาจับแขนเรียวยาวและดึงร่างโปร่งบางเข้ามาจนเธอสัมผัสถึงลมหายใจร้อนๆ ที่มันเป่ารดพวงแก้มนุ่ม ก่อนที่เขาจะผลักเธอให้ถอยห่าง เหมือนกับว่าเขาเจอของสกปรกจนกลัวมันจะมาเปรอะเปื้อนร่างกาย “โอ๊ย!” มือที่ยันพื้นหญ้าที่ไม่ราบเรียบ โดนเศษไม้แหลมคมทิ่มต่ำจนเจ็บเพิ่มอีกขึ้น “นายมันคนบ้า คนใจร้าย” เรณุกาต่อว่าปากสั่น น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า เธอกัดฟันใช้มือที่เจ็บยันกายลุกขึ้นยืน โดยไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากคนใจร้ายอีกแล้ว พยายามข่มใจให้ลืมความเจ็บจากข้อเท้า เดินตามพฤกษ์อย่างเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว “เดินเร็วๆ เข้าหน่อยซิ ทำสำออยคิดว่าจะทำให้ฉันใจอ่อนหรือไง” เมื่อเห็นว่าเขาเดินไปไกลแล้ว แต่เรณุกายังตามไปได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น จนเขาหงุดหงิดและรำคาญใจ ทำไมอยู่กับเขามันน่าเบื่อมากหรือไง ถึงได้คิดแต่จะหนีท่าเดียวนะ
หักเหลี่ยมสวาทคาสโนวา
โรแมนติก
5.0
รมย์นลิน...ต้องพากายที่บอบช้ำ ใจที่แหลกสลายจากการกระทำของคนที่บอกรัก...เทพกานต์ ความเจ็บปวดที่ได้รับในวันนี้จะเป็นบทเรียนราคาแพง และคนที่สร้างขึ้นมาจะต้องได้รับการเอาคืนอย่างสาสม! นลิน...นักร้องสาวที่แรกเห็นหน้าก็เรียกเสือร้ายอย่างเทพกานต์ให้อยากครอบครอง แต่เธอไม่ใช่หมูในอวยให้เขาเคี้ยวเล่นได้ง่ายๆ เหมือนบางคนหรอกนะ เขี้ยวเล็บน่ะมันมีเยอะ “พี่เทพอยู่นิ่งๆ ซิคะ” ร่างโปร่งบางเคลื่อนตัวขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง สองมือเล็กจับแขนแข็งแกร่งและชูขึ้นเหนือศีรษะ “ตอนนี้หลินมัดพี่เทพเอาไว้แล้วนะคะ มัดด้วย...” นิ้วเล็กชี้ตรงหัวใจตัวเองซึ่งกำลังเต้นอยู่ และเคลื่อนไปหาแขนใหญ่ขยับวนเวียนอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงหวานเบาข้างใบหูใหญ่ แต่มันก็ดังเข้าไปถึงหัวใจเทพกานต์จนเต้นแรงและเร็วเหมือนกำลังจะทะลุออกมาจากทรวง “หลินมัดมือพี่เทพด้วยสายใยแห่งรักที่ถักทอมาจากหัวใจของหลินเอง” และอีกหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเทพกานต์อย่างที่ชายหนุ่มอยากจะ...บ้าตาย เมื่อเขาดันเผลอไปมีอะไรกับ... “ผมรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เจ้านายไม่สบายใจ อึดอัดคับแค้นใจเป็นอย่างมาก เมื่อคนที่เจ้านายมีอะไรด้วยไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อหลินคนนั้น เจ้านายไม่ต้องกลัวหรือกังวลใจอะไรนะครับ ผมให้สัญญาว่าจะไม่เรียกร้องอะไร” แค่ขอเป็นคนของเจ้านายนับแต่วันนี้จนตลอดไป ใบหน้าหล่อหวานแย้มยิ้มอย่างหวานเชื่อม ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับและมีเลศนัย ถ้าหากเทพกานต์ได้เห็นคงจะหนาวสั่นยิ่งกว่าที่เจอมาเมื่อคืนอีกเป็นแน่ “ขอเพียงแค่เจ้านายไม่ทอดทิ้งและให้ผมได้อยู่รับใช้ใกล้ชิด แล้วก็ไม่ไล่ผมออกจากงานเท่านั้นเองฮะ” หนุ่มน้อยหน้าหวานเอ่ยพูดน้ำเสียงหวานนุ่ม ทั้งอ่อนหวานและเว้าวอน ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ ให้อย่างน่ารัก
เล่ห์เสน่หาพญามาร
โรแมนติก
5.0
แต่ถ้าเธออยากจะฟังอีกฉันก็จะบอกอีกครั้ง ว่าฉันอยากครอบครองเป็นเจ้าของร่างนุ่มนิ่ม...แสนหวาน อยากเห็นใบหน้าแดงๆ เหมือนกับผลทับทิม ดวงตาเปล่งประกายเหมือนดวงดาราบนท้องฟ้ายามมอบบอกกับฉันว่า...ต้องการให้ฉันเป็นส่วนหนึ่ง ปากนี้...” นิ้วยาวลากไล้กดย้ำบนริมฝีปากนุ่ม “ร้องอ้อนวอนขอให้ฉันแปลงกายเป็นปลาใหญ่วนเวียนแหวกว่ายในโถงอุ่นระอุฉ่ำนุ่ม เปล่งเสียงครางๆ หวานๆ ยามกลืนกินโมกข์น้อยไม่ยอมหยุด” โมกข์บอกเสียงกระเส่า ลมหายใจเริ่มหอบพร่า กายแกร่งปวดร้าวกับมือและปากเล็กที่เคลื่อนไหวบางเบาแต่หนักหน่วง “อยากมีร่างนุ่มๆ นอนคลอเคลียแนบชิด และทำให้เตียงนอนฉันร้อนราวกับไฟเผาทุกๆ คืน” เสียงแหบหวานหลุดออกมาจากปากอิ่มนุ่ม สองแก้มร้อนผ่าวจนต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาร้อนแรงเต็มไปด้วยความต้องการที่มากล้นเหลือ ดังเช่นมือหนาที่ลูบไล้สร้างความปั่นป่วนวาบหวามทั่วกายน้อยๆ ให้สั่นสะท้านเหมือนนกน้อยบินไปท่ามกลางฝนพรำ