บนสุด
0
เติมเงิน
ประวัติการอ่าน
ออกจากระบบ
ดาวน์โหลดแอป
Dakanda
หนังสือของ Dakanda(6)
ทัณฑ์ทะเลทราย
สมัยใหม่
4.7
‘ผู้หญิงของเขา’ สิทธิ์ที่ไม่คิดหยิบยื่นให้ใคร ไม่ได้มีไว้แลกหรือแจกแถมฟรี ทว่าหญิงสาวชาวไทยนามว่า รติรส กลับดิ้นรนหนีและปฏิเสธการรับสิทธิ์นี้อย่างสิ้นเยื่อขาดใจ เธอหนีไปพร้อมขโมยหัวใจของเขาไปทั้งดวง... เดนิม อิสมาอิล แทบคลั่ง... ความรักกับผลประโยชน์ตีกันจนยุ่งเหยิง แต่เมื่อกายปรารถนา การลงทัณฑ์อันแสนหวามจึงเริ่มต้นขึ้น “คุณมันเลว” เธอเค้นเสียงว่า ตาวาววับด้วยความโกรธเกลียด ดิ้นรนหนีมือหยาบหนาข้างนั้นสุดฤทธิ์ แต่สองมือถูกจับ ร่างกายถูกทาบทับครึ่งๆ มันทำให้รติรสทำอย่างใจคิดไม่ได้ เรียวปากเข้มกดยิ้ม ชายหนุ่มหาได้เอะใจกับความเกรี้ยวกราดนั้นไม่ ในหัวของเขาตอนนี้รับรู้แต่ความหอมกรุ่นจากร่างนุ่มเนียน มารยาสาไถยต่างๆ เขาไม่สนใจ เดนิมจะคิดเห็นเป็นอะไรไปได้ นอกเสียจากว่าลุงและหลานคู่นี้เต็มใจเดินทางมากับเขาเพื่อเสนอ... และเขากำลังสนองความต้องการของพวกเธออยู่นี่ยังไง “ธุรกิจ... มีแต่คำว่าได้กับเสีย คำว่าเลวของเธอมันใช้ไม่ได้หรอกคนสวย”
สิงห์เกมสวาท
โรแมนติก
5.0
กติกาคือ กอดได้แต่ห้ามรัก เมื่อหัวใจถลำรัก เธอควรฉีกกติกานั้นหรือถอยห่างจากกันดี “มนเหมือนเด็กขาดความอบอุ่นที่ต้องได้รับการบำบัด” “ยังไง” สายตาคมไหวเหมือนจะยิ้มได้ ทำมนสิชาหน้าร้อนผ่าว ทั้งที่นั่งอยู่ในห้องแอร์ กลับเหมือนมีเปลวแดดมาลูบแก้มให้ร้อนวูบวาบ สีหน้าและลักษณะการเอียงคอมองอย่างใคร่รู้ของหญิงสาวชวนให้หนุ่มทั้งแท่ง เลือดร้อนฉ่าใคร่ลงมือสาธิตการบำบัดเสียเดี๋ยวนี้ “อย่าทำหน้าแบบนั้น” “แบบไหน” เธอนิ่วหน้า งงจัดจริงๆ ไม่ใช่การเสแสร้งมารยา กฤษฎิ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ กวาดสายตายิ้มได้ ลูบไล้นวลแก้มละมุนที่เริ่มซับสีเรื่อ แล้ววกกลับมาสบตาคู่งาม “แบบที่กำลังมอง สนใจ ใคร่รู้ มันทำให้ผู้ชายเกิดอารมณ์ ไม่รู้หรือ” บ้าจริง! มนสิชาหน้าม้าน หลบตาวูบ เบี่ยงหน้าหนีจากใบหน้าคมเข้มอย่างรวดเร็ว ใจหวามไหว ทำลมหายใจติดขัด เสียงหัวเราะที่ดังจากลำคอหนาเบาๆ ยิ่งสร้างความอับอายแก่เธอ ตาคมหรี่หลุบทอดมองนวลแก้มปลั่ง เขารู้ว่าเธออายจริงๆ ไม่ใช่มารยาหญิงแบบผู้หญิงที่เคยเจอ แบบนี้แหละที่เขาสนใจ ขี้อายแต่อยากรู้ บางครั้งเข้าใจยากแต่...น่าเอาเป็นบ้า!
อสูรเผด็จรัก
มหาเศรษฐี
5.0
ความผิดที่เธอไม่ได้ก่อกลับต้องมาชดใช้ให้อสูรหนุ่มใจร้ายเช่นเขา ท่ามกลางความร้ายกาจบทรักอันเร่าร้อนที่เขามอบให้กลายเป็นกรงขังเหนี่ยวรั้งหัวใจเธอไว้กับเขาตลอดกาล “เธอคิดว่าความสาวของเธอมันมีค่ากับฉันงั้นเหรอปรางอินท์” ปรางอินท์ผงะห่างโดยอัตโนมัติ คำพูดเหยียดหยามและการดูแคลนในสายตาคมเหมือนกับมีดที่กรีดลึกลงในหัวใจจนย่อยยับ เหลือทิ้งไว้เพียงแผลที่กำลังอักเสบ “จะบอกอะไรให้เอาบุญนะคนสวย ฉันแทบไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันคือเกมและการแก้แค้นที่หอมหวานว่ามั้ย อย่างน้อยเธอมันก็ยังดีกว่าผู้หญิงขายบริการอยู่หน่อยๆ หึหึ แม่สาวเวอจิ้นเธอคิดว่าจะเอาสิ่งนี้มาทดแทนสิ่งที่พี่เธอทำกับชีวิตพี่ชายของฉันได้รึยังไง” ประโยคท้ายๆ เสียงของชายหนุ่มดังลั่นขึ้นจนกลายเป็นตะคอกเสียงก้องห้อง ตาคมลุกโรจน์ราวกับไฟ “คนสารเลว ไอ้คนชั่วช้าสามานย์” หญิงสาวตะโกนสวนกลับเช่นเดียวกัน เธอกำลังนึกเสียใจทำไมคนดีๆ อย่างภาคิไนยจะต้องมาเจ็บตัว น่าจะเป็นผู้ชายตรงหน้านี่ต่างหากที่น่าจะตายๆ ไปซะ ภาคินเลิกคิ้วสูง เรียวปากเข้มหยักยิ้ม ยิ้มที่คนมองถึงกับเสียงสันหลังวาบด้วยความกลัวจนเผลอถอยหลังออกห่างใบหน้าที่โน้มอยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งศอก “อย่าปากเก่งให้มากนัก รู้มั้ยว่าฉันมีวิธีจัดการกับคนปากเก่งยังไงบ้าง รึว่าอยากจะลอง ปรางอินท์ฉันบอกให้ทำอะไรเธอก็ต้องทำ เพราะเธอคือเหยื่อที่ฉันตะครุบมาได้แทนพี่สาวของเธอ” “ไม่ ฉันไม่ทำอะไรทั้งนั้น คอยดูนะมีโอกาสเมื่อไหร่ฉันจะหนีไปจากที่นี่” “ฮ่าๆๆ เอาเลยคนสวย แต่ขอเตือนนิดนะ ที่นี่กว้างเป็นพันไร่ ถ้าคิดว่าจะพ้นสายตาคนงานของฉันไปได้ก็เอา แล้วหนุ่มๆ ที่นี่ล้วนแล้วแต่กลัดมันกันทั้งนั้น มันออกจะห่างไกลความเจริญไปสักหน่อยน่ะนะ นานๆ พวกมันจึงจะได้เข้าเมืองไปหาสาวๆ มากอดแก้หนาวระบายอารมณ์ดิบสักที อ้อ...ที่สำคัญ เมื่อไหร่ที่เธอก้าวพ้นไปจากที่นี่ วันนั้นพี่สาวของเธอจะต้องมาอยู่ที่นี่แทน ไปสิไปเล้ย”
บรรณาการเสน่หา (หวานใจมาเฟียกาสิโน)
มหาเศรษฐี
5.0
เรือคาสิโนลำงามได้เข้ามาเปิดให้บริการยังประเทศไทยเป็นครั้งแรก เจ้าเของเรืออย่าง อัลแบร์โต วินเซนโซ อัจไบร์จาร์ ไม่เคยคิดเลยว่าจิ้งจอกร้ายอย่างเขาจะต้องมาตกบ่วงเสน่หาของสาวน้อยสาวไทยอย่างสิตาพร เพียงได้เห็นเธอครั้งแรก ชายหนุ่มก็ปรารถนาสิตาพรจนยากจะหักห้าม เธอมากับน้าสาวและน้าเขยผู้ติดการพนัน เมื่อน้าสาวของเธอติดหนี้เขาหลายล้าน ชายหนุ่มจึงยื่นข้อเสนอให้ยกสิตาพรให้เขาเพื่อแลกกับหนี้ในครั้งนี้ ในวันที่เรือจะออกจากประเทศไทย สิตาพรก็กลายเป็นสมบัติบรรณาการของเจ้าของเรือหนุ่ม “เคยดูสารคดีสัตว์โลกน่ารักไหมน้ำหวาน เนื้อที่เข้าปากเสือ อ้อยที่เข้าปากช้าง เธอคิดว่ามันจะยอมคายง่ายๆ ไหมแม่สาวเวอจิ้น” สิตาพรแก้มแดงแช้ด คำเรียกขานของเขาสร้างความร้อนผ่าวทั่วใบหน้า ตาคมดุเอาจริงทำให้สาวน้อยใจสั่นทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าห้ามกลัวเขา ห้ามทำให้เขารู้ว่าเธอหวาดหวั่นแค่ไหน “อย่ามาเรียกหนูแบบนี้นะ คนแก่โรคจิต ถามจริงเถอะโลกนี้ไม่มีใครเอาแล้วหรือไงถึงได้มาตามตอแยหนูแบบนี้” สาวน้อยแหวเข้าให้ คำพูดเธอเรียกรอยยิ้มขำจากปากเข้ม ยิ้มที่เกิดที่ปากและส่งไม่ถึงดวงตาคม
เสน่หายาตรา (เมียประมูลของท่านประธาน)
มหาเศรษฐี
5.0
เมื่อรักเข้ามาเคาะประตูหัวใจหนุ่มหล่อเจ้าของสายการบินคนดังให้มันรุ่มร้อนจนทนไม่ไหว เขายอมจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อให้ได้ตัวเธอมา สาวใสไร้เดียงสากลับหวาดผวาเมื่อเจอความต้องการแบบชายหญิงเข้า ชายหนุ่มจึงต้องหยุดตัวเองแล้วค่อยๆ เริ่มบทเรียนสอนรัก ที่ทั้งหวานและเร่าร้อนมากขึ้นตามลำดับ เธอกำลังจะตาย... ปัทมณฑ์บอกตัวเองในความพร่างพร่า ความรัญจวนที่เขามอบให้มันมากมายจนทรมานไปหมด เรือนกายสาวในวัยแรกสวยบิดเร้า บางครั้งดิ้นรน สองมือเรียวสอดแทรกเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาวแค่ครึ่งนิ้ว เผลอกอบกำดึงทึ้งไปก็หลายหนเพื่อระบายอารมณ์หวาม เธอทรมานเหมือนจะตาย แต่ถ้าเขาหยุดเธอคงเหมือนตายทั้งเป็น อารมณ์ลึกถูกปลุกขึ้นโดยชายหนุ่ม และมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะหยุดมันลงได้ “พี่ไรอัน...ลูกปัด...ทนไม่ไหว” “ต้องได้สิคนเก่ง...พี่บอกแล้ว ถึงเธอจะร้องลั่นจนบ้านแตกพี่ก็ไม่มีทางหยุดอีกต่อไป ปัทมณฑ์...” ไรอันตอบเสียงขาดห้วงไม่แพ้กัน และแทนการหยุดหรือผ่อนปรน มือหนากลับยิ่งเคล้าคลึงร่างบางหนักหน่วงมากขึ้น
แนบรักสลักใจ
มหาเศรษฐี
5.0
ตลอดเวลาที่ผ่านมา...เขาผลักใสเธอออกจากชีวิตอย่างร้ายกาจ ไม่ติดต่อ ไม่สนใจ ราวเธอไม่เคยมีตัวตน ปล่อยให้เธอเจ็บปวด อ้างว้างและแสนเดียวดาย กระทั่งวันนี้...วันที่ร่างกายและหัวใจเข้มแข็ง เขากลับเข้ามาเอ่ยอ้างว่า เธอคือ ‘สมบัติส่วนตัว’ ********* “คุณเคยรู้ตัวเองไหมคะว่าเป็นคนที่...เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ หน้าไม่อายที่สุดในโลก” คมคายเลิกคิ้วตาเปล่งประกายพลางอมยิ้มยั่วเย้า เธอมองค้อนแล้วสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น เขาจึงไล้ปลายจมูกบนแก้มนุ่มเล่น “อีกเรื่องที่เธอควรรู้” ฝ่ามือหนาเลื่อนลูบแผ่นท้องเรียบ...แผ่วเบา กายแกร่งขยับอีกครั้ง แผ่นหลังเล็กแนบแผงอกกว้าง มัลลิกากานต์หันกลับมามอง “ฉันเป็นคนหวงของมาก” “...” “ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าทำให้ฉันต้องรู้สึกแบบนั้น” ปากได้รูปก็เคลื่อนเข้าประกบจูบปากอิ่ม บดเบียดละเลียดลิ้มความหวานหอมที่ใจโหยหิวไม่สร่าง
คุณอาจชอบ
ร้อนรักคุณอามาเฟีย
รดามณีนัฐฐ์
5.0
‘คทา’ มาเฟียหนุ่มวัย 32 ปีที่ต้องมาเป็นคุณอาแบบกะทันหัน เมื่อพี่ชายต่างมารดาได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกับภรรยา แต่ก่อนจะสิ้นใจเขาได้ฝากให้มาเฟียหนุ่มช่วยอุปการะบุตรสาวบุญธรรมวัยเพียง17ปีของเขา ‘มัสลิน’ เด็กสาวจำต้องกลายมาเป็นหลานสาวมาเฟียแบบไม่ทันตั้งตัว ทว่าเพียงแค่เห็นหน้าลูกสาวบุญธรรมของพี่ชาย มาเฟียหนุ่มก็คิดจะกินหลานสาวนอกไส้ของตัวเองเสียอย่างงั้น คทา แสงไท วัย 32 ปี มาเฟียหนุ่มโสดรูปหล่อ เจ้าของธุรกิจครบวงจร รวมทั้งผับและบ่อนคาสิโนมากมาย มัสลิน แสงไท หรือ อ้อน บุตรบุญธรรมของดนัย พี่ชายมาเฟียหนุ่ม สาวน้อยวัย 17 ปี ที่ร่างกายกำลังเข้าสู่วัยสาว หน้าตาดี ผิวพรรณขาวใสหมดจด กับรูปร่างที่โตเกินวัยเด็ก ส่วนเว้าโค้งเอวคอดกิ่ว หน้าอกหน้าใจล้นทะลักเกินตัว #สปอย “ เหอะ! แล้วใครบอกคุณ ว่าหนูจะไปอยู่ด้วยไม่ทราบ? ” ใบหน้าสวยดวงตาใสไร้เดียงสาเชิดขึ้นสบกับดวงตาคมพร้อมกับน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ก่อนดวงตาคู่สวยจะเบนสายตาไปทางอื่นเพื่อหลบนัยน์ตาสีเข้มของมาเฟียหนุ่มที่จ้องมองมาไม่กระพริบ “ หึ...ดื้อ ” คทาหัวเราะเสียงต่ำในลำคอก่อนจะเอ่ยสั้นๆ “ หนูจะกลับบ้านของหนู ” “ ไม่ได้!! หนูจะต้องกลับไปกับอา ” “ คุณไม่ใช่อาของหนูจริงๆซักหน่อย.. ” “.....” คทานิ่งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเด็กสาวจะกล้าเถียงเขาก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น “ จะใช่หรือไม่ อาก็ได้สิทธิ์เลี้ยงดูหนูอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ” “ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาเลี้ยงดู..” “ อวดเก่ง..” “ เก่งอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้อวด ” เด็กสาวตอบกลับอย่างไม่ลดละด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เมื่อสองอาหลานถกเถียงกันอยู่กลางฟลอร์อย่างไม่มีใครยอมใคร ต่อหน้าพนักงานทั้งผับ ____
ไฟซ่อนเชื้อ [คู่กัด พ่อแง่แม่งอน]
สนพ. อิ่มรัก
4.9
หทัยชนก เก่ง มาดมั่น ฉลาดรอบรู้ และไม่ยอมใคร ปวีย์ หนุ่มอารมณ์เย็น ที่ยอมคนเก่งอย่างเธอได้ทุกเรื่อง ยกเว้น เรื่องการดูถูกเขา และใช้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น นั่นเป็นเรื่องที่เขายอมไม่ได้ ---------------------------------------------- “คุณมีอะไรเหรอคะ หรือจะนัดวันเวลาไปอำเภอ” หทัยชนกที่ขึ้นไปอยู่ในห้องกับเขาตามลำพัง แล้วรีบถามและเดาสุ่มไปก่อน แต่เธอไม่รู้หรอกว่านั่นคือเชื้อเพลิงอย่างดี ที่เพิ่งจะโยนใส่กองไฟเข้าให้แล้ว ปวีย์ย่างสามขุมเข้าไปหาทันที พร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจอย่างที่สุด “รู้สึกว่าคุณจะอยากหย่าเหลือเกินนะ หรือใจร้อนอยากรีบกลับไปหาพ่อสารวัตรนั่นเร็วๆ ไม่ต้องห่วงหรอกถ้าคุณตอบคำถามถูกใจผมก็จะปล่อยคุณไปแน่ ทั้งๆ ที่ผมก็รู้ดีอยู่แล้วว่าคำตอบของคุณไม่มีทางจะถูกใจผม” “นี่คุณเป็นอะไร หรือกำลังหมายถึงอะไร ฉันงงไปหมดแล้ว” หทัยชนกเปลี่ยนจากคำพูดนุ่มหูเป็นแข็งขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าเขามีกิริยาท่าทางไม่เหมือนเดิม ปวีย์ยกสองแขนขึ้นไปจับไหล่คนตรงหน้าไว้แล้วบีบแรงๆ ก่อนจะเขย่าร่างสูงเพรียวไปปากก็ถามไปด้วยความโกรธ “ผมจะเป็นอะไรในสายตาคุณได้นอกจากไอ้โง่ที่ถูกคุณใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นน้าสาเท่านั้น อย่าบอกนะว่าคุณลืมไปแล้ว ผมน่าจะรู้น่าจะคิดได้ว่าคนรอบจัดอย่างคุณน่ะเหรอที่จะกินเหล้ากับผู้ชายอย่างผมจนเมาปลิ้นแล้วยอมลงเอยบนเตียงกับผมง่ายๆ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ใช่มั้ย คุณไม่มีทางปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นใช่มั้ย” หทัยชนกคิดอยู่พักหนึ่งว่าเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง หรือว่าจะรู้จากปากสาลินีเข้าให้แล้ว และนั่นก็ทำให้ดวงหน้าสวยใสกลายเป็นซีดเซียวลงในพริบตาก็ว่าได้ ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยเสียงอ๋อยๆ “ฉันอธิบายคุณได้นะว่าเรื่องมันเป็นมายังไง” แต่เขาไม่คิดจะฟัง “คุณจะอธิบายหรือว่าแก้ตัวกับผมเหรอ ว่าเรื่องทั้งหมดที่ผมบังเอิญรู้มามันไม่ใช่ความจริง แต่ความจริงที่จริงยิ่งกว่าคือคุณกำลังจะบอกผมว่าเรามีอะไรกันในคืนนั้นอย่างเมามัน เต็มฟัดเต็มเหวี่ยงและมีความสุขล้นเหลืออย่างนั้นน่ะเหรอ ถ้าใช่แล้วไอ้ที่คุณคอยห้ามปรามผมไว้ในทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันล่ะมันคืออะไร อาการหวงเนื้อหวงตัวของคุณไว้ให้สารวัตรนั่นล่ะมันคืออะไร” เมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ หทัยชนกจึงตัดสินใจใช้ไม้แข็งทันที วิกตอเรีย”f(x) นำแสดงละครจีน “Beautiful Secret” “ใช่! แล้วจะทำไมล่ะ ก็ในเมื่อคุณเองไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว และฉันก็กำลังจะหย่าให้คุณแล้วนี่ไง คุณยังต้องการอะไรอีกไม่ทราบ ปล่อยนะฉันเจ็บ” มือบางพยายามปัดมือหนาที่กุมไหล่ไว้ออก แต่ไม่เป็นผลเอาเสียเลย ตรงกันข้ามเขากลับบีบแรงหนักเข้าไปอีก “หย่าแล้วให้คุณไปนั่งหัวเราะเยาะผมกับไอ้แฟนตำรวจนั่นน่ะเหรอ ไม่มีทาง หรือถ้ามีคนที่หัวเราะควรจะเป็นผมไม่ใช่คุณ และผมจะบอกให้รู้ว่าผมต้องการอะไรจากคุณ หรือคุณต้องชดใช้อะไรให้กับเครื่องมือหน้าโง่ๆ อย่างผม มานี่” สิ้นคำเขาก็อุ้มเอาร่างสูงเพรียวขึ้นแล้วตรงไปยังเตียง “ปล่อยฉันนะคุณวี บอกให้ปล่อยไง” โดยไม่สนใจว่าอีกคนจะดิ้นและร้องตะโกนดังคับห้องแค่ไหน “โอ๊ย!” เขาก็รีบโยนร่างนุ่มลงไปหาเตียงเต็มแรงจนต้องร้องดังๆ ออกมา แต่เขายังไม่คิดจะสนใจนอกจากรีบตามขึ้นไปกดร่างที่กำลังจะลุกหนีไว้ แต่อีกคนก็ต่อสู้ขัดขืนสุดชีวิต “ปล่อยฉันนะคุณวี โอ๊ย! ปล่อยฉัน ได้ยินมั้ยฉันบอกให้ปล่อย” “ผมจะปล่อยคุณแน่ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ คุณต้องชดใช้สิ่งที่คุณทำกับผมก่อน มานี่จะไปไหน” เขารีบคว้าตัวเธอที่ลุกจากเตียงแล้ววิ่งไปหาประตูเอาไว้ได้ทัน และต้องออกแรงหนักกว่าเดิมเมื่อคนผิดต่อสู้ขัดขืน “ปล่อยนะ ปล่อยยยยยย อืห์มมมมมมมมม” หทัยชนกพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดสุดแรงเกิด แม้จะถูกร่างใหญ่ทาบไว้ครึ่งค่อนตัว และเรียวปากบางถูกเขาครอบครองไว้ก็ตามที แต่มือที่ว่างก็ไม่วายยกขึ้นมาทุบเขานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่นานก็หมดโอกาสทำแบบนั้น มือเขาใช้สองมือกดแขนเรียวลงไปกับที่นอนแล้วระดมจูบไปที่เรียวปากอย่างหนักหน่วงเพื่อหมายจะสยบคนพยศให้อยู่หมัดด้วยรอยจูบ “คุณวีอย่าค่ะ ได้โปรดอย่าทำให้ฉันต้องเสียใจไปมากกว่านี้เลยนะคะ ฉันขอร้อง” “อย่ามาขอร้องให้ยากเลย คุณจะต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสมที่คิดดึงผมมาใช้เป็นเครื่องมือ”
ประธานขาหนูไม่ไหว
เล้าโลมLaoLome
5.0
อยากเห็นใบหน้าของเขาในช่วงเวลาแบบนั้น..สีหน้าท่าทางเขาจะเป็นแบบไหน.. ไม่ได้ง่ายกับทุกคนนะ...แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
ยั่วรักมาเฟีย
ผลิกา(เลอบัว)
4.5
“อย่าบอกนะว่าเธอกำลังคิดเรื่องลามกอยู่ เธอนี่มันหื่นตัวแม่จริงๆ เดี๋ยวก็อ่อย เดี๋ยวก็ยั่ว ใจคอจะปล้ำฉันให้ได้เลยใช่ไหม” เขาว่าพลางส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปลอบยิ้มอีกทาง แม้ว่าลึกๆ ในใจ ‘สุดที่รัก’ จะอยากเป็นเจ้าสาวของ ‘เลโอนาร์ด แบร์นาร์ด’ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแห่งสเปนมากเพียงใด แต่เพราะมาดขรึมๆ กับหน้านิ่งๆ ของเขา มันเลยทำให้เธออยากรู้จริงๆ ว่าการหมั้นครั้งนี้เกิดจากความเต็มใจของเขารึเปล่า ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน และเธอก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์จนเกินเยียวยา เธอจึงต้องยั่ว ยั่วให้เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่ได้มีดีแค่ยั่วโมโห ถึงจะเป็นการยั่วระดับอนุบาลก็เถอะ แต่เชื่อเถอะว่าเธอจะทำให้เขาหวั่นไหวได้…มั้ง “หยุด ไม่ต้อง ฉันถอดเองได้” สุดที่รักบอกพลางรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองเร็วๆ ด้วยกลัวว่าเขาจะฉีกมันอีก “ทำอะไร” เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ก็มันเสียดาย คุณถอดเองทีไรมันกลายเป็นเศษผ้าทุกที เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามคุณถอดเสื้อผ้าฉันอีกเป็นอันขาด” สีหน้าจริงจังของเธอ ทำเอาเลโอนาร์ดถึงกับหลุดขำออกมา “เธอจะเป็นคนถอดเองทุกครั้งที่ฉันต้องการงั้นสิ” “อืม! เฮ้ย! ไม่ใช่ ถอดทุกครั้งที่คุณต้องการ ฉันก็แย่น่ะสิ” เธอรีบแก้ต่างเมื่อเผลอรับคำเขาไป “แล้วจะเอายังไง” “โอ๊ย! คนบ้านี่ฉันเจ็บนะ ก็ในเมื่อคุณไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รัก ไม่หึง ไม่หวง แล้วคุณจะมาสนใจอีกทำไมว่าฉันจะคบจะคุยกับใคร นอกเสียจากว่าทั้งหมดที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ คุณจะยอมรับว่าคุณรักฉัน ไม่งั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ว่าฉันจะคุยกับใคร” “อืม!” เฮ้อ! จะฟังคำว่ารักจากผู้ชายคนนี้มันช่างยากซะจริง
Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง
ผลิกา(เลอบัว)
5.0
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
กับดักรักดวงใจชีค
pimchan publication
5.0
ชีคซาอิดถือจอกน้ำผึ้งหวานมานั่งที่ริมขอบเตียง เขาจะจ่อมันที่ปากของคนหลับอยู่ แต่ก็เปลี่ยนใจยกจอกนั้นมาดื่มแทนแล้วก้มลงมอบจุมพิตหวานให้หล่อน เพื่อถ่ายเทน้ำหวานเชื่อมในอุ้งปากป้อนหล่อน... ไอยวรินทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำหวานๆ ในปาก ริมฝีปากหนาที่บดจูบอยู่บนนั้นไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้คลายจังหวะการหายใจ ทำให้หล่อนกลืนน้ำผึ้งหวานกลิ่นลาเวนเดอร์ลงคอ... แต่ยังไม่ทันที่หล่อนจะเคลิ้มกับรสจูบ ความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่าหน้าอกของตัวเองกำลังถูกสัมผัสอย่างจาบจ้วงก็ทำให้หล่อนผลักเขาออกสุดกำลัง แม้ขนาดตอนที่เขาจะก้มลงมาจูบใหม่ หล่อนก็ยังสะบัดตบเขาหน้าหันถึงสองรอบ “พอมีแรงขึ้นมาก็เอาเรื่องทีเดียวนะ...” เขาคำรามใส่หล่อน “รู้ไหมว่าการที่เธอตบหน้าฉัน อาจจะทำให้เธอหัวขาดได้ง่ายๆ... อย่าเก่งกับฉันให้มาก ทำอะไรเท่าที่ควร” สิ้นคำพูดของเขา มือเล็กหากน้ำหนักมากก็ฟาดที่ปากของเขาจนเลือดซึมซิบๆ “ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก” เขาคำราม ก่อนจะช้อนอุ้มร่างหล่อน ไม่สนว่าหล่อนจะดิ้นพล่านสักแค่ไหน เขาจับหล่อนโยนลงสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำอยู่เต็มแลดูใสสะอาด ไอยวรินทร์โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำแล้วร้องด่าเขาเป็นพัลวัน และก็ต้องว่ายน้ำหนีเมื่อเขากระโดดตามลงมา... พอกระโดดพ้นไปเกาะที่อีกฝั่ง มือหนาก็รั้งสะโพกหล่อนเอาไว้ได้ ทำให้ปีนขึ้นสระจากไม่ได้และตกลงมาในสระอีกครั้ง
สะใภ้นอกทำเนียบ + ตอนพิเศษ
pimchan publication
4.9
เพียงข้ามคืนที่หล่อนต้องสูญเสียพรหมจรรย์เพราะเขาเดินเข้าผิดห้อง จากนั้นแล้วชีวิตหล่อนกับเขาก็ผูกพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง _________________________________________________________ “ไม่มีใครทำให้ผมกังวลที่สุดเท่าไอ้พีท สายตาที่คุณมองมันวันนั้น แล้วการที่มันโทรหาคุณค่ำๆ มืดๆ มันทำให้ผม...” เฟื่องฟ้าไม่อยากฟังคำตัดพ้อที่เด่นชัดทั้งปากทั้งตานั่นอีก เขายังพูดไม่ทันจบเพราะหล่อนขยับเข้าหาและกดริมฝีปากไว้กับปากของเขา... “ถ้าคุณจะให้ความมั่นใจผม คุณก็ไม่ควรหยุดแค่จูบ การปิดปากผมไห้หยุดพูดไม่ได้ทำให้ผมหายกังวลใจหรอกนะ” “ฉันทำอะไรมากกว่านี้ไม่เป็น คุณก็รู้ นี่ครั้งแรก ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ผมจะสอนเอง ผมอยากให้ผมเป็นผู้รับ ผมจะได้รู้ว่าผมไม่ได้ต้องการอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าผมทำ มันจะทำให้ผมรู้สึกว่าผมฝืนใจคุณ คุณไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันกระทบจิตใจผมแค่ไหน” “แต่...” “ผมเสียขวัญมากเลยนะ คุณจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือไง” หล่อนชักเริ่มจะไม่คิดว่าเขากำลังกังวลใจเรื่องหล่อนกับหมอพีท แต่กำลังเจ้าเล่ห์ให้หล่อนทำอะไรที่หล่อนทำไม่เป็นแถมน่าอายสุดๆ อีกด้วย... อยากปฏิเสธแต่แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าจริงจังปนเศร้าแบบนั้นด้วย... เฟื่องฟ้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความรู้สึกซ่านซ่าแปลกๆ กับบางสิ่งที่ดุนดันหน้าท้อง คล้ายมันสั่นระริกเพียงแค่คิดถึงหล่อนก็แก้มแดงเห่อ... “ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เสียงพูดและคำถามที่ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเสียงหล่อน อาชว์ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นหากแต่ไม่ยอมยิ้ม เขาตอบหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “เริ่มจากถอดเสื้อก่อนเป็นไง...” ครางอิดออดนิดเดียวหล่อนก็ยอมทำตามที่เขาบอก มือสั่นเทานิดๆ เมื่อแกะกระดุมเสื้อนอนปาจามาของเขาออกและแก้มเห่อร้อนยามเมื่อแหวกสาบเสื้อออก “ผมหมายถึงถอดเสื้อคุณ” “เอ๊ะ” หญิงสาวทำท่าจะถลึงตาใส่เขา แต่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่รู้ว่าโกรธจริงหรือโกรธเล่นกันแน่ เห็นเขานอนมองหน้าเหมือนรอว่าหล่อนจะทำอะไรหล่อนก็จำต้องถอดผ้าตัวเองมือไม้สั่นไปหมด แกะกระดุมไปพลางเอ็ดตัวเองไปว่าทำไมต้องยอมเขาขนาดนั้นทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เพียงแค่เห็นว่าเขาโกรธและเต็มไปด้วยความกังวลใจหล่อนก็ต้องรีบทำให้เขาสบายใจ เขาสำคัญขนาดนั้นกับหล่อนมากหรือไงกัน ถามไปก็ได้คำตอบอยู่ตรงหน้า... เสื้อนอนหล่อนถูกถอดออกด้วยฝีมือตัวเองเพียงเพราะไม่อยากเห็นเขามึนตึงใส่
จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ
ผลิกา(เลอบัว)
5.0
ก็ในเมื่อเขาทั้งหล่อ ล่ำ อบอุ่น ใจดี แล้วยังมีนิสัยรวยอีกต่างหาก แล้วเรื่องอะไรเธอต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ "คุณจะต้องเป็นของฉันคุณเจตต์" ทันทีที่มีนาหรือมัดหมี่ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้เจตต์ หนุ่มหล่อสุดฮอตที่เปรียบเสมือนเกราะนิรภัยของเธอถูกสุนัขคาบไปรับประทาน ปฏิบัติการอ่อยจึงเริ่มขึ้น “แต่งงานกันไหม” จู่ๆ มีนาก็โพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “ถ้าไม่สบายก็กลับไปนอน ฉันจะทำงาน ไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กแก่แดดอย่างเธอ” “นี่…ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เรียนจบ มีงานทำ แล้วฉันก็อยากแต่งงานจริงๆ ไม่ได้คิดเล่นๆ อย่างที่คุณว่าด้วย” “รู้ใช่ไหมว่ากิจกรรมระหว่างผัวเมีย มันมากกว่าแค่นอนมองตากันเฉยๆ ดีไม่ดีบางคืนอาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ แล้วเด็กที่ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างเธอจะไหวเหรอ” “คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ก็บอกแล้วไงว่าไม่เด็ก ถึงฉันจะไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าหรือผ่านโลกมาโชกโชนอย่างคุณ แต่ฉันก็ไม่ใช่กบที่หลบอยู่ในกะลา ถึงจะไม่รู้ว่ากิจกรรมอย่างว่าระหว่างผัวเมีย มันคืออะไร” “ไม่แต่ง จะไปไหนก็ไปไป ฉันจะทำงาน” เขาโบกมือไล่อีกครั้ง “ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” “ตัวเท่าลูกหมาอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้” “ถึงฉันจะทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ฉัน…ก็อ่อยคุณได้แล้วกัน” “ไซส์อย่างกับหมากระเป๋า หุ่นก็เท่ากับเด็กอนุบาล อย่าว่าแต่จะอ่อยจะยั่ว ให้แก้ผ้าตรงหน้า ฉันยังคิดหนักเลย อย่างเธอน่ะถ้าจะยั่ว อย่างมากก็ทำได้แค่ยั่วโมโหเท่านั้นแหละ” “ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง งั้นก็อย่ามาร้องโอดครวญทีหลังแล้วกัน เพราะฉันเอาจริง จากนี้ไปฉันจะทั้งยั่วทั้งอ่อยให้คุณกระอัก จนคุณต้องรักฉันหัวปักหัวปำ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย ยังไงชาตินี้คุณก็ต้องเป็นผัว เอ๊ย! เป็นของฉัน คอยดู”
ลิขิตรักใต้ผืนทราย
ผลิกา(เลอบัว)
4.7
ความวุ่นวายบังเกิดเมื่อเธอดันมีตาวิเศษ และเขาก็ดันมีหูทิพย์ คนนึงมองผ่านทะลุเสื้อผ้าไปเจอซิกแพ็ก ส่วนอีกคนก็ดันได้ยินความคิดหื่นๆ ชีคอัฟฟาน อับดุล ฮาหมัด คาริฟา เจ้าชายมาดนิ่ง นิ่งซะจนไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย ยกเว้นเธอ ไม่ยุ่งก็บ้าแล้ว ก็แหมทั้งหล่อล่ำกล้ามแน่นขนาดนั้น ใครจะไปอดใจไหว ถึงจะเป็นของหวงห้าม แต่ถ้าลวนลามทางความคิดก็คงไม่มีใครว่า พรสวรรค์ สาวแว่นสุดเนิร์ดที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ จริงๆ ก็ไม่ได้เนิร์ดหรอก แว่นที่ใส่ก็ใส่ไว้แค่พรางตาเฉยๆ ขืนไม่ใส่คงได้เป็นตากุ้งยิงทั้งปีทั้งชาติแน่ ไม่รู้ว่านี่เรียกว่าพรสวรรค์หรือฟ้ากลั่นแกล้งกันแน่ที่ประทานดวงตาที่สามารถมองผ่านทะลุเสื้อผ้าได้ นี่ถ้าไม่มีแว่นหนาๆ มาพลางไว้ล่ะก็ทั้งเมาคลีทั้งชีเปลือยนี่เดินกันให้ว่อน เห็นของผู้หญิงก็ดีหน่อย แต่เห็นของผู้ชายก็ดีกว่า เอ้อ! ไม่ใช่ๆ อืม! ใช่ก็ได้ เฮ้อ! ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าเธอเนิร์ดหรือไม่เนิร์ด “นี่ก็เหมือนจริง” ไม่พูดเปล่า แต่แม่คุณยังพิสูจน์ด้วยการจับหมับลงไป ยังผลให้เจ้าของกล้ามสะดุ้ง ก่อนจะต้องกัดกรามกรอด เมื่อมือนั้นเริ่มขยับลูบไล้ไปมา “นี่ก็เหมือนจริง” เสียงเธอสูงขึ้นด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่มือเรียวกลับเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวยงามตามอย่างบุรุษเพศผู้ดูแลตัวเอง ก่อนจะบีบขยำมันด้วยความกระหายใคร่รู้ ในตอนนั้นเองที่ทำให้เธอเหมือนจะมีสติรู้ตัวขึ้นมา “บ้าบอ! เธอเป็นผู้หญิงนะพรสวรรค์ ไปลวนลามบีบขยำร่างกายผู้ชายเหมือนผู้หญิงหิวโซแบบนั้นได้ยังไง มันไม่งาม” คนที่เพิ่งรู้ตัวรีบชักมือกลับราวกับต้องของร้อน “หืม! แต่นี่มันในความฝัน ฝันของฉัน...ฉันจะทำอะไรยังไงก็ได้ จะจับจะลูบยังไงก็ได้ จะขยำขยี้ยังไงก็ย่อมได้” หมับ! อีกครั้งที่กล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้องของเขาถูกคุกคามด้วยมือของผู้หญิงหิวโซ เฮ้อ! กุลสตรีสามสิบวิจริงๆ ‘ให้ตายเถอะ! ยัยหื่นนี่ หื่นกว่าที่คิดซะอีก’ เขาคิดพลางครางฮือ เมื่อมือนั้นสร้างความปั่นป่วนให้เขามากขึ้นทุกที มากจนต้องสูดปากบรรเทาความเสียดเสียวที่กำลังหมุนเกลียวในช่องท้อง และบางครั้งก็ต้องกัดฟันสะกดกลั้นความหื่นกระหายภายในที่ใกล้จะปะทุออกมาเต็มที “หึๆ ก็แค่ความฝัน ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเราสักหน่อย เพราะฉะนั้นเราจะย่ำยีผู้ชายคนนี้ยังไงก็ได้ ความฝันของเรา เราจะหื่นยังไงก็ได้” เธอย้ำอีกครั้ง พลางกดมือลงไปที่ขอบกางเกงของอีกฝ่ายอย่างย่ามใจ ครั้นพอจะเคลื่อนต่ำลงไปกว่านั้น ก็มีมือหนึ่งตะปบลงมาซะก่อน ยังผลให้คนทั้งคู่หันมาสบตากัน และดูเหมือนว่าคนที่ตกใจมากกว่าคือเธอ พรสวรรค์ทำหน้าเหลอหลาระคนตกใจ ทันใดนั้นเองเธอก็อุทานขึ้นมา
ท่านประธานเจ้าขา
Xmaniac
5.0
โปรย ไตร... ชายหนุ่มสูง ใหญ่ หล่อ รวย กล้ามเป็นมัด น่าฟัดเป็นบ้า เจ้าขา... สาวสวยอวบอัด หัวโบราณผู้รักนวลสงวนตัว เมื่อโชคชะตาเหวี่ยงทั้งคู่ให้มาเจอกันในฐานะท่านประธานกับเลขา สำหรับเขา...เธอน่าเบื่อ ทำอะไรก็ขัดหูขัดตา แถมเถียงคำไม่ตกฟาก สำหรับเธอ...เขาทั้งเจ้าเล่ห์ เพลย์บอย มือไว ร้ายกาจ ปากหมา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน เสมือนน้ำมันกับไฟ จะฟาดฟันร้อนแรงสักเพียงใด...ไปลุ้นกัน ตัวอย่าง : คล้ายสติจะกลับมาเพียงเพราะสัมผัสสิ่งของต้องห้าม เธอทั้งดึงทั้งรั้งมันออกจนสำเร็จแล้วผลักไสเขาออก ก่อนจะเลื่อนตัวลงไปหลบยังอีกฝั่งของโต๊ะทำงานเขา สองมือ ลนลานดึงบราเซียลงมาปิดทรวงสล้างทั้งสองเต้าที่ยังคงมีน้ำลายเขาเปียกชุ่ม พยายามดึงเสื้อเชิ้ตที่กระดุมขาดเพราะโดนกระชากมาปกปิด “คุณมันทุเรศ ทุเรศ !” เธอตะโกนด่าปากคอสั่น เขาแย้มยิ้มยั่วโมโห พลางจัดเก็บขีปนาวุธอันยิ่งใหญ่ไว้ในกางเกงเรียบร้อย “ทุเรศตรงไหน ผมก็แค่ล้างมือให้คุณ” “ล้างมือบ้าอะไรของคุณ” “ก็มือของคุณสัมผัสไอ้ภพไง คุณเป็นเลขาของผม เป็นผู้หญิงของผม คุณไม่มีสิทธิ์จะไปแตะต้องตัวผู้ชายคนอื่น แล้วจำใส่กะลาหัวเอาไว้ด้วยว่าถ้าคุณขืนกล้าให้ผู้ชายคนอื่นโดยเฉพาะไอ้ภพเข้าใกล้ในรัศมีหนึ่งเมตร หรือเปิดประตูให้มันเข้าไปหาอีกล่ะก็ ผมจะเอาคุณมาล้างอีก ล้างชนิดที่ถึงอกถึงใจทั้งตัวเลยล่ะ” น้ำตาของเจ้าขาไหลออกมาราวทำนบแตก เธอเกลียด เกลียดผู้ชายคนนี้เหลือเกิน ทำไมเขาจึงเอาแต่ใจ ไร้เหตุผล ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ให้เกียรติคนอื่นแบบนี้ เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ! “ฉันขอลาออก!” เขายักไหล่ “ไปสิ อยากลาออกก็ไปเลย ไปฝ่ายบุคคลเลย” “ได้ ฉันลาออกแน่ ฉันทนคนลามกโรคจิตเอาแต่ใจอย่างคุณ ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว” “เออ ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทน แล้วอย่าลืมเอาเงินสิบล้านมาชดใช้ค่าเสียหายภายในไม่เกินหนึ่งเดือนตามสัญญาด้วยนะ” “คุณว่าอะไรนะ” “เงินสิบล้านไง ชดใช้ค่าเสียหาย” “ค่าเสียหายบ้าบออะไรของคุณสิบล้าน ฉันมาทำงานแค่สองอาทิตย์ บริษัทคุณมีแต่ได้กับได้ ฉันขอลาออก ไม่เอาเงินเดือนก็ได้” อีกฝ่ายยักไหล่ “ก็มันมีระบุไว้ในสัญญาที่คุณเซ็นวันแรกที่ทำงานกับผม” เธอเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ “อะไรนะ” “ไม่เชื่อก็อ่านดู” เขาเดินวนไปหยิบแฟ้มสัญญาการเข้าทำงานของเธอมาโยนโครมไปบนโต๊ะ เธอลนลานรีบหยิบมาแล้วเปิดมันออกก่อนจะพูดอย่างเกรี้ยวกราด “สัญญาของคุณมันมีตั้งเกือบยี่สิบหน้า ใครจะไปอ่านทั้งหมด แถมยังตัวเล็กขนาดนั้น แถมตอนนั้นคุณก็ยังเร่งให้ฉันเซ็น” “นั่นคือความสะเพร่าของคุณเอง โทษใครไม่ได้” เธอกวาดสายตาอ่านมันอย่างรวดเร็วจนถึงหน้าที่แปด มันมีวงเล็บอยู่ข้างท้ายแถมตัวหนังสือเล็กกว่าใครพวก รายละเอียดประมาณว่าถ้าหากพนักงานลาออกก่อนครบเวลาทดลองงานสามเดือน จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ทางบริษัทเป็นจำนวนเงินสิบล้านบาทในเวลาภายในหนึ่งเดือน “บ้า บ้าที่สุด สัญญาบ้าบออะไรแบบนี้ !” “สัญญาของท่านประธานไตรคนนี้แหละ” “ฉันเกลียดคุณ เกลียด !” ยิ่งเธอด่า ยิ่งโมโห เขายิ่งหัวเราะดังขึ้น ๆ ราวกับคนบ้า “เกลียดผมเข้า เกลียดให้มาก ๆ นะ สาวเฉิ่มหัวโบราณอย่างคุณน่าจะรู้นะว่ามีสุภาษิตคำพังงาได้กล่าวไว้ ว่าเกลียดอะไร ก็จะได้อย่างนั้น” “สุภาษิตคำพังเพย พังงานั่นมันชื่อจังหวัด !” แม้ว่าจะกำลังโมโห แต่ก็อดที่จะแก้ไขคำผิดให้เขาไม่ได้ เขายักไหล่ ทำหน้ายียวน “เออนั่นแหละ เกลียดอะไรได้อย่างนั้น คุณเป็นของผม และผมเป็นคนหวงของ อะไรที่เป็นของผม ไอ้หน้าหมาตัวไหนก็ห้ามแตะต้อง” เขาว่าพลางถอดเสื้อสูทที่สวมอยู่ออกแล้วโยนให้เธอ “สวมซะ ผมไม่อยากให้คนอื่นเห็นนมคุณ” แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เธอยืนอึ้งก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง หนีไม่ได้ ลาออกก็ไม่ได้ แถมทำอะไรเขาก็รู้หมดราวกับมีหูตาทิพย์ มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของเธอนักหนาเจ้าขาเอ๋ย อีตาท่านประธานโรคจิต อีไตปลา อีหมาหวงก้าง ! *****************************************