Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

ผลิกา(เลอบัว)

5.0
ความคิดเห็น
53K
ชม
101
บท

***“เธอรู้อะไรไหมแก้วตา ความจริงฉันหวั่นไหวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอแล้ว แต่ฉันแค่ไม่อยากยอมรับ เพราะฉันยังไม่อยากมีครอบครัว คิดดูสิว่ามาเฟียเพลย์บอยอย่างฉัน จะต้องกลายเป็นผู้ชายกลัวเมีย ไม่อะ ฉันยอมรับไม่ได้ มันเสียเชิงชาย” ***ถึงเธอจะตบตาเขาว่าเป็นผู้ชาย แต่เชื่อเถอะว่าเขาจำเธอได้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในถิ่นเขาแล้ว ในเมื่อเข้ามาแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้กลับออกไปง่ายๆ แล้วเธอจะได้รู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์และเผด็จการกว่าที่เธอคิด ***เพราะความจำเป็นบีบบังคับ ทำให้แก้วมุกดาจำต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อขึ้นไปทำงานบนเรือสำราญลำหรู แต่ใครจะคิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอได้พบกับผู้ชายร้ายกาจอย่างอเล็กซิสที่นี่ ที่สำคัญเขายังเป็นเจ้านายเธอด้วย ***อเล็กซิส มอนเตอโร เพลย์บอยและมหาเศรษฐีเจ้าเสน่ห์ ข้างกายเขาที่ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง ทำให้เขาถูกขนานนามว่า “คาสโนวาตัวพ่อ” เพราะเพียงแค่ขยิบตา ผู้หญิงมากมายก็พร้อมจะกระโดดขึ้นเตียง คงมีแต่เธอนี่แหละที่ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์เพทุบายถึงจะได้เชยชมความสดสาวแม่คุณ ***“ไอ้หื่น ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าฉันจะเลอะเลือนถึงขั้นข่มขืนคุณได้ ไม่อย่างนั้นฉันต้องรู้สึกอะไรบ้างสิ แต่นี่ฉันไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ อุ๊ย!” เธอเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงที่เสียความบรสุทธิ์ครั้งแรกจะต้องรู้สึกผิดปกติอะไรบางอย่าง เธอจึงลองขยับตัวเพื่อพิสูจน์ กระทั่งรู้สึกร้าวระบมไปทั้งตัว ‘อย่าบอกนะว่าเราบ๊ะจ้ำบ๊ะกับอีตาหื่นนั่นแล้วจริงๆ ไม่! ฉันเสียตัวให้เขาแล้วจริงๆ’ เหมือนเธอจะอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน เหมือนมีคนเอาค้อนหนักๆ มาทุบที่หัวเข้าอย่างจัง ที่แรกก็คิดว่าเขาอำเพราะอยากแกล้งเธอเหมือนๆ กับในละครที่พระเอกอยากแก้แค้นนางเอกเลยจัดฉากให้ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เสียกัน แต่ให้ตายสิ! ฉากที่เธอเจอกับตัวในวันนี้มันสมจริงยิ่งกว่านั้น เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะชัดเจนในความรู้สึกเธอ ‘ฉันเสียตัว ฉันเสียตัวแล้วจริงๆ ฉันเสียตัวให้กับผู้ชายคนนี้ ไม่.....’ ***“แล้วเมียไม่สงสารผัวบ้างเหรอ จะปล่อยให้ผัวนอนตัวแข็งแบบนี้ทั้งคืนจริงๆ อะเหรอ เมียก็เห็นว่าผัวไม่ได้แข็งแค่ตัว อย่างอื่นของผัวก็แข็ง สงสารผัวเถอะ ผัวขออีกแค่ประตูเดียวเอง ผัวจ๋ารักเมียจ๋านะ ผัวอยากมีลูกกับเมียจริงๆ”ให้ตายสิ เธอจะแพ้เสียงออดอ้อนกับคำว่ารักของผู้ชายคนนี้ทุกครั้งเลยรึไง

บทที่ 1 01

“ใช่คนเดียวกันรึเปล่าวะ เอ! หรือว่าไม่ใช่” อเล็กซิสที่กำลังเดินหาเจ้าของโทรศัพท์เครื่องที่อยู่ในมือ ทำหน้าไม่แน่ใจเมื่อรูปที่เขาเปิดขึ้นมาดูกับผู้หญิงที่เขากำลังยืนมองอยู่ตอนนี้บางมุมก็เหมือนจะใช่ แต่มองอีกทีก็เหมือนจะไม่ใช่ ด้วยผู้หญิงที่เขากำลังจ้องมองอยู่ตอนนี้ดูสวยกว่าคนในรูปมาก จึงทำให้ไม่มั่นใจจนต้องเดินเข้าไปใกล้เพื่อมองให้ชัดๆ แต่

“กรี๊ด...! ไอ้โรคจิต” แก้วมุกดาที่รู้ตัวว่ากำลังถูกมองก็กรีดร้องขึ้นมาทันที ก็ดูท่าทางเขาน่าไว้ใจซะที่ไหน แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ร้องขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น ก็ถูกอีกฝ่ายยื่นมือมาปิดปากไว้ซะก่อน

“จะแหกปากทำซากอะไรฮะยัยเบื๊อก” อเล็กซิสต่อว่าอย่างหัวเสีย ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนขอร้องให้มาตามหาเจ้าของมือถือเครื่องนี้ล่ะก็ คนอย่างอเล็กซิสไม่ยอมมาทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด

“แออ้ออ่อยอั๊นอิไออ้า (แกก็ปล่อยฉันสิไอบ้า)” แก้วมุกดาบอกเสียงอู้อี้ด้วยกำลังถูกเขาปิดปากเอาไว้ เธอที่กำลังทำงานพิเศษรายได้ดีด้วยการรับจ๊อบจากบรรดาเมียหลวงให้ตามเก็บรูปสามีที่แอบนอกลู่นอกทาง แต่จู่ๆ ก็มาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้ตกใจกลัวอยู่ไม่น้อย อดคิดไม่ได้ว่าเธออาจจะกำลังถูกปองร้ายหรือฆ่าปิดปากจากผู้ชายที่เธอตามเก็บรูปอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ ดังนั้นจึงพยายามหาทางรอดให้ตัวเองด้วยการตั้งสติและทำใจไม่ให้กลัว แต่...

“หา! เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ จะอ่อยฉันเหรอ ขอโทษนะอย่างเธอน่ะต่อให้แก้ผ้าตรงหน้าฉันยังต้องคิดดูก่อนเลย” อเล็กซิสที่เห็นท่าทางของเธอแล้วจึงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจที่เธอพูด

“อ๊าย ไอ้อาอ๊ก อั๊นออกอ้าไอ้อ่อยไอ้ไอ้อ่อย อ่อยอิโอ๊ย (อ๊าย ไอ้ลามก ฉันบอกว่าให้ปล่อยไม่ได้อ่อย ปล่อยสิโว้ย)” ถึงแก้วมุกดาพยายามตะคอกเสียงใส่อย่างโมโหแต่มันก็ยังฟังอู้อี้อยู่ดี อเล็กซิสจึงได้ทีแกล้งพูดขึ้นอีก

“พูดอะไรของเธอ อ่อยๆๆ อยู่ได้ นี่ตกลงจะอ่อยฉันให้ได้เลยใช่ไหม” อเล็กซิสส่ายหน้าทำท่าราวกับกำลังเอือมระอานักหนา ทั้งที่ความจริงคนที่น่าเอือมระอาน่าจะเป็นเขาเองมากกว่า

“เออ” ในเมื่อพยายามพูดไปก็เหนื่อยเปล่า แก้วมุกดาจึงตอบรับไปด้วยเสียงกระแทกกระทั้น

“ยอมรับแล้วใช่ไหมยัยผู้หญิงหน้าไม่อายกล้าอ่อยผู้ชายกลางวันแสกๆ” (เอ่อ...แล้วมีกฎบัญญัติข้อไหนห้ามอ่อยผู้ชายกลางวันเนี่ย) อเล็กซิสทำหน้าล้อเลียนกับการตอบรับของเธอ แต่เมื่อเห็นสายตาราวกับจะเผาเขาให้เป็นจุณได้ในตอนนี้ เขาจึงเลิกล้อเล่น

“เออๆๆ ปล่อยก็ได้แต่ห้ามกรี๊ดอีกนะ บอกตรงๆ เสียงกรี๊ดๆ ของเธอทำเอาฉันประสาทจะกิน พรุ่งนี้ระบบขับถ่ายจะรวนรึเปล่าก็ไม่รู้” อเล็กซิสยอมปล่อยมือจากปากสวยๆ ของเธอและมันก็

“กรี๊ด...!” แก้วมุกดากรีดร้องเสียงดังทันทีที่ปากของเธอเป็นอิสระ แต่ที่กรี๊ดครั้งนี้ไม่ใช่อะไร แต่เพราะเจ็บใจที่ถูกเขากล่าวหาว่าอ่อยครั้งแล้วครั้งเล่า

“เอ้าเฮ้ย! จะกรี๊ดอีกทำไมวะเนี่ย” เสียงสั่นประสาทของเธอทำเอาอเล็กซิสเริ่มหัวเสียขึ้นมาอีกครั้ง

“หืม! ไอ้ผู้ชายเฮ็ง... นึกว่าหล่อตายแหละ ฉันก็ไม่เอาไอ้แก่เฒ่าหัวงูอย่างแกเหมือนกันนั่นแหละ ชิ! คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสมาจากไหน ก็แค่ผู้ชายแก่ๆ ตัณหากลับ มีดีก็แค่กระเป๋าหนักแต่ไม่มีสมอง คิดแต่จะเอาเงินฟาดหัวผู้หญิง แต่ขอโทษต่อให้รวยกว่านี้ฉันก็ไม่เอา ไอ้เฒ่าหัวงู ไอ้ลามก ไอ้แก่จอมหื่น ไอ้” ยังไม่ทันที่เธอจะร่ายยาวต่อให้จบอเล็กซิสก็แทรกขึ้นมา

“ถ้าขืนเธอยังด่าฉันอีกคำล่ะก็ ปากจัดๆ ของเธอได้โดนฉันจูบจนขาดใจแน่ยัยหน้าจืด คนอะไรไม่สวยแล้วยังปากเปราะ” เกิดมาก็เพิ่งเคยถูกผู้หญิงด่ายาวขนาดนี้ ไม่แปลกที่เขาจะโมโหบ้าง ก็ปกติมีแต่ผู้หญิงเข้ามาออดอ้อนออเซาะพูดจาหวานหูให้ฟังตลอด แต่กับผู้หญิงคนนี้มีแต่ด่ากับด่า นี่ขนาดเพิ่งเจอหน้ากันไม่ทันไรเธอยังด่าเขาแทบไม่ซ้ำคำ

“นี่ มีสิทธิ์อะไรมาเรียกฉันหน้าจืด ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้ไอ้เฒ่าหัวงู” แก้วมุกดาชี้หน้าเอาเรื่องพร้อมกับคิดในใจ ‘ถึงฉันจะไม่แต่งหน้า แต่ฉันก็สวยแบบมีสไตล์เป็นของตัวเองย่ะ’

“ก็แล้วเธอล่ะ มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันเฒ่าหัวงูฮะยัยหน้าจืด ยัยลูกเป็ดขี้เหร่ ยัยผู้หญิงปากเปราะ” อเล็กซิสต่อว่าด้วยความขุ่นเคืองไม่แพ้กัน ‘อย่างฉันเนี่ยนะแก่ ผู้ชายอย่างฉันเนี่ยนะเฒ่าหัวงู ชิ! ตาถั่วชะมัด ยัยลูกเป็ดตัวร้าย’

“คำนี้มันก็เหมาะกับคุณที่สุดแล้วนี่ เห็นเด็กในชุดนักศึกษาหน่อยไม่ได้ มาทำชีกอใส่ ฉันเห็นนะว่าคุณแอบถ่ายรูปฉันด้วยน่ะ อ๊าย! อย่าบอกนะว่ากล้องนั่นส่องทะลุเสื้อผ้าได้ กรี๊ด...! ไอ้ลามกฉันจะฆ่าแก กล้าดียังไงมาดูของของฉัน ฉันจะควักลูกตานายซะ อย่าอยู่เลยไอ้แก่” หลังจากที่คิดเองเออเองเสร็จสรรพ แก้วมุกดาก็พุ่งเข้าทำร้ายอีกฝ่ายอย่างทันท่วงทีชนิดที่เขาไม่มีโอกาสได้แก้ต่างให้ตัวเอง ทำได้แค่ล็อคแขนเธอเพื่อปกป้องใบหน้าหล่อๆ ของตัวเองให้รอดพ้นจากกรงเล็บของเธอ

“แหกตาดูก่อนสิว่าโทรศัพท์เครื่องนี้มันของใคร แล้วก็หยุดทำร้ายร่างกายอันมีค่าของฉันสักที ไม่อย่างนั้นฉันจะกดเธอลงพื้น แล้วก็ทำอย่างที่เธอกล่าวหามันตรงนี้เลย” อเล็กซิสบอกด้วยใบหน้าถมึงทึง ตอนนั้นเองที่ทำให้เธอได้หยุดมอง

“นี่มันโทรศัพท์ฉันนี่ คุณไม่ใช่เฒ่าหัวงู” อเล็กซิสยิ้มอย่างโล่งใจ เมื่อในที่สุดเธอก็เข้าใจอะไรสักที แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่เพราะประโยคต่อมา “แต่นายมันเป็นไอ้หัวขโมย นายขโมยมาจากเพื่อนฉันใช่ไหม บอกมานะว่าโทรศัพท์เครื่องนี้มาอยู่นี่ได้ยังไง นี่อย่าบอกนะว่านายทำร้ายเพื่อนฉัน อย่าอยู่เลยไอ้เฒ่าหัวงูขี้ขโมย” ว่าแล้วเธอก็กระโจนเข้าใส่คนที่กลายเป็นหัวขโมยแบบไม่รู้ตัว

“เฮ้ย! ยัยเพี้ยนนี่ทำบ้าอะไรของเธอวะเนี่ย โธ่เว้ย! วุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้นจริงๆ เลย” อเล็กซิสสบถอย่างหัวเสียพลางจับข้อมือเธอไว้ก่อนจะยื่นโทรศัพท์เจ้าปัญหาใส่ในมือ โดยไม่ลืมหยิบกระดาษเล็กๆ อีกแผ่นซึ่งมีข้อความสั้นๆ จากสุดที่รักเพื่อนที่เธอพูดถึงใส่พร้อมกันไปด้วย

“เลิกพล่ามแล้วเอานี่ไป จะได้ต่างคนต่างไปสักที ผู้หญิงอะไรน่ารำคาญชะมัด ลาแล้วลาลับขออย่าได้พบได้เจอกันอีกเลยไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน” อเล็กซิสเดินตึงๆ ออกไปอย่างไม่ใยดี

“เดี๋ยว” หลังจากได้อ่านข้อความที่เพื่อนฝากมาอย่างรวดเร็ว แก้วมุกดาจึงจำต้องเรียกเขาไว้

“จะเอาไงอีกฮะแม่คุณหรือว่าไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ฉันไม่สนด้วยแล้ว น่ารำคาญชะมัด” เขาหันมาพูดใส่หน้าอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นเร็วๆ เดือดร้อนให้เธอต้องวิ่งตามเพราะช่วงขาที่ต่างกัน

“เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้บอกสักคำว่าไม่เชื่อ”

“เชื่อหรือไม่เชื่อฉันก็ไม่สนแล้ว แล้วก็เลิกตามฉันสักทียัยลูกเป็ดขี้เหร่” อเล็กซิสว่าพลางก้าวยาวๆ เพื่อหนี ในขณะที่เธอก็วิ่งตามอย่างไม่ลดละ ประหนึ่งหญิงสาวที่กำลังตามง้อขอความรักจากผู้ชายคนหนึ่ง แน่นอนว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่

“นี่ จะรีบเดินไปตามควายรึไงเนี่ย หยุดมาคุยกันก่อนสิ” เธอวิ่งตามด้วยความกระหืดกระหอบ

“หยุดให้โง่น่ะสิ ฉันไม่มีอะไรจะคุยแล้ว เพราะฉันจะไม่ยอมประสาทเสียเพราะเธออีกเด็ดขาด เฮ้ย! แล้วจะตามมาทำไมนักหนาวะเนี่ย”

“ถ้าไม่อยากให้ตาม คุณก็ให้ฉันไปกับคุณด้วยสิ” คำขอโต้งๆ ของเธอทำเอาเท้าทั้งสองของเขาถึงกับหยุดชะงัก ยังผลให้คนที่ตามมาติดๆ ผงะหน้าทิ่มกับแผ่นหลังผึ่งผายของคนตรงหน้าเต็มๆ แน่นอนว่าตอนนี้เธอคงไม่มีเวลาโวยวาย

“เมื่อกี้เธอว่าไงนะ” เขาค่อยๆ หันมาถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่าตัวเองหูฝาดไปรึเปล่า

“ขอไปด้วยนะ” เธอบอกพลางส่งยิ้มหน้าเป็น ก่อนจะต้องยิ้มค้างเพราะถูกตัดเยื่อใย

“ไม่มีทาง อะไรทำให้เธอคิดว่าฉันจะพาผู้หญิงน่ารำคาญอย่างเธอติดรถไปด้วย ฝันไปเหอะ” เขาปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะหันหลังก้าวออกไปจากตรงนั้นอีกครั้ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ผลิกา(เลอบัว)

ข้อมูลเพิ่มเติม
I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะอดีตทำให้ผูกพัน แต่ปัจจุบันทำให้รักหมดใจ พริบพราวพนักงานบัญชีตัวเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครรู้จัก ต้องจับพลัดจับผลูกลายมาเลขาท่านประธานคนใหม่ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะโชคชะตา หรือเพราะเขาเป็นคนกำหนดมาตั้งแต่แรกกันแน่ “ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่คะ” “มันคงถึงเวลาแล้วมั้ง เวลาที่เธอควรกลับมาที่ที่เธอควรอยู่ เวลาที่ฉันจะทวงทุกอย่างของฉันคืน” เขาว่าพลางจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอให้หันมาประจันหน้ากัน “ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี หลายครั้งที่คุณไม่ยอมตอบคำถามฉัน หลายครั้งที่คุณเอาแต่พูดจากำกวม แล้วทุกครั้งคุณก็ทำให้ฉันสงสัย สุดท้ายฉันก็ยังไม่ได้คำตอบจากคุณ เฮ้อ! ใจคอคุณจะไม่ตอบอะไรฉันเลยใช่ไหมคะ” “ตอบสิ ฉันจะตอบทุกอย่างที่เธอสงสัยและอยากรู้ แต่…หลังจากที่เธอให้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วเท่านั้น” เขาบอกพลางหยักยิ้มมุมปาก “แล้วคุณต้องการอะไร” “เธอไง” เขาโน้มลงมาบอกเสียงกระเส่า ทำเอาเธอถึงกับประหม่าจนต้องกัดเม้มริมฝีปากอย่างไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้ยังไงดี โดยไม่รู้เลยว่าท่าทางของตัวเองกำลังปลุกเร้าบางอย่างในตัวเขาให้กระเจิดกระเจิง “ฉันชักอยากตอบเธอตอนนี้แล้วสิ เธออยากรู้อะไรพริบพราว” ใบหน้าเขาแดงก่ำ อีกทั้งเสียงทุ้มๆ ก็ยังแหบพร่า อา…! ดูเหมือนนี่จะเป็นสัญญาณอันตรายที่เธอควรหลบเลี่ยง แต่ให้ตายเถอะ! สองขาของเธอกลับไม่ขยับเขยื้อน ราวกับถูกตรึงไว้ กระทั่งใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้และสัมผัสไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนขึ้นมาสัมผัสดวงตาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน แล้วเลื่อนลงมาจูบที่จมูกอย่างอ้อยอิ่ง อา…! ร่างกายเขากำลังเรียกร้องรุนแรง จนหัวใจเขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

มหาเศรษฐี

4.9

“หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้ไอรดา อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสา คิดเหรอว่าผมโง่จนดูไม่ออกว่าคุณกำลังเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่ประสา เพราะยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่อยากได้สเปิร์มคนอื่นจนตัวสั่นอย่างคุณจะไม่สันทัดเรื่องพวกนี้ บางทีคุณอาจจะช่ำชองกว่าผมก็ได้ใครจะไปรู้ ทำไมไม่แสดงมันออกมาให้ผมดูล่ะ เผื่อว่าถ้าผมติดใจ อาจจะแบ่งสเปิร์มฝากไว้ในตัวคุณบ้างก็ได้” ใบหน้าแดงก่ำนัยน์ตาดุกร้าวของเขาบอกให้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอใจ ที่เธอพยายามดิ้นรนขัดขืน ทั้งที่ร่างกายของเธอกำลังตอบสนองต่อสัมผัสของเขา และมันยิ่งทำให้เขาขัดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อคิดว่าเธอเคยพลีกายให้ชายอื่นครอบครองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน “อ๊าย! ไอ้บ้า ไอ้ยักษ์ปากเสีย ฉันไม่ใช่พวกสำส่อนอย่างคุณนี่ ที่เอะอะก็จะพากันขึ้นเตียงอย่างเดียว” ไอรดายังพยายามผลักไสทุบตีเขาเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยๆ ถ้าเธอจะเสียตัวอีกเป็นครั้งที่สอง เขาก็ควรเจ็บตัวเป็นการตอบแทนบ้าง “จะบอกว่าคุณยังซิงว่างั้นสิ” จิโอวาโน่ยังคงไมเชื่อ และเมื่อเธอพยักหน้าหงึกหงักเขาจึงพูดต่อ “งั้นคงต้องให้ผมพิสูจน์หน่อยแล้วล่ะ ว่าลีลาของผมพอจะทำให้คุณเผยธาตุแท้ออกมาได้บ้างรึเปล่า” สรุปว่าเขายังไม่เชื่ออยู่ดี “กรี๊ด...! อุ๊บ!” เธอกรีดร้องได้แค่นั้น เมื่อเขาทาบทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง และดูเหมือนครั้งนี้เขาจะพยายามหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางอย่างที่เขาว่าเอาไว้ด้วยสัมผัสหนักหน่วงและปลุกเร้าไปในคราวเดียวกัน หญิงที่ไม่ประสาอย่างเธอจึงได้แต่ครางอืออาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยกำลังสับสนมึนงงกับสัมผัสเรียกร้อง รุกเร้า โอ้โลมจากผู้ชายที่ชื่อจิโอวาโน่ และด้วยเสียงครางบวกกับการตอบสนองของเธอทำให้เขายิ้มมุมปากสมใจ คิดว่าคงถึงเวลาที่จะทำให้เธอดิ้นไม่หลุดยอมจำนนต่อหลักฐานว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงร่านรักและเคยผ่านผู้ชายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นเอง “กรี๊ด...!” เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของไอรดา ทำให้จิโอวาโน่ถึงกับชะงักค้าง พลัน! หยุดการเคลื่อนทุกอย่างลง “นี่คุณยัง...”

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

มหาเศรษฐี

5.0

ว่าแล้วเธอจำต้องยอมสวมบทเป็นนางทาสแต่งตัวให้นายท่านอย่างเขาด้วยความจำใจ แต่เธอก็มีวิธีที่จะไม่ต้องเห็นภาพบาดตานั่น ด้วยการปิดตามันดื้อๆ นี่แหละ รับรองไม่เห็นชัวร์ (เอ่อ! แต่ไอ้การปิดตาแบบนี้ ถึงมันจะไม่เห็นแต่มันก็ยังสัมผัสได้นี่) ยังไม่ทันขาดคำ ขณะที่เธอกำลังคุกเข่าเพื่อสวมอันเดอร์แวร์ให้เขาพร้อมกับปิดตาไปด้วย และไอ้การที่เธอกำลังปิดตานี่แหละที่ทำให้เธอทำอะไรไม่ค่อยสะดวก พยายามคลำโน่นคลำนี่เงอะงะไปหมด แน่นอนว่ามันอันตรายต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรของเขาด้วยเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา เขาจึงพยายามเหวี่ยงตัวหลบมือเรียวของเธอ ในขณะที่เธอกลับพยายามไล่ตามจับมันอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเธอกำลังคลำหาอะไร แล้วเธอมาไล่จับของเขาเพื่ออะไรเนี่ย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก เขากับเธอยังคงเล่นไล่จับกันอย่างเสียวไส้ ด้วยการขยับเอวซ้ายขวาซ้าย เอ้าซ้ายขวาซ้าย ‘ซึ่งกูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกูต้องมายืนส่ายเอวอยู่แบบนี้ด้วย ให้ตายเถอะกูอยากถ่ายภาพนี้เก็บไว้จริงๆ เลย แม่คุณจะได้รู้ว่า ตัวเองกำลังตามล่าอะไรอยู่’ แต่เมื่อทำแบบนั้นไม่ได้ เขาจึงต้องส่ายเอวต่อไป เธอขยับมาทางซ้าย เขาจึงย้ายมาทางขวา เมื่อเธอไล่ตามมา เกือบจะคว้าได้แล้วเชียว เขารีบเบี่ยงตัวหลบ กลัวจะพบกับความเสียว ขยับเอวเพียงนิดเดียว เธอกลับเลี้ยวตามมาทัน (หมับ!!!) “ฮ่าๆๆ จับได้แล้ว” เธอหัวเราะชอบใจ เมื่อในที่สุดเธอก็คว้าหมับเข้ากับอะไรบางอย่างได้สำเร็จ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เมื่อไม่รู้ก็ต้องดูให้เห็นกับตา “กรี๊ด...! ลามกจกเปรต ทุเรศที่สุด เอามันออกไป เอาออกไปเดี๋ยวนี้นะ” เธอโวยลั่นกับบางอย่างที่อยู่ในมือ แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ มือเธอที่กำลังขยับส่ายไปส่ายมาราวกับจับปลาชะโดตัวโต ทำเอาคนถูกจับถึงกับต้องรีบขยับตามแทบไม่ทัน ราวกับกลัวว่ามันจะหลุดติดมือเธอไป ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจว่าแม่คุณจะส่ายไปส่ายมาเพื่ออะไร ‘ไม่ใช่ปลาช่อนนะเว้ยเฮ้ย! แล้วมันก็ดิ้นไม่ได้ เอ๊ะ! หรือว่าได้วะ’ “นี่! แม่คุณ ช่วยตั้งสติแล้วก้มมองหน่อยเถอะ ว่าไอ้ที่อยู่ในมือคุณน่ะ ผมไปบังคับให้คุณจับมันรึเปล่า อูว! ถ้าขืนคุณยังไม่หยุดขยับตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็ เกิดปลาที่อยู่ในมือคุณมันพ่นน้ำออกมาอย่าหาว่าผมไม่เตือน” คำเตือนของเขาทำเอาเธอถึงกับรีบปล่อยมือทันที อีโรติก

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

สมัยใหม่

4.7

ความวุ่นวายบังเกิดเมื่อเธอดันมีตาวิเศษ และเขาก็ดันมีหูทิพย์ คนนึงมองผ่านทะลุเสื้อผ้าไปเจอซิกแพ็ก ส่วนอีกคนก็ดันได้ยินความคิดหื่นๆ ชีคอัฟฟาน อับดุล ฮาหมัด คาริฟา เจ้าชายมาดนิ่ง นิ่งซะจนไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย ยกเว้นเธอ ไม่ยุ่งก็บ้าแล้ว ก็แหมทั้งหล่อล่ำกล้ามแน่นขนาดนั้น ใครจะไปอดใจไหว ถึงจะเป็นของหวงห้าม แต่ถ้าลวนลามทางความคิดก็คงไม่มีใครว่า พรสวรรค์ สาวแว่นสุดเนิร์ดที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ จริงๆ ก็ไม่ได้เนิร์ดหรอก แว่นที่ใส่ก็ใส่ไว้แค่พรางตาเฉยๆ ขืนไม่ใส่คงได้เป็นตากุ้งยิงทั้งปีทั้งชาติแน่ ไม่รู้ว่านี่เรียกว่าพรสวรรค์หรือฟ้ากลั่นแกล้งกันแน่ที่ประทานดวงตาที่สามารถมองผ่านทะลุเสื้อผ้าได้ นี่ถ้าไม่มีแว่นหนาๆ มาพลางไว้ล่ะก็ทั้งเมาคลีทั้งชีเปลือยนี่เดินกันให้ว่อน เห็นของผู้หญิงก็ดีหน่อย แต่เห็นของผู้ชายก็ดีกว่า เอ้อ! ไม่ใช่ๆ อืม! ใช่ก็ได้ เฮ้อ! ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าเธอเนิร์ดหรือไม่เนิร์ด “นี่ก็เหมือนจริง” ไม่พูดเปล่า แต่แม่คุณยังพิสูจน์ด้วยการจับหมับลงไป ยังผลให้เจ้าของกล้ามสะดุ้ง ก่อนจะต้องกัดกรามกรอด เมื่อมือนั้นเริ่มขยับลูบไล้ไปมา “นี่ก็เหมือนจริง” เสียงเธอสูงขึ้นด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่มือเรียวกลับเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวยงามตามอย่างบุรุษเพศผู้ดูแลตัวเอง ก่อนจะบีบขยำมันด้วยความกระหายใคร่รู้ ในตอนนั้นเองที่ทำให้เธอเหมือนจะมีสติรู้ตัวขึ้นมา “บ้าบอ! เธอเป็นผู้หญิงนะพรสวรรค์ ไปลวนลามบีบขยำร่างกายผู้ชายเหมือนผู้หญิงหิวโซแบบนั้นได้ยังไง มันไม่งาม” คนที่เพิ่งรู้ตัวรีบชักมือกลับราวกับต้องของร้อน “หืม! แต่นี่มันในความฝัน ฝันของฉัน...ฉันจะทำอะไรยังไงก็ได้ จะจับจะลูบยังไงก็ได้ จะขยำขยี้ยังไงก็ย่อมได้” หมับ! อีกครั้งที่กล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้องของเขาถูกคุกคามด้วยมือของผู้หญิงหิวโซ เฮ้อ! กุลสตรีสามสิบวิจริงๆ ‘ให้ตายเถอะ! ยัยหื่นนี่ หื่นกว่าที่คิดซะอีก’ เขาคิดพลางครางฮือ เมื่อมือนั้นสร้างความปั่นป่วนให้เขามากขึ้นทุกที มากจนต้องสูดปากบรรเทาความเสียดเสียวที่กำลังหมุนเกลียวในช่องท้อง และบางครั้งก็ต้องกัดฟันสะกดกลั้นความหื่นกระหายภายในที่ใกล้จะปะทุออกมาเต็มที “หึๆ ก็แค่ความฝัน ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเราสักหน่อย เพราะฉะนั้นเราจะย่ำยีผู้ชายคนนี้ยังไงก็ได้ ความฝันของเรา เราจะหื่นยังไงก็ได้” เธอย้ำอีกครั้ง พลางกดมือลงไปที่ขอบกางเกงของอีกฝ่ายอย่างย่ามใจ ครั้นพอจะเคลื่อนต่ำลงไปกว่านั้น ก็มีมือหนึ่งตะปบลงมาซะก่อน ยังผลให้คนทั้งคู่หันมาสบตากัน และดูเหมือนว่าคนที่ตกใจมากกว่าคือเธอ พรสวรรค์ทำหน้าเหลอหลาระคนตกใจ ทันใดนั้นเองเธอก็อุทานขึ้นมา

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

สมัยใหม่

5.0

ก็ในเมื่อเขาทั้งหล่อ ล่ำ อบอุ่น ใจดี แล้วยังมีนิสัยรวยอีกต่างหาก แล้วเรื่องอะไรเธอต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ "คุณจะต้องเป็นของฉันคุณเจตต์" ทันทีที่มีนาหรือมัดหมี่ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้เจตต์ หนุ่มหล่อสุดฮอตที่เปรียบเสมือนเกราะนิรภัยของเธอถูกสุนัขคาบไปรับประทาน ปฏิบัติการอ่อยจึงเริ่มขึ้น “แต่งงานกันไหม” จู่ๆ มีนาก็โพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “ถ้าไม่สบายก็กลับไปนอน ฉันจะทำงาน ไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กแก่แดดอย่างเธอ” “นี่…ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เรียนจบ มีงานทำ แล้วฉันก็อยากแต่งงานจริงๆ ไม่ได้คิดเล่นๆ อย่างที่คุณว่าด้วย” “รู้ใช่ไหมว่ากิจกรรมระหว่างผัวเมีย มันมากกว่าแค่นอนมองตากันเฉยๆ ดีไม่ดีบางคืนอาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ แล้วเด็กที่ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างเธอจะไหวเหรอ” “คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ก็บอกแล้วไงว่าไม่เด็ก ถึงฉันจะไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าหรือผ่านโลกมาโชกโชนอย่างคุณ แต่ฉันก็ไม่ใช่กบที่หลบอยู่ในกะลา ถึงจะไม่รู้ว่ากิจกรรมอย่างว่าระหว่างผัวเมีย มันคืออะไร” “ไม่แต่ง จะไปไหนก็ไปไป ฉันจะทำงาน” เขาโบกมือไล่อีกครั้ง “ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” “ตัวเท่าลูกหมาอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้” “ถึงฉันจะทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ฉัน…ก็อ่อยคุณได้แล้วกัน” “ไซส์อย่างกับหมากระเป๋า หุ่นก็เท่ากับเด็กอนุบาล อย่าว่าแต่จะอ่อยจะยั่ว ให้แก้ผ้าตรงหน้า ฉันยังคิดหนักเลย อย่างเธอน่ะถ้าจะยั่ว อย่างมากก็ทำได้แค่ยั่วโมโหเท่านั้นแหละ” “ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง งั้นก็อย่ามาร้องโอดครวญทีหลังแล้วกัน เพราะฉันเอาจริง จากนี้ไปฉันจะทั้งยั่วทั้งอ่อยให้คุณกระอัก จนคุณต้องรักฉันหัวปักหัวปำ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย ยังไงชาตินี้คุณก็ต้องเป็นผัว เอ๊ย! เป็นของฉัน คอยดู”

ยั่วรักมาเฟีย

ยั่วรักมาเฟีย

สมัยใหม่

4.5

“อย่าบอกนะว่าเธอกำลังคิดเรื่องลามกอยู่ เธอนี่มันหื่นตัวแม่จริงๆ เดี๋ยวก็อ่อย เดี๋ยวก็ยั่ว ใจคอจะปล้ำฉันให้ได้เลยใช่ไหม” เขาว่าพลางส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปลอบยิ้มอีกทาง แม้ว่าลึกๆ ในใจ ‘สุดที่รัก’ จะอยากเป็นเจ้าสาวของ ‘เลโอนาร์ด แบร์นาร์ด’ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแห่งสเปนมากเพียงใด แต่เพราะมาดขรึมๆ กับหน้านิ่งๆ ของเขา มันเลยทำให้เธออยากรู้จริงๆ ว่าการหมั้นครั้งนี้เกิดจากความเต็มใจของเขารึเปล่า ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน และเธอก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์จนเกินเยียวยา เธอจึงต้องยั่ว ยั่วให้เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่ได้มีดีแค่ยั่วโมโห ถึงจะเป็นการยั่วระดับอนุบาลก็เถอะ แต่เชื่อเถอะว่าเธอจะทำให้เขาหวั่นไหวได้…มั้ง “หยุด ไม่ต้อง ฉันถอดเองได้” สุดที่รักบอกพลางรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองเร็วๆ ด้วยกลัวว่าเขาจะฉีกมันอีก “ทำอะไร” เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ก็มันเสียดาย คุณถอดเองทีไรมันกลายเป็นเศษผ้าทุกที เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามคุณถอดเสื้อผ้าฉันอีกเป็นอันขาด” สีหน้าจริงจังของเธอ ทำเอาเลโอนาร์ดถึงกับหลุดขำออกมา “เธอจะเป็นคนถอดเองทุกครั้งที่ฉันต้องการงั้นสิ” “อืม! เฮ้ย! ไม่ใช่ ถอดทุกครั้งที่คุณต้องการ ฉันก็แย่น่ะสิ” เธอรีบแก้ต่างเมื่อเผลอรับคำเขาไป “แล้วจะเอายังไง” “โอ๊ย! คนบ้านี่ฉันเจ็บนะ ก็ในเมื่อคุณไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รัก ไม่หึง ไม่หวง แล้วคุณจะมาสนใจอีกทำไมว่าฉันจะคบจะคุยกับใคร นอกเสียจากว่าทั้งหมดที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ คุณจะยอมรับว่าคุณรักฉัน ไม่งั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ว่าฉันจะคุยกับใคร” “อืม!” เฮ้อ! จะฟังคำว่ารักจากผู้ชายคนนี้มันช่างยากซะจริง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

โรแมนติก

5.0

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

โรแมนติก

5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

คลั่งรักร้ายนายวิศวะ

คลั่งรักร้ายนายวิศวะ

วัยรุ่น

5.0

"ไง...หลบหน้าผัวมาหลายวัน" คนตัวโตกดเสียงมาอย่างไม่น่าฟัง ยิ่งเธอขัดขืนเขายิ่งเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือ "ปล่อยนะพี่ริว พี่ไม่ใช่ ผัว..." เสียงเล็กถูกกลื้นหายในลำคอ เมื่อโดนคนใจร้ายตรงหน้าระดมจูบไปทั้งใบหน้า อย่างไม่ทันตั้งตัว ริวถอนจูบออก เสมองคนตรงหน้าอย่างเย้ยหยัน "ผัว...ที่เอาเธอคนแรกหนะ" "พี่ริว..." เจนิสตะเบ่งเสียงด้วยสีหน้าอันโกรธจัด "ทำไม เรียกชื่อพี่บ่อยแบบนี้ละครับ" ริวเอ่ยพร้อมกับสบตาคนตรงหน้าด้วยสายตาดุดัน "คิดว่าคืนนี้เธอจะรอดเหรอ" ริวตะเบ่งเสียงขึ้นมา จนร่างบางถึงกับชะงัก "ปล่อย...นะ คนเลว" ยิ่งเธอต่อต้านเขายิ่งรุนแรงกับเธอมากขึ้น "เอาดิ...เธอตบ ฉันจูบ..." ริวเอ่ยพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาดุดัน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ