ซุป’ตาร์พันเล่ห์

ซุป’ตาร์พันเล่ห์

ภัคร์ภัสสร

5.0
ความคิดเห็น
37.7K
ชม
36
บท

"คุณไม่มีสิทธิ์์มายุ่งกับความรู้สึกของฉัน" "งั้น... ผมจะยืนยันสิทธิ์ของผมเดี๋ยวนี้!" เมลดา หญิงสาวปากกล้า ผู้ไม่เคยเชื่อเรื่อง 'รักแท้' เพราะรักแท้... มีแค่ในนิยายเท่านั้นแหละ! ฮุนจีอึน ซุปเปอร์สตาร์หนุ่ม เพลย์บอยนักรัก ผู้มีสาวๆ มาพัวพันมากมาย แต่กลับรู้สึกเหมือนว่า กำลังเฝ้ารอใครสักคน... แรกพบ เขาก็ทำราวกับเธอเป็นของเล่นใหม่ แต่เมื่อหัวใจซุปตาร์หนุ่มปั่นป่วนวุ่นวาย ก็ถึงคราวจะต้องใช้เล่ห์พราวสารพัด เพื่อมัดใจสาวใจแข็งให้อยู่หมัด เมื่อคนหนึ่งก้ปากร้าย อีกฝ่ายก็เห็นเธอเป็นเพียงสาวในคอลเคชั่น ที่สุดแสนท้าทาย น่าสะสม ซุปตาร์พันเล่ห์อย่างเขา จะเปลี่ยนเกลัยดแรกพบ... ให้กลายเป็นบทสรุปที่ต่างก็เผลอรักกันได้อย่างไร ในเมื่อเส้นทางรัก เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่ต้องฝ่าฟัน...

บทที่ 0 บทนำ

“เม! รับไว้!”

สิ้นเสียงชาตรี กระเป๋าสีดำใบกระทัดลัดก็ลอยละลิ่วมาเข้ามือน้อยๆ ของเมลดาแบบไม่ทันตั้งตัว เล่นเอาเธอเกือบรับไม่ทัน!

“นี่มันอะไรกันอ่ะคะพี่ชา”

“ไม่ต้องถาม! วิ่งก่อนเลย ไปเร้ว... วิ่ง!!”

เขาสั่งน้ำเสียงลุกลี้ลุกลน พร้อมผลักร่างหญิงสาวให้ออกห่าง

“ไปเร็ว! อย่าให้พวกนั้นเอากระเป๋าไปได้” เมลดาหันมองตาม แล้วเห็นว่าชายร่างกำยำสองคนวิ่งกรูเข้ามาประชิดตัวชาตรี เหมือนกับกำลังจะหาเรื่อง

‘เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย! เที่ยวกลางคืนทีไรชอบมีเรื่องตลอดพี่ชาอ่ะ ไม่รู้ล่ะบอกให้วิ่งก็วิ่งก่อนแล้วกัน!’ หญิงสาวคิด

ชายร่างใหญ่สองคนเข้าประชิดตัวชาตรีอย่างรวดเร็ว แสดงกิริยาข่มขู่คุกคามอย่างดุดัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชาตรีกลัวเลยแม้แต่น้อย

“ไง... ตามฉันมาทำไมล่ะเพื่อน” ชาตรีถามเสียงยียวน

“ส่งของมา!!” ชายคนหนึ่งออกคำสั่งแกมขู่บังคับจะเอาอะไรบางอย่างจากชาตรี

“ของอะไรคร้าบบบ ผมไม่ได้ขโมยอะไรออกมาจากพวกพี่นี่ครับผม” ชาตรีลากเสียงราวกับตั้งใจจะกวนอารมณ์

“ก็แกทำอะไรผิดกฎในร้านล่ะ ไม่รู้หรือไงที่เที่ยวที่นี่เขามีคนมีชื่อเสียงมาเที่ยวกันเยอะ พวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัว อะไรที่แกเอาออกมานั่นแหล่ะคือสิ่งที่แกต้องคืน”

“คืนอะไร? ก็ผมไม่ได้เอาอะไรไปนี่ครับคุณ” ชาตรียังไม่เลิกยียวน

“แกพูดแบบนี้ อยากมีเรื่องเรอะ?” จากนั้นชายคนหนึ่งก็เข้าประชิด หวังจะล็อคตัวชาตรีไว้ แต่ชายหนุ่มไหวตัวทัน กระโดดหลบเสียก่อน

“พวกคุณไม่เห็นรึไง ผมก็มีแต่ตัว จะค้นกันมั้ยล่ะ? แต่ถ้าไม่เจออะไรที่พวกคุณกล่าวหา ผมแจ้งความคุณนะ ข้อหาหมิ่นประมาทหาว่าผมขโมยของน่ะ” ชาตรีเสียงเข้มเข้าใส่ หวังทำใจดีสู้เสือไปอย่างนั้น เพราะลำพังสองรุมหนึ่ง เขายับแน่ๆ

“มันพูดจากวนตีนไปแล้วว่ะ กระทืบมันตรงนี้เลย ถึงไม่ได้ของคืน อย่างน้อยก็ฝากรอยตีนไว้กับมันซะหน้าร้านนี่ล่ะ” ชายร่างกำยำ การ์ดของสถานบันเทิง อดไม่ไหวตั้งท่าจะซัดชาตรีให้น่วม

“ของอยู่ในกระเป๋าใช่มั้ย ข้าเห็นแกโยนส่งให้ผู้หญิงสวยๆ ที่มากับแก เธอหนีไปแล้วสิ” ชายร่างบึ้กกำลังหมายถึงเมลดา

“งั้นก็ลุยมันก่อนเลย”

ทันทีที่สิ้นเสียง ทั้งสองก็รุดเข้าจะทำร้ายร่างกายชาตรี ต่างฝ่ายต่างตะลุมบอน ออกแรงแลกหมัดเข้าสู้กันบริเวณหน้าร้าน จนเริ่มเป็นจุดสนใจคนเที่ยวแถวนั้น แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นพลเมืองดีออกมาช่วยใคร

ฝ่ายเมลดากึ่งเดินกึ่งวิ่ง พาตัวเองออกมาจากย่านสถานบันเทิงไฮโซ กะว่าพ้นปากซอยจะเรียกแท็กซี่และตามคนมาช่วย ใจก็ห่วงรถที่จอดอยู่แถวหน้าร้าน เกิดเรื่องทีไร เป็นอย่างนี้ทุกที แต่ใครจะกล้าแจ้งตำรวจ มีเรื่องในย่านนี้ต้องเอาผู้ใหญ่มาคุยเท่านั้นถึงจะรอด คิดหาทางรอด อยู่ๆ ก็เหมือนมีใครตามมา ทำเอาพะว้าพะวงคอยหันหลังกลับไปมองตลอดทางอย่างหวาดระแวง

“อ๊ะ!!” แต่ไม่ทันแล้ว เมื่อจู่ๆ ก็มีใครบางคน โผ

ล่มาดักตัวเธอ ตรงมุมหนึ่งของถนน ก่อนที่จะพ้นย่านสถานบันเทิงแถวนั้น ทำเอาเมลดาตกใจอุทานออกมาเสียงดัง เนื้อตัวสั่นเทา เธอไม่เคยกลัวอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย อีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่าชาตรีไปก่อเรื่องอะไร ทำไมเธอต้องรับผิดชอบกระเป๋าสีดำใบนี้ และต้องหนี... หนี... แล้วก็หนี...

“จะรีบไปไหนครับ?” คำถามภาษาอังกฤษจากชายร่างสูงโปร่ง แต่งตัวแบบผู้ชายเมโทรเซ็กชวล สวมหมวกไหมพรมคลุมผมเหมือนเด็กฮิปฮอป และเขาสวมแว่นตาดำแม้จะเป็นเวลากลางคืน!

การแต่งตัวลึกลับของเขานี่ล่ะ ที่ทำให้หญิงสาวหวาดกลัวเพิ่มขึ้นไปอีก

“คุณตามฉันมา ต้องการอะไร!” เมลดาทำใจดีสู้เสือถามออกไป แววตาเขียวปั๊ดตั้งใจจะขู่เอาไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าเขา เป็นคนดีหรือคนเลว แต่คนดีที่ไหนจะตามผู้หญิงมาอย่างนี้ คงเป็นพวกโรคจิตอารมณ์หื่น ที่ออกล่าเหยื่อแถวนี้มากกว่า

“ผมตามมาเอากระเป๋าใบนั้น”

“อยู่ดีๆจะมาเอาไปทำไม นี่มันของๆพี่ที่ออฟฟิศฉันนะยะ” เมลดาแหวกลับ พร้อมขึงตาเขียวปั๊ดใส่อย่างมิหวั่นเกรง

“พวกคุณคงเป็นนักข่าวสินะ” ชายหนุ่มตรงหน้าสันนิษฐาน

“คุณรู้ได้ยังไง?” เมลดาครางเบาแผ่ว มันมีป้ายแสดงอาชีพบนหน้าผากเธอหรือไง ใครๆ จึงรู้กันทั่ว

“รู้สิครับ ก็ผมเป็นคนที่แฟนคุณแอบถ่ายภาพ ไว้ในกล้องนี้... ในกระเป๋าน่ะ” เขาหยุดเว้นจังหวะการพูด เพื่อดูอาการหญิงสาวว่าจะแก้ตัวอย่างไร

เมลดาได้ยินอย่างนั้นก็อึ้ง พยายามตั้งสติคิดตาม... ‘ปาปารัซซี่งั้นหรือ แล้วพี่ชาปลีกตัวไปแอบถ่ายชาวบ้านเขาตอนไหนล่ะเนี่ย?’ เธองงไปหมดแล้ว ชอบทำอะไรไม่ปรึกษา เดือดร้อนกันไปตามๆ กัน

“นะ... นั่นพี่ชา... เพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่แฟน พี่เขาเพิ่งมาช่วยงานฉัน”

‘ไม่รู้อะไรจริง ยังจะพูดอีก’

“เอาเถอะ... จะยังไงก็ช่าง! ส่งเมมโมรีการ์ดมาได้แล้ว ผมไม่อนุญาตให้คุณเอาภาพผมไปเผยแพร่เด็ดขาด” เสียงเขาจริงจัง ฟังดูดุดันอย่างยิ่ง

“คุณเป็นใครกัน! แล้วทำไมฉันต้องให้สิ่งนี้กับคุณด้วย”

“ผมขอร้องดีๆ เพราะถ้าเป็นเพื่อนผม มันจะไม่ขอคุณดีๆ แบบนี้ เพราะในร้านของเพื่อนผมถือเป็นสถานที่ส่วนตัว การที่คุณแอบถ่ายดาราแบบนี้ ก็ผิดกฎมากพอแล้ว” เขาขู่ พร้อมขยับร่างสูงโปร่งเบียดเข้ามาใกล้หญิงสาวมากยิ่งขึ้น ทำเอาเมลดาถอยหลังพิงกำแพง

เขาเข้าใกล้... จนแทบจะหายใจรดต้นคอได้อยู่แล้ว

“คืนให้ผมซะดีๆ อย่าให้ต้องบังคับ” เขาพูดเสียงเรียบเฉย พลางถอดแว่นตาดำที่ใส่เพื่อปกปิดใบหน้าที่แท้จริงมาตั้งนาน นาทีที่หญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นใคร เมลดายิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่ นิ่งงันเหมือนต้องคำสาป

ซุปเปอร์สตาร์เกาหลี!

“ว่าไงครับ” เขาทวง “จะคืนได้หรือยัง?” แม้จะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หากในประโยคฟังดูแสนคุกคาม

จนหญิงสาวยอมจำนน ควักกล้องถ่ายรูปของชาตรีขึ้นมา แล้วส่งคืนให้เขา

“แต่ว่า.. มันไม่ได้มีแต่รูปคุณนี่นา มันไม่ยุติธรรมกับคนทำงานนี่ มันอาจมีงานที่พี่ชาถ่ายไว้เยอะแยะและกองบรรณาธิการรองานอยู่”

“งั้น.. ผมเอาไปลบรูปผมออก เสร็จแล้วจะรีบส่งคืนให้” เขายังมีน้ำเสียงเรียบเฉยไม่แคร์ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง

“แต่ว่าตอนนี้ คนของคุณคงกำลังทำร้ายพี่ชาอยู่ คุณได้สิ่งที่ต้องการไปแล้ว ช่วยบอกให้คนของคุณหยุดทำตัวนักเลงกร่างใส่คนของฉันบ้างได้แล้ว” เมลดาฉุนใส่ขอออกคำสั่งบ้าง

“ที่คุณถอดมาให้ผม ผมชักไม่แน่ใจว่ามันใช่รูปทั้งหมดที่เพื่อนคุณถ่ายไว้รึเปล่า ส่งมาทั้งกระเป๋านั่นล่ะ” เขาสั่งเสียงเข้ม

“เอ๊ะ คุณนี่ยังไงนะพี่ชาเขาไม่มีการ์ดสำรองหรอก ฉันรู้นิสัยเขาดี อีกอย่างคุณยังไม่ดังมากมายอะไรในเมืองไทยหรอก ลงข่าวไปไม่รู้จะขายได้รึเปล่าเลย อย่ามาทำนิสัยอย่างนี้นะ” เมลดาแว๊ดเสียงใส่ จะด้วยความรำคาญรึก็ใช่ เขาเห็นท่าทางดุดันของหญิงสาวก็อดขำไม่ได้จึงแกล้งเบียดตัวเข้ามาใกล้จนเธอถอยหลังร่นไปอีกจนล้มลงแทบหงายหลังดีที่เขาคว้าร่างบางไว้ทัน

“นี่.. นายจะทำอะไรเนี่ย”

“ก็เห็นอยู่ว่าคุณจะล้มลงหงายหลังนี่ผมช่วยคุณไว้นะ ไม่ได้อยากจะแตะต้องตัวคุณนักหรอก ดุยังกะอะไร” เขาว่าท่าทางยียวน

“...” เมลดาเงียบ อึ้งกำลังคิดว่าจะจัดการยังไงกับตัวเอง

“เกิดอะไรขึ้น?” เขาถามมือที่หนึ่งก็ประคองร่างบางไว้ มืออีกข้างที่ถือการ์ดความจำอยู่ก็ล้วงเข้าไปเก็บในกระเปากางเกง

“รองเท้าชั้น... โธ่! ดูสิส้นมันหักน่ะ” เมลดาตอบเสียงเบาใจรึก็อยากร้องไห้ทั้งเสียดายทั้งเจ็บใจ คำตอบทำให้เขาหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

“หัวเราะเยาะชั้นเหรอ? ก็เพราะคุณนั่นแหล่ะ” เมลดาโวยวายป้ายความผิด ดูซิแล้วจะเดินกลับไปหาพี่ชายังไงล่ะเนี่ย ป่านนี้โดนอัดหน้ายุบไปแล้วมั้ง “คุณได้ของไปแล้วก็โทรไปห้ามคนของคุณซี่ ว่าอย่าทำอะไรพี่ชา หยุดกันได้แล้ว” เมลดายังโวยวายเสียงดังได้อยู่

“โอเคๆ” ว่าแล้วเขาก็ต่อมือถือถึงปลายสาย “ปุณณ์นะ ชั้นได้เมมการ์ดแล้ว ไงก็อย่าเพิ่งซ้อมหมอนั่นล่ะ กำลังจะกลับเข้าไปแล้ว พร้อมสาวสวย” เขาวางสายสายตาก็เจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่ม ทำเอาเมลดาอดไม่ได้ที่จะด่าในใจซะให้สา “มองหน้าชั้นทำไมอีตาตี๋บ้า หน้าชั้นเหมือนญาติแดนกิมจินายนักรึไง”

“โอ๊ย.... แล้วนี่ชั้นจะเดินยังไงล่ะเนี่ย?” หญิงสาวโวยวายร้องลั่นทำเอาคนแถวนั้นต้องหยุดมองแต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะคงแฟนคู่รักหนุ่มสาวที่เง้างอนกันปกติทั่วไป

“เอางี้” เขาเสียสละด้วยการถอดรองเท้าผ้าใบออกให้หญิงสาวใส่พลางๆระหว่างทางที่ต้องเดินกลับไปที่ร้านสถานบันเทิงที่เกิดเรื่อง

“ไซค์มันใส่ด้วยกันได้ที่ไหนเล่า ดูเท้าคุณสิ” ยังไม่เลิกโวย

“ก็ดีกว่าคุณเดินเท้าเปล่านี่ รึอยากจะให้ผมอุ้ม” เขาไม่เลิกกวนประสาท เมลดารำคาญถอดรองเท้าส้นสูงของตัวเองที่ข้างหนึ่งส้นหักไม่มีชิ้นดีแล้วก็สวมเท้าเรียวบางที่ขนาดเล็กเหลือเกินเข้าไปในรองเท้าของเขา แต่มันก็พอเดินได้แต่ไม่คล่องนักเพราะมันหลวมและเหลือ จากนั้นเขาก็ก้มลงหยิบรองเท้าของหญิงสาวขึ้นถือให้ ส่วนเขาดีที่มีถุงเท้าอีกชั้นเดินระหว่างตรงนี้กลับไปร้านก็คงไม่ทำให้เจ็บเท้าเท่าไหร่

“อย่าคิดนะ ว่าทำแค่นี้ฉันจะหายโกรธคุณน่ะ”

“งั้นต้องทำไงอีกล่ะถึงจะพอ กระชากกล้อง ทำลายกล้อง เหมือนดารานักร้องคนอื่นทำกับนักข่าวรึ?”

“คุณมีความคิดอย่างนั้นเหรอ? ก็ลองสิชั้นจะอัพรูปของคุณขึ้นทวิตเตอร์ให้มันเป็นข่าวนาทีนี้เลย” เมลดาขู่ฟ่อ

“นั่นไง คุณก็แอบถ่ายผมไว้เหรอ”

“นี่ อย่าเข้ามาใกล้นะ ไม่งั้นชั้นอัพโหลดขึ้นทวิตเตอร์แน่ๆ ไว้ถึงร้านแล้วแน่ใจว่าพี่ชาปลอดภัยไม่น่วมหน้ายับล่ะก็ชั้นถึงจะลบรูปคุณ” เมลดาเสียงเข้มเข้าขู่มือรึก็ชูมือถือแบล็คเบอร์รี่เป็นหลักฐานว่าจะทำจริง มีที่ไหนล่ะอีตาบ้าเอ๊ย ชั้นก็ขู่ไปงั้นแหล่ะ เมลดาบ่นในใจส่วนเท้ารึก็เดินตามต้อยๆ พี่ชานะพี่ชาจะปาปารัซซี่แอบถ่ายดาราก็ไม่บอกไม่กล่าวไม่ปรึกษา ดูสิให้เขาตามล่าได้ อีตานี่มันนักร้องซุปเปอร์สตาร์เกาหลี สังกัดเขาถนอมยังกะไข่ในหิน ช่างไม่รู้อะไรเล้ย.... พี่ชา!!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ภัคร์ภัสสร

ข้อมูลเพิ่มเติม
นางฟ้าบนเตียง

นางฟ้าบนเตียง

โรแมนติก

5.0

คริญาไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยในท่าทีหวงก้างของพศุตม์ เธอรู้ว่า... ในสถานการณ์ที่เธออยู่ในสระว่ายน้ำเย็นฉ่ำในเวลานี้ ผู้ปกครองหนุ่มจะต้องโจนจ้วงตามลงมา ดวงใจสาววัยแรกแย้มเต้นตูม ด้วยความรู้สึกหวั่นไหว แม้รู้ดีแก่ใจว่า ชายหนุ่มคือของต้องห้ามและจะแสลงใจจนเจ็บปวดในวันหนึ่ง เพราะพศุตม์เคยยื่นคำขาดว่า... เขาไม่ชอบเด็กน้อยกะโปโลอย่างเธอ และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพราะเธอกล้าเล่นกับไฟยั่วยวนเขา เขาจะไม่มีวันรับผิดชอบ! . ‘คำสั่ง’ จากปากเขามันคือคำเตือนจากผู้ชายอันตราย . เขารวบตัวเด็กในปกครองเข้ามาสวมกอดแน่นราวจะสูญเสีย ความร้อนซ่านกำซาบไปทั้งเรือนกายสาว ส่วนเปลือยสวยสัมผัส แนบชิดแทบทุกส่วนสัดของกายแกร่ง แม้ร่างทั้งสองที่โอบล้อมไปด้วยความเย็นเยียบของสายน้ำ แต่การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวพริ้วพรายตามกระแสน้ำก็ก่อให้เกิดไอความรุ่มร้อนระบายอยู่ในน้ำและพยุงสองร่างให้รู้สึกวาบหวิวแผ่ซ่านถึงกัน... เด็กสาวแรกรุ่นหัวใจเต้นโครมคราม วาบหวิวเมื่อผู้ปกครองหนุ่มประกบริมฝีปากร้อนแรงลงมา ดูดดื่มริมฝีปากสวยอิ่มตึง คริญาตอบสนองจูบเร่าร้อน สอดลิ้นยั่วเย้าให้เขากระดกลิ้นร้อนฉ่าตามมาพัวพัน ร่างเล็กบดเบียดส่วนอิ่มเต็มตึงที่สวยสล้างยั่วยวนสายตาเข้าใกล้แผงอกแกร่งกำยำที่ระบายไปด้วยปอยขนนุ่มกลางอกแกร่งของเขา สร้างความเซ็กซี่ชวนสะท้านยามจ้องมอง เขาบดจูบหนักหน่วงร้อนแรงจนคริญาคราง ไอร้อนสวาทกำลังก่อตัวใต้สายน้ำเย็นฉ่ำ “...” “ฉันต้องได้เธอ... คริญา”

มหาศาลการรัก

มหาศาลการรัก

โรแมนติก

5.0

"ชลิดา" เป็นเด็กสาวที่โชคร้าย ครอบครัวทิ้งเธอไปไม่ลา เหลือเอาไว้แต่เธอคนเดียว กับชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างท่ามกลางอันตรายที่มองไม่เห็น ทิ้งไว้กับปริศนาว่าเธอและครอบครัวผิดอะไร ในวันที่เหมือนชีวิตเจอฝันร้าย คนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย กลับเป็น 'เขา' ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ศิวะจะพูดดีกับเธอ ฉากหน้า เย็นชา ปากร้าย เจ้าอารมณ์และแสดงท่าทีรังเกียจเธอ "ศิวะ" แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดชลิดา เพียงเพราะหล่อนเป็นคนรักของพี่ชายเขา ที่รอวันตกกระป๋อง เขาอยากให้เธอเลิกรากับพี่ชาย เลิกยุ่งกับคนมีเจ้าของ มันไม่ใช่เพราะศิวะเกลียดชลิดาหรอก แต่เพราะเขารักหล่อนเสียเอง แต่กลับแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงในใจ คนสองคน ที่ฉากหน้าเกลียดชังกัน แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันทุกคน บทสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน... มหาศาลการรัก

พิชญ์รัก

พิชญ์รัก

โรแมนติก

5.0

...เหตุเพราะน้องชายตัวดี ไปมีความสัมพันธ์ต้องห้าม กับศัตรู หัวเด็ดตีนขาด “เธอ” ก็ไม่มีวันยอมให้น้องชายลงเอยกับลูกสาวของตระกูลที่เคยดูถูกเธออย่างไม่มีดี . ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ หากไม่เพราะ “เขา” ทายาทหนุ่มเสเพลของบ้านนั้น ที่ซ้อนแผนเอาคืนเธอ ทำเอางานนี้ เจ้าหล่อนจะต้องเลือกว่าจะยอมให้น้องชายได้ลงเอยในเรื่องความสัมพันธ์ หรือจะจนมุมไปกับจอมวางแผนที่ตนก็เพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้ว.... เขาช่างเจ้าคิดเจ้าแค้น และต้องการเอาชนะเธอมาตั้งแต่ต้น โดยมี “เรือนร่าง” เธอเป็นเดิมพัน +++++++++++++++++++++++++++++++ “ปล่อยฉันไปนะ นี่คุณเล่นบ้าอะไร?” “เล่นบ้าอะไรงั้นเหรอ... ก็เล่นผัวเมียกันยังไงล่ะ” “คนบ้า! มันใช่เวลามาล้อเล่นแบบนี้มั้ย ปล่อยฉันไปนะ!” “เล่นผัวเมียกันจริงๆ มีลูกด้วยกันจริงๆ สักคนสองคน” “คนบ้า เล่นไปคนเดียวเถอะ” “มีลูกกับผม คุณจะได้รู้... ความรู้สึกที่โดนพรากลูกพรากแม่มันเป็นยังไง” “เลว! นรกขุมไหนส่งคุณมาเกิดกัน คนบ้า!” สิ้นเสียงเล็ก จูบร้อนแรงถูกบดขยี้ลงมาอย่างร้ายกาจ เชลยในอ้อมกอดไม่อาจขัดขืนเขาได้แม้แต่น้อย หญิงสาวรู้ตัวดีว่า จุมพิตนี้หาใช่เกิดจากความรัก หากเขาต้องการแค่เพียงลงทัณฑ์เธอ... “คุณ... ไม่นะ พราวไม่อยากท้อง!” หญิงสาวบ่ายหน้าหนีจนหลุดพ้นพันธนาการจุมพิตร้าย ก่อนวอนขอ... “ไม่ทันแล้วครับ คุณต้องท้องและรับรู้ความเจ็บปวดว่าการถูกพรากลูกมันเป็นยังไง” “คนเลว... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” “ถ้าปล่อย... ก็ยังไม่หายแค้นน่ะสิครับ” ถ้อยคำนั้นแสนธรรมดา หากเจือแววเยือกเย็นพร่าผลาญใจ ส่งให้เชลยสาวในอ้อมกอดรู้สึกหนาวยะเยือกกับสิ่งที่ต้องเจอนับจากนี้....

โซ่เสน่หาบัญชาหัวใจ

โซ่เสน่หาบัญชาหัวใจ

โรแมนติก

5.0

ดูเหมือนโชคชะตาของ ‘รินรุ้ง’ จะไม่มีวันหนีพ้นจากความวุ่นวายได้ ตอนที่ยังเป็นพนักงานขาย ของรีสอร์ตที่ไทย ก็ต้องคอยรองรับอารมณ์ของลูกค้า พอหนีมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่สเปน ก็ยังไม่วายต้องสู้รบตบมือกับเด็กหญิงจอมแก่แดด ผู้หวงบิดายิ่งกว่าจงอางหวงไข่ และพร้อมจะใช้ความแสบป่วนหัวผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดพีก เพราะลูกสาวที่ว่าร้าย ยังร้อนแรงไม่ถึงครึ่งของตัวพ่อ งานนี้หญิงสาวคงต้องลงทุนลงแรงอย่างหนัก เพื่อหาทางกำราบสองพ่อลูกให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของเธอจะกลายเป็นการตกนรกทั้งเป็น ‘เซคิโอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ’ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐีชาวสเปน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงลึกลับที่เขาขโมยจูบเธอในเรือนร้างกลางสายฝน จะกลายเป็นคนเดียวกันกับพี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาว ที่สำคัญ เขาเคยคิดว่าการขย้ำ ‘ลูกแกะน้อย’ ที่หลงเข้ามาใน ‘รังหมาป่า’ คงเป็นเรื่องง่าย หากตัวอุปสรรคสำคัญที่ชายหนุ่มต้องจัดการเป็นอันดับแรก ถ้าคิดจะเคลมรินรุ้ง ก็ไม่ใช่อื่นไกล แต่เป็น ‘ลูกหมาป่าตัวน้อย’ ของเขานั่นเอง “เจ็บ” พูดเสียงเครือ “ไหนดูซิ” เซคิโอพุ่งพรวดเข้าไปหา ก่อนจะคุกเข่าลง มองเลือดที่ไหลซึมออกจากเท้าเธอ “กลับห้องก่อน อยากเลือดทะลักหมดตัวหรือไง” เขารีบอุ้มเธอขึ้น น้ำเสียงลนลานเป็นห่วงเจือบงการ “เรื่องของฉัน เลือดนี่มันก็เลือดฉันนะ!” เธอเถียง ที่เจ็บอยู่แบบนี้ เพราะเขาไม่ใช่หรือไง “อย่าดื้อสิ... แต่ถ้าเธออยากเลือดออกจริงๆ ล่ะก็ ฉันมีวิธีที่เจ็บน้อยกว่านี้นะ จะเอาไหม” ++++++++++++++++++++++++++++ เพราะถูกปลดกลางอากาศ ทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆ รินรุ้ง หงสกรพงษา จึงตัดสินใจรับข้อเสนอไปทำงานสบายๆ ที่สเปน ตามบัญชาของแม่เลี้ยง หากเธอไม่เคยรู้เลยว่า นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต! . โฉมหน้าสุภาพบุรุษมหาเศรษฐีทายาทสายการบินที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เจ้าของตำแหน่งสุดยอดหนุ่มในฝันหลายปีซ้อนที่สาวน้อย สาวใหญ่ต่างคลั่งไคล้มาตลอด แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ฉากหน้าราวเทพบุตรนั้น เซคิโอ เดอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ ได้ซ่อนคราบซาตานร้ายเอาไว้อย่างมิดชิด หัวใจเขาปิดตายนานกว่าแปดปีหลังสูญเสียคู่หมั้นสาวที่เขารัก มันถูกเปลี่ยนเป็นความแค้นรอวันสะสาง และเมื่อ... ‘ลูกแกะตัวน้อย’ ติดกับดักมาให้เขาแก้แค้น . . กลับกลายเป็นว่า เจ้าหล่อนคือหญิงสาวคนเดียวกันที่ขโมย ‘หัวใจ’ ที่เคยเหี่ยวเฉาของเขาไป เพียงเพราะจุมพิตดื่มด่ำไร้เดียงสา ในค่ำคืนแห่งโชคชะตา ที่เขายากจะลืม!

ผู้หญิงของมาเฟีย Season 2 ตอน มาเฟียพิสูจน์รัก

ผู้หญิงของมาเฟีย Season 2 ตอน มาเฟียพิสูจน์รัก

โรแมนติก

5.0

อัลโตนิโอ มาโอริโอ มาเฟียหนุ่มที่โลกของเขาไม่มีพื้นที่ไว้สำหรับ “ความรัก” หากเพียงนาทีแรกที่เขาสบประสานดวงตากลมโตน่าค้นหาคู่นั้น มาเฟียหนุ่มจึงได้รู้ว่าอาการ “ตกหลุมรัก” ที่ทาบทอลงบนหัวใจกร้าวแกร่ง เย็นชา นั้นเป็นเช่นไร... ทุกอย่างดูเหมือนจะไร้คำว่า “อุปสรรค” หากไม่ติดตรงที่ ‘เธอ’ เป็นลูกสาววัยใสที่เข้ามาในชีวิตเขาแบบไม่ตั้งใจ ...บทพิสูจน์รักของมาเฟียหนุ่ม จึงไม่ใช่เส้นทางอันราบเรียบนัก หากเขายินดีฝ่าฟัน ไม่ว่าปราการนั้นจะเป็นหัวใจของหญิงสาวหรือแม้แต่ศัตรูหัวใจอย่างสายลับหนุ่มเจ้าเสน่ห์น่าขัดใจ เพื่อดื่มด่ำความหอมหวาน เร้าใจและร้อนแรงแห่งรักแท้... เพราะเธอคือผู้หญิงของเขา ‘ผู้หญิงของมาเฟีย’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Ellary Delossa
5.0

หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ