Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หวงรัก (เมียวัยเยาว์)

หวงรัก (เมียวัยเยาว์)

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
102.2K
ชม
115
บท

เธอต้องแต่งงานกับเขาก่อนพี่ชายสิ้นใจ เขาจึงกลายเป็นสามีและครูพละที่สอนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และทุกอย่างเป็นความลับ!!!

บทที่ 1 1

สามีของฉันเป็นครูพละ

“โอ๊ย!” เบอร์รีหรือบัณฑิตาร้องด้วยความเจ็บเมื่อลูกวอลเลย์บอลมากระแทกกับใบหน้าเข้าอย่างจัง

“โทษทีเบอร์รี ทำไมแกไม่รับลูกล่ะ” ปันปันหรือปณิตาเอ่ยถามเพื่อนรัก พลางเดินมาดูอาการของเพื่อน

“เจ็บ” บัณฑิตาไม่ตอบว่าทำไมไม่รับลูก แต่ลูบหน้าตัวเองไปมา และมันก็กำลังแดงก่ำ

“แกมัวแต่มองอะไรของแก” ปณิตาหันไปมองตามสายตาของเพื่อนก่อนที่จะตาโต

“แกมองครูกายอยู่เหรอ”

“ฉันน่ะเหรอจะมองครูจอมขี้เก๊กนั่น ไม่ได้มองเสียหน่อย”

“มันชักจะยังไง ๆ แล้วสิ” ปณิตากระแทกไหล่เพื่อนรัก ในคาบนี้เป็นวิชาพละศึกษา โดยกายสิทธิ์หรือครูกายเป็นคนสอนวอลเลย์บอลให้ชั้นเรียนของเธอ

“ยังไงยังไงคือยังไงเหรอ” คนถามกัดปากตัวเองเบา ๆ กลัวเพื่อนรู้ความลับของเธอกับกายสิทธิ์เข้า

"ก็ยายส้มจี๊ดยังไงล่ะ ดูสิให้ครูกายสอนตัวเองอยู่คนเดียว เสนอหน้าสุด ๆ” บัณฑิตามองตามสายตาของเพื่อนรัก ก็เห็นว่ากายสิทธิ์กำลังช่วยจับบอลและจัดท่าให้ส้มจี๊ดหรือสารภีอยู่

“เขาคงอยากสอนส้มจี๊ดกระมัง” คนพูดกัดปาก อยู่ในโรงเรียนเช่นนี้เธอจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่ากายสิทธิ์คือสามี

บ้าจริง!

มีผัวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย เพราะพี่ชายของเธอที่จากโลกนี้ไปแท้ ๆ

แต่ในเวลานั้นเธอกับกายสิทธิ์ต้องรับปากคนใกล้ตาย

พี่ชายเข้าช่วยเหลือกายสิทธิ์เอาไว้ เลยทำให้โดนยิงตาย แต่กายสิทธิ์เองก็เข้าช่วยพี่ชายเอาไว้ จากพวกทวงหนี้ของพี่ชายเช่นกัน พวกทวงหนี้โหดจากโต๊ะพนันบอล

ในช่วงที่กำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย พี่ชายของเธอก็ฝากเธอเอาไว้กับกายสิทธิ์ และขอให้แต่งงานกันด้วย ทั้งเธอและกายสิทธิ์ไม่อยากรับปาก แต่คนใกล้ตายกำลังจะสิ้นใจ เพื่อให้นอนตายตาหลับ เธอกับเขาเลยต้องรับปากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

งานศพจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเพราะเธอกับพี่ชายเป็นกำพร้า พ่อแม่ตายหมดแล้ว ทิ้งบ้านเอาไว้หนึ่งหลัง ซึ่งโดนยึดไปเรียบร้อยแล้วเพราะพี่ชายติดหนี้พนันบอลเป็นจำนวนเงินค่อนข้างมาก

กายสิทธิ์ที่มีบ้านใกล้กันจึงต้องรับเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน เขามีพี่น้องหลายคน ต่างแยกย้ายกันไปทำงานยังจังหวัดต่าง ๆ เหลือเพียงเขาอยู่บ้านเพียงคนเดียว บิดามารดาของเขาก็เสียชีวิตไปหมดแล้วเช่นกัน

เธอไม่คิดว่าเขาจะถือเป็นจริงเป็นจังกับการแต่งงานที่พี่ชายของเธอขอร้อง แต่ที่ไหนได้ เขาโทรศัพท์ไปบอกข่าวว่าจะแต่งงาน ให้พี่ ๆ กลับมาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ เมื่อทำการผูกข้อไม้ข้อมือกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปทำงานของตัวเอง ทิ้งเธอเอาไว้กับเขา ดังนั้นก็จะมีเพียงญาติพี่น้องของเขาเท่านั้นที่รับรู้ ว่าเธอกับกายสิทธิ์เป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ก็เป็นสามีภรรยากันในนามเท่านั้น กายสิทธิ์รับปากว่าจะไม่ล่วงเกินเธอให้มัวหมอง หากเธอไม่ยินยอมพร้อมใจ

การย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก เพราะปกติก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าใด เพื่อนพี่ชายคนนี้ขี้เก๊กจะตายไป แถมยังพูดน้อย เย็นชา หน้าตึง เคร่งขรึม ไว้ตัว เสียเหลือเกิน

เสียงกริ่งดังขึ้น ทำให้บัณฑิตาหลุดจากภวังค์ความคิด หมดคาบแล้วแต่เธอยังคิดเรื่องกายสิทธิ์อยู่แบบนั้น

โรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านแต่ก็ไม่ใกล้นัก เมื่อก่อนเธอขับมอเตอร์ไซค์มาเรียนด้วยตัวเอง ตอนนี้เธอก็ยังทำแบบนั้น จะให้นั่งรถมากับกายสิทธิ์โรงเรียนได้แตกแน่ ๆ

ทำไมน่ะเหรอ ก็เขาเป็นครูพละเนื้อหอมอย่างไรเล่า มีครูสาว ๆ ในโรงเรียนทอดสะพานให้ไม่ขาด ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แถมเด็กนักเรียนมัธยมปลายก็แก่แดดเหลือเกิน อ่อยกายสิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น

ชิ! หมั่นไส้พวกคนเนื้อหอมนัก

จริง ๆ การขับรถกลับบ้านก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวอะไรนักหรอก เพราะเขาขับตามเธอมาด้วย

เธอขับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นเก่า ๆ ของพี่ชาย ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นบิดามารดา ในขณะที่กายสิทธิ์ขับบิ๊กไบค์ราคาแพงลิ่ว

เป็นแค่ครูพละไม่ได้รวยขนาดนี้หรอก แต่เพราะมรดกที่บิดามารดาของเขาทิ้งเอาไว้ก่อนตาย หลังจากแบ่งกับพี่ ๆ เท่า ๆ กัน โดยพี่น้องทุกคนรักกันไม่แย่งสมบัติหรือทะเลาะกันเรื่องสมบัติเลยสักนิด กายสิทธิ์สามารถอยู่ได้อย่างสบายโดยที่ไม่ต้องทำงานเลย

พ่อแม่ของเธอก็ทิ้งเงินมรดกเอาไว้พอสมควร แถมด้วยบ้านอีกหนึ่งหลังให้เธอกับพี่ชายอยู่ แต่พี่ชายดันไปติดการพนัน ชีวิตของเธอถึงได้เป็นแบบนี้ ต้องมาอาศัยคนอื่นเขาอยู่ ยิ่งเธอไม่ได้ชอบหน้าเขาเท่าใดนัก เลยทำให้อึดอัดอยู่มาก

บัณฑิตาถึงบ้านก็ถอนใจด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ จบสิ้นกันเสียทีการเรียนในสัปดาห์นี้

เธอทิ้งตัวแผ่หลาลงบนเตียงอย่างมีความสุข แต่เสียงดุ ๆ ของกายสิทธิ์ก็ทำให้เธอต้องรีบดีดตัวขึ้นจากที่นอนในทันที

“กลับมาจากโรงเรียนแทนที่จะรีบอาบน้ำ กระโดดขึ้นเตียงในชุดพละแบบนั้น ไม่เหม็นเหงื่อรึไง” เขาเข้มงวดพอสมควร เหมาะกับการเป็นครูพละจอมหยิ่งและไว้ตัวเสียเหลือเกิน

เขายกห้องให้เธอหนึ่งห้องทำให้เธอค่อนข้างเป็นส่วนตัว แต่สามีในนามของเธอคนนี้ก็ยังวางมาดครูพละจอมเนี๊ยบเข้ามาสำรวจห้องของเธออยู่เสมอ อะไรไม่เรียบร้อยเธอก็โดนบ่นหูชา

เขาเป็นผู้ชายที่สะอาดสะอ้าน ข้าวของในบ้านจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย ในขณะที่เธอไม่มีความเรียบร้อยเอาเสียเลย อาจเพราะว่าพี่ชายไม่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอก็เลยติดนิสัยนั้นมาด้วย

“เหนื่อย ขอนอนพักแป๊บไม่ได้เหรอคะ” บัณฑิตาทำหน้างอ

“นอนได้ แต่พรุ่งนี้เอาที่นอนไปซักด้วย เอาตัวเหม็น ๆ เต็มไปด้วยเหงื่อไปคลุก สกปรก!” เขาทำเสียงดุเข้ม ทำท่าจะเดินออกจากห้อง ก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างหล่นอยู่บนพื้น

บัณฑิตาตาเหลือก เด็กสาวรีบตะเกียกตะกายลุกจากเตียงไปเก็บกางเกงในตัวน้อยที่ม้วนเป็นเลขแปดซ่อนเอาไว้ทางด้านหลังด้วยใบหน้าร้อนผ่าว

ใบหน้าของกายสิทธิ์แดงก่ำ หันมามองร่างน้อยที่ยืนก้มงุดอยู่ไม่วาง หลังจากนั้นบัณฑิตาก็หูชา รีบพยักหน้ารับค่ะ ๆ ไม่มีการเถียงเลยสักคำ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
เล่ห์กลมนตร์กามเทพ

เล่ห์กลมนตร์กามเทพ

โรแมนติก

5.0

เพราะเขาคิดว่าน้องสาวของเขาหนีตามน้องชายของเธอไป เขาจึงมาจับตัวเธอไปเพื่อกดดันให้น้องชายของเธอพาน้องสาวของกลับมา แถมยังบังคับให้เธอเลี้ยงหลานคนเดียวของเขาอีก แต่คนอย่างเธอหรือจะยอมให้ใครกดขี่ข่มเหงได้ง่าย ๆ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "นี่คุณปล่อยฉันนะ" "เธอว่าน้องสาวของฉันใจง่ายใช่ไหม" "ก็มันเรื่องจริง น้องคุณใจง่ายท้องกับใครก็ไม่รู้ มากล่าวหาน้องชายของฉัน" เธอโต้ตอบกับเขาปากคอสั่นระริก "เธอนี่มันปากดีไม่เลิก" "ฉันต้องพูด ไม่อย่างนั้นคุณก็จะเอาความผิดทั้งหมดมาโยนให้ฉันแบบนี้ น้องคุณไปนอนกับใครจนท้อง ก็ไม่รู้ แล้วคุณก็มาด่าฉัน โกรธฉัน เกลียดฉัน มันใช่เหรอ น้องคุณไปนอนกับใครฉันไม่ได้ตามไปดูใต้เตียงนะ คุณเองล่ะตามดูน้องคุณไหม ก็ไม่ได้ตาม ถ้าตามไปจริง ๆ ก็คงห้ามไม่ให้ไปเอากับใครจนท้อง" "นี่เธอ!" เวคินโกรธจนตัวสั่น "ฉันพูดเรื่องจริง" "หุบปาก!" "ทำไมถึงทำเป็นรับไม่ได้ นี่คือเรื่องจริงล้วน ๆ ฉันทำงานอยู่ดี ๆ ทำมาหากินสุจริต เลี้ยงน้องมาด้วยลำแข้ง ลำบากก็ไม่เคยบ่นเพราะพ่อแม่ตายหมด จู่ ๆ คุณก็สั่งคนไปจับตัวฉันมา จะให้ฉันรับผิดชอบยังไง ถ้าเขาไปทำอะไรกันจนท้องจริง แล้วฉันจะทำอะไรได้ ฉันไม่ใช่เหาฉลามนะ จะได้ว่ายน้ำตามไปส่องดูเขาอยู่ตลอดเวลา" "อยากตายมากนักใช่ไหม" เวคินโกรธจนตัวสั่น "ทำไม ฉันพูดเรื่องจริงทำเป็นรับไม่ได้" "เธออยากตายใช่ไหม มานี่เลย" เวคินโกรธจนตัวสั่น ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครเคยด่าว่าเขาแบบนี้มาก่อน "นี่คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" เธอกรีดร้องอย่างตกใจ!!!

ซีรีส์คู่หมั้นไร้ราคา

ซีรีส์คู่หมั้นไร้ราคา

โรแมนติก

5.0

เธอยอมเป็นคู่หมั้นลับ ๆ ไม่เปิดเผยสถานะตลอดระยะเวลาสามปี เธอยอมเขาทุกอย่างเพราะความรัก แม้ปู่ของเขาจะไม่ชอบเธอก็ตามที จนกระทั่งเขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี เมื่อสถานะจากคู่หมั้นกลายเป็นคู่หมั้นไร้ค่าไร้ราคา ยอมทอดกายให้เขาเชยชมง่ายดาย แล้วพร้อมที่จะถูกเขี่ยทิ้งเหมือนของตาย อีกทั้งอนาคตสถานะของเธอก็คือเมียน้อยของผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "อรกลับไปก่อนได้ไหม" ปกมีสีหน้ายุ่งยากใจ ทุกอย่างกำลังจะดีอยู่แล้ว แต่อรอินกำลังจะทำให้มันแย่ลงไปอีก ทำไมนะเมื่อก่อนเธอเข้าใจอะไรง่าย ยอมเขาทุกอย่าง เขาชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ เหตุใดวันนี้เธอถึงได้ดื้อด้านพูดไม่ฟังแบบนี้ "แกตอบมันไปสิตาปกว่าแกรักมันไหม ตอบให้มันตาสว่างว่าแกรักใคร" ปกรณ์กดดันหลานชาย "พี่ยังรักอรอยู่ไหม ไม่สิ พี่เคยรักอรบ้างหรือเปล่า" เมื่อโดนคาดคั้นปกก็สติหลุด บอกให้อยู่เงียบ ๆ กลับเรียกร้องเขาจึงจำต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ "ฉันหรือจะรักเธอ โวยวายเรียกร้องอะไรไม่ทราบ ก็เห็นอยู่ว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับน่านฟ้า" "พี่ปก!" อรอินแทบสติหลุด วูบไปทั้งอก มือเท้าเย็นเยียบไปหมด ความจริงเจ็บปวดกว่าที่จินตนาการเอาไว้เสียอีก "เธอได้ยินแล้วใช่ไหมว่าหลานชายของฉันไม่ได้รักเธอ เธอมันง่าย เขาก็คงนอนด้วยเล่น ๆ ผู้หญิงง่าย ๆ แบบเธอน่ะฉันเห็นมาเยอะแล้ว" "พี่ปกไม่เคยรักอรแล้วมานอนกับอรทำไม" อรอินร้องไห้ออกมาสะอึกสะอื้นจนตัวโยน แววตาปวดร้าวเสียใจ 000 "ขอถามคำนึง" อรอินมองหน้าปก ไม่มีเสียงสะอื้นออกมาจากเธออีก เธอรวบรวมสติที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ใครสมเพชเวทนาอีก "ถามอะไร" ปกมองใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาของเธอ แววตาเจ็บปวดนั้นทำให้เขาปวดใจไปด้วย น้ำเสียงของเธอสั่นเครือจนเขาสัมผัสได้ "ตลอดระยะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันพี่ปกเคยรักกันจริงบ้างไหมคะ" อรอินถามเสียงสั่น "เธออยากรู้จริงๆ น่ะเหรอ" เขาถามกลับ "ค่ะ อรจะได้ตาสว่างสักที" "มั่นใจใช่ไหมว่าทนฟังได้" เขาอยากให้เธอรีบกลับไป ดีกว่ามาทนฟังคำโกหกแสนเจ็บปวดที่เธอจะได้รับจากเขา "พูดมาเถอะค่ะ คงไม่มีอะไรจริงไปกว่านี้อีกแล้ว" "ไม่เคยรัก" ว่าจะไม่ร้องไห้ พอเขาพูดแบบนั้นออกไป เธอก็ร้องไห้โฮออกมา "แล้วพี่ทำดีกับอรทำไม ดูแลอรทำไม" "ฉันหวังในตัวเธอไง ถึงจะได้ยากหน่อยตั้งเกือบสองปี แต่พอได้แล้วเธอก็ยอมฉันมาตลอด ไม่ยากอย่างที่คิดนี่" "นี่คือสิ่งที่พี่คิดเหรอ ฮึก ๆ ฮือ ๆ" อรอินกลับมาสะอื้นอีกครั้ง เธอเหมือนคนบ้า ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ สะอึกสะอื้น ตัวกระตุก ดวงตาแดงก่ำไปหมด

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คลั่งรักร้ายนายวิศวะ

คลั่งรักร้ายนายวิศวะ

วัยรุ่น

5.0

"ไง...หลบหน้าผัวมาหลายวัน" คนตัวโตกดเสียงมาอย่างไม่น่าฟัง ยิ่งเธอขัดขืนเขายิ่งเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือ "ปล่อยนะพี่ริว พี่ไม่ใช่ ผัว..." เสียงเล็กถูกกลื้นหายในลำคอ เมื่อโดนคนใจร้ายตรงหน้าระดมจูบไปทั้งใบหน้า อย่างไม่ทันตั้งตัว ริวถอนจูบออก เสมองคนตรงหน้าอย่างเย้ยหยัน "ผัว...ที่เอาเธอคนแรกหนะ" "พี่ริว..." เจนิสตะเบ่งเสียงด้วยสีหน้าอันโกรธจัด "ทำไม เรียกชื่อพี่บ่อยแบบนี้ละครับ" ริวเอ่ยพร้อมกับสบตาคนตรงหน้าด้วยสายตาดุดัน "คิดว่าคืนนี้เธอจะรอดเหรอ" ริวตะเบ่งเสียงขึ้นมา จนร่างบางถึงกับชะงัก "ปล่อย...นะ คนเลว" ยิ่งเธอต่อต้านเขายิ่งรุนแรงกับเธอมากขึ้น "เอาดิ...เธอตบ ฉันจูบ..." ริวเอ่ยพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาดุดัน

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ