เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
บทที่ 1
ท้องไม่มีพ่อ
ท่ามกลางสติสัมปชัญญะที่ลางเลือน เธอรู้สึกเจ็บตรงกลางระหว่างขา...เจ็บจนน้ำตาไหล แต่พอสักพักความเจ็บก็หายไป กลายเป็นความรัญจวนซ่านเสียว เสียงลมหายใจถี่กระชั้นประสานกันระหว่างเธอกับผู้ชายคนนี้...คนที่มีร่างกายกำยำแข็งแกร่ง เขากำลังขยับร่างกายอยู่บนตัวเธอ เป็นจังหวะที่ทั้งหนักหน่วงและรุนแรง
เธอพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นมองเขา แต่กลับมองไม่ชัดเพราะไฟที่ปิดสนิท เธอมองไม่เห็นเขาเลย ครั้นนึกไปถึงช่วงก่อนที่จะเข้ามาในโรงแรมหรู เธอก็จำผู้ชายที่มาดื่มกับเธอไม่ได้ หน้าตาเขาเป็นยังไงนะ... สิ่งที่อยู่ในสำนึกเธอคือ...เขาเป็นคนที่หล่อมาก เธอรู้แค่นั้นเอง
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไฟเสน่หาถูกจุดให้ตื่น จวบจนตี 4 ทุกอย่างจึงสิ้นสุดลง เขาผละเข้าห้องน้ำ ในขณะที่เธอนอนหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะสะดุ้ง เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เธอควานมือคว้ามือถือมากดรับสาย
“ค่ะ...อะไรนะคะ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” เธอพูดเสียงสั่น ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่าแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุโดนรถชน !
เธอรีบลุกใส่เสื้อผ้า หัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัว...กลัวว่าจะสูญเสียแม่อันเป็นที่รักไป
เธอหันมองไปทางประตูห้องน้ำ...ผู้ชายคนนั้นอยู่ในห้องน้ำ คนที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ แถมยังจำหน้าไม่ได้อีก รู้แค่ว่าเขาหล่อเท่านั้น แม้บทรักเขาจะตรึงใจแค่ไหน แต่เขาก็เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่บังเอิญมาพบเจอและได้มอบประสบการณ์ระหว่างชายหญิงให้เธอเท่านั้น
ต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ
เธออาลัยอาวรณ์เล็กน้อย ก่อนจะตัดใจ เดินโซเซออกจากห้องโรงแรมสุดหรูไป โดยที่ร่างกายยังคงระบม เธอเดินเซเกือบล้มหลายครั้ง พนักงานโรงแรมเข้ามาประคองแล้วช่วยเรียกแท็กซี่ให้
เป็นครั้งแรกที่เธอเมาจนสูญเสียความเป็นตัวเองได้มากขนาดนี้
เธอรีบไปโรงพยาบาล ผู้เป็นแม่ยังอยู่ห้องไอซียู ยังให้เข้าเยี่ยมไม่ได้ เธอจึงนอนที่เก้าอี้ยาวหน้าห้องผู้ป่วยหนัก วูบหลับไปด้วยฤทธิ์น้ำเมาและความอ่อนเพลีย มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ในตอนสาย พยาบาลออกมาตามเธอ
“ญาติคุณมะลิคะ รีบเข้าไปพูดคุยกับคนไข้เป็นครั้งสุดท้ายเถอะค่ะ”
ร่างบางลุกพรวด เธอหายมึนเมาแล้ว แต่ปวดหัวตุบๆ รีบลุกไปสวมชุดปลอดเชื้อ ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วเข้าไปในห้อง เธอกลัว...กลัวจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว
คำว่า ‘คุยเป็นครั้งสุดท้าย’ มันหมายความว่าแม่ของเธอไม่มีโอกาสรอดชีวิตอย่างนั้นหรือ
กระบอกตาร้อนผ่าว สองมือกำแน่น เมื่อมายืนอยู่ข้างเตียงที่แม่นอนอยู่ ข้างกายแม่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิต เครื่องวัดออกซิเจนขึ้นเลข 50 ถือว่าอาการแย่มากเลยทีเดียว
“แม่จ๋า แม่อย่าเป็นอะไรนะ...”
มะลิมองลูกด้วยสายตาเป็นห่วง นางพูดอะไรไม่ได้เพราะที่ปากมีท่อช่วยหายใจคาอยู่ ทำได้เพียงค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวที่ซบอยู่ตรงอกเธอไปมาเบาๆ
และนั่นก็เป็นแรงเฮือกสุดท้ายที่เธอมี สัญญาณชีพขึ้นขีดตรง ส่งเสียงเตือนบาดลึกถึงหูผู้ฟัง คุณหมอและพยาบาลพากันรุมล้อมมาดู ช่วยกันปั๊มหัวใจ เธอมองภาพเหล่านั้นอย่างตระหนกและเจ็บปวด ก่อนจะถอยออกมายืนร้องไห้อยู่หน้าห้องอย่างเงียบๆ
ประมาณ 40 นาทีต่อมา พยาบาลก็ออกมาแจ้งด้วยสีหน้าสลด
“ทางคุณหมอพยายามปั๊มหัวใจเป็นเวลา 30 นาทีแล้วค่ะ แต่สัญญาณชีพไม่ตอบสนองเลย ทางเราขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ”
มนตกานต์เบิกตาโพลง ก่อนปล่อยโฮสุดเสียง... วันนี้นับเป็นวันที่เธอได้สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ นับจากนี้ไป เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพังแล้ว !
นับตั้งแต่วันที่สูญเสียแม่ไป ก็ผ่านมา 2 เดือนแล้ว มนตกานต์ทำงานอย่างขยันขันแข็ง แม้ว่าชีวิตจะโดดเดี่ยว และรู้สึกเหงาอยู่บ่อยครั้งก็ตาม เธอคิดว่าหากงานเยอะ ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ เธอจะเบาความคิดมากลงไปได้บ้าง
เธอมีร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นของตัวเอง หากเป็นเมื่อก่อน แม่จะเป็นคนทำอาหาร ส่วนเธอจะเป็นลูกมือ คอยเสิร์ฟและล้างจาน แต่ปัจจุบันเธอต้องทำทุกอย่างเองเพียงคนเดียว
รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วก็เหลือวันละประมาณ 500 – 600 บาท พอเอาตัวรอดไปได้โดยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่นัก
แต่ทว่าช่วงระยะเวลา 3 – 4 วันมานี้ เธอเริ่มมีอาการผิดปกติ เธอคลื่นไส้ และเวียนหัวอยู่บ่อยๆ จึงตัดสินใจไปหาหมอ
คำวินิจฉัยของคุณหมอช่างน่าตกใจ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณกำลังตั้งครรภ์ค่ะ”
เธอนึกว่าตัวเองหูฝาดไปด้วยซ้ำ “เอ่อ...ดูผิดไปหรือเปล่าคะคุณหมอ ฉันนี่นะท้อง” เธอจะท้องได้ยังไงกัน ในเมื่อเธอยังไม่ได้แต่งงาน เอ๊ะ หรือว่า...เป็นเพราะคืนนั้น....
ใช่แล้ว เมื่อ 2 เดือนก่อน เธอโดนแฟนทิ้ง แถมโดนดูถูกว่าเธอมันจืดชืดไร้เสน่ห์ ไม่มีทางที่จะมีผู้ชายคนไหนต้องการได้ เธอแค้นใจจนไปเที่ยวกลางคืนเป็นครั้งแรก และก็ดื่มจนเมา ช่วงที่เริ่มเมาก็มีผู้ชายหล่อๆ เข้ามาทักและดื่มไปด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นสติสัมปชัญญะของเธอไม่เต็มร้อย เธอจึงจำหน้าเขาไม่ได้ รู้แค่ว่าเขาหน้าตาดีเท่านั้น
เขาพาเธอไปพักที่โรงแรม จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินไปตามธรรมชาติ เธอได้เรียนรู้สัมผัสระหว่างชายหญิงเป็นครั้งแรก ซึ่งในคืนนั้น เธอรู้ข่าวว่าแม่โดนรถชนเพราะออกไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับทำก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ตี 4 เธอรีบออกจากโรงแรมไปโรงพยาบาล เสียใจเรื่องแม่ วุ่นวายกับการจัดงานศพ พ้นงานขาวดำแล้วก็ต้องมาทำงานหาเงินงกๆ อีก จนเกือบจะลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเธอเคยมีประสบการณ์สุดพิเศษกับคนแปลกหน้า
เพราะชีวิตที่วุ่นวายเกินไปจนลืมที่จะกินยาคุมฉุกเฉิน
เธอพลาดไปแล้วจริงๆ !
“ท้องแน่นอนค่ะ ตรวจปัสสาวะขึ้น 2 ขีดเข้มๆ แบบนี้ เอาล่ะ เดี๋ยวขึ้นนอนบนเตียงหน่อยนะคะ หมอจะอัลตร้าซาวด์ท้องให้”
“ค่ะ” เธอขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยความคิดที่วุ่นวายและสับสน คุณหมอวัยกลางคน ลุกมานั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง เลิกเสื้อเธอขึ้น ทาเจลลงไป ก่อนใช้เครื่องมือถูๆ ไปมาที่ท้อง
“เจอถุงตั้งครรภ์แล้วค่ะ มีหัวใจแล้วนะคะ โอ๊ะ...มีหัวใจสองดวงค่ะ ดีใจด้วยนะคะ คุณได้ลูกแฝดค่ะ”
มนตกานต์มึนตึ้บ แค่รู้ว่าท้องก็มึนพอแล้ว ยังมาได้ลูกแฝดอีก นั่นแหมายความว่ามี 2 ชีวิตอยู่ในท้องของเธองั้นสินะ
“ลูกแฝดเลยหรือคะ”
“ใช่ค่ะ ส่วนเพศคงต้องรออีกสองสามเดือนนะคะถึงจะรู้ ตอนนี้อายุครรภ์เพิ่งจะประมาณสองเดือนเอง เดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปกินนะ”
“ค่ะคุณหมอ” เธอรับคำเสียงอ่อน ตอนนี้...เธอรู้สึกอยากร้องไห้เหลือเกิน
มนตกานต์กลับมาที่บ้าน เธอไม่ได้เปิดร้านในวันนี้ อยากอยู่เงียบๆสักพัก เพื่อจัดการความคิดของตัวเอง เธอนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง มือลูบท้องที่ยังแบนราบ
ความประมาททำให้เธอพลาด...
แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเด็กสองคนนี้คือของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้เธอ
ต่อไปนี้เธอจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว...
หญิงสาวยิ้มบางๆ เธอจะไม่ทำลายลูก แต่จะปกป้องและเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด
การที่ได้เป็นแม่คน ทำให้เธอมีเป้าหมายชีวิต และจะพยายามทำทุกทางเพื่อให้อนาคตของลูกดีที่สุด
บทที่ 1 ท้องไม่มีพ่อ
18/06/2024
บทที่ 2 ลูกชายฝาแฝด
18/06/2024
บทที่ 3 ได้พบกับพ่อของลูกอีกครั้ง
18/06/2024
บทที่ 4 ปกป้องลูก
18/06/2024
บทที่ 5 ไฟริษยา
18/06/2024
บทที่ 6 ความรู้สึกโดดเดี่ยว
18/06/2024
บทที่ 7 ข่าวลือ
18/06/2024
บทที่ 8 คุณต้องแต่งงานกับผม
18/06/2024
บทที่ 9 อยู่ท่ามกลางศัตรู
18/06/2024
บทที่ 10 คำตอบของลูก
18/06/2024
บทที่ 11 ฉันต้องหนีไปจากที่นี่ !
18/06/2024
บทที่ 12 เพิ่งรู้ว่าเธอและลูกตกอยู่ในอันตราย
22/06/2024
บทที่ 13 เธอถูกขังอยู่ในห้องใต้ดิน
22/06/2024
บทที่ 14 อยากเป็นพ่อที่ดี
22/06/2024
บทที่ 15 ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะจับมือเธอ
22/06/2024
บทที่ 16 กล้าดียังไงมารังแกลูกเมียของผม
22/06/2024
บทที่ 17 ลงโทษคนชั่ว
22/06/2024
บทที่ 18 พิสูจน์หัวใจ
22/06/2024
บทที่ 19 ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียของผม
22/06/2024
บทที่ 20 สารภาพรัก (อวสาน)
22/06/2024
บทที่ 21 บทส่งท้าย
22/06/2024
หนังสืออื่นๆ ของ อักษรสีทอง
ข้อมูลเพิ่มเติม