Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ปราบรักร้ายนายมาเฟีย | พายุ x ชะเอม

ปราบรักร้ายนายมาเฟีย | พายุ x ชะเอม

Aoybabyz

5.0
ความคิดเห็น
16.6K
ชม
79
บท

“ฉันไม่ชอบเธอ! อย่าเข้ามายุ่งกับฉันอีก” “ชะเอมก็ไม่เคยคิดที่จะชอบคนอย่างพี่เหมือนกัน แต่ที่ทำก็เพราะ..”

บทที่ 1 บทนำ

ผับ Storm Night

ชายวัยกลางคนกำลังโดนเหล่าชายฉกรรจ์ชุดดำรุมกระทืบซ้อมจนกระอักเลือดนอนกองจมกองเลือดอยู่บนพื้นห้อง ใบหน้าเหยเกไปด้วยความเจ็บ

“เอามันออกไป!”ชายหนุ่มเจ้าของผับที่ยืนหันหลังให้กับเหล่าชายหนุ่มชุดดำพูดออกคำสั่งเสียงแข็ง

“ครับ”หัวหน้าชายชุดดำขานรับคำของเจ้านาย พร้อมกับโค้งตัวลาและส่งสัญญาณให้กับลูกน้องที่เหลือของเขาพามันออกไป

สายฟ้าชายหนุ่มหน้าตาดีใบหน้าหล่อเหลาก็ได้เดินสวนเข้ามาเจอเข้าพอดี เขาจึงได้ออกปากถามไปยังชายผู้เป็นเจ้าของคำสั่งที่ยืนหันหลังยกดื่มแก้วเหล้าในมืออยู่

“อะไรกันว่ะพี่ ไอ้นี่คือ?”

เขาที่โดนถามจึงได้หันหลังกลับมาแล้วมองดูไปยังสายฟ้าและเริ่มพูดแถลงว่าคนเมื่อกี้มันเป็นใครกัน

“ลูกหนี้กูเอง มันติดหนี้กูอยู่ 5ล้าน”

“อืม แล้วช่วงนี้เป็นไง เห็นเงียบๆไปกูเลยแวะเข้ามาดู พ่อเป็นห่วงมึงไอ้พายุ”สายฟ้าเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาแล้วพูดถามผู้เป็นพี่ออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะช่วงหลังๆพี่ชายของเขาเงียบหายไป

“หึ! ช่วงนี้งานเยอะก็เลยไม่ค่อยได้เข้าไปบ้าน”

เจ้าของผับที่นี่ก็คือ พายุ เขาเป็นลูกชายคนโตของบ้าน จิรกุลชัย มีน้องชาย1คนนั่นก็คือสายฟ้า (จากเรื่องสัญญารักมัดใจเธอ)

เขากับน้องชายอายุห่างกัน 3ปี พวกเขาถูกเลี้ยงดูมาแบบเด็กผู้ชายแมนๆจึงทำให้ทั้งสองรักและสนิทกันเป็นอย่างมาก

“อาทิตย์นี้มึงไปไหนมั้ย? แม่อยากให้พวกเราไปกินข้าวที่บ้าน”สายฟ้าที่พอรู้ถึงสาเหตุแล้วว่าทำไมพี่ชายของเขาถึงได้เงียบหายไปก็พยักหน้ารับรู้และถามและยังบอกเขาไปอีกว่าแม่ต้องการให้พวกเขานั้นเขาไปกินข้าวที่บ้าน

“เดี๋ยวกูดูก่อนก็แล้วกัน แล้วนี่มึงมาหากูแค่นี้?”พายุเจ้าของผับเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ทำงานของเขาและเอ่ยพูดบอกน้องชายตนเองกลับไป

สายฟ้าที่มาหาพี่ชายตนเองด้วยความเป็นห่วงแล้วก็ยังมีเรื่องที่จะพูดถามเขาอีกหนึ่งเรื่องอยู่เหมือนกัน เขาจึงได้เริ่มพูดมันออกมาและจ้องมองไปยังพี่ชายตนเองที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

“มีเรื่องคุยนิดหน่อย มึงจำไอ้แม็คได้มั้ย?”

“ไอ้แม็คที่ติดหนี้พนันบ่อนกูอ่ะนะ ทำไมว่ะ?”เขาลองนึกอยู่สักพักจนเมื่อคิดออกก็เอ่ยถามน้องชายอีกครั้งว่าเพราะอะไรถึงได้ถามหามัน

“กูจะใช้หนี้แทนมัน!!”สายฟ้าจึงได้เริ่มพูดความต้องการของตนเองออกมาอย่างตรงไปตรงมากับพี่ชาย

“มึงเล่ามาเลยดีกว่าว่าเพราะอะไร”พายุรู้ว่าน้องชายต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอนจึงได้เอ่ยปากถามและบอกให้เขานั้นเล่ามาเลยดีกว่า สายฟ้าจึงได้เริ่มพูดอธิบายความต้องการของเขาให้พี่ชายได้ฟังทั้งหมด

พอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของน้องชายตนเองก็ถึงกับหลุดขำออกมา เขารู้นิสัยของน้องชายเป็นอย่างดีว่าถ้าต้องการหรือล็อคเป้าหมายอะไรแล้ว ของสิ่งนั้นจะไม่สามารถหลุดหรือหายไปจากเขาได้ทั้งนั้น

“หึ! คงจะถูกใจมึงมากเลยสินะ ถึงได้ยอมควักตังค์จ่ายหนี้แทนให้ก่อน”

สายฟ้าลอบยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้าของยัยคุณหนูอลิสที่ชอบทำหน้ายู่และชอบหลบหน้าหลบตาเขาแต่ถ้าเขาจะเอาซะอย่างเธอก็ไม่มีทางปฏิเสธเขาได้ เขาเปลี่ยนเรื่องคุยกับพี่ชายตนเองทันทีพาเข้าเรื่องของพี่ชายเฉย

“แล้วมึงล่ะเมื่อไหร่จะมีแฟนสักที นี่พ่อบ่นแล้วนะว่าอยากอุ้มหลาน”

“ข้ามไปรอลูกของมึงได้เลย”พายุจึงรีบบอกออกมาเลยว่าไม่มีทางและอย่ามารอเขาเลยให้ข้ามไปรอน้องชายอย่างสายฟ้าซะจะยังดีซะกว่า

สายฟ้าถึงกับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยินในคำตอบของพี่ชายที่บอกว่าข้ามมารอลูกของตนได้เลย

“มึงนี่นะ เมื่อไรจะเจอคนที่ใช่กับเขาสักที กูยังไม่เคยเห็นมึงเข้าใกล้หรือคบกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย”

“พวกผู้หญิงวุ่นวาย กูไม่ชอบ ขออยู่คนเดียวดีกว่า”

“แล้วกูจะคอยดูว่ามึงจะอยู่คนเดียวไปได้อีกนานแค่ไหน กูกลับก่อนแล้วกัน ไปหาเมียกูก่อน”เมื่อพูดจบสายฟ้าก็ลุกขึ้นยืน ยกมือโบกลาพี่ชายพร้อมกับเดินออกไป

“เมีย เต็มปากเต็มคำเลยนะมึง..ไอ้สายฟ้า”เมื่อเห็นน้องชายพูดเมียออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำเขาจึงรีบพูดตะโกนตามหลังไปติดๆ

ครืด ~ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นระงม

พายุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็กดรับสาย“อืม ว่าไง”

“กูอยู่ที่ร้าน อยากจะเข้าก็เข้ามาได้เลยแล้วไอ้นีโอกับไอ้ขุนพลล่ะ?”

“อือ ตามนั้น กูทำงานก่อน”

สวัสดีครับ ผมพายุ พชรวิชญ์ จิรกุลชัย เป็นเจ้าของกิจการที่นี่ ปีที่ผมก็เข้าอายุ 25ปีแล้ว ครอบครัวของเราเปิดกิจการแบบนี้มานานมากแล้วตั้งแต่รุ่นพ่อ พอผมเรียนจบแล้วอยู่ว่างๆพ่อจึงได้มอบหมายให้ผมได้เข้ามารับหน้าที่บริหารงานต่อจากเขา ผมน่ะเรียนจบบริหารมาก็จากมหาลัยCHนั่นแหละ

ผมมีเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาอยู่สามคน นั่นก็คือ ไอ้เจมส์ ไอ้ขุนพล และคนสุดท้ายไอ้นีโอ พวกเราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนถึงมหาลัย และที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ก็คือไอ้เจมส์ ที่โทรมาบอกว่าพวกมันทั้งสามกำลังจะเข้ามานั่งกินนั่งเล่นกันที่ร้านของผม

ตอนมหาลัยผมก็ถือว่าเป็นหนุ่มฮอตอยู่พอสมควรมีพวกผู้หญิงเข้ามาหาผมอยู่เรื่อย แต่ผมไม่สนใจใครสักคน ผมมองว่าผู้หญิงพวกนี้ดูน่ารำคาญและต่อไปอาจทำให้วุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด จึงเลือกที่จะอยู่คนเดียวซะยังจะดีกว่า เอาจริงนะตั้งแต่เล็กยันโตผมยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนและต่อไปก็คงจะไม่มีเลยล่ะมั้ง

แต่ถ้าถามว่าไม่มีแฟนแล้วมีอารมณ์พวกนั้นมั้ย มันก็มีนั่นแหละครับ ผมก็ใช้นิ้วมือทั้งห้าของผมจัดการมันก็จบแล้วไม่ต้องมายุ่งยากกับใครด้วย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Aoybabyz

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

Devy Tseko
5.0

พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ปราบรักร้ายนายมาเฟีย | พายุ x ชะเอม
1

บทที่ 1 บทนำ

28/06/2024

2

บทที่ 2 ไม่มีวัน

28/06/2024

3

บทที่ 3 ความรับผิดชอบ

28/06/2024

4

บทที่ 4 เที่ยวพักผ่อน

28/06/2024

5

บทที่ 5 วันเกิดแฟนของน้องชาย

01/07/2024

6

บทที่ 6 หายไปไหนนะ NC

01/07/2024

7

บทที่ 7 จำอะไรไม่ได้เลย

01/07/2024

8

บทที่ 8 น้องสาวของฉัน

01/07/2024

9

บทที่ 9 พี่ชายที่สนิท

01/07/2024

10

บทที่ 10 เพื่อนอกหัก

01/07/2024

11

บทที่ 11 เป็นไกด์นำเที่ยว

03/07/2024

12

บทที่ 12 เข้าบ้านสักหน่อย

03/07/2024

13

บทที่ 13 เพื่อนคืนดีกับแฟนกันหมด

03/07/2024

14

บทที่ 14 ตอนที่14 | พบแม่พี่สายฟ้า

03/07/2024

15

บทที่ 15 ปะทะ

03/07/2024

16

บทที่ 16 ผมไม่ชอบเด็ก

03/07/2024

17

บทที่ 17 บุกถึงที่

03/07/2024

18

บทที่ 18 คู่ปรับของพี่

03/07/2024

19

บทที่ 19 คนหล่อขา NC

03/07/2024

20

บทที่ 20 อย่ากดหัว NC++

03/07/2024

21

บทที่ 21 เจ็บจริงๆนะ NC++

03/07/2024

22

บทที่ 22 เป็นของคุณ NC++

03/07/2024

23

บทที่ 23 แค่ช่วยเฉยๆ

03/07/2024

24

บทที่ 24 นัดคืนเสื้อ

03/07/2024

25

บทที่ 25 ฉันเป็นผู้ชายนะ

03/07/2024

26

บทที่ 26 ลงโทษเธอ NC

03/07/2024

27

บทที่ 27 ปล่อยอยู่แล้ว NC++

03/07/2024

28

บทที่ 28 ลาขาด

03/07/2024

29

บทที่ 29 เพื่อนนัดเจอหนุ่ม

03/07/2024

30

บทที่ 30 เจอกันอีกครั้ง

03/07/2024

31

บทที่ 31 คิดถึง

05/07/2024

32

บทที่ 32 ถ้าร้อน..ก็ถอดเสื้อ NC++

05/07/2024

33

บทที่ 33 ร่างกายเธอต้องการฉัน NC++

05/07/2024

34

บทที่ 34 รับผิดชอบฉันด้วย NC++

05/07/2024

35

บทที่ 35 รำคาญคนแก่

05/07/2024

36

บทที่ 36 พี่ชอบหนูเหรอ

05/07/2024

37

บทที่ 37 คงเป็นเพราะเธอ

05/07/2024

38

บทที่ 39 ชอบผู้ชายแบบไหน

05/07/2024

39

บทที่ 40 เธอชอบฉัน NC++

05/07/2024

40

บทที่ 41 เด็กกูเอง

15/07/2024