ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ถ้ามันต้องแลกกับการทำไปเพื่อรักษาไว้ซึ่งความเคารพ ศรัทธา และความถูกต้องที่เขามี สำหรับคนที่รักเขาอย่างฉัน...มันยอมแลกได้ทั้งนั้น
คุณเคยเฝ้ามองใครคนหนึ่ง แบบที่เขาไม่เคยรู้ตัว ไม่เคยสนใจ ไม่เคยแม้แต่จะจดจำ...ความทรงจำที่มีร่วมกันมาหรือไม่ ?
หรือบางที...เขาอาจจดจำ
แต่ในขณะเดียวกัน...ก็โดนบางอย่างบิดเบือนมันไป
ฉันในตอนนี้...กำลังเฝ้ามองผู้ชายคนหนึ่ง
เขา...ผู้เป็นที่รัก และที่นับถือของใครต่อใคร
เขา...ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเกินกว่าที่ใครจะเทียบได้
เขา...ผู้มีจิตใจอ่อนโยนมากมายเหลือเกิน นั่นทำให้ฉันคลั่งไคล้
ใช่...ฉันชอบเขา ชอบรอยยิ้ม ชอบความใจดีตั้งแต่แรกเจอ ชอบความเอาใจใส่ในเรื่องเล็กน้อยแม้เรายังไม่รู้ประสาอะไร
ฉันชอบเรือนร่าง ชอบดวงตา สีผม และทุกๆอย่าง จนวันนึงความชอบแปรเปลี่ยนมาเป็นความรัก ตามเหตุและผลของเวลาที่นำพาให้เราได้กลับมาใกล้
และไม่ว่าจะเนิ่นนานแค่ไหน... เสียงในใจของฉันก็ยังตะโกนออกไปดังมาก ว่าฉันรักเขาเกินกว่าจะรักใคร
ฉัน...รักเขา รักทุกอย่างที่เป็นเขา
ทุกๆอย่างของเขาควรต้องเป็นของฉัน เขาเคยให้สัญญาเอาไว้...
แล้วอยู่ๆวันนึง ก็มีคนมาแย่งเขาไป!
ย้อนเวลากลับไป 1 ปีก่อน...
“หึ...เธอมีทางเลือกอื่นด้วยรึไง”
เสียงเข้มของ 'เฮย์โซ' ลูกบุญธรรมอีกคนของคนที่ดำรงตำแหน่งสภาสูงสุดอย่าง 'ท่านเซนจิ' เช่นเดียวกับฉันพูดขึ้นมา ก่อนจะหย่อนบุหรี่ที่คาบไว้ลงในเสาดับ ตาก็จ้องมองบรรยากาศรอบๆ Castle ฝั่งสภากฎอย่างเย่อหยิ่งและทระนงตัวยิ่งกว่าใคร จนแววตาน่ารังเกียจนั่น มันไปหยุดที่คนสองคนซึ่งกำลังฟาดฟันกันอยู่ในพื้นที่ซ้อมขนาดย่อมท่ามกลางสายตาชื่นชมของใครต่อใคร
“อย่ายุ่งกับเขา”
แม้ไม่ได้ตะโกนออกไป แต่โทนเสียงฉันมันก็แฝงไปด้วยสัญญาณเตือน ถ้าหมอนี่คิดจะทำตัววุ่นวาย
“เธอหมายถึงไอ้คิระ?”
ให้ตายเถอะ...
“หมอนั่นจะเป็นตายยังไงก็ช่าง แต่นายรู้ดีว่าห้ามยุ่งกับใคร”
ฉันตอบกลับเสียงยียวนของคนที่ไม่รู้สึกรู้สากลับไป บอกตามตรง...ถ้าไม่ใช่เพราะเฮย์โซถือเป็นสมาชิกอีกคนในครอบครัวใหม่ ฉันว่าหมอนี่เป็นผู้ชายที่น่ารำคาญที่สุดในโลกก็ว่าได้
“หวงมันจังนะ ทั้งที่จะทำร้ายมันซะเอง”
“หุบปากไปซะ! ไม่มีใครไปตกลงอะไรกับนาย”
ใช่...เพราะก่อนหน้านี้ใครบางคนยื่นข้อเสนอที่ชวนคิดหนักมาให้ และหมอนี่ก็มั่นใจมากซะด้วยว่าจะฉันรับมัน แต่เพราะความเจ้าเล่ห์ในตาคู่นั้น ฉันถึงยังไม่ได้ให้คำตอบอะไร
“แน่ใจจริงๆน่ะเหรอ...ว่าจะไม่?”
คำถามกระตุ้นความคิดส่งมาพร้อมริมฝีปากที่กระตุกยิ้มมุมปากได้ใจ
หึ...บ้าจริงๆ นี่ท่านเซนจิเคยรู้บ้างมั้ย ว่าหมอนี่มันร้ายกาจมากขนาดไหน
“เธอทนดูรักษาการแต่งงานกับมันในฐานะเพื่อนเจ้าสาวได้?”
“บอกให้หุบปากไง!”
คราวนี้ฉันตวัดสายตาขึ้นไปจ้องหน้าเฮย์โซทันควัน พอหมอนี่ปากพล่อยพูดเรื่องงี่เง่าพรรค์นั้น แต่ปฏิกิริยาที่เฮย์โซตอบกลับมา หมอนี่กลับยิ้มอ่อนแล้ววางมาดนิ่งเฉย แถมยังเอื้อมมือข้างหนึ่งที่ล้วงกระเป๋าอยู่มาลูบหัวฉัน ทำเหมือนว่าตัวเองไร้พิษสงใดๆอย่างที่ชอบแสดงออกเวลาอยู่ต่อหน้าใครต่อใครเหมือนเคย
“เม็ดเดียวเรื่องจบฟาเดีย อย่างน้อยเธอก็เป็น...เหมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ที่พี่ชายอย่างฉันต้องช่วยเหลือ จริงมั้ย?”
พรึ่บ!
พอปล่อยหมอนี่ลามปามด้วยการเล่นหัว แถมส่งสายตาสำรวจเรือนร่างฉันได้ไม่เท่าไหร่ ฉันก็ปัดมือหนาบนหัวตัวเองออกอย่างหงุดหงิด
“เคยมีใครบอกนายมั้ย ว่านานไปหางจะโผล่!”
เฮย์โซพอได้ฟังก็ยังมีหน้าเอื้อมมือมาจับแก้มฉันด้วยท่าทางเหมือนจะเอ็นดูอีกครั้ง ก่อนส่งเสียงเย็นเฉียบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มมาให้
“แล้วเคยมีใครบอกเธอมั้ยล่ะ ว่าการอยากได้อะไรแล้วไม่ได้มันมา เป็นวิถีของคนโง่!”
พรึ่บ!
“จิ๊!”
พูดจบหมอนี่ก็สะบัดมือแล้วเดินออกไป ทิ้งฉันให้จ้องมองใครคนนั้นอย่างคิดหนักผ่านกระจกใส ที่เหมือนจะห่างแค่เอือมมือ แต่ในอีกไม่กี่วัน...เขาก็กำลังจะยิ่งไกลออกไป
หลายเดือนก่อนหน้านั้น...
@ Treatise University
“คิดไรอยู่ เหม่อเชียว”
มือหนาของ 'เฮียเชน' คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนคนปัจจุบันเอื้อมมาลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน แต่ฉันกลับรู้สึกเฉยๆกับสัมผัสนี้ พลางคิดว่าถ้าฉันสามารถสลับมือเฮียเชนเป็นมือใครอีกคนที่นั่งตรงข้ามกันได้...ก็คงดี
“เดียแค่ง่วงๆอะ”
อาจฟังดูใจร้ายถ้าฉันพูดบางอย่างออกไป แต่เหตุผลที่ฉันคบกับเฮียเชนตอนนี้ ก็เพราะมันทำให้เรา... หมายถึงฉันกับใครคนนั้น ได้ใกล้ชิดกันมากเข้าไปอีก
“กาแฟมั้ย?”
และนี่ไงล่ะ เสียงที่ฉันอยากได้ยิน
“เอาสิ เฮียแม็คเลี้ยงเหรอ :)”
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดวงตาฉันตอนนี้มันแพรวพราวแค่ไหน ฉันรู้ตัวฉันดี และความมีหวังพวกนี้ มันก็มีโอกาสอยู่กับฉันแค่...ไม่กี่นาที
“ได้นะ จะไปซื้อให้ฟาร์ดาพอดี”
พรึ่บ!
“วันนี้มือยุกยิกชอบกลนะเนี่ย”
ฝ่ามือหนาของเฮียแม็คถูกเลื่อนไปยีผมสีดำสนิทของคนที่กำลังบ่นอุบอิบที่นั่งเยื้องออกไป ยิ่งจ้องมองเรือนผมสีดำสนิทนั่นเท่าไหร่ ฉันยิ่งมั่นใจว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่เปลี่ยนสีผมไปเรื่อย เพราะไม่ต้องการให้มันซ้ำกับใคร
'ฟาร์ดา' คือคำเรียกแทนตัว 'เฟรย่า' เป็นชื่อที่ผันมาจากชื่อจริงของเธออย่าง 'ฟาริดา' หรืออีกนัยหนึ่ง มันคือชื่อที่แม่บุญธรรมผู้สูงศักดิ์ของเธอใช้เรียกให้คล้องจองกับชื่อเล่นของฉัน 'ฟาเดีย' เพราะเราเป็นพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา
แต่สำหรับฉัน เฟรย่าก็คือเฟรย่า ฉันไม่ได้อินกับการมีพี่สาวชื่อคล้ายๆกัน เพราะสิ่งที่เธอแสดงออกอยู่ทุกวันนี้ หรือแม้แต่ทุกสิ่งที่เธอมี มันคือความเห็นแก่ตัวไม่จบไม่สิ้นที่คนตรงหน้าหลงลืมมันไป
“ก็คิดถึง ไม่ได้?”
สีหน้านิ่งเรียบแต่แววตาบอกชัดว่าเฮียแม็คตั้งใจพูดมันออกไปแค่ไหน ทำให้พี่เฟรย์อมยิ้มเขินๆออกมา แต่ต่อให้มันดูอบอุ่นเท่าไหร่ ข้างในตัวฉันกลับยิ่งร้อนเป็นไฟ
“กูเอาโคล่าเพรสโซ่”
เสียงทุ้มของเฮียเชนพูดขึ้นมา แล้วรู้อะไรมั้ย อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกรำคาญพี่สาวตัวเองมากๆน่ะ...
“เดียเอาแฟร์รี่เบอร์รี่”
“เอาด้วย”
หึ... ใช่! แม้แต่กาแฟที่ฉันชอบ พี่เฟรย์ที่เคยได้ลองมันแค่ครั้งเดียว ก็ชิงเลือกมันไปเป็นเมนูประจำตัวจนวันนี้ไง
“เค สรุปโคล่าเพรสโซ่ 1 แฟร์รี่เบอร์รี่ 2”
“แล้วซอลท์เท็ดคาราเมลอัฟโฟกาโตล่ะ เฮียลืมเหรอ?”
ฉันตะโกนตามหลังไป พอเฮียแม็คก้าวขาจากโต๊ะจะเดินไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ซึ่งอยู่ไม่ไกล เฮียแม็คพอได้ฟังก็หันกลับมาพยักหน้ายิ้มๆ
“นั่นดิ ต้องสี่แก้วใช่มะ”
“อื้ม :)”
แค่นี้เอง แค่ยิ้มแค่นี้ ใจฉันก็เตลิดไปถึงไหนต่อไหน และที่ถามแบบนั้นเพราะมันเป็นเมนูโปรดของเขาไง ฉันเลยจำมันได้ขึ้นใจ ผิดกับบางคน...
“แหวะ! ชื่อก็ยาว ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหน”
“กูเห็นมึงขโมยกินไอติมมันทุกทีอ่ะ”
นั่นสินะ เฮียเชนพูดถูก ซอลท์เท็ดคาราเมลอัฟโฟกาโตเป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ที่มีไอติมวานิลลา on top อยู่ข้างบน และเฮียแม็คไม่เคยได้กินมันเลยสักครั้ง เพราะเขาเอาแต่เสียสละให้ใครบางคน ทั้งที่ความจริง เฮียแม็คชอบกินไอติมวานิลลามาก...มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
“ไรมึงไอ้เชน ก็พอไอติมมันละลายลงไปผสมกาแฟ รสชาติแม่งชวนแหวะจะตาย”
แต่ถึงพี่เฟรย์จะไม่อินกับเมนูนั้นเลย เฮียแม็คก็มองมันเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้น เรียกได้ว่าเธอ...ไม่ว่าจะทำอะไร เฮียแม็คก็ไม่เคยรำคาญใจเลยสักอย่าง
“จะบอกว่าพยายามปกป้องกันงั้นใช่มั้ย?”
เฮียแม็คที่หยุดฟังพูดมาขำๆ สายตาเอ็นดูพี่เฟรย์มากที่ส่งมานั้น มันยิ่งสร้างความวุ่นวายใจให้ฉันมากกว่าเดิม โดยเฉพาะนาทีที่พี่เฟรย์ยิ้มกรุ้มกริ่ม ลอยหน้าลอยตาตอบไป
“ใช่ เป็นความห่วงใย กลัวบางคนไม่ได้กินของอร่อยไง ^^”
“ถุย อย่ามาหวานกันแถวนี้ กูจะสำลักความสุขตาย”
เสียงปริศนาดังขึ้นจากด้านหลัง และพอเราทุกคนหันไป ผู้มาเยือนก็คือ 'เฮียเวย์' หรือ 'รันเวย์ Nightshade' หนึ่งในสมาชิกแก๊งค์เทพเจ้าที่ช่วงนี้กำลังโด่งดังในมหาลัย ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนั่งลงมาอย่างไม่ถือตัวอะไร
“แล้วมัน?”
“เห็นมั้ยล่ะ”
เฮียเวย์ตอบกลับพี่เฟรย์ด้วยท่าทางชิลๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้าฝากเฮียแม็คสั่งกาแฟอย่างรู้กันแล้วเฮียแม็คก็เดินออกไป
ส่วนมันที่ว่า...คือ 'เตโช Nightshade' แต่ไม่มานั่นแหละดีละ เพราะถ้าว่ากันตามตรง ฉันไม่สะดวกญาติดีกับบุคคลที่กำลังถูกกล่าวถึงเท่าไหร่
“มึงก็อีกคน กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าถ่ายเป็นแต่รูป.....”
แกร๊ก!
ก็นะ... Memory Card จากมือเฮียเวย์ถูกสไลด์มาบนโต๊ะ พร้อมกันกับที่สายตาคู่นั่นจะโฟกัสมาที่ฉัน ทั้งที่ปากก็พูดกับเฮียเชนที่วันก่อนยืมกล้องเขามาชวนฉันไปถ่ายรูป และถ้าให้เดา เฮียเชนคงจะลืมถอดเมมออกล่ะมั้ง
“เฮ้ย! อย่ามามองแฟนกู”
เฮียเชนตอบกลับขำๆแล้วแกล้งเอามือมาบังไม่ให้ฉันกับเฮียเวย์สบตากัน เพราะแม้ในโต๊ะที่เรานั่งกันอยู่ เขาจะดูเป็นคนธรรมดา แต่แววตาของคนในร้านที่มองมา ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพเจ้า Nightshade น่ะ หน้าตาดี บุคลิกดี ฐานะดี แค่นี้ก็เป็นกระแสโด่งดังไปทั่วทั้ง ม. นั่นแหละนะ
“อย่าไปหลงกลมันเชียวนะเดีย”
เฮียแม็คที่เดินกลับมาที่โต๊ะพูดกับฉัน ซึ่งเป็นจังหวะที่ฉันกดมือเฮียเชนลงไม่ให้บังสายตา ก่อนจะยิ้มกว้างและพยักหน้าให้กับคำพูดนั้น
“อื้ม”
ชอบจัง... ฉันชอบมากเลยนะ คำพูดแบบนี้จากเขาน่ะ :)
“ถ้าไอ้เตมันมา กลัวมีคนเอาไปฟ้องไอ้คิระว่ะ”
“เหรอ ปากเก่งจังนะมึงอ่ะ”
คำทักทายของเฮียเวย์และเฮียแม็คที่โต้ตอบกันทำให้ฉันยิ้มตาม พอเห็นสีหน้าหมั่นไส้ของเฮียแม็คที่โดนแขวะเบาๆ
เพราะ 'คิระ' ที่ว่า...คือเพื่อนสนิทของเฮียแม็คไงล่ะ ส่วนเตโชเป็นเพื่อนสนิทของเฮียเวย์ สองคนนี้แม้โดยสายเลือดจะเป็นญาติกัน แต่มันก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์แฮปปี้อย่างที่คิดหรอกนะ
“หึ...ไว้วันหลังจะนัดพวกมันมาเจอกันหน่อย”
พี่เฟรย์พูดขึ้นมา แต่มันก็เป็นแค่การพูดไปงั้นๆแหละ เพราะเราทุกคนต่างรู้ดี ว่าคนสองคนที่กำลังถูกกล่าวถึงอยู่ตอนนี้ เหมือนเส้นขนานที่ยากจะมีวันมาบรรจบกันด้วยดี
“ถ้าถึงวันนั้น มึงกับกูก็คงต้องเลือกข้าง”
เฮียเวย์พูดมาเสียงเข้มแล้วมองไปที่เฮียแม็ค เฮียแม็คเองก็พยักหน้าตอบกลับเขาเช่นกัน แต่ไม่เว้นช่วงให้ใครพูดอะไรต่อ คำพูดที่ฉันนึกรังเกียจที่จะต้องฟังมันมากๆ ก็ดังมาจากปากคนที่ฉันไม่ค่อยจะชอบหน้าทันทีเหมือนกัน
“ถ้า Nightshade กับ Dark Shadow ต้องฆ่าฟันกัน ก็ต้องข้ามศพรักษาการไปก่อน ฝากไปบอกเพื่อนซี้พวกนายด้วยแล้วกัน!”
คำพูดนั้นทำให้ทั้งเฮียแม็คและเฮียเวย์เงียบไป และที่ฉันบอกว่าเกลียด รังเกียจ... ก็เพราะท่าทางทระนงตัวในฐานะที่ตัวเองถือครองอย่าง 'รักษาการ' นั่นแหละ ที่มันน่าหมันไส้!
เพราะมันชวนให้นึกถึง...
การมาของครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง...
ที่เปลี่ยนชีวิตพวกฉันไปตลอดกาล!
บทที่ 1 TRILOGY ::: EP.1
01/08/2025
บทที่ 2 TRILOGY ::: EP.2
01/08/2025
บทที่ 3 TRILOGY ::: EP.3
01/08/2025
บทที่ 4 TRILOGY ::: EP.4
01/08/2025
บทที่ 5 TRILOGY ::: EP.5
01/08/2025
บทที่ 6 TRILOGY ::: EP.6
01/08/2025
บทที่ 7 TRILOGY ::: EP.7
01/08/2025
บทที่ 8 TRILOGY ::: EP.8
01/08/2025
บทที่ 9 TRILOGY ::: EP.9
01/08/2025
บทที่ 10 TRILOGY ::: EP.10
01/08/2025
บทที่ 11 TRILOGY ::: EP.11
01/08/2025
บทที่ 12 TRILOGY ::: EP.12
01/08/2025
บทที่ 13 TRILOGY ::: EP.13
01/08/2025
บทที่ 14 TRILOGY ::: EP.14
01/08/2025
บทที่ 15 TRILOGY ::: EP.15
01/08/2025
บทที่ 16 TRILOGY ::: EP.16
01/08/2025
บทที่ 17 TRILOGY ::: EP.17
01/08/2025
บทที่ 18 TRILOGY ::: EP.18
01/08/2025
บทที่ 19 TRILOGY ::: EP.19
01/08/2025
บทที่ 20 TRILOGY ::: EP.20
01/08/2025
บทที่ 21 TRILOGY ::: EP.21
01/08/2025
บทที่ 22 TRILOGY ::: EP.22
01/08/2025
บทที่ 23 TRILOGY ::: EP.23
01/08/2025
บทที่ 24 TRILOGY ::: EP.24
01/08/2025
บทที่ 25 TRILOGY ::: EP.25
01/08/2025
บทที่ 26 TRILOGY ::: EP.26
01/08/2025
บทที่ 27 TRILOGY ::: EP.27
01/08/2025
บทที่ 28 TRILOGY ::: EP.28
01/08/2025
บทที่ 29 TRILOGY ::: EP.29
01/08/2025
บทที่ 30 TRILOGY ::: EP.30
01/08/2025
บทที่ 31 TRILOGY ::: EP.31
01/08/2025
บทที่ 32 TRILOGY ::: EP.32
01/08/2025
บทที่ 33 TRILOGY ::: EP.33
01/08/2025
บทที่ 34 TRILOGY ::: EP.34
01/08/2025
บทที่ 35 TRILOGY ::: EP.35
01/08/2025
บทที่ 36 TRILOGY ::: EP.36
01/08/2025
บทที่ 37 TRILOGY ::: EP.37
01/08/2025
บทที่ 38 TRILOGY ::: EP.38
01/08/2025
บทที่ 39 TRILOGY ::: EP.39
01/08/2025
บทที่ 40 TRILOGY ::: EP.40
01/08/2025
หนังสืออื่นๆ ของ Aliyah.P
ข้อมูลเพิ่มเติม