Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สยบเสือใหญ่

สยบเสือใหญ่

BVMEOW

5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
41
บท

ตอนแรกก็มองเป็นน้องเป็นนุ่ง แต่เดี๋ยวนี้ไม่อยากมองตอนนุ่งแล้ว

บทที่ 1 ปฐมกถา

ก็นานแล้วที่พิลลาไม่ได้เลือดขึ้นหน้าถึงเพียงนี้ อย่างน้อยก็สามวันที่แล้ว จนกระทั่ง...

“แปดพัน!?”

“ครับ แปดพัน”

ผู้เป็นพี่พยายามสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอด แล้วค่อยๆ ผ่อนออกเพื่อทำสมาธิ

หายใจเข้าพุทธ หายใจออก... “อยากตายเหรอ”

เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่พลั้งมือฉีกร่างของ ‘น้องชายแท้ๆ’ ออกเป็นชิ้นๆ หลังจากเด็กหนุ่มวัยสิบหกปีนำข่าวร้ายมาแจ้งให้ทราบ หากไม่มีโต๊ะคอมพิวเตอร์ขวางอยู่ หญิงสาววัยเบญจเพสคงได้กระชากคอเสื้อไอ้ลูกหลงของพ่อและแม่เพื่อระบายอารมณ์ไปแล้ว

พิรภพเพียงแค่ก้มหน้าก้มตาเพื่อน้อมรับความผิด

“เมื่อไรจะเลิกสร้างเรื่องให้ต้องเสียเงินเสียทอง ฮะ คิดว่าพ่อมึงเป็นสุลต่านหรือไง”

ใบหน้าละอ่อนเงยขึ้นมาสบตากับพี่สาวหน้าเต้าหู้ยี้ “พ่อตายแล้ว อย่าพาดพิงพ่อเลยครับ”

นิ้วถูกชี้ไปที่เด็กหนุ่มในชุดนักเรียน “ระวังตัวไว้ให้ดี เดี๋ยวจะได้ไปอยู่กับพ่อ”

“...ขอโทษครับ”

เจ้าของร้านถ่ายเอกสารใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีในการสลัดโทสะทิ้ง เอ่ยถามเข้าประเด็น “เรื่องโทรศัพท์ จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

“ครับ ซื้อเครื่องใหม่ให้เขาแล้ว”

“ซ่อมไม่ได้?”

“โธ่พี่ มันจมน้ำ”

“ทำไมไม่ลงไปงม”

น้องชายอยากเถียงขาดใจว่าพี่สาวนั้นพูดเป็นลิเกไปได้ แต่ก็ไม่มีความกล้าพอจะเถียง ลำพังความผิดที่ติดตัวก็คิดว่าจะโดนยายเต้าหู้ยี้กินหัวไปอีกนาน

นัยน์ตาเรียวเล็กชั้นเดียวสีน้ำตาลเข้ม รับกับจมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางสีระเรื่อโดยไม่ต้องพึ่งลิปสติก ใบหน้ารูปไข่ แก้มยุ้ยพอประมาณ ร้อยทั้งร้อยก็มองว่าผู้หญิงคนนี้น่ารัก แต่ใครเล่าจะรู้ อ้าปากทีมีแต่ความเถื่อน

ในบ้านเหลือกันอยู่สี่ชีวิต เสาหลักของครอบครัวคือพี่สาวคนนี้ และมีเขาที่ยังอยู่ในวัยเรียน คุณแม่วัยสี่สิบปลาย และคุณยายวัยชรา โดยที่ทุกคนล้วนให้เกียรติพี่สาวที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง พิลลาว่าอย่างไร คนอื่นต้องว่าเช่นนั้น ทั้งสามชีวิตเชื่อฟังยายเต้าหู้ยี้หัวร้อนกันทุกคน แต่เขามันวัยซุกซน จึงโดนเล่นงานอยู่บ่อยครั้ง

มารดาและคุณยายช่วยอะไรเขาจากเงื้อมมือมารหน้าหมวยไม่ได้ เพราะทุกคนก็กลัวเธอด้วยกันทั้งนั้น

พิลลาส่งสายตาคาดโทษไปยังน้องชายที่คลานตามกันมา “แล้วทำไมไม่มาบอกแต่แรก เอาเรไรไปขายเพื่อ?”

“ไม่ได้ขายครับ แค่จำนำ”

“พ่อจะลุกขึ้นจากหลุมมาบีบคอมึงเข้าสักวัน” มือบางคว้าขวดหงส์ไทยมาเปิด ก่อนจะสูดดมฟอดใหญ่ “ค่าไถ่แปดพันเป๊ะๆ นะ”

“ครับ แต่-”

คิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากัน “อะไรอีก ว้อย มีแต่เรื่อง”

“จริงๆ พี่เขาบอกว่าให้เวลาได้แค่เมื่อวานเป็นวันสุดท้าย แต่เมื่อวานพี่ต้องส่งค่ารถ ผมก็เลยไม่กล้าบอก”

“อ้าว งี้เรไรก็หลุดไปแล้วสิ”

“ไม่หรอกครับ ถ้าพี่เข้าไปคุยก็น่าจะคุยได้”

เส้นเลือดในสมองของเธอจะแตกตายอยู่แล้ว สามวันก่อนเด็กๆ ในโรงเรียนเตะลูกบอลมาโดนกระจกร้าน เมื่อวานจ่ายค่างวดรถยนต์จนกระเป๋าแห้ง วันนี้ยังมาถูกหวยรับประทานอีก มิหนำซ้ำน้องชายสุดที่รักยังหาเรื่องให้เสียเงินเกือบหมื่น แต่แม้จะโมโหมากขนาดไหนก็มีแต่ต้องยอมจ่าย เพราะเรไรคือของต่างหน้าพ่อที่เสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว เธอจึงจำเป็นต้องไถ่ตัวเจ้านกกรงหัวจุกคืนมา

หญิงสาวยันปลายเท้าไปบนพื้น ลุกขึ้นยืนพร้อมคว้ากระเป๋าและกุญแจรถมาถือไว้ “เฝ้าร้าน ห้าโมงปิดแล้วกลับบ้าน อย่าเถลไถลที่ไหน”

“พี่จะไปพาเรไรกลับบ้านเหรอครับ”

“เออ แล้วอย่าทำกับมันเหมือนสิ่งของอีก ถ้าคิดว่ามันสำคัญก็ดูแลดีๆ”

“ครับ ขอโทษครับ”

ก่อนจะออกจากร้านยังมิวายหันมาหาตัวต้นเรื่อง “ต่อไปมีอะไรก็รีบมาบอก”

น้องชายตอบเสียงอ้อมแอ้ม “ก็กลัวพี่ด่า”

“เคยด่าหรือไง”

ถ้าต่อยเขาได้ คงต่อยไปแล้ว สีหน้าตอนเขามาสารภาพบาปก็บอกประมาณว่า ‘กูจะต้องเอาเลือดหัวไอ้เด็กเวรนี่ออกให้ได้’ แล้วยังมีหน้ามาถาม

พิลลาไม่อยู่ฟังคำตอบ ยื่นมือไปดันประตูให้เปิดออกแล้วพาตัวเองไปขึ้นรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่ต้องผ่อนอีกเกือบสองปีกว่าจะหมดเวรหมดกรรม ซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่าหากพิรภพสร้างเรื่องเช่นนี้บ่อยๆ ระหว่างผ่อนรถหมดกับเธอหมดลมหายใจ อะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน

พิลลี่ หรือก็คือรถคู่ใจของเธอ มุ่งหน้าไปยังบ้านของเขา ผู้ชายหน้าดุที่เธอไม่เคยถูกชะตาด้วยเลย

จากร้านถ่ายเอกสารข้างโรงเรียนไปยังที่หมาย ซึ่งเปิดเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ให้พวกวัยรุ่นจับกลุ่มเล่นกันนั้น ใช้เวลาประมาณสิบนาทีเห็นจะได้ นอกจากเธอจะไม่ได้อยากมาเพราะมีแต่พวกผู้ชายแล้ว น้องชายที่ไม่ค่อยได้เรื่องก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้มา แต่เด็กสิบหก วัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ห้ามอะไรก็ไม่ฟัง

ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนถึงทำมือถือเพื่อนตกน้ำจนต้องซื้อให้ใหม่ และเด็กวัยนั้นก็ไม่มีเงินมากพอจะซื้อให้ เลยนำเจ้าเรไรไปจำนำกับเจ้าของโต๊ะสนุกเกอร์ ที่ก็มีงานอดิเรกคือการเลี้ยงนกกรงหัวจุกเพื่อแข่งขันชิงเงินรางวัล เธอไม่ทันสังเกตว่าเรไรหายไปจากที่บ้าน ถ้าพิรภพไม่มาสารภาพบาป เธอก็ลืมเสียสนิทใจ

โดยปกติแล้วเรไรจะอยู่ในส่วนหลังบ้าน ซึ่งบางวันเธอแทบไม่ได้เดินออกไปเลย และน้องชายก็รักนกตัวนี้มาก ใครจะไปคิดว่าจะยอมนำของต่างหน้าของพ่อไปจำนำได้ลงคอ

พิลลาจอดรถที่หน้าบ้านชั้นเดียวที่มีขนาดใหญ่ ทั้งๆ ที่เจ้าของบ้านก็อาศัยอยู่เพียงลำพัง โดยที่ด้านหลังเป็นที่ตั้งของโต๊ะสนุกเกอร์ ด้วยเหตุนั้นแล้วต่อให้เจ้าของบ้านจะมีเพียงเขาคนเดียว แต่บ้านหลังนี้ก็ไม่เคยขาดคน

หญิงสาวเดินไปทางข้างบ้านเพื่อไปยังส่วนหลังบ้าน เสียงจอแจของเหล่าหนุ่มๆ ดังกระทบโสตประสาท แม้ไม่อยากไป แต่ก็มีความจำเป็นให้ต้องก้าวขาเพื่อไปในที่แห่งนั้นอยู่ดี

จนกระทั่งมาหยุดอยู่ในส่วนหลังบ้านของเขา ถึงได้รู้ว่าที่นี่มีโต๊ะสนุกเกอร์ถึงห้าโต๊ะ วัยรุ่นแถวนี้ไม่ต้องไปไหนกันเลย บ้านหลังนี้พร้อมรองรับ

การมาของสาวหมวยเรียกสายตาของผู้คนได้อย่างดี แม้คนสวยจะหน้าบึ้งมากก็ตาม แต่ในสายตาคนอื่น พิลลาก็ยังน่ามองอยู่ดี

“พี่เสือใหญ่อยู่ที่นี่ไหม”

สิ้นประโยคคำถาม ทุกสายตาก็เหลียวไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านในสุด จุดกระทบของสายตานับสิบคือชายร่างใหญ่ที่เงยหน้ามาจ้องร่างบอบบางของหญิงสาวคนเดียว ณ ที่แห่งนี้ ควันสีขาวถูกพ่นออกก่อนมวนบุหรี่จะถูกปล่อยทิ้งลงพื้น ยกฝ่าเท้าเพื่อขยี้เชื้อไฟให้มอดสนิท โดยระหว่างนั้นนัยน์ตาคมไม่ละไปจากคนงามเลย

เหตุผลที่พัดพาพิลลาให้มาถึงที่นี่ เขาไม่คิดจะเสียเวลาคาดเดา

ขายาวก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงหน้าสาวสวย

ขยับปากเปล่งคำตอบด้วยสุ้มเสียงทุ้ม “อยู่”

ใบหน้านวลผินไปทางอื่น...ที่นี่มันบ่อนทำลายสุขภาพปอดชัดๆ

ก่อนจะผินหน้ากลับมาทางเดิม ความขึงขังยังคงฉายชัดอยู่บนหน้า ไม่สนสักนิดว่าตนกำลังตกเป็นรอง “เรไรอยู่ไหนคะ จีบมาพาเรไรกลับบ้าน”

สารินเพียงแค่นยิ้ม ยิ่งทำให้คนเลือดร้อนโมโหกว่าเดิม

“แปดพันใช่ไหมคะ เอาเลขบัญชีมาค่ะ เดี๋ยวโอนให้”

เมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านยังคงนิ่ง ไม่หือไม่อือกับคำพูดของตน แม้ว่าเธอจะเปิดแอปพิเคชันของธนาคารรอแล้ว คิ้วสวยได้รูปก็ยิ่งขมวดจนแทบจะผูกเป็นโบ

โดยปกติเธอก็ไม่ใช่พวกใจเย็นเสียด้วย เจอคนกวนตีนยิ่งแล้วใหญ่

“จะเอาไหมคะ แปดพันอะ”

“เอา”

ก็แค่นี้! ดึงเชิงอยู่ได้...“เลขบัญชีค่ะ”

“...”

“พี่-เสือ-ใหญ่” เธอไม่คิดปิดบังความขุ่นมัวของอารมณ์ “ขอเลขบัญชีด้วยค่ะ เป็นพร้อมเพย์ก็ได้ ที่โอนได้หมด เพราะจีบไม่มีเงินสด”

“พร้อมเพย์”

“ค่ะ”

“สาม” เธอตั้งท่าจะพิมพ์เลขไปตามคำบอกกล่าวของเขา แต่ก็ชะงักนิ้วอยู่ที่เดิม “ศูนย์ ศูนย์ ศูนย์ ศูนย์”

“คะ”

“สามหมื่น”

“หมายถึง?”

“โอนมาสามหมื่น”

พิลลาค้านหัวชนฝา “อย่ามั่วนะคะ พอใจมันบอกว่าจำนำไว้แค่แปดพัน เอาอะไรมาสามหมื่น”

“หลุดจำนำไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ”

สิ้นเสียงของเขา หญิงสาวก็อดจะแค่นหัวเราะไม่ได้ “วันเดียวดอกมันพุ่งไปขนาดนั้นเลยเรอะ”

“ดอกไม่ได้พุ่งหรอก แต่ราคาของเรไรมันพุ่งน่ะ”

“ยังไงคะ”

“วันนี้พี่ขายมันไปแล้ว สามหมื่น” คล้ายมีมวลเมฆขมุกขมัวก่อตัวอยู่บนหัว ก่อนสายฟ้าจะฟาดลงกลางกบาลคนฟัง “นกมันสวย ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ อ้อ ถ้าจะไถ่คืนบางทีสามหมื่นก็ไม่น่าพอ คนซื้อซื้อสามหมื่น ถ้าจะขาย คงไม่ขายราคาซื้อ อย่างต่ำก็สี่หมื่น ถ้าพี่เป็นคนคุยให้ก็คงได้คืนในราคานี้นี่แหละ”

สาวหมวยมองหน้าเจ้าของบ้านอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา คำด่าหลั่งไหลเข้ามาในหัวจนเลือกไม่ถูกว่าจะหยิบคำไหนมานิยามคนตรงหน้า และเธอก็หาเสียงตัวเองไม่เจอ ได้แต่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างคนโกรธจัด

“เอ้อ เกือบลืมทุนพี่อีกแปดพันเลย หักทุนพี่แล้ว จีบก็เอาเรไรคืนไป”

สารินฉีกยิ้มให้คนสวย เอียงคอมองพร้อมเอ่ยปากถาม

“ไง จะโอนเลยไหม จะได้บอกเบอร์”

พิลลาได้แต่กำหมัดแน่น ยิ่งเขายิ้ม เธอก็ยิ่งโมโห

“สี่หมื่นแปดนะ ไม่ใช่แปดพัน”

ไอ้หมอนี่วอนโดนกระทืบแล้วไหมล่ะ

⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ BVMEOW

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

โรแมนติก

5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด “ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้” ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

เมืองแฟนตาซี

5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด

ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด

โรแมนติก

5.0

ความสุขในฐานะคุณหนูอันดับหนึ่งของหนานอิงต้องพังลงทันใด เมื่อนางถูกโจรชั่วจับตัวมาและยังกระทำย่ำยี กระทั่งมารดาของนางยังถูกคร่าชีวิต สาวใช้ข้างกายถูกตัดลิ้นจนเสียสติกลายเป็นคนบ้าใบ้ ทั้งหมดด้วยความริษยาของฮูหยินใหญ่ผู้นั้น หนานอิงได้พบกับหานเซียวและลู่หนิงหวังสองอ๋องพี่น้องที่คอยช่วยเหลือนาง อ๋องผู้ป่าเถื่อนโหดร้ายและแสนเย็นชา แม้จะให้การช่วยเหลือแต่นางก็กลายเป็นนางบำเรอของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าสองอ๋องจะโหดร้ายแต่นางจำต้องอดทน สุดท้ายนางกลายเป็นมือสังหารที่วางชีวิตไว้กับพวกเขาเพื่อแลกกับการแก้แค้น นางถูกฝึกอย่างหนักจนเก่งกาจยิ่ง หนานอิงจะทำเช่นใดเมื่อได้รู้ว่า คนที่ย่ำยีนางและเป็นศัตรูที่นางต้องการสังหารคือ สองอ๋องทั้งสองที่เป็นผู้กระทำย่ำยีนางจนปางตาย ฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ล้วนเป็นนางที่ต้องเลือก! หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นความรักแบบ 3P โปรดดาวน์โหลดตัวอย่างก่อนอ่านค่ะ ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเรื่อง Trigger warning: 3P

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สยบเสือใหญ่
1

บทที่ 1 ปฐมกถา

01/08/2024

2

บทที่ 2 เจ้าป่าลายพาดกลอน (1)

01/08/2024

3

บทที่ 3 เจ้าป่าลายพาดกลอน (2)

01/08/2024

4

บทที่ 4 เจ้าป่าลายพาดกลอน (3)

01/08/2024

5

บทที่ 5 เจ้าป่าลายพาดกลอน (4)

01/08/2024

6

บทที่ 6 เจ้าป่าลายพาดกลอน (5)

01/08/2024

7

บทที่ 7 เขาเล็งคุณไว้แล้ว (1)

01/08/2024

8

บทที่ 8 เขาเล็งคุณไว้แล้ว (2)

01/08/2024

9

บทที่ 9 เขาเล็งคุณไว้แล้ว (3)

01/08/2024

10

บทที่ 10 เขาเล็งคุณไว้แล้ว (4)

01/08/2024

11

บทที่ 11 เขาเล็งคุณไว้แล้ว (5)

01/08/2024

12

บทที่ 12 คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (1)

01/08/2024

13

บทที่ 13 คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (2)

01/08/2024

14

บทที่ 14 คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (3)

01/08/2024

15

บทที่ 15 คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (4)

01/08/2024

16

บทที่ 16 คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (5)

01/08/2024

17

บทที่ 17 ใครจะใหญ่กว่าเสือ (1)

13/08/2024

18

บทที่ 18 ใครจะใหญ่กว่าเสือ (2)

13/08/2024

19

บทที่ 19 ใครจะใหญ่กว่าเสือ (3)

13/08/2024

20

บทที่ 20 ใครจะใหญ่กว่าเสือ (4)

13/08/2024

21

บทที่ 21 ใครจะใหญ่กว่าเสือ (5)

13/08/2024

22

บทที่ 22 ปราบนักล่า (1)

13/08/2024

23

บทที่ 23 ปราบนักล่า (2)

13/08/2024

24

บทที่ 24 ปราบนักล่า (3) NC

13/08/2024

25

บทที่ 25 ปราบนักล่า (4) NC

13/08/2024

26

บทที่ 26 ปราบนักล่า (5) NC

13/08/2024

27

บทที่ 27 น้ำนิ่งไหลลึก (1) NC

13/08/2024

28

บทที่ 28 น้ำนิ่งไหลลึก (2)

13/08/2024

29

บทที่ 29 น้ำนิ่งไหลลึก (3)

13/08/2024

30

บทที่ 30 น้ำนิ่งไหลลึก (4)

13/08/2024

31

บทที่ 31 น้ำนิ่งไหลลึก (5)

13/08/2024

32

บทที่ 32 บทเรียนเด็กปากมอม (1)

13/08/2024

33

บทที่ 33 บทเรียนเด็กปากมอม (2)

13/08/2024

34

บทที่ 34 บทเรียนเด็กปากมอม (3) NC

13/08/2024

35

บทที่ 35 บทเรียนเด็กปากมอม (4) NC

13/08/2024

36

บทที่ 36 บทเรียนเด็กปากมอม (5) NC

13/08/2024

37

บทที่ 37 จวนฟ้าจะสาง (1)

13/08/2024

38

บทที่ 38 จวนฟ้าจะสาง (2)

13/08/2024

39

บทที่ 39 จวนฟ้าจะสาง (3)

13/08/2024

40

บทที่ 40 จวนฟ้าจะสาง (4)

13/08/2024