Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
ชม
2
บท

ไม่อยากจะเชื่อว่า แค่จูบของผู้หญิงคนเดียว ทำให้ใจผมสั่นได้ขนาดนี้ ผมผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมาย แต่ทำไมกับเธอคนนี้ถึงทำให้ผมเป็นได้มากขนาดนี้ เธอต้องมีอะไรที่พิเศษ และผมจะดึงเธอเข้ามอยู่ในใจผมให้ได้

บทที่ 1 เริ่มต้น

ภาพคฤหาสถ์หลังใหญ่สีขาวนวล รอบๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ทำให้ดูร่มรื่นและร่มเย็น อีกทั้งเมื่อเดินตามทางเรื่อยๆ และเมื่อเดินลึกเข้าไปด้านในก็จะเจอสระน้ำใหญ่ซึ่ง "แพรวา" หญิงสาวที่มีจุดมุ่งหมายกับการมาเยือนของเธอที่คฤหาสถ์แห่งนี้ เธอยืนมองรอบๆ อย่างนิ่งเฉยราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของเธอ ในใจกลับหม่นหมองอย่างบอกไม่ถูก เรื่องราวที่นี่สร้างคำถามในใจให้เธอมากมาย ผู้คนที่นี่มีทั้งดีและไม่ดี และพร้อมจะหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางได้ตลอดเวลา ขณะที่กำลังยืนมองและคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก็มีเสียงเท้ามาหยุดอยู่ข้างหลัง เธอหันไปมองด้วยความตกใจและหยุดมองบุคคลตรงหน้า เขาเป็นผู้ชายที่สวมสูทสีดำ สวมใส่แว่นตากันแดด ท่

าทางดูน่าเกรงขาม และข้างเอวก็มีปืนกระบอกหนึ่งเหน็บอยู่ เขาถอดแว่นตาออก ทำให้ให้เห็นใบหน้าคมเข้ม และดวงตาที่แข็งกร้าว แต่กลับซ่อนความเศร้าในแววตา

"คุณแพรวาใช่มั้ยครับ"

"ค่ะ"

"เชิญด้านในครับ นายกำลังรอ"

ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะเดินตามเข้าไปข้างใน

"นายครับ"

เขาพาเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งฉันรู้ดีว่าเขาเป็นใคร

"มาอยู่ที่นี่ก็ต้องรู้จักกฎของที่นี่ก่อน"

ฉันพยักหน้าแล้วถอนหายใจพร้อมฟังกฎของที่นี่ เขาลุกขึ้นมาเดินรอบตัวฉัน ก่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้า

"ที่นี่ยินดีต้อนรับเธอ จะไปที่ไหนก็บอกลูกน้องฉันได้ แต่อย่าอยากรู้อะไรมากนัก มันอันตราย"

ประโยคสุดท้ายฉันรู้ดี การพาตัวเองมาในจุดที่ไม่สมควรเข้ามา มันย่อมอันตรายอยู่แล้วสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่กับฉันฉันรับได้

"ฉันรู้ว่าต้องทำตัวยังไง คุณวางใจเรื่องนี้ได้ ฉันไม่ทำให้คุณเดือดร้อนแน่นอน"

"ดี งั้นจะพาไปดูห้องนอน"

เขาพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัย ฉันจึงไม่เดินตาม และเมื่อเขาเห็นว่าฉันไม่เดินตามจึงหันกลับมา

"ทำไมไม่เดินตามล่ะ ไม่อยากพักรึไง"

"ลูกน้องตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่เรียกใช้"

เขาหัวเราะออกมา พร้อมกับมองลูกน้อง ก่อนจะมองแบบทะเล้นๆกับฉัน

"กลัว ว่างั้น"

"ทำไมต้องกลัว นายไม่ได้น่ากลัวสักนิด"

"ถ้าไม่กลัว ก็ตามมา"

เขาถือวิสาสะจับมือฉันให้เดินตามเขา ฉันยอมเดินตามไปแต่โดยดีเพราะไม่อยากต่อความกับเขา และอยากพักผ่อนแล้ว เขามาหยุดอยู่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูให้ฉัน

"นี่ห้องเธอ ถ้ามีอะไรก็เรียกแล้วกัน"

ก่อนปิดประตูเขาส่งยิ้มให้ฉันพร้อมส่งสายตาที่สุดแสนจะขี้เล่นให้ฉัน วันเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือนและจากเดือนเป็นปีที่ฉันได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวงมาเฟีย ที่นี่มีอันตรายรอบตัว แต่ก็มีสิ่งที่ซ่อนอยู่เช่นกัน ฉันต้องเริ่มลงมือค้นหาความจริงให้กับคนในครอบครัวของฉันสักที "มีนา"น้องสาวต่างแม่ที่มาอยู่ในที่นี้หายตัวไป เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฉันต้องรู้ให้ได้ ขณะที่กำลังนอนคิดอะไรอยู่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายคือเขา

"วันนี้มีธุระข้างนอก ฉันให้เวลา 20 นาที ในการแต่งตัว"

พูดจบก็วางสายไป ฉันเบ้ปากให้เพราะเบื่อคำสั่งอะไรแบบนี้

"จะดีมากถ้าจะขึ้นไปรับด้วย"

"วันหลังจะขึ้นไปอุ้มลงมาแล้วกันนะ"

ไม่พูดเปล่าแต่กลับดึงมือฉันเดินออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่ รถที่แล่นออกไปเรื่อยๆมองเห็นสองข้างทางและวิวธรรมชาติทำให้ฉันปล่อยใจล่องลอยออกไป จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งขับมาประชิดแล้วปาดหน้าทำให้การประทะเกิดขึ้น

"นึกว่ามาคนเดียว พาสาวสวยมาด้วยนี่หว่า"

"ไอ้เมฆา เอารถมึงออกไปจากตรงนี้ซะ วันนี้ไม่อยากมีเรื่อง"

"เห้ย ได้ยังไงกันเล่า วันนี้อุส่าห์มีสินค้าพรีเมียมมาอวดกู จะไม่อวดสรรพคุณหน่อยเหรอ"

เมฆาเดินมาวนรอบตัวฉัน ก่อนจะทำทีท่าว่าจะลวนลามฉัน แต่ 'เพทาย' กลับดักหน้าไว้ก่อน

"มึงยุ่งกับกูได้ แต่มึงอย่าแม้แต่จะคิดมายุ่งกับผู้หญิงของกู"

"ว้าว เป็นคำตอบที่ฟังแล้วน่าสนุก"

"งั้นวันนี้กูจะปล่อยไปก่อน ครั้งหน้าเราเจอกันนะจ๊ะคุณแพรวา"

ประโยคสุดท้ายเมฆาหันมามองฉันแล้วยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป

"ไอ้เมฆา มันเป็นหัวหน้าแก๊งหมาป่าที่อันตรายมาก และฉันขอสั่งให้เธอห้ามไปยุ่งกับมันเด็ดขาด"

"แก๊งหมาป่า คือแก๊งที่เคยก่อเหตุตามที่ข่าวออกใช่มั้ย"

"ใช่ แต่ถึงจะออกข่าว ตำรวจก็ยังทำอะไรพวกมันไม่ได้อยู่ดี นี่คือสาเหตุที่เธอต้องมาอยู่กับฉัน"

"นายบอกว่านายเมฆามันอันตราย นายล่ะอันตรายหรือเปล่า"

"แล้วที่เธอยอมมาอยู่กับฉัน เพราะเธอเองก็คิดว่าฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของน้องสาวเธอใช่หรือเปล่า"

สิ้นคำพูด ฉันหันมองหน้าเขาเพราะไม่คิดว่าเขาจะรู้ในการมาของฉัน คำถามที่่ค้างคาใจมาตลอดเวลา5ปี ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ วิญญาณน้องสาวฉันจะสงบสุขได้ยังไง

"นายรู้อะไรมั้ย ตั้งแต่น้องสาวฉันหายไป ฉันไม่เคยนอนหลับสนิทสักวัน ทุกวันฉันตั้งคำถามในใจมาตลอด ถ้าวันหนึ่งฉันรู้ว่าใครที่เป็นสาเหตุการหายตัวไปของน้องสาวฉัน วันนั้นฉันควรจะทำยังไง"

พูดไปน้ำตาไหลไป เขาเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้ ก่อนจะปลอบใจ

"ฉันรู้ว่าเธอทุกข์ทรมาน แต่ให้เธอมั่นใจและเชื่อใจในตัวฉัน ฉันจะช่วยเธอหาคำตอบของเรื่องนี้"

"และฉันจะไม่อยู่เฉยๆแน่"

"ไม่ เธอทำอะไรที่เสี่ยงไม่ได้ ฉันขอสั่งห้ามเด็ดขาด ถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันคงไม่ให้อภัยตัวเอง"

เขาบีบมือฉันเพื่อย้ำกับฉันว่าเขาจะทำตามที่เขาบอกอย่างแน่นอน แต่ถึงยังไงฉันก็จะขอลองดูสักตั้ง ไม่ว่าหนทางข้างหน้าฉันจะต้องพบเจอกับอันตรายร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม ฉันเชื่อในความดีและคนดี และความจริงจะต้องเปิดเผยในไม่ช้า

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

แผนลวงรัก

แผนลวงรัก

ปรียานุช จิรามณี
4.9

"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ข้าเก็บสามีได้กลางป่า

ข้าเก็บสามีได้กลางป่า

ต้ายวี่
5.0

ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ