Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว

คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว

Davon Canestro

สมัยใหม่ | 1  บท/วัน
5.0
ความคิดเห็น
6.2K
ชม
60
บท

หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"

บทที่ 1 เธอกลับมาแล้ว พวกเราหย่ากันเถอะ

“อื้อ……”

เจียงเนี่ยนอันส่งเสียงที่ละเอียดอ่อน ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ แต่กลับสบตาเข้ากับดวงตาที่ลุ่มลึกรางกับท้องฟ้ายามค่ำคืนคู่หนึ่ง

กู้ซ่างชินกลับมาแล้ว

ตามตัวของเขามีกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ

จูบของเขายังคงครอบงำเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน มันเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่ยากจะปฏิเสธ

หัวใจของเจียงเนี่ยนอันเต้นไม่เป็นจังหวะ พยายามที่จะผลักเขาออกไปโดยสัญชาตญาณ

“อย่าขยับ”

เสียงของเขาทั้งทุ้มต่ำทั้งแหบแห้ง แฝงไปด้วยมนตรา

ร่างกายของเจียงเนี่ยนอันแข็งชะงักไปทันที สุดท้ายก็เลือกที่จะคล้อยตามเขา

วันนี้เป็นวันครบรอบสองปีที่พวกเขาแต่งงานกัน เธอไม่อยากจะทำให้เขาเสียอารมณ์

เธอหลับตาลง รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา

กลิ่นโคโลญจน์จากตัวของเขามันกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ไปจนหมด ลอยผ่านจมูกของเธอ จู่โจมเข้ามาในใจทั้งอย่างนั้น ทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม ราวกับลอยอยู่บนเมฆ

เมื่อเห็นท่าทางของเธอ ดวงตาของกู้ซ่างชินก็มืดมนไปทันที การกระทำเริ่มเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ

เจียงเนี่ยนอันได้สติสัมปชัญญะกลับมา จึงร้องขอความเมตตาด้วยลมหายใจที่แผ่วเบา

“เบาๆ หน่อย”

“เพราะว่าฉัน.…..”

คำว่าตั้งท้องสองคำนี้ยังไม่ทันได้พูดออกไป เสียงเรียกเข้าที่รีบเร่งก็ดังขึ้นมาทำลายความคลุมเครือระหว่างทั้งสองคนก่อน

ตอนที่แววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความปรารถนาของกู้ซ่างชินชำเลืองไปเห็นสายที่โทรเข้ามา เขาก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว

เขาลุกขึ้นทันที ก่อนจะเริ่มใส่เสื้อผ้า

ดูเหมือนว่าคนที่หมกมุ่นและสับสนเมื่อตะกี้นี้ไม่ใช่เขาอย่างไรอย่างนั้น

“คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?”

เจียงเนี่ยนอันอึ้งตะลึง ดึงชุดนอนมาปิดโดยสัญชาตญาณ

“อืม”

กู้ซ่างชินตอบรับกลับไปอย่างเรียบเฉย ไม่ได้อธิบายอะไรต่ออีก

“แต่ว่า......”

“รีบนอนเร็วๆ เข้าเถอะ”

เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไร จากนั้นก็โน้มตัวลงไปจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ น้ำเสียงอ่อนโยนแต่กลับเหินห่าง

จากนั้นก็ออกจากห้องไปโดยไม่ได้หันกลับมาอีก

เจียงเนี่ยนอันมองแผ่นหลังที่จากไปของเขาอย่างเหม่อลอย ผ่านไปสักพัก ถึงได้ดึงสติกลับมา

น่าจะเป็นเรื่องด่วนที่บริษัทล่ะมั้ง?

เธอต้องทำตามที่เขาบอก ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจะไม่ชอบเธอ

เธอรักกู้ซ่างชินมาสิบปี การที่ได้แต่งงานกับเขานับว่าเป็นความโชคดี จะคาดหวังมากเกินไปไม่ได้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เจียงเนี่ยนอันก็ไปล้างหน้าล้างตา ก่อนจะกลับขึ้นไปบนเตียงอีกครั้ง

มือของเธอลูบท้องเบาๆ ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเรียบเฉย

“ลูกรัก พ่อไม่ได้ตั้งใจจะไม่อยู่ด้วยกันกับพวกเรานะ อย่าไปโกรธพ่อเลยนะ”

ทันทีที่พูดจบฟีตข่าวบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ดึงดูดสายตาของเธอเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ

【ท่านประธานกู้ซื่อ กรุ๊ปปรากฏตัวที่สนามบินกลางดึก สันนิษฐานว่าไปรับแฟนสาวปริศนา 】

ภาพประกอบคือกู้ซ่างชินยืนอยู่ตรงทางเข้าวีไอพีของสนามบิน สวมใส่ชุดสูททั้งตัว รูปร่างสูงยาว ออร่าโดดเด่นไม่ธรรมดา

สายตาของเขาอ่อนโยน

เธอไม่เคยเห็นความอ่อนโยนแบบนี้มาก่อน

รูม่านตาของเจียงเนี่ยนอันหดเล็กลงทันที หัวใจราวกับถูกมือล่องหนแทงเข้ามาอย่างรุนแรง เจ็บจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก

ผ่านไปนานสองนาน เธอถึงได้ดึงสติกลับมา เนื่องจากยังมีความหวังอยู่บ้าง เธอจึงคลิกเปิดข่าวขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ใบหน้าที่คุ้นเคยเด้งเข้ามาในแววตาของเธอ

หลินเจียเจีย

ผู้หญิงที่อยู่ภายในใจที่กู้ซ่างชินอาลัยอาวณ์มาโดยตลอด เธอกลับมาแล้ว

เจียงเนี่ยนอันรู้สึกหนาวเย็นไปหมดทั้งตัว หัวใจราวกับถูกมีดกรีด

เธอกัดริมฝีปาก พยายามอดกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

เธอไม่มีทางลืมว่าการแต่งงานของเธอมันเกิดขึ้นได้ยังไง

เมื่อสองปีก่อน ระหว่างที่หลินเจียเจียกำลังจะหารือเรื่องแต่งงานกับกู้ซ่างชิน จู่ๆ ก็หายสาบสูญไป

ในตอนนั้นกู้ซ่างชินอยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการคัดเลือกคณะกรรมการ จึงต้องการภรรยาที่เชื่อฟังสักคนหนึ่ง

เธอที่รักเขาจนทุกคนรู้กันไปทั่ว เธอที่ครอบครัวล้มละลายและพังพินาศในตอนนั้น ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุด

หลังจากแต่งงานมาสองปี เธอที่ถ่อมเนื้อถ่อมตัวมักจะรู้สึกว่าความสุขนี้มันเป็นการขโมยมาโดยตลอด

จนกระทั่งเมื่อวาน เธอตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์

พวกเขามีการคุมกำเนิดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ยกเว้นเมื่อเดือนที่แล้วกู้ซ่างชินไปเข้าร่วมงานเลี้ยงสังคม ดื่มจนเมากลับมาถึงบ้าน เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปจนหมดเกลี้ยง

ทั้งสองคนประมาทเลินเล่อ ถึงได้ตั้งท้องเด็กคนนี้ขึ้นมา

ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับกู้ซ่างชินยังไง

เธอกลัวว่ากู้ซ่างชินจะให้เธอไปเอาเด็กคนนี้ออก

ถึงยังไง คนที่เขารักก็ไม่ใช่เธอมาตั้งแต่แรกแล้ว

ระหว่างที่กำลังสับสนมึนงง เจียงเนี่ยนอันก็ได้ยินเสียงของกู้ซ่างชิน

เป็นเสียงที่ดังมาจากห้องหนังสือ

เขากลับมาแล้วเหรอ?

เธอลุกขึ้นแล้วเอาเสื้อคลุมตัวบางคลุมไว้ ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องหนังสือ

ทันทีที่มาถึงประตู เสียงเยาะเย้ยของฟู่จือเซวียนก็ดังขึ้นมา “เมื่อคืนนายไม่ได้กลับมาตลอดทั้งคืน เพราะอยู่ด้วยกันกับหลินเจียเจียเหรอ?”

หัวใจของเจียงเนี่ยนอันจมดิ่งลง

ที่แท้กู้ซ่างชินก็อยู่ด้วยกันกับหลินเจียเจียตลอดทั้งคืนจริงๆ

“อืม”

กู้ซ่างชินตอบรับไปอย่างเรียบเฉย น้ำเสียงฟังไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกอะไรทั้งนั้น

“แล้วอันอันล่ะจะทำยังไง? หลังจากแต่งงานกันมาสองปี เป็นไปไม่ได้หรอกมั้งที่นายจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอเลยสักนิด?” น้ำเสียงของฟู่จือเซวียนแฝงไปด้วยความเป็นกังวล “ผู้หญิงที่ดีขนาดนี้นายกลับไม่เอา เมื่อถูกคนอื่นแย่งไป แล้วอย่ามาร้องห่มร้องไห้ทีหลังก็แล้วกัน”

“ไม่หรอก แค่รู้สึกผิดเท่านั้น” น้ำเสียงของกู้ซ่างชินไม่ได้แยแสสนใจ “ถ้านายอยากได้ล่ะก็ ฉันแนะนำให้กับนายได้นะ นายยังมีธุระที่บริษัทอีกไม่ใช่เหรอ? รีบไปเถอะ”

รู้สึกผิดงั้นเหรอ?

กู้ซ่างชินแค่รู้สึกผิดต่อเธอเท่านั้นเองเหรอ?

น้ำตาของเจียงเนี่ยนอันร่วงหล่นลงบนพื้น มือที่จับลูกบิดประตูคลายออกอย่างเงียบๆ

ที่แท้เขาก็ไม่เคยหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

ที่แท้ภายในใจของกู้ซ่างชิน เธอมันไม่ได้สลักสำคัญอะไร เขาถึงขั้นสามารถแนะนำให้กับคนอื่นได้เลยด้วยซ้ำ

หัวใจของเจียงเนี่ยนอันเยือกเย็นไปหมดแล้ว

เธอหันหลังกลับด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วิ่งเข้าไปในสวนเหมือนกับกำลังหนีอะไรบางอย่าง

เธอนั่งยองๆ ลง ซบหน้าที่หัวเข่า ปล่อยให้น้ำตามันคลอสองเบ้าตา

เธอนึกถึงภาพตอนที่เธอเจอกับกู้ซ่างชินเมื่อสิบปีก่อนขึ้นมา

เขาในตอนนั้น หล่อเหลาสดใส มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวภายในใจของเหล่าผู้หญิงทุกคนในโรงเรียน

ส่วนเธอ ก็กลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ใครๆ ต่างก็กลั่นแกล้งรังแก เพราะบริษัทของครอบครัวล้มละลาย

กู้ซ่างชินเป็นคนช่วยเหลือเธอ เขาพูดเตือนกับทุกคนว่า ห้ามมารังแกเธออีก

กู้ซ่างชินในตอนนั้น ดุจดั่งเทวดาจริงๆ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว
1

บทที่ 1 เธอกลับมาแล้ว พวกเราหย่ากันเถอะ

10/04/2025

2

บทที่ 2 ต่อให้ตั้งท้องแล้ว ก็ไปเอาออกได้

10/04/2025

3

บทที่ 3 เธอเป็นเพียงแค่พนักงานของเขาเท่านั้น

10/04/2025

4

บทที่ 4 แกล้งทำเป็นน่าสงสารเหรอ?

10/04/2025

5

บทที่ 5 หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว

10/04/2025

6

บทที่ 6 พวกคุณอยู่ด้วยกันได้ยังไง

10/04/2025

7

บทที่ 7 ภรรยาตัวจริงอย่างเธอกลับถูกมองว่าเป็นมือที่สาม

10/04/2025

8

บทที่ 8 เธอจะจากไปอย่างรวดเร็วที่สุด

10/04/2025

9

บทที่ 9 ไปโรงพยาบาล

10/04/2025

10

บทที่ 10 คำพูดซุบซิบ

10/04/2025

11

บทที่ 11 เมื่อคืนนอนหลับไม่สนิท

10/04/2025

12

บทที่ 12 ขอโทษ

10/04/2025

13

บทที่ 13 ฉันจัดการเองได้

10/04/2025

14

บทที่ 14 สามสิบนาที

10/04/2025

15

บทที่ 15 ล้มอีกแล้ว

10/04/2025

16

บทที่ 16 ผิดปกติเหรอ?

10/04/2025

17

บทที่ 17 ผมจะไปเดี๋ยวนี้

10/04/2025

18

บทที่ 18 เข้าใจผิดแล้ว

10/04/2025

19

บทที่ 19 งานเลี้ยงสังสรรค์

10/04/2025

20

บทที่ 20 รบกวนพวกคุณด้วยนะ

10/04/2025

21

บทที่ 21 มอมเหล้า

10/04/2025

22

บทที่ 22 หนีออกไป

10/04/2025

23

บทที่ 23 วิธีการสกปรกต่ำทราม

10/04/2025

24

บทที่ 24 ภรรยา

10/04/2025

25

บทที่ 25 จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!

10/04/2025

26

บทที่ 26 คนที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย

10/04/2025

27

บทที่ 27 ดื่มซะให้พอ

10/04/2025

28

บทที่ 28 ขอความเมตตา

10/04/2025

29

บทที่ 29 ไม่สมเหตุสมผล

10/04/2025

30

บทที่ 30 ปกป้องคนของตัวเอง

10/04/2025

31

บทที่ 31 ลาพักร้อน

10/04/2025

32

บทที่ 32 การยั่วยุของหลินเจียเจีย

10/04/2025

33

บทที่ 33 เรื่องที่ไม่ต้องออกแรง

10/04/2025

34

บทที่ 34 กลับบ้าน

10/04/2025

35

บทที่ 35 สนามกอล์ฟ

10/04/2025

36

บทที่ 36 เพื่อเงินโบนัส

10/04/2025

37

บทที่ 37 บังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ

10/04/2025

38

บทที่ 38 แผดเผาจนไม่เหลือซาก

10/04/2025

39

บทที่ 39 เตรียมตัวจะจากไป?

10/04/2025

40

บทที่ 40 ทำแบบนี้ได้ยังไง

10/04/2025