Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
256
ชม
3
บท

ฉลามที่มันได้กลิ่นคาวเลือดแล้ว มันไม่ปล่อยเหยื่อไปง่าย ๆ หรอกนะ ?

บทที่ 1 01

01

ผู้เขียนไม่มีเจตนาสนับสนุนการบูลลี่ หรือสิ่งที่ไม่ดีนะคะ

และตัวละครของบีที่นำเสนอเป็นเพียง ตัวเอก บุคคลคนหนึ่งที่มีดี ไม่ดี บ้งบ้าง

อยากให้อ่านเพื่อความบันเทิงนะคะ

อะไรดีที่ก็นำไปปรับใช้ อะไรที่ไม่ดีโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน แยกแยะนะคะ

ใครที่ไม่ชอบการนำเสนอแนวนี้ สามารถกดออกได้ค่ะ

หากไม่ชอบ กด X ไม่ดราม่านะคะ ขอร้อง แง

“เย้ ในที่สุดไลก็จะได้เข้ากรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์มหินทรายุทธยามหาดิลกภพนพรัตน์ราชธานีบูรีรมย์อุดมราชนิเวศมหาสถานอมรพิมานอวตารสถิตสักกทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์สักที!” ผมกระโดดโหยง ๆ เมื่อรู้ว่าผมสอบติดทุนโรงเรียน R โรงเรียนชื่อดังมหาศาล ดังจนป้าข้างบ้านต้องกรีดร้องน้ำลายฟูมปากว่าติดได้ยังง๊ายยย แถมยังได้ทุนอีก ถ้าหากไปเรียนเฉย ๆ ไม่ได้ทุนคงไม่มีทางเพราะบ้านผมจนฉิบหาย

พ่อขายของเก่า รับจ้างทั่วไป ส่วนแม่รับตัดผ้า อยู่ที่จังหวัดตราด

“เห็นว่าไอ้กวางมันก็ติดมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ นะ”

“เออแม่มึง แต่จะไปฝากไอ้ไฉไลกับกวางมันไม่ได้หรอก เกรงใจมัน มันอยู่กับแฟนมันนู่น”

“ไอ้นุไหม มันเอ็นดูไอ้ไลลูกเราจะตายไป เห็นมันจะเอาไอ้ไลไปอยู่ด้วยตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว”

พ่อกับแม่ผมอาบน้ำปะแป้งแล้วมานั่งคุยกับเรื่องที่อยู่ผมในกรุงเทพฯ ตอนแรกไม่คิดว่าผมจะติดไง คิดว่าไอ้เด็กเอ๋อแบบผมจะติดไหม เลยบอกว่าลองสมัครสอบดูแล้วผมมันดันเป็นเด็กฉลาดเป็นด่างเลยสอบติดได้ ความฝันอีกอย่างคือผมจะสอบให้ติดมหาวิทยาลัย CU คณะแพทย์ศาสตร์ด้วย ทีนี้ป้าข้างบ้านก็จะเอาลูกมาอวดพ่อแม่ผมไม่ได้อีกต่อไป โฮ่ ๆ ฮี่ ๆ คุกคิก คุกค๊าก

ว่าแต่จะให้ไปอยู่กับลุงนุเหรอ “ลุงนุที่ชอบซื้อของเล่นให้ไลอะเหรอพ่อ”

“ใช่”

ลุงนุที่ให้เงินแต๊ะเอียผมสองพันสามตลอดทุกปีแล้วโดนแม่ยึด จากนั้นลุงก็แอบเอาเงินมายัดมือผมแบบไม่ให้พ่อแม่รู้ ลุงนุที่สุดของความใจดี

“ไป!” จะรออะไร ก็ไปอยู่กับลุงนุเลยสิครับ

“ไอ้นุกูฝากลูกกูด้วยนะ”

“ฝากเมียด้วยไหม”

“ไอ้เหี้ยนุ”

“หยอกเอิน” ลุงนุทำมือแบบ หยอก ๆ น้าใส่พ่อ “กูแค่เล่นมุข ฝากลูกเมียข้าด้วยอะเฮื่ออ ไง” ผมชอบลุงนุมาก ลุงนุตลอด ตลกฉิบหายใจดีด้วย แถมบ้านลุงนุก็ใหญ่ หรูหรา รถเยอะแยะ หลากหลาย คือลุงนุเป็นเพื่อนพ่อที่ค่อนข้างรวยไปทางรวยมาก ผมไม่เคยมาบ้านลุงนุหรอก มีแต่ลุงลงไปหาพ่อที่ตราดแล้วก็พากันไปเที่ยวเกาะ พวกเกาะกูด เกาะหมากอะไรแบบนั้น

“เออ มันทำอะไรไม่ดี มึงโทรมาหากูได้เลยนะ กูจะสวดอภิธรรมศพให้มันเอง สวดจนมันตายแล้วเกิดใหม่ก็จะสวดวนไป”

พ่อผมก็ไม่เป็นรองลุงนุหรอกเอาจริง ๆ

“โห่พ่อเห็นไลเป็นคนยังไง”

“เป็นเด็กเหี้ยไงลูก”

พ่อ นี่ลูกเอง ลูกไง จำกันได้ไหม แฮลโหล๋

“เออ กูจะดูแลอย่างดี มึงอยู่กินข้าวเย็นกับกูไหม เดี๋ยวไอ้วาฬกับไอ้ฉลามก็จะกลับมาแล้ว”

“ไม่ได้จริง ๆ มึง เดี๋ยวดึก”

“เออ ๆ งั้นไม่เป็นไร เดินทางดี ๆ” พ่อผมมาส่งผมแค่คนเดียวส่วนแม่อยู่รอรับลูกค้าตัดผ้าที่บ้าน พ่อสวดอภิธรรมเตรียมฌาปนกิจผมเล็กน้อย จากนั้นก็กลับบ้านไป

“หนูไฉไลอยู่ห้องข้าง ๆ ไอ้ฉลามแล้วกันนะลูก”

“ขอบคุณครับลุง”

“ส่วนเรื่องไปโรงเรียน ขับรถเป็นไหม เอารถลุงไปใช้ได้”

“ไม่เป็นครับลุง”

“งั้น...อืม...” ลุงนุทำท่าคิดขณะที่ให้แม่บ้านช่วยขนของผมขึ้นไปชั้นบน บ้านลุงนุใหญ่มาก มีแม่บ้านสองคน ลุงคนสวนอีกหนึ่ง บอกตามตรงนะ ที่นี่อย่างกับคฤหาสน์ที่ผมเห็นในละครหลังข่าวจากทีวีลักษณะคล้ายตู้ปลาที่บ้านผมเลย ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้มีบุญมาอยู่ที่นี่ “ให้ไอ้ฉลามไปส่งแล้วกัน โรงเรียนหนูอยู่ก่อนถึงมหา’ ลัยเจ้านั่น”

“อ๋อ ได้ครับ”

“เอ้า ชอบห้องไหม” ลุงนุถาม ส่วนผมก็มองไปรอบ ๆ ห้อง มันเป็นห้องสีขาวสะอาดสะอ้าน ใหญ่กว่าห้องนอนผมที่บ้านสองเท่าได้ ชุดเฟอร์นิเจอร์หรูหราหมายังไม่กล้าเห่า ที่พื้นมีพรมสีขาวนุ่ม ๆ เวลาเหยียบ แถมมีระเบียงด้วย เตียงใหญ่ท่าทางนุ่ม ห้องน้ำในตัว มีอ่างแบบกลม ๆ อันใหญ่ เรียกได้ว่าที่นี่แม่งคือสวรรค์

“ชอบมากเลยครับลุง ห้องสวยมาก”

“เดี๋ยวหกโมงลงมากินข้าวข้างล่างนะ ทำความรู้จักพี่ ๆ เขา เจ้าวาฬทำงานเป็นสถาปนิก พี่เขาเรียนจบแล้ว ส่วนเจ้าฉลามเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ คณะสถาปัตยกรรมออกแบบภายใน ลูกลุงเท่ไหม เท่ที่สุดเลย” ว่าแล้วลุงแกก็เล่าถึงลูกชายสองคนที่ผมไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ชื่อลูกลุงโคตรเท่เลย เอาไปสิบเอ็ดเต็มสิบ “เจ้าวาฬใจดีมาก ส่วนฉลาม อย่าไปยุ่งกับมันเยอะนะ เจ้านั่นมันดุ ดุอย่างหมาแม่ลูกอ่อน แต่ลูกลุงหล่อเหมือนลุง ให้อภัยมันเถอะ ความหล่อชนะทุกอย่าง”

มาอยู่ได้ไม่ถึงวันก็รับรู้ได้ถึงความเหนื่อย เหนื่อยใจนี่แหละ

ลุงนุปล่อยให้ผมจัดของ พอถึงเวลาข้าวผมก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วลงไป แต่ลงเลทนิดหน่อยเพราะติดสายคุยกับพ่ออยู่ พ่อเพิ่งถึงบ้าน

ที่ห้องอาหารมีคนอยู่แล้ว ได้แก่ลุงนุ พี่ผู้ชายใส่แว่นหน้าหล่อ ท่าทางใจดี รับรู้ได้ถึงความไมโคเวฟตอนที่พี่เขามองมาพร้อมรอยยิ้มที่ถอดแบบลุงนุมา ส่วนอีกคนมองหน้าผมด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างแล้วเคาะนิ้วกับโต๊ะหินอ่อนแผ่นยาว คนนี้มองตาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนคลื่นพลังงานความร้อนตอนออสเตรเลียเข้าหน้าร้านจนถนนละลาย

ให้เดาจากเซ้นอันแสนชาญฉลาดของผม คนที่ใส่แว่นใจดี สปอร์ต กทม. ชื่อพี่วาฬ

ส่วนคนที่หน้าโหดเหมือนจะกระโดดถีบกันตั้งแต่แรกพบคือพี่ฉลาม

“สะ...สวัสดีครับพี่ ๆ”

“น้องไฉไลใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“พี่ชื่อวาฬนะ”

“สวัสดีครับพี่วาฬ” ผมยกมือไหว้พี่วาฬ ผมเดาถูกว่ะ พี่แว่นคือพี่วาฬ ที่เดาถูกอีกอย่างเพราะพี่เขาใส่แว่น ว. แหวนเหมือนกัน แว่น วาฬ

ไอ้เหี้ยคิดได้ไงวะ กูนี่อย่างเท่ ต๊าซสุดในสามโลกา

“ฉลาม” คนที่ดุ ๆ บอกห้วน ๆ ที่เขาพูดเพราะลุงนุจ้องหน้า ผมเลยยกมือไหว้อีกรอบ

“ไหว้หมาเถอะลูก” อันนี้ลุงนุพูดตอนที่ผมยกมือไหว้พี่ฉลาม ทำเอาพี่วาฬหลุดยิ้มออกมา ส่วนผมก็ต้องทำปากอรุ่มเจ๊าะเพราะไม่กล้ายิ้ม ทั้งที่ข้างในคือกูดิ้นเป็นไส้เดือนแล้ว ขำ

“มึงไม่ลงมาพรุ่งนี้เลยล่ะ เป็นผู้อาศัยทำเจ้าของบ้านรอแดก...กินข้าว” คำว่าแดกถูกแปรผันเป็น กิน เมื่อลุงนุกระแอมไอคนเส้นเลือดคอแทบจะโป่งพอง

“ขอโทษครับ มัวแต่คุยกับที่บ้าน จริง ๆ ถ้าหิวกินกันก่อนเลยก็ได้นะ”

“บ้านเรากินข้าวพร้อมกัน เสร่อไม่รู้?”

แรงมากพ่อ เจอกันวันแรกก็ด่ากูเสร่อเลย หน้าหล่อแต่ไม่มีผลกับมารยาททางสังคมสินะ “ใส่แว่นแล้วไม่ฉลาดเลยเนอะ”

โอโห... แว่นมันวัดความฉลาดคนที่ไหนวะ แว่นมันเกิดจากการวัดสายตาเว้ย

“กระทบกูไอ้หลาม” พี่วาฬว่าพลางเอามือขยับแว่น เออใช่ ผมใส่แว่น พี่วาฬก็ใส่

“ฟันเหล็กคิดว่าเท่เหรอ”

ลามมาเรื่องเหล็กจัดฟันผมที่ชาติหนึ่งจะได้ไปดึงฟันครั้งเพราะที่บ้านไม่มีเงิน คือที่ผมต้องจัดทั้งที่บ้านแทบไม่มีเงินเพราะมันมีผลต่อการกินของผม การสบของฟัน เรียกว่าจัดเพื่อการรักษาและใช้ชีวิตจริง ๆ แถมค่าจัดลุงนุก็ช่วย ๆ มาด้วยแหละ

“ฟันเหล็กก็เท่กว่าพี่ฉลามแล้วกัน”

“ตัวก็เตี้ยอย่างกับตอม่อ” เกิดมาไม่สูงกูผิดอะไร “หน้าก็อย่างกับด็อบบี้ เอาถุงเท้าไหม จะได้เป็นอิสระ”

กูไม่ได้หน้าเหี้ยเว้ย กูแค่หน้าง่วง

“พี่ฉลามรู้ปะ ว่าสมัยนี้เขาจริงจังเรื่องต่อต้านการบูลลี่นะ เดี๋ยวผมเอาไปลงทวิตให้เฟมทวิตมารุมแหกพี่ขึ้นเทรนอันดับหนึ่งไปเลย”

“อย่ามาทำเป็นเก่งกับกูไอ้เด็กหะ...เตี้ย”

เขาพูดเสียงเบาลง จากคำว่า ‘เหี้ย’ เป็น เด็ก ‘เตี้ย’ แทนเพราะลุงนุกระแอมอีกครั้ง

“แกเลิกว่าน้องได้ยัง น้องก็ตัวเท่านี้ เป็นเจ้ามู้จู้ คิดซะว่าไฉไลเป็นน้องชายอีกคนไม่ได้เรอะไอ้ฉลาม ฉันเลี้ยงแกมาให้เป็นฉลามเท่ คูล ๆ ไม่ได้เลี้ยงมาให้เป็นหมาพิทบูลบ้าดีเดือด”

เออ พี่ฉลามเหมือนหมา

ไอ้หมา

“ชื่อไฉไลเหรอมึง”

“ทำไม”

ชื่อไฉไลแล้วมันทำไม ไฉไล เท่ เลิศ สแมนแตนอะ

“ชื่อตลกเหมือนหน้ามึงเลย”

พี่มึง จะบู้บี้กูเกินไปแล้วนะเว้ยยยยยยย!

100%

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ