ขอแค่ใจรัก

ขอแค่ใจรัก

pimmas

5.0
ความคิดเห็น
1.9K
ชม
16
บท

เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!

บทที่ 1 1 เหตุเกิดยามค่ำคืน

“ผมบอกว่าอย่ามายุ่งกับผมไงสิตา”

ชายหนุ่มร่างสูงกำยำส่งเสียงกราดเกรี้ยวขณะถูกหญิงสาวในชุดราตรีสีแดงเพลิงยื้อยุดฉุดกระชาก เขาเอือมระอาอย่างบอกไม่ถูกกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเมาไวน์ได้จนเผลอทำอะไรตามใจตนเองไม่สนใจผู้ใด

อะไรไม่ว่า แต่นี่เธอถึงกับขาดสติจนแสดงกิริยาไม่งามต่อหน้าธารกำนัลและนักข่าวเป็นร้อยอีกด้วย

“วันนี้วันวาเลนไทน์ จบงานนี้เราไปต่อที่อื่นกันนะคะริค”

“ไม่ได้!”

“วันนี้วันพิเศษตาอยากอยู่กับคุณนะคะ ริค”

สิตาที่ออกอาการเมาแล้วรุ่มร่ามอย่างที่ไม่เคยเป็นส่งเสียงดังจนเป็นจุดสนใจคนเดินผ่านไปมาตามทางเดิน ทำให้ริครู้สึกอับอาย เขาเลิกกับสิตาไปนานแล้วแต่เธอยังคงไม่วายยุ่มย่ามกับเขา

“ไม่เอานะ สิตา หยุด!”

“ม่าย” หญิงสาวลากเสียงยาว

“ยืนดีๆ หน่อย คนมองหมดแล้ว” ริคเค้นเสียงดุไม่พอแต่มือแกะปลายนิ้วที่เกาะเกี่ยวต้นแขนของตนอย่างเอือมระอา

“มองก็มองสิคะ ตาไม่สน”

“แต่ผมสน”

“งั้นคุณก็พาตาไปจากที่นี่ทีสิคะ”

“พูดเป็นเล่นไปได้ นี่มันงานฉลองรายได้หนังของคุณนะ” ริคพูดพลางหันรีหันขวาง ดวงตาคมกริบสีเทาหม่นลึกล้ำจับจ้องไปทั่วด้วยความเกรงใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ใส่ใจยังคงทำตามใจปรารถนาไม่สนสายตาใคร

“ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งกลับเลยค่ะ ริค อยู่ดื่มเป็นเพื่อนสิตาก่อนนะคะ งานน่าเบื่อจะตาย ตาเบื่อ”

“คุณเบื่อก็เรื่องของคุณ ผมจะกลับ”

“ไม่นะ! หรือว่าคุณรังเกียจตาเพราะไอ้ข่าวบ้าๆ นั่น”

“ไม่เกี่ยวเลยสิตา”

“ตาไม่ได้เป็นกิ๊กกับผู้กำกับจริงๆ คุณอย่าเข้าใจผิดตานะ”

“แล้วคุณมาบอกผมทำไม เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันตั้งนานแล้วนะสิตา”

“แต่ตายังชอบคุณ” หญิงสาวอ้อนวอน

ริคก้มมองดวงหน้าแต้มเครื่องสำอางฉูดฉาดที่กำลังออดอ้อนราวกับคนไร้สติแล้วได้แต่ส่ายหน้าระอา ขณะนั้นแสงแฟลชสว่างวาบขึ้นวูบหนึ่ง

“เห็นนั่นไหม! หยุดได้แล้วสิตา”

“ตาไม่หยุด!”

“แต่มันจะเป็นข่าวแล้วคุณเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน”

“ไม่ค่ะ ตาไม่แคร์หากคนที่เป็นข่าวกับตาจะเป็นคุณไม่ใช่ไอ้แก่ตัณหากลับนั่น”

“อย่าพูดให้ตัวเองดูสวยเลย ผมรู้ว่าคุณแคร์” ริค ถึงกับสบถ

เขารู้ดีว่าสิตาเป็นคนทะเยอทะยานแค่ไหน หากพรุ่งนี้สร่างเมาแล้วเห็นข่าว ไม่แคล้วคำพูดของหญิงสาวจะกลับดำเป็นขาวอีกตามเคย

เขาเข็ด...

เข็ดที่ถูกหญิงสาวใช้เป็นบันไดไต่เต้าขึ้นสู่อาชีพที่ใฝ่ฝันแล้วถีบหัวส่งลงมาเช่นเคย

ริคแกะมือเหนียบหนึบราวกับกาวตราช้างของสิตาได้ก็รีบผลุนผลันออกไปไม่ฟังคำทักท้วง ใครจะอยากถูกลากเข้าไปเอี่ยวเป็นมือที่สามของคนอื่นให้ยุ่งอีรุงตุงนังกัน

แต่ไม่ทันที่ริคจะได้ก้าวออกไป ไอ้แก่ตัณหากลับที่สิตาพูดถึงก็พุ่งพรวดเข้ามาดึงแขนหญิงสาวกระชากทันที “ตา!”

“อุ๊ย! ที่รัก!”

แหวะ!

สาวหุ่นนางแบบสะดุ้งเฮือกที่ได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์จากริคที่จ้องเธอราวกับสมเพชเสียเต็มประดา หญิงสาวรีบปล่อยมือแล้วหันไปหาที่มาของเสียงด้วยสีหน้าปั้นยิ้มแต่แววตาบ่งบอกว่าเอือมระอาสุดๆ

“ทำไมมาเงียบๆ ล่ะคะที่รัก”

“ผมบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับมัน”

“ตาก็แค่คุยกับเพื่อนเก่า ไม่ได้อะไรนะคะที่รักขา”

“แล้วที่ผมเห็นเมื่อกี้ล่ะ” ผู้กำกับหนุ่มไม่วายถามเคืองๆ ทั้งที่กิริยาฮึดฮัดเมื่อครู่อ่อนลงมากแล้วเพราะหญิงสาวเอาใจ

นางเอกสาวที่รู้นิสัยหนุ่มใหญ่ดีจึงผละจากริคไปเกาะแขนซบหน้าก่อนตอบ “ก็ตาเมา ริคก็เลยช่วยประคองแค่นั้นเอง อย่าคิดมากนะคะที่รัก”

“อย่าให้ผมรู้ก็แล้วกันว่าจะรีเทิร์นไปหามัน”

สิตาย่นจมูกทันทีที่ฟังจบ แต่หญิงสาวผู้ถนัดเอาใจหนุ่มใหญ่เป็นที่หนึ่งก็อาศัยร้อยกลมารยาหญิงออดอ้อน จนกระทั่งถูกผู้กำกับหนุ่มใหญ่คว้าเอวเดินโอบกลับเข้าไปในงานในที่สุด

ริคที่ออกอาการกรึ่มๆ เพราะกระดกไวน์ในงานไปสามแก้วถึงกับส่ายหน้ากระตุกยิ้มเยาะ

เหอะ...

นึกแล้วว่าต้องเข้าอีหรอบเดิม...

ชายหนุ่มได้แต่ครุ่นคิดขณะมองตามแผ่นหลังหญิงสาวในชุดเดรสแดงเพลิงเว้าหลังถึงบั้นเอวเดินเคียงคู่แบบสนิทสนมไปกับหนุ่มใหญ่ร่างหมีในชุดสูทไป

ที่รักของสิตาเป็นผู้กำกับหนุ่มใหญ่ร่างอวบ หน้าตาดีที่แม้หุ่นใหญ่ไม่สมาร์ทนักแต่ก็มิใช่ว่าจะดูไม่ได้ในสายตาคนนอก เท็ดดี้ หรือทองภูมิ เป็นผู้กำกับนามกระเดื่องที่ร่วมงานกับริคได้เป็นอย่างดีในละครและหนังหลายต่อหลายเรื่อง

อันที่จริงเขาก็ชื่นชมฝีมือคนคนนี้ไม่น้อย ถ้าไม่ติดว่าจะมีเรื่องขัดใจกันในหนังเรื่องล่าสุดเพราะสิตาเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดเปลี่ยนตัวคนเขียนบทกะทันหัน เป็นความรู้สึกเจ็บปวดในอาชีพของริคที่ประเมินค่ามิได้

หากเป็นเพราะฝีมืออ่อนด้อยเขาจะไม่ว่าเลยสักคำ แต่นี่คือการกลั่นแกล้งทางอาชีพที่คนอย่างเขารับไม่ได้อย่างแรง

ริคขับรถกลับคอนโดมิเนียมที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมด้วยอาการปกติ เขาแม้จะเริ่มมึนเล็กน้อยเพราะฤทธิ์ไวน์แต่ก็ไมได้หมายความว่าจะควบคุมสติไม่ได้

เพราะประมาทหรือขาดสติเขาก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะทันทีที่รถพ้นทางโค้งถนนใหญ่เข้าสู่ถนนสายรองที่ไฟทางน้อยกว่าสายหลัก ระดับการมองเห็นเส้นทางก็ต่ำเตี้ย

ไม่นานเขาก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ pimmas

ข้อมูลเพิ่มเติม
เล่ห์ร้าวรัก

เล่ห์ร้าวรัก

โรแมนติก

5.0

“อีกหน่อยฉันจะพามินไปแต่งงานบนลอนดอนอาย” “หืม... นี่โอมกำลังฝันอยู่รึเปล่า” “ไม่ ๆ ฉันคิดอย่างนั้นจริง ๆ” “งั้นวันแต่งงาน โอมต้องเล่นเพลงโปรดของเราด้วยนะ มินจะรอฟัง” “ได้สิ... Kiss in the Rain เนอะ ฉันจะซ้อมตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง” ยังจำได้ว่าเขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าสักวันจะพาหล่อนมาที่นี่มายังสถานที่ที่เป็นเหมือนสัญญารักของเขากับหล่อน ความฝันของหล่อนอยู่ที่นี่... ความรักของเขาก็อยู่ที่นี่... ที่ ‘ลอนดอนอาย’ ดวงตาของ... ลอนดอน เมืองแห่งฝนผู้คนเหงาและเรื่องราวความรักที่มีความทรงจำของเขากับหล่อน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นคนที่รักกันสุดหัวใจ แต่ตอนนี้หล่อนจากเขาไปนานแสนนานแล้วและไม่เคยได้พบกันอีกเลย... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของอดีตคู่รักที่เคยคบหากันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่มีอันต้องแยกจากไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง หลายปีต่อมา อธิปก หมดพันธะจึงกลับมาเพื่อทวงสัญญารักที่เขาเคยให้ไว้แต่กลับพบว่า สิมิลัน มีคนรักแล้ว เขาคนนั้นไม่ใช่ใครแต่คือ พฤกษ์ รุ่นพี่ที่นับถือและฝากให้ช่วยดูแล พฤกษ์เก็บจดหมายฉบับนั้นไว้และดูแลสิมิลันด้วยความรักทั้งหมดที่มีจนลืมนึกถึง รินลดา พี่สาวของสิมิลันที่เป็นเพื่อนสนิทและหลงรักเขาอยู่ สองคนกลับมาเจอกันในวันที่สิมิลันเข้าใจว่าเขาไม่โสด เธอจึงวิ่งหนีหัวใจตัวเอง แต่สุดท้ายทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเพราะเมื่อพบแล้วว่าต่างก็ยังรักกันแต่มีเหตุให้อธิปกประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าชายนิทรา สิมิลันตัดสินใจไปลอนดอนโดยไม่รู้เลยว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดไปด้วย วันนั้นเองอธิปกก็ฟื้นขึ้นมาโดยไม่มีเธอในชีวิตอีก เขาเก็บความเสียใจไว้จนกระทั่งสองปีต่อมาทั้งสองจึงได้พบกันอีกครั้ง...

กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์

กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์

โรแมนติก

5.0

ตั้งแต่เกิดกระทั่งจำความได้ จินซิงซิน รับรู้แค่ว่านางเป็นเพียงบุตรสาวกำพร้าของพ่อค้าตระกูลใหญ่ ชั่วชีวิตน้อยๆ มีเพียงท่านยาย พี่สาวต่างมารดาเท่านั้นที่คอยห่วงใย จนกระทั่งได้เจอกับ หลี่หลานหมิง ผู้มีสมญานามว่าอ๋องพยัคฆ์ที่ผู้คนโจษขานกันว่าโหดร้ายยิ่งนัก สังหารผู้คนเป็นผักปลา แสนเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งจนมิอาจมีผู้ใดใต้หล้าหาญกล้าต่อกร ทั้งสองต้องแต่งงานกันตามบัญชาของโอรสสวรรค์ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลี่หลานหมิงจะทำเช่นใดในเมื่อสตรีที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยอย่างชายากระต่ายน้อยกลับเติบโตเพียงแค่ร่างกาย ส่วนสภาพจิตใจนั้นอ่อนด้อยราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลี่หลานหมิงที่รู้สึกตัวและพลิกตัวจากอาการเมื่อยขบแต่พบว่าไม่สามารถทำได้ แค่บิดตัวเล็กน้อยก็รู้สึกร่างกายแข็งค้างราวกับไร้เรี่ยวแรง ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน... ที่แท้เพราะเมื่อคืนเขาถูกกระต่ายหลงทางกอดก่ายเอาเป็นสมบัติตนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! น่าโมโหนัก! อ๋องสี่หลี่หลานหมิงกระดิกตัวแทบไม่ได้คล้ายเป็นตะคริวเพราะกระต่ายหลงตัวโตไม่ยอมคลายกอด กว่าร่างจะกลับฟื้นกำลังวังชาก็นานพอควร กระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังสวบสาบจากหน้ากระโจมดังเล็ดลอดเข้ามา หลี่หลานหมิงจึงรู้สึกตัวว่าอยู่ในสภาพไม่น่ามอง รีบผุดลุกนั่งเอื้อมคว้ากระบี่คู่ใจข้างกายกระชับมั่น แต่เพราะความเคลื่อนไหวของเขาทำให้เตียงไหวสั่นจนคนที่นอนเริ่มขยับตัวและวาดมือมาคว้าเอวเขาเอาไว้อีกครา “อย่าไปตุ้งตุ้ง...” “นี่เจ้า! ข้ามิใช่ตุ้งตุ้งของเจ้า ปล่อย!” หลี่หลานหมิงคำรามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความรับรู้ใดๆ “ซิงซินยังไม่อยากตื่นเลย...ท่านยาย” ดี... ดีแท้! เมื่อครู่เปรียบเขาเป็นกระต่ายหูเทา คราวนี้กลับกลายเป็นท่านยายของนางอีก หลี่หลานหมิงปรายตามองดวงหน้าดรุณีน้อยที่ยังหลับพริ้มในห้วงนิทราแล้วถึงกับนิ่งงัน นางช่างงดงามปานเทพธิดามาจุติ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของนางที่กดลงบนซอกคอของเขาตามจังหวะหายใจทั้งยังแก้มหอมกรุ่นที่เผลอจูบลูบไล้และเรือนร่างนุ่มนิ่มที่คอยเบียดยามหนาวเหน็บตลอดคืน หึ! มารดาเจ้าเถอะ! กระต่ายน้อยเอ๋ย... เขาควรสั่งสอนนางไม่ควรปล่อยให้หลุดรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาตไปได้จริงๆ อ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้ซึ่งมิได้อ่อนต่อโลกแต่ไม่เคยแสวงหาสตรีงามสักคนข้างกายถึงคราวหนาวยะเยือกในใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตที่นึกอยากได้สตรีมาครอบครองเป็นสมบัติของตัวบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายน้อยหลงทางตัวนี้ต้องรับผิดชอบ!

หวานใจที่รัก

หวานใจที่รัก

โรแมนติก

5.0

เพราะคนเคยรักกำลังจะแต่งงานกับเพื่อน เธอจึงพลาดพลั้งขึ้นห้องกับผู้ชายหล่อร้ายแถมอันตราย แต่ให้ตายเถอะ! สาบานได้ว่าเธอไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายขี้ตื๊อดื้อด้านน่ารำคาญคนนี้จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่นะ... ไม่มีใครเหมือนหญิงสาวเมื่อคืนสักคน... หล่อนทำยังไงให้เขายังคงไม่ลืมกันนะ หรือเพราะเรือนร่างหอมกรุ่นกลิ่นอะไรบางอย่างที่ไม่น่าใช่น้ำหอมราคาแพงแบบสาวสมัยใหม่นิยม ทำให้เขาเคลิ้มและหลงใหลจนอยากเชยชมหล่อนตามแรงยุ แต่... เขาไม่เคยฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่แรกพบก็ตกหลุมรักอย่างหล่อนคนนั้น ตกหลุมรัก! สารินสะบัดหน้าพรืด ก่อนจะยอมรับกับตัวเองในใจ เออหนอ... อยู่มาสามสิบหกปี มีสาวน้อยคนนี้แหละที่ทำให้เขาอยากเลวทั้งที่รู้ตัว!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปูริดา
5.0

ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ