icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์

5.0
ความคิดเห็น
375.4K
ชม
138
บท

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

บทที่ 1 องค์หญิงสิบสาม

ภายในตำหนักฉงหวาบัดนี้นอกจากจะมีไทเฮาที่ประทับอยู่ภายในแล้ว

ยังมีจินเทียนฮ่องเต้และเต๋อฮองเฮาประทับอยู่อีกด้านของเตียงเตาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

"เสด็จแม่หยางเอ้อหลางกลับจากชายแดนมาครานี้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ ลูกเห็นว่าควรตอบแทนเขาให้สมเกียรติ"

ไทเฮาแย้มพระพักตร์เยือกเย็นแล้วตรัสว่า

"ฝ่าบาทนับวันอิทธิพลของตระกูลหยางยิ่งมากขึ้น ประชาชนล้วนรักใคร่อีกทั้งตระกูลหยางเสียสละเพื่อแคว้นของเราเพียงใดแม้แต่เด็กแดงยังรู้ อย่าหาว่าแม่ยุ่งเรื่องราชกิจแต่เพราะเป็นห่วงเจ้าจริงๆ จึงอยากให้เจ้าคิดให้ถี่ถ้วน"

"ที่เสด็จแม่กล่าวมาไม่ผิด ตระกูลหยางทำความชอบใหญ่หลวงแต่อำนาจมากเกินไป ขุนนางต่างอยู่ใต้อำนาจแม้ไม่ได้ยุ่งการภายในแต่ทุกคนล้วนเกรงใจ หากปล่อยต่อไปลูกเกรงว่าอาจจะเป็นภัย"

"ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แก่ใจควรจะหาวิธีลดทอนอำนาจเสีย"

"ฝ่าบาทเพคะหม่อมฉันคิดว่ามีวิธีที่ตระกูลหยางไม่อาจขัดได้อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อพวกเรา"

ฮองเฮาตรัสนิ้วมือเรียวเต่งตึงราวกับสตรีแรกแย้มยกป้านน้ำชาขึ้นรินลงในจอกด้วยท่วงท่าสง่างามแล้วนำถวายแด่ฝ่าบาท

"วิธีการใดเล่าเจ้ารีบพูด"

"อภิเษกอย่างไรเล่าเพคะ" ฮองเฮาตรัสเบาๆ ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน

ฝ่าบาทคล้ายจะชะงักไปก่อนจะแย้มสรวลออกมา

"หลักแหลมมาก หากให้เขาแต่งกับองค์หญิงสักคนครานี้เขาจำต้องสละอำนาจทางการทหารเป็นเพียงราชบุตรเขยของเรา หากเขาไม่ยินยอมก็เท่ากับไม่อยากดองญาติกับราชวงศ์เช่นนี้ก็ถือว่ามีใจคิดไม่ซื่อ วิธีการนี้เรียกว่าไม่กวนน้ำให้ขุ่นแต่ประการใด"

เมื่อได้ยินดังนั้นไทเฮาที่มีสีพระพักตร์เรียบเฉยจึงตรัสขึ้น

"ฝ่าบาทต้องไตร่ตรองให้มากหน่อย กำลังทหารในมือของหยางเอ้อหลางมีถึงห้าแสนนายแต่ละคนล้วนเก่งกาจเป็นนักรบที่แข็งแกร่งยิ่ง หากเขานำกำลังบุกเข้าวังหลวงแม้แต่พระองค์ก็คงเอาชีวิตไว้ไม่ได้ อีกทั้งคนในตระกูลของเขาบุรุษทุกคนได้หลั่งเลือดปกป้องแผ่นดินมาแล้ว ทหารล้วนจงรักภักดีการจะลดทอนอำนาจของเขานั้นไม่ง่ายอีกทั้งต้องทำอย่างไรถึงจะให้ทหารเหล่านั้นเชื่อฟังนี่สิเป็นเรื่องสำคัญ การบีบบังคับให้หยางเอ้อหลางแต่งงานมิใช่จะสร้างคำครหาหรอกหรือ"

ฮ่องเต้มีสีพระพักตร์บ่งบอกว่ากลัดกลุ้มยิ่ง พระองค์ไม่อาจบีบให้ หยางเอ้อหลางแต่งงานได้ในตอนนี้ แต่นอกจากวิธีนี้แล้วก็ไม่เห็นหนทางอื่นที่จะลดทอนอำนาจของตระกูลหยางได้อีก อำนาจในมือขุนนางผู้หนึ่งซึ่งมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อความมั่นคงของบัลลังก์

"เสด็จแม่ตรัสถูกต้องในความคิดเห็นของเสด็จแม่เช่นนั้นเราควรทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ"

"วิธีก็มีอยู่บ้าง" ไทเฮาผู้เป็นเจ้าของอำนาจในวังที่แท้จริงตรัสพลางยกยิ้มเยือกเย็น

"เสด็จแม่โปรดชี้แนะ"

"เรื่องนี้มอบให้ตำหนักเทพจัดการ หากเป็นโองการสวรรค์แม้แต่ หยางเอ้อหลางก็ไม่อาจขัด"

ตำหนักหยางชิง

องค์หญิงใหญ่หลินฉีกำลังเลือกอาภรณ์อย่างตั้งใจพร้อมบรรดาองค์หญิงหลายคนที่รุมล้อมบรรยากาศครึกครื้นยิ่ง

"พี่ใหญ่ท่านดูสิผ้าไหมจากแคว้นเป่ยนับเป็นของชั้นเลิศวาสนาพวกข้าช่างดีนักแม้ไม่ได้ใส่วันนี้ได้เห็นกับตาถือว่ามีบุญใหญ่"

"น้องห้าเจ้ากล่าวเช่นนี้พี่เห็นด้วยหากไม่ใช่เพราะเป็นพี่หญิงใหญ่หรอกหรือพวกเราถึงมีวาสนาได้ใส่กัน"

องค์หญิงใหญ่ปิดปากหัวเราะเบาๆ เพราะเป็นพระธิดาองค์โตซึ่งถือกำเนิดจากฮองเฮา ใบหน้างดงามกิริยาเรียบร้อย เก่งกลอนคล่องกวี เรื่องเพลงพิณนั้นเป็นเลิศ สติปัญญาฉลาดหลักแหลมจึงเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทและไทเฮานัก ดังนั้นของดีทั่วแว่นแคว้นไม่ว่าจะหายากเพียงใดเพียงองค์หญิงหลินฉีเอ่ยปากทุกสิ่งล้วนมาปรากฎตรงหน้าดุจเนรมิต

ในจำนวนสตรีที่กำลังเพลิดเพลินกับผ้าไหมงดงาม กลับมีโฉมสะคราญผู้หนึ่งที่กำลังสนใจเพียงขนมด้านหน้าตนเอง หยิบเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างมีความสุขไม่สนใจแม้กระทั่งชายตาแลผ้าไหมงดงามเหล่านั้น

ความจริงนางชอบสิ่งของสวยงามทุกสิ่ง แต่ต้องข่มใจด้วยไม่อยากให้ตนนั้นเกิดความอยากได้มากเกินไป

"น้องสิบสามเจ้าไม่เลือกไปสักผืนหน่อยหรือ มาพี่หญิงใหญ่จะเลือกให้ เจ้าเอง"

"อย่าสนใจน้องสิบสามเลยพี่หญิง ดูนางสินิสัยแปลกประหลาดนัก ไม่สนใจร่ำเรียนจนไทเฮาทรงไม่พอพระทัยเราพี่น้องก็หวังเพียงทุกคนอยู่สบายอย่างสงบ แต่นางวันๆ เอาแต่หาเรื่องคนนั้นทีคนนี้ทีพี่หญิงใหญ่ใกล้ชิดนางมากเห็นทีว่านางจะนำเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาให้ในสักวัน" องค์หญิงแปดเอ่ยขึ้น

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินยกยิ้มเย็นแล้วโต้กลับเบาๆ

"พี่แปดท่านยังโกรธข้าอยู่หรือเพียงคุณชายตงหัวที่ท่านมีใจส่งกำไลหยก มาให้ข้าเพื่อตอบแทนที่ข้าช่วยน้องสาวของเขาจากพวกอันธพาลเท่านั้น เหตุใดท่านจึงคิดมากเช่นนี้เพราะคิดมากจึงได้รับโทษอย่างไรเล่า"

องค์หญิงแปดขัดเคืองใจยิ่ง เรื่องที่ผ่านมาระหว่างนางและองค์หญิงสิบสามที่ทำให้นางไม่อยากแม้จะมองใบหน้าน้องสาวคนนี้ ครานั้นองค์หญิงสิบสามแอบลอบออกนอกวังจวบจนได้มีโอกาสไปช่วยน้องสาวของบุรุษที่นางมีใจเดิมทีนางกับคุณชายตงหัวต่างมีใจให้กันจนฝ่ายนั้นจะส่งคนมาทาบทามขอพระราชทานสมรสแล้ว

หลังจากคุณชายตงหัวบุตรของเสนาบดีผู้นั้นพบองค์หญิงสิบสามเข้ากลับทำตัวห่างเหินกับนางอีกทั้งท่าทางยังผิดแปลกไปมากประหนึ่งคนแปลกหน้า จวบจนนางรู้ข่าวว่าตงหัวส่งกำไลหยกไปให้องค์หญิงสิบสามที่ตำหนัก องค์หญิงแปดจึงไปอาละวาดกับองค์หญิงสิบสามเพราะคิดว่าองค์หญิงสิบสามไม่มีมารดา ผู้หนุนหลังจะทำเช่นไรกับน้องสาวคนนี้ย่อมได้

คาดไม่ถึงว่าอ๋องฉางอันพี่ชายใหญ่ของพวกนางจะออกหน้าจนทำให้องค์หญิงแปดถูกลงโทษคัดลอกหนังสือท่วงท่างดงามจิตใจผ่องใสเล่มหนานั่นถึง ห้าร้อยบท อีกทั้งต้องถูกกักขังในตำหนักทั้งเดือน บุรุษก็หนีหน้าโทษก็ต้องรับหากไม่ใช่เป็นเพราะสิบสามผู้นี้แล้วจะเป็นเพราะผู้ใด

"น้องแปดความจริงก็เป็นเรื่องที่ดีที่คุณชายตงหัวผู้นั้นเผยธาตุแท้ออกมา หากเจ้าแต่งให้เขาไปคนโลเลเช่นนั้นจะไม่รับอนุจนเจ้าปวดหัวหรือ" องค์หญิงห้าเอ่ยขึ้น

"พี่ห้าท่านก็เข้าข้างนาง หากนางไม่ไปล่อลวงเขาบุรุษเช่นคุณชายตงหัว ที่ใสซื่อเช่นนั้นจะแปรเปลี่ยนหรือ"

"ข้าสิบสามไม่เคยล่อลวงบุรุษใดหากจะโทษต้องโทษที่เขาโลเลหรือไม่ ก็เพราะความงามของข้าที่มากจนเกินไป" องค์หญิงสิบสามตอบอย่างยียวน

"เจ้าล่อลวงเขา"

องค์หญิงแปดแค่นเสียงออกมาใบหน้าของนางเขียวคล้ำเรื่องที่ผ่านมาความจริงนางไม่อาจลืมได้ ใจของนางยังเจ็บปวดทุกคราที่คิดถึง

"ข้าบอกพี่แปดแล้วว่าไม่เคยล่อลวงเขา พบหน้ากันเพียงครั้งเดียวและ กำไลหยกข้าก็ให้คนส่งคืนแล้วจะเรียกว่าล่อลวงได้อย่างไร เขามีใจให้ข้าหรือไม่ข้ายังไม่รู้เลยท่านอย่ามาใส่ร้ายข้า ไม่แน่เขาอาจพบคุณหนูผู้อื่นเข้าก็เป็นได้ เหตุใดท่านจึงคิดว่าเป็นเพราะข้าเล่า ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว"

องค์หญิงสิบสามเอ่ยยืดยาวพลางใช้ไม้แหลมเล็กจิ้มขนมหวานกินอย่างอร่อย นางคิดว่าเรื่องนี้ช่างไร้สาระนักคุณชายตงหัวผู้นั้นมีใบหน้าเป็นอย่างไรนางยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ

"สิบสาม"

องค์หญิงแปดชี้หน้านางปากสั่นระริก องค์หญิงอื่นเข้าขวางนางไว้ด้วยคิดว่าองค์หญิงแปดอาจจะกระโดดข่วนหน้าองค์หญิงสิบสามเป็นแน่ พวกเขาดึงองค์หญิงแปดไปอีกทาง

"พอได้แล้วพวกเจ้า เรื่องนี้หากมีใครนำความไปกราบทูลไทเฮาว่าเหล่าองค์หญิงต้องมาทะเลาะกันเพราะบุรุษผู้หนึ่งจะไม่ถูกลงโทษหรือ ขายหน้านักสิบสามเจ้าก็พอได้แล้ว" องค์หญิงใหญ่เอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

"ข้าไม่ได้หาเรื่องเสียหน่อยเป็นพี่แปดที่เริ่ม" องค์หญิงสิบสามกล่าวจบก็ยัดหมั่นโถวเข้าปากอย่างไม่สนใจ

องค์หญิงแปดสะบัดใบหน้าหนี ไม่มองไปทางองค์หญิงสิบสามอีกบรรดาน้องๆ หลายคนส่ายหน้าเมื่อองค์หญิงใหญ่เริ่มไม่พอใจแล้วพวกนางก็อึดอัดยิ่ง

องค์หญิงใหญ่ถอนหายใจองค์หญิงสิบสามความจริงเชื่อฟังนางเพียงคนเดียว บรรดาพี่น้องคนอื่นสิบสามมักจะมีเรื่องขัดแย้งอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่ได้บาดหมางจนถึงไม่พูดกัน มีเรื่องขององค์หญิงแปดที่ทำท่าว่าครานี้พวกนางคงเขม่นหน้ากันไปนาน

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ซีไซต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ