เธอคือสาวสวย มาดมั่น วัย 30 ปี ที่ปากจัดสุดๆ ส่วนเขาเป็น CEO หนุ่มหล่อ มาดแมน วัย 27 ปี ที่เธอไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลย เพราะเขาคอยแต่จับผิดและชอบใช้งานเธอผิดหน้าที่อยู่บ่อยๆ +++++++++++++++++++ ยัสซันรีบขยับกายตั้งท่าลุกขึ้นอย่างหัวเสีย วิ่งตามหญิงสาวฝีเท้าหนักที่ทำเอาเขาวูบไปชั่วขณะเพราะแรงของมัน เธอมันร้ายได้ทุกสถานที่จริงๆ ขนาดอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ยังกล้าลงมือ ถ้าทำกันขนาดนี้ก็อย่าหวังว่าจะรอดออกไปได้ง่ายๆ “กรี๊ดดดด..” สองเท้าของเธอตะกุยอยู่ในอากาศ เพราะถูกร่างที่สูงใหญ่กว่าโอบอุ้มจากข้างหลังจนตัวลอย “ปล่อยฉันนะไอ้เลว ไอ้ระยำ แกจะต้องเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้” เธอยังดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากการโอบกอด “ใครกันแน่ที่ต้องเสียใจ กล้าถีบหน้าผมก็ต้องชดใช้ให้สาสม” จมูกโด่งเป็นสันแตะที่ขมับของหญิงสาว กระซิบที่หูขณะหิ้วเธอกลับไปที่เตียงนอน เหวี่ยงเธอลงไปบนเตียงหลังใหญ่อีกครั้ง แล้วรีบโถมกายตามไปติดๆ จัดการลงโทษตามแบบที่ต้องการ
บทที่ ๑ ปะทะคารม
ปิ๊นนนน!!!…
“เกิดอะไรขึ้นชาลี” เสียงเข้ม ๆ ของชายหนุ่มถามผู้จัดการใหญ่ ที่เป็นเสมือนอาจารย์คอยสั่งสอนเรื่องการทำงานให้ เมื่อคนขับรถเหยียบเบรกกะทันหันพร้อมบีบแตรค้างเอาไว้
“รถขายผลไม้ตัดหน้าครับคุณยัสซัน” ชาลีตอบเจ้านายหนุ่ม ที่จะมารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของบริษัทผลิตเสื้อผ้าส่งออกแห่งนี้
ชายหนุ่มที่มีนามว่ายัสซันขยับผ้าม่านข้างรถให้เปิดออกเล็กน้อย มองผ่านกระจกที่ติดฟิล์มมืดไว้อีกชั้นออกไปนอกรถเมื่อได้ยินดังนั้น
“ทำไมหน้าบริษัทถึงเหมือนตลาดสดแบบนี้” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มแบบชาวอาหรับ ตามแก้มและคางรกไปด้วยไรเคราไรหนวดเขียวครึ้มถามขึ้น เมื่อเห็นรถขายของห้าหกคันจอดเรียงรายอยู่หน้าบริษัทของตัวเอง
“ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวันครับคุณยัสซัน บรรดารถของกินต่างๆ จึงมาจอดขายของให้พนักงานของบริษัทมากเป็นพิเศษ พอใกล้เวลาเข้างานเข้าพวกเขาก็จะทยอยจากไป”
“ไม่มีระเบียบเอาซะเลย” คิ้วเข้มดกดำขมวดมุ่นขณะเอ่ยปากบ่น เมื่อเห็นหญิงสาวบุคลิกดีเยี่ยม หน้าตาสวยใสไร้ที่ติคนหนึ่งเดินหน้าบึ้งมาทางนี้
ประกอบถอนหายใจยาว เตรียมตัวเตรียมใจเต็มเมื่อเห็นหญิงสาวที่สวยและปากจัดที่สุดที่ในบริษัทเดินหน้าบึ้งมาทางตน กดกระจกเลื่อนลงเมื่อเธอเดินมาถึงโดยไม่ต้องรอให้เคาะเรียก
“ขอโทษครับคุณป่าน” รีบเอ่ยปากกล่าวขอโทษก่อนที่เธอจะพูดออกมา
“ป่านบอกพี่ประกอบกี่ครั้งแล้วเรื่องขับรถเนี่ย จำได้บ้างหรือเปล่าคะ” สาวเจ้าต่อว่าคนขับรถของบริษัทโดยไม่สนใจว่าจะมีใครนั่งอยู่ในรถด้วย
“จำได้จ้ะ เวลาขับรถมาถึงบริษัทช่วงเที่ยงให้ขับช้า ๆ เพราะพนักงานจะออกมาซื้อของกินที่หน้าบริษัทกันเยอะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เพราะไม่ทันระวังจ้ะ” ประกอบบรรยายให้หญิงสาวคนสวยนามว่าอินทิราฟัง
“ก็จำได้นี่ แต่ทำไมไม่ทำ ถ้าเกิดเมื่อกี้พี่ชนถูกลุงเขาเข้าพี่จะทำยังไง”
“ขอโทษจ้ะ คราวหน้าพี่จะระวังให้มากกว่านี้”
“รับปากแล้วก็จำไว้ด้วยล่ะ ไปได้แล้ว” อินทิราโบกมือไล่ชายหนุ่ม หมุนตัวกลับไปตามทางเดิมที่เดินมา
ยัสซันหันไปมองหน้าผู้จัดการใหญ่ ทุกสิ่งที่เธอพูดเขาฟังเข้าใจแจ่มแจ้งทุกอย่าง แต่เขาอยากรู้ว่าเธอเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลุงคนนั้นทำไม
“เธอคือใคร” เขาเลือกที่จะใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาไทยที่ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็กจนโต จากอาจารย์ส่วนตัวที่เป็นคนไทย แต่ถึงกระนั้นสำเนียงก็ยังไม่ชัดเจนเท่ากับการรับฟังที่เข้าใจดี จึงเลือกใช้ภาษาที่ถนัดมากกว่า
“เธอเป็นผู้จัดการการตลาดฝ่ายต่างประเทศครับ ชื่ออินทิรา จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีครับ รักความถูกต้องและเป็นคนขี้สงสาร อย่าไปถือสาเธอเลยนะครับ” ชาลีอธิบายให้เจ้านายหนุ่มฟัง พร้อมกับออกตัวปกป้องหญิงสาวเจ้าอารมณ์ที่สุดในบริษัทที่ทุกคนต่างก็เกลียดไม่ลง
“ยังเด็กอยู่เลย เป็นผู้จัดการแล้วเหรอ” ชายหนุ่มตั้งข้อสงสัย
“เธออายุสามสิบแล้วนะครับชีค” มันไม่ใช่เรื่องยากที่คนรุ่นนี้จะได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสูง ๆ แบบนี้ ถ้ามีความรู้ความสามารถเต็มร้อย สมัยนี้เขาไม่ได้มองกันที่ประสบการณ์เหมือนแบบเก่าแล้ว
“หือ” แว่นกันแดดถูกดึงออกจากใบหน้า สายตาคมเข้มมองหน้าผู้จัดการใหญ่อย่างไม่อยากเชื่อ ถ้าบอกว่าเธออายุยี่สิบเจ็ดเหมือนเขา ยังฟังน่าเชื่อมากกว่าซะอีก
“ไม่ผิดแน่ครับ เธอมาฝึกงานที่นี่พร้อมกับเพื่อน และบริษัทก็จองตัวพวกเธอเอาไว้เลย พอเรียนจบพวกเธอก็เริ่มมาทำงานที่นี่ ตอนนั้นผมยังเป็นเลขาของคุณแม่ชีคอยู่เลย” หนุ่มใหญ่วัยสามสิบเก้าปีอธิบายให้เจ้านายคนใหม่รับฟัง
“ถ้ายังอยากทำงานด้วยกันนาน ๆ โดยที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่ก็อย่าเรียกฉันว่าชีคเลยนะชาลี ฉันไม่ชอบคำนี้เลย” ยัสซันกล่าวอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่จำความได้คนที่ดูแลเขามาตลอดคือมารดาชาวไทย กับบิดาชาวฝรั่งเศสที่ถือสัญชาติอเมริกันต่างหาก ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ของรัฐหนึ่งในประเทศตะวันออกกลางคนนั้น ดังนั้นตำแหน่งนำหน้าชื่อจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการแม้แต่นิดเดียว
“ครับท่าน” ชาลีรู้ดีว่าเจ้านายคนนี้ไม่ชอบให้เรียกเขาว่าชีค แต่เมื่อกี้เขาก็ลืมตัวไปเหมือนกัน
“ไม่ต้องท่านก็ได้ แค่ชื่อเฉย ๆ ก็พอ เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ”
“ครับคุณยัสซัน” ชาลีตอบรับอย่างนอบน้อม เป็นไปไม่ได้ที่ผู้จัดการอย่างเขาจะตีตัวเสมอเจ้านาย ถึงแม้ฝรั่งมังค่าเขาจะไม่ถือในเรื่องแบบนี้ แต่ความเป็นคนไทยที่มีอยู่ในสายเลือด ทำให้เขาทำแบบนั้นได้ไม่สะดวกปากเท่าไหร่นัก ถึงแม้ตามความเป็นจริงแล้ว จะเกี่ยวดองเป็นญาติสนิททางฝ่ายมารดาของชายหนุ่มก็ตาม จึงเรียกอีกฝ่ายด้วยคำว่าคุณนำหน้าก่อนตามด้วยชื่ออย่างที่เขาร้องขอ เพราะไม่อยากให้คนในบริษัทมาแอบนินทาลับหลัง...
ดวงตาคมเข้มของยัสซันเหลือบมองหญิงสาว ที่เข้ามาในห้องประชุมช้ากว่ากำหนดเกือบสิบนาทีด้วยแววตาติดตำหนิ เธอมาสายตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มมาทำงานวันแรกเลยเหรอนี่
“ขอโทษค่ะ บังเอิญว่าติดสายด่วนบริษัทลูกค้าที่เยอรมัน ก็เลยไม่สามารถเข้ามาประชุมได้ตามเวลา”
“นั่นเป็นข้ออ้างของคนที่ไม่ตรงต่อเวลาหรือเปล่า” ยัสซันตำหนิเธอด้วยภาษาอังกฤษต่อหน้าผู้ร่วมประชุมคนอื่น
“ไม่เป็นไรหนูป่าน เชิญนั่งสิจ๊ะ” วารีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดเหน็บแนมของลูกชายที่ต่อว่าหญิงสาว
“ฉันไม่เคยผิดเวลาถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉินค่ะ” อินทิราตอบชายหนุ่มเป็นภาษาไทยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผิดกับในใจที่อยากยันอีกฝ่ายให้ร่วงลงจากเก้าอี้ซะบัดนี้ โทษฐานที่พูดจาไม่เข้าหู ทำเป็นอวดเบ่งใส่ตนต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่น “ขออนุญาตนั่งนะคะ”
“เชิญ” ยัสซันมองหญิงสาวที่ส่งสายตาอวดดีมาให้ก่อนกล่าวเชื้อเชิญแบบแกน ๆ
“ในเมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้วผมก็ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ” ชาลีเห็นสายตาของเจ้านายหนุ่มแล้วรู้สึกหายใจไม่ค่อยทั่วท้องเท่าไหร่นัก จึงรีบเข้าเรื่องก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้ “วันนี้ที่ท่านประธานเรียกประชุม ก็เพื่อแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ท่านจะให้คุณยัสซันซึ่งเป็นลูกชายมาบริหารงานแทน และตัวท่านจะรับตำแหน่งประธานอาวุโสของบริษัทคู่กับคุณเรย์มองด์ ดังนั้นตั้งแต่วันที่หนึ่งเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ทุกท่านจะได้เริ่มทำงานกับผู้บริหารคนใหม่ของเราอย่างเป็นทางการ” ชาลียื่นเอกสารการเปลี่ยนแปลงระบบงานในบริษัท และประวัติเบื้องต้นของซีอีโอคนใหม่ให้ทุกคนที่ร่วมเข้าประชุม
“อีกเรื่องที่ต้องการให้ทุกท่านช่วยดำเนินการต่อ ก็คือเรื่องงานเลี้ยงรับรองซีอีโอคนใหม่ ขอให้ทุกท่านช่วยกระจายข่าวไปยังบุคคลในแผนกของท่านด้วยนะครับ”
ผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในห้องต่างตอบรับโดยพร้อมเพรียง เมื่อเสร็จเรื่องแล้วจึงแยกย้ายกันกลับไป...
บทที่ 1 ปะทะคารม
20/05/2022
บทที่ 2 อยากมีสามี ไม่ใช่อยากมีลูก
20/05/2022
บทที่ 3 มองหา
20/05/2022
บทที่ 4 นางจิ้งจอก
20/05/2022
บทที่ 5 นางมารร้าย
20/05/2022
บทที่ 6 ต่างคนต่างหมั่นไส้
20/05/2022
บทที่ 7 ฉันไม่กินเด็กอย่างคุณหรอก
20/05/2022
บทที่ 8 ความสุขชั่วครั้งชั่วคราว
20/05/2022
บทที่ 9 เงินเท่านั้นที่บันดาลความสุข
20/05/2022
บทที่ 10 สร่างเมา
20/05/2022
บทที่ 11 สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เป็น
20/05/2022
บทที่ 12 ผิดพลาด
20/05/2022
บทที่ 13 ความริษยาของผู้ชาย
21/05/2022
บทที่ 14 ใบลาออก
21/05/2022
บทที่ 15 ไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้า
21/05/2022
บทที่ 16 หล่อสู้บอสของเราได้ไหม
21/05/2022
บทที่ 17 การนอนกับผู้ชายเป็นงานอดิเรกของฉัน
21/05/2022
บทที่ 18 ผมไม่ยอมให้คุณไปทำงานอดิเรกหรอก
21/05/2022
บทที่ 19 งานอดิเรกของคุณคือการนอนกับผู้ชาย งานอดิเรกของผมคือการได้นอนกับคุณ
21/05/2022
บทที่ 20 แม้บนเตียงจะแพ้เขาราบคาบ แต่ในที่ทำงานเขาไม่มีสิทธิ์บงการ
21/05/2022
บทที่ 21 ฉันไม่อยากกินข้าวกับคุณสองต่อสอง
21/05/2022
บทที่ 22 คุณก็ต้องรับผิดชอบในหน้าที่จนถึงนาทีสุดท้าย
21/05/2022
บทที่ 23 หล่อ ๆ ไม่มี ที่ดูดีก็ไม่ใช่เขาอีกต่างหาก
21/05/2022
บทที่ 24 ไม่มีความหมายในสายตาเธอ
21/05/2022
บทที่ 25 วิธีเอาคืนที่คุ้มแสนคุ้ม
21/05/2022
บทที่ 26 กุหลาบร้ายดอกนี้
21/05/2022
บทที่ 27 แขกไม่ได้รับเชิญ
21/05/2022
บทที่ 28 มาเพื่อจับผิดโดยเฉพาะ
21/05/2022
บทที่ 29 ปวดใจดั่งไฟสุมทรวง
21/05/2022
บทที่ 30 แนะนำตัว
21/05/2022
บทที่ 31 เลือกตามความเหมาะสม
21/05/2022
บทที่ 32 ไม่ใช่ภรรยาแล้วเรียกว่าอะไร
21/05/2022
บทที่ 33 แค่ว่าที่คู่หมั้น อย่าเพิ่งฝันไปถึงงานแต่งงานเลยค่ะ
21/05/2022
บทที่ 34 ห้ามรู้สึก ห้ามคิด
21/05/2022
บทที่ 35 แค่นี้พอจะทำให้คุณหายโกรธเธอไหม
21/05/2022
บทที่ 36 จะยอมให้ผมเช็ดตัวหรือจะยอมเสียตัวให้ผม
21/05/2022
บทที่ 37 อย่ามายุ่งกับผู้ชายของฉัน
21/05/2022
บทที่ 38 ถ้าไม่อยากกินสากเคลือบพริกแทนไอ้นั่นก็ลองดูสิ
21/05/2022
บทที่ 39 แกมาหาคุณป่านทำไม!
21/05/2022
บทที่ 40 ฉันไม่สนใจกระแสสังคม
21/05/2022
หนังสืออื่นๆ ของ ณศิกมล / ซินเหมย
ข้อมูลเพิ่มเติม