/0/27879/coverorgin.jpg?v=c951c683c39cd9cd0812f971ee303701&imageMogr2/format/webp)
ฝ่ามือแกร่งปาดไล่หยาดเหงื่อที่ไหลซึมผ่านคอเสื้อลงมาเป็นทาง ก่อนจะปลดรังดุมเสื้อเชิ้ตออกและกระพือเรียกลมเย็นจากภายนอกเข้ามาปะทะแผงอกด้านใน ‘พงศกร’ ควักเอาผ้าเช็ดหน้าที่ยัดใส่กระเป๋ากางเกงเดินป่าแบบลวกๆ ขึ้นมาซับเหงื่อที่ไหลต่างน้ำ
กว่า 2 ชั่วโมงแล้วที่เขาเดินหลงเข้ามาในป่าแห่งนี้และยังมองไม่เห็นทางออก นึกโทษตัวเองที่มัวแต่ส่องนกเพลินจนพลัดหลงกับเพื่อนและพรานป่านำทาง แต่ประสบการณ์เข้าป่าที่พอมีอยู่บ้างก็สอนให้เขาต้องเงี่ยหูฟังเสียงรอบด้าน เขาต้องฟังเสียงน้ำ เสียงสัตว์ และเสียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นรอบตัว เพราะนั่นจะทำให้เขาได้เจอกับเพื่อนๆ และพรานป่าที่กำลังออกตามหาเขาอยู่ก็ได้
แต่ยิ่งเดินเข้ามาลึกเขาก็ยิ่งถอดใจและคิดว่าไม่น่าเลย เพราะเขาควรจะหยุดรออยู่ตรงจุดที่หลง เพื่อรอให้คนอื่นเดินมาพบ ไม่ควรตัดสินใจเดินตามร่องรอยที่เพื่อนทิ้งไว้เลย แต่คิดได้ตอนนี้ก็สายเสียแล้ว เพราะความอึมครึมที่คืบคลานเด่นชัดคือสัญญาณบ่งบอกว่าเวลานี้ใกล้ค่ำเต็มทน
หากเป็นในเมืองกรุง เวลานี้ผีเสื้อราตรีคงเพิ่งตื่นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโผบินในยามค่ำคืน แต่สำหรับป่า สัตว์หากินยามค่ำคืนก็คงเพิ่งตื่นเช่นเดียวกัน และอาหารของพวกมันก็คงไม่ใช่สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยอย่างเคยแน่ เพราะร่างกายสูงใหญ่ของเขาคงกินได้อิ่มไปหลายมื้อทีเดียว ทางเดียวที่เขาจะรอดชีวิตในป่านี้ได้ก็คือ เดินต่อไปและสังเกตเสียงรอบด้านไปด้วย
แต่แล้วสีหน้าของพงศกรก็ดีขึ้นเมื่อเสียงหนึ่งดังอยู่ไม่ไกล เขาแน่ใจว่าเป็นเสียงของน้ำตก น้ำเป็นสัญญาณของการกำเนิดชีวิต เมื่อมีน้ำก็ต้องมีคน และเขาอาจเจอเพื่อนกับนายพรานที่นั่นก็ได้ คิดแล้วก็ไม่รอช้าพงศกรรีบก้าวเดินไปยังจุดนั้นในทันที แม้ร่างกายจะอ่อนล้ามากแค่ไหน แต่เสียงน้ำที่ดังชัดมากขึ้นก็เร่งเร้าให้เขาไปให้ถึงโดยเร็ว
ลำธารขนาดเล็กที่มีฝายชะลอน้ำขวางกั้นทำให้พงศกรยิ้มกว้าง เพราะมีฝายก็แปลว่าใกล้แหล่งชุมชน เขาอาจเดินหลงจนย้อนกลับเข้ามาในเขตหมู่บ้าน หรือไม่ที่นี่ก็อาจเป็นหมู่บ้านของพวกพรานป่าก็ได้ สองเท้ารีบก้าวเร็วไว ทั้งดีใจและอ่อนล้าเสียจนอยากพัก หิวจนเสียงโครกครากในท้องเร่งเร้าว่าเลยเวลาอาหารมาจวนเจียนจะ 2 มื้อ
ทว่าเสียงหวานที่ดังแว่วมาจากธารน้ำข้างหน้ากลับทำให้ความโหยหิวจางหาย ก่อนหัวคิ้วเข้มจะขมวดเข้าหากัน
“ลา... ล้า... ลาล่าลาล้า...”
“เสียงผู้หญิงร้องเพลง” พึมพำกับตัวเองพร้อมรอยยิ้มอย่างอิดโรยปรากฏขึ้นบนใบหน้า เพราะเขารอดตายแล้วจริงๆ มีเสียงคน แปลว่ามีหมู่บ้าน
ทว่าสิ่งที่พงศกรเห็นกลับทำให้เนื้อกายของเขาเย็นวาบไปทั้งร่างตั้งแต่ปลายเท้าจดศีรษะ ก่อนจะร้อนวูบวาบจนเขาแทบอยากจะสลัดไล่เสื้อผ้าที่ขวางกั้นเกะกะเนื้อกายไปเสียให้พ้น เพราะสิ่งที่เห็นนั้นคือ เรือนร่างด้านหลังของหญิงสาวที่งดงามและสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา เธอยืนอยู่กลางลำธารที่มีน้ำสูงแค่สะโพก กำลังฮัมเพลงและซักเสื้อผ้าไปด้วย
“ลา... ล้า... ลาล่าลาล้า...”
/0/3846/coverorgin.jpg?v=d9cc8b8d57617cf8724ccea7cc9e5f5c&imageMogr2/format/webp)