เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี
ผู้เขียน:Axel Bob
หมวดหมู่โรแมนติก
เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี
ณ โรงพยาบาล
“… คนไข้ยังไม่ฟื้น ญาติเข้าไปไม่ได้นะคะ!”
“ไปให้พ้น อย่ามาห้ามฉัน ฉันรู้นะว่าเจียงซุ่ยอยู่ในนั้น!”
เจียงซุ่ยได้ยินเสียงโวยวายจึงพยายามลืมตาขึ้นมามอง
เมื่อหันไปมอง เธอก็เห็นยู่โหลผลักพยาบาลตัวเล็กออกให้พ้นทาง ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่ประตูห้องพักด้วยความเกรี้ยวโกรธ แล้วจ้องมาที่เธอด้วยนัยน์ตาที่พร้อมจะกินหัวคน
“เจียงซุ่ยเธอนี่มันร้ายกาจจริง ๆ! เธอถึงขนาดจงใจฆ่าพี่เมิ่งหนิง ตอนนี้ไตของพี่เมิ่งหนิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอรอเข้าคุกได้เลย!”
“ฉันไม่ได้ทำ!” เจียงซุ่ยยันตัวขึ้นนั่งด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด
ยู่โหลกระแทกเสียงใส่คำพูดของอีกฝ่าย “เธอยังจะแก้ตัวอีกเหรอ? มีแค่เธอกับพี่เมิ่งหนิงที่อยู่ในครัวกันสองคนไม่ใช่หรือไง เธอจะบอกว่าพี่เมิ่งหนิงแทงตัวเองอย่างนั้นเหรอ? เธออิจฉาพี่เมิ่งหนิงที่ได้เป็นคนที่พี่ชายฉันชอบล่ะสิ เธอถึงได้อยากจะฆ่าพี่เขา จากนั้นเธอก็จะได้กอดตำแหน่งคุณนายยู่ต่อไป ฝันไปเถอะ!”
เจียงซุ่ยกำลังจะอ้าปากโต้ตอบ แต่ในขณะเดียวกัน ยู่จินเฉินก็เดินเข้ามา
ชายหนุ่มรูปร่างสูง คิ้วคมเข้ม ดวงตาเงาวับ ร่างกายแข็งแกร่งกำยำและหล่อเหลาราวกับเทพแห่งดวงอาทิตย์ที่หลุดออกมาจากภาพวาดสีน้ำมันในยุคกรีกโบราณ
เจียงซุ่ยมองหน้าเขาด้วยสายตาราวกับว่าเธอกำลังจับฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้อยู่
“จินเฉิน ฉันไม่ได้ทำร้ายเสิ่นเมิ่งหนิงจริง ๆ นะคะ คุณเชื่อฉันไหม?”
ยู่จินเฉินก้มมองตอบเจียงซุ่ยด้วยแววตา ท่าทาง และน้ำเสียงเยือกเย็น
“เจียงซุ่ย ฉันไม่อยากได้ยินข้อแก้ตัว ถ้าเธอทำผิดจริง ๆ เธอก็ต้องยอมรับผิด เธอต้องไปขอโทษเมิ่งหนิง”
“แค่คำขอโทษจะไปพอได้ยังไง!” ยู่โหลตะคอกต่อ “พี่เมิ่งหนิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ไต ก็ต้องให้เจียงซุ่ยบริจาคไตทดแทนสิ!”
ยู่โหลพูดด้วยท่าทางที่เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ จากนั้นก็หันไปสั่งบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังยู่จินเฉิน “จับตัวเธอเข้าห้องผ่าตัด!”
บอดี้การ์ดตรงเข้ามาล้อมตัวเจียงซุ่ยทันที พร้อมกับล็อกข้อมือและเท้าของเธอเอาไว้
เจียงซุ่ยไร้เรี่ยวแรงขัดขืน หญิงสาวมองสามีของตนเองนิ่ง “จินเฉิน คุณเชื่อฉันไหม?”
เจียงซุ่ยหวังว่าสามีจะทำอะไรสักอย่าง แต่ยู่จินเฉินกลับยืนเฉย ๆ อยู่ที่เดิม ราวกับว่าเขายอมรับในคำตัดสินของยู่โหล
ตอนนี้หัวใจของเจียงซุ่ยแตกสลายอย่างสมบูรณ์แบบ
ความรักที่เธอมีให้ผู้ชายคนนี้หมดสิ้นลงแล้ว ไม่เหลือแม้แต่นิด
เธอพอแล้ว การแต่งงานในครั้งนี้ก็เหมือนเป็นงานแต่งของเธอคนเดียวมาตั้งแต่ต้น เธอไม่ได้อยู่ในใจของผู้ชายคนนี้แม้แต่นิดเดียว ไม่มีทางที่เขาจะเชื่อใจเธอเลย
ความเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อนเข้าถาโถมซัดโจมตีเจียงซุ่ย
เธอทนจมอยู่กับชีวิตแต่งงานที่น่าเศร้าและน่าสมเพชนี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
เธอยิ้มอย่างทุกข์ตรม “ยู่จินเฉิน พวกเราหย่ากันเถอะ”
เมื่อได้ยินคำว่า “หย่า” ยู่จินเฉินก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับมองหน้าเจียงซุ่ยด้วยสายตาราวกับมองดูเด็กที่พูดจาไม่มีเหตุผล
ยู่โหลแสยะเย้ยหยัน “ถึงหย่าไปแล้วเธอก็หนีคดีไม่ได้หรอก!”
แววตาของเจียงซุ่ยเรียบนิ่งทันที “ทำไมฉันต้องหนีด้วย ในเมื่อฉันไม่ได้ทำอะไรผิด? ให้ฉันชดใช้ไต ฉันอยากจะรู้นักว่าเสิ่นเมิ่งหนิงบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน!”
เจียงซุ่ยได้กำลังหนึ่งจากอารมณ์โกรธเกรี้ยวที่อยู่ภายในตัว เธอดิ้นจนหลุดจากการจับกุมของพวกบอดี้การ์ด ก่อนจะรีบวิ่งออกไปด้านนอก
จนเธอเจอห้องพักของเสิ่นเมิ่งหนิง
แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร ยู่จินเฉินก็ไล่หลังตามเธอได้ทัน เขาเข้ารวบตัวเธอเอาไว้ได้ในตอนที่เธอเข้าไปถึงข้างเตียงของเสิ่นเมิ่งหนิง
“เจียงซุ่ย เธอจะเล่นเล่ห์เหลี่ยมอะไรอีก?”
เสิ่นเมิ่งหนิงขดตัวกอดตัวเอง “จินเฉิง ฉันกลัวจังเลย…”
สีหน้าของยู่จินเฉินดำมืด ความโกรธภายในตัวของเขาก็กำลังพุ่งสูง เขาพูดกับเจียงซุ่ยด้วน้ำเสียงหยาบกระด้าง “คุกเข่าลงแล้วขอโทษซะ!”
เจียงซุ่ยกระตุกยิ้มมุมปากบาง ๆ เธอก้มหน้าลง แล้วเดินเข้าไปที่เตียง
ความเสแสร้งฉายชัดในดวงตาของเสิ่นเมิ่งหนิง เธอโน้มตัวไปข้างหน้า แล้วรอให้เจียงซุ่ยคุกเข่าลงขอโทษตัวเอง
แต่ในวินาทีต่อมา เจียงซุ่ยก็ยกมือขึ้นตบหน้าคนตรงหน้าอย่างรุนแรง
“เพี้ยะ!”
เสียงตบดังชัดก้องไปทั้งห้องพัก
เจียงซุ่ยไม่ได้รอให้ใครโต้ตอบ เธอดึงผ้าห่มออก ตามด้วยผ้าก๊อซที่แปะอยู่บนท้องของเสิ่นเมิ่งหนิง
ใต้ผ้าก๊อซมีเพียงบาดแผลเล็ก ๆ ไม่มีเลือดไหล และตกสะเก็ดไปแล้ว
ใบหน้าของยู่จินเฉินตึงขึ้นมาทันที
“บาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เองนี่ แล้วแบบนี้ฉันถึงกับต้องชดใช้ไตให้เลยเหรอ คุณเสิ่น คุณคำนวณเกินราคาไปมั้งคะ!”
เจียงซุ่ยเดาเอาไว้แล้วว่าต่อให้เสิ่นเมิ่งหนิงจะใช้วิธีที่ต้องเจ็บตัวแบบนี้ เธอก็คงแทงตัวเองไม่ได้ลึกเท่าไหร่
เป็นไปตามที่คาดไว้ ตอนที่เธอมองแวบแรกเธอก็รู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติกับแผลนั่น มองยังไงก็ไม่มีทางที่ไตจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
เสิ่นเมิ่งหนิงรีบกุมท้องของตนเองด้วยความตื่นตระหนก
“เป็นอะไรไป?”
ยู่จินเฉินถามด้วยสีหน้าเย็นชา
เสิ่นเมิ่งหนิงหน้าซีดเผือด พร้อมกับอธิบายอย่างร้อนรน “ฉัน… ฉันไม่รู้ ฉันสลบไปตั้งแต่ตอนที่ถูกเจียงซุ่ยแทงแล้ว ฉันเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาเอง ชดใช้ไตอะไรกัน หมอคงจะวินิจฉัยผิดพลาดไปเอง”
“บังเอิญดีจังเลยนะคะ นี่ถ้าฉันไม่มาเปิดโปงกลอุบายของคุณ ฉันคงต้องเข้าห้องผ่าตัดและถูกตัดไตทิ้งแบบงง ๆ ไปแล้ว”
เจียงซุ่ยยิ้มอย่างประชดประชัน
“อีกอย่างที่คุณต้องรู้เอาไว้ ถ้าอยากจะเสแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บที่ไตนัก แทงจากด้านหลังจะสมจริงกว่านะคะ แต่เสียดายที่คุณลงมือเองก็ทำได้แต่แทงจากด้านหน้าไปเท่านั้น”
“พูดจาไร้สาระ!” เสิ่นเมิ่งหนิงมองยู่จินเฉินด้วยความตื่นตระหนก “จินเฉิน เชื่อฉันนะคะ! เจียงซุ่ยเป็นคนแทงฉันจริง ๆ!”
ยู่จินเฉินชายตามองเธอด้วยท่าทางว่างเปล่าจนเสิ่นเมิ่งหนิงตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว จากนั้นชายหนุ่มก็ลากสายตาไปมองเจียงซุ่ย
“ฉันจะหาหลักฐานมาช่วยเธออธิบายเอง และจะตอบแทนเธอทุกอย่างตามที่เธอต้องการ”
เจียงซุ่ยมองหน้าผู้ชายที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ ซึ่งตอนนี้ไม่มีผลอะไรกับใจเธอแล้ว
เธอคาดหวังบางสิ่งบางอย่าง แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่เคยให้เธอได้เลยแม้แต่นิดเดียว และตอนนี้สิ่งที่เขาเรียกว่า การตอบแทน ก็มีค่าไม่ต่างอะไรไปจากขยะในสายตาของเธอ
เจียงซุ่ยแสยะยิ้มเย้ยหยัน “ไม่จำเป็น ฉันเพียงแค่อยากจะหย่ากับคุณตอนนี้เลย!”
ยู่จินเฉินมองหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ
นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่เขาเห็นภรรยาอยู่ในสายตา
แต่เจียงซุ่ยไม่สนใจ เธอหันหลังแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
ทันทีที่เดินออกจากโรงพยาบาล ร่างกายของเจียงซุ่ยก็สั่นสะท้าน
การโต้กลับในเมื่อกี้เป็นเพียงอารมณ์ฉุนเฉียวที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างกาย แต่ตอนนี้เธอหมดเรี่ยวแรงแล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออก
หลังจากนั้นไม่นาน รถลินคอล์นสีดำก็มาจอดอยู่ตรงหน้าเจียงซุย พร้อมกับชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีในชุดสูทเข้าคู่กับรองเท้าหนังก้าวลงมาจากรถ
ทันทีที่เจียงซุ่ยเห็นเขา เธอก็ทรงตัวยืนต่อไปไม่ไหว ในที่สุดหญิงสาวก็ล้มตัวไปด้านหลัง
ชายคนนั้นพุ่งเข้าไปรวบเอวของเธอไว้ได้อย่างรวดเร็ว
เจียงซุ่ยก็เอ่ยเรียกเขา “อารอง…” จากนั้นหญิงสาวก็หมดสติในอ้อมแขนของชายคนนั้น