เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี
ผู้เขียน:Axel Bob
หมวดหมู่โรแมนติก
เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี
ทันทีที่เจียงซุ่ยเปิดโทรศัพท์ เธอก็เห็นแฮชแท็กร้อนแรงในแอปอินสตาแกรม
“ภรรยาของประธานยู่คบชู้งั้นเหรอ?”
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เจียงซุ่ยขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับกดเข้าไปในแฮชแท็กนั้น จากนั้นรูปถ่ายของเธอกับมู่เจ๋อก็ปรากฎขึ้นมาบนจอ
มีทั้งรูปที่มู่เจ๋อเปิดประตูรถให้เธอ รูปที่เธอเข้าไปนั่งในรถ รูปที่ทั้งสองเดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยกัน พูดคุยและหัวเราะกันในขณะที่รับประทานอาหาร…
นอกจากนี้ยังมีข้อความบรรยายชวนคิดอยู่ข้างล่างภาพพวกนั้น
“ทุกคนคะ เท่าที่รู้ ผู้ชายในรูปนั่นคือมู่เจ๋อ ประธานคนปัจจุบันของหยูโจว กรุ๊ป อดีตคุณนายยู่เพิ่งจะหย่ากับยู่จินเฉินจากตระกูลยู่ได้ไม่นาน เธอก็หันมาจับมู่เจ๋อซะแล้ว แถมตอนนี้ยังได้เข้าไปทำงานในหยูโจว กรุ๊ปด้วยนะ ฉันว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่ ๆ…”
คอมเมนท์ด้านล่างเองก็มีแต่การคาดเดาไปต่าง ๆ นานา ตามรูปภาพและข้อความต้นโพสต์
“มีความเป็นไปได้สูงมากว่าสองคนนี้ได้คบกันไปแล้วนะ! มิน่าอยู่ดี ๆ คุณยู่ก็หย่า ฉันว่าเขาจับได้แน่เลยว่าถูกนอกใจ!”
“ฉันว่านะผู้หญิงคนนี้ตอนแต่งงานกับยู่จินเฉินก็คิดไม่ดีอยู่แล้ว ต่อมาธาตุแท้ถูกเปิดโปงก็โดนไล่ออก พอมาตอนนี้นางก็เลยหันไปจับคนรวยคนอื่นแทน!”
“เพื่อนข้างบนพูดถูกนะ แต่ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนกัน ประธานบริษัททั้งสองถึงได้ไปตกหลุมรักผู้หญิงเห็นแก่เงินแบบนั้นได้ โถยู่จินเฉินน่าสงสารจริง ๆ ที่เผลอไปแต่งงานกับผู้หญิงหลายใจแบบนี้!”
ในแฮชแท็กที่ร้อนแรงนี้ ชาวเน็ตต่างพากันสาปแช่งและกล่าวโทษเจียงซุ่ย
เธอกับมู่เจ๋อถูกใส่ความ!
เจียงซุ่ยเข้าใจทุกอย่างในทันที
หลังจากนั้นไม่นาน แอคเคานต์ของตระกูลยู่ก็ออกมาชี้แจงเรื่องสถานะการหย่าของคนของตัวเองกับเจียงซุ่ยอย่างเป็นทางการ นั่นจึงยิ่งทำให้ประเด็นเรื่องการนอกใจพุ่งไปสู่จุดไคลแมกซ์
ชาวเน็ตต่างเอาแต่ตำหนิเจียงซุ่ยอยู่ฝ่ายเดียว
ไม่นาน อารองเจียงฮวนก็โทร.มา
“ไร้สาระ!”
เจียงฮวนตบโต๊ะอย่างรุนแรงและดังลั่นอยู่อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์
“ซุ่ยซุ่ยต้องทนทุกข์กับความคับแค้นข้องใจตั้งมากมายในอดีต เรายังไม่ได้คิดบัญชีกับพวกตระกูลยู่เลยด้วยซ้ำ แต่พวกนั้นก็ยังกล้าลอบกัดเรา พวกมันอยากจะรนหาที่ตายกันดีนัก! อาจะไปตรวจสอบตระกูลยู่ กรุ๊ป จะไปทำให้พวกนั้นรู้ว่าผลลัพธ์ของการมารังแกเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลเจียงมันเป็นยังไง!”
เจียงซุ่ยรู้ดีว่าอารองของเธออยู่ในกองทัพเป็นคนพูดคำไหนก็คำนั้น หญิงสาวจึงรีบพูดดักเขาไว้
“อารอง ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ”
“ซุ่ยซุ่ย หรือหนูยังทำใจตัดขาดกับไอ้หมอยู่ไม่ได้เหรอ?” เจียงฮวนรู้สึกสงสัย
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ? หนูปล่อยวางไปนานแล้ว”
ภายในใจของเจียงซุ่ยเยือกเย็น
ครั้งนี้ถือว่ามันทำให้เธอได้เห็นความเลือดเย็นและความอำมหิตของผู้ชายคนนั้นชัดเจนเต็มตา หย่ากันไปแล้วยังตามมาแบล็คเมล์เธออีก!
อะไรที่มันทำให้เธอตาบอดได้ขนาดนั้นนะ เธอถึงได้ไปตกหลุมรักผู้ชายไม่เอาไหนแบบยู่จินเฉินได้
เจียงซุ่ยแสยะยิ้ม “อารองคะ อย่าเพิ่งเข้ามาจัดการเรื่องนี้นะคะ หนูอยากแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ในเมื่อเขาอยากจะเล่นงานหนู หนูก็จะเอาคืนเขาให้ถึงที่สุด!”
สักพัก สายเรียกเข้าอีกสายก็โทร.มาหาเธอ ซึ่งก็คืออาสามเจียงหยู่ที่อยู่ต่างประเทศ
“ซุ่ยซุ่ย ให้อาเล่นละครเรื่องนี้ด้วยนะ อาเพิ่งจะซื้อบริษัทบันเทิงเอาไว้ ใช้ประโยชน์จากมันได้เลย!”
“ขอบคุณค่ะอาสาม!”
…
ณ ตระกูลยู่ กรุ๊ป
“คนโง่! ใครใช้ให้พวกนายเขียนแถลงการณ์นั่นขึ้นมาเอง?”
ใบหน้าอันหล่อเหลาของยู่จินเฉินเต็มไปด้วยโทสะ
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์สั่นสะท้านไปทั้งตัวและตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก “คุณยู่ครับ คือว่า… คุณหนูยู่เป็นคนบังคับให้พวกเราโพสต์…”
เมื่อรู้ว่ายู่โหลเป็นคนทำ ยู่จินเฉินยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง “ลบข้อความนั่นออก แล้วสั่งให้คนลบแฮชแท็กทิ้งด้วย”
“ครับ”
ในขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ตอบกลับอย่างสั่นเทา หวังอี้ก็รีบร้อนเข้ามาพร้อมกับแท็บเล็ตในมือ
“แย่แล้วครับคุณยู่ คุณเจียงเองก็โพสต์กลับเหมือนกัน”
ยู่จินเฉินนิ่งไปสักพัก ก่อนจะหยิบแท็บเล็ตนั่นมาดูด้วยความรวดเร็ว
โพสต์ของเจียงซุ่ยยาวมาก แต่กลับอ่านง่ายและชัดเจน
ส่วนแรกเป็นภาพหน้าจอแชทระหว่างเธอกับยู่จินเฉินตลอดสามปีที่ผ่านมา เธอส่งข้อความหายู่จินเฉินทุกวัน แต่เขากลับไม่เคยตอบกลับ
นอกจากนี้ยังมีข้อความของคนตระกูลยู่ที่ส่งมาข่มขู่เธอมากกว่าหนึ่งครั้งว่าห้ามให้เธอไปที่บริษัท และตระกูลยู่ กรุ๊ปก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอแม้แต่นิด
จากนั้นก็มีเรื่องอื้อฉาวระหว่างยู่จินเฉินกับเสิ่นเมิ่งหนิง ภาพถ่ายของทั้งสองใกล้ชิดและสนิทสนมกันยิ่งกว่าภาพของเจียงซุ่ยกับมู่เจ๋อเสียอีก
จากนั้น เจียงซุ่ยก็พูดถึงคำถามและเรื่องการสัมภาษณ์งานเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอผ่านเข้าไปทำงานในหยูโจว กรุ๊ปด้วยความสามารถของตนเอง
เจียงซุ่ยเขียนเพิ่มในท้ายโพสต์ว่า “ฉันทนทุกข์ทรมานมาอย่างเงียบ ๆ สามปี และตอนนี้ทุกอย่างก็จบลงแล้วสักที ตลอดชีวิตการแต่งงาน ฉันบอกได้ว่าไม่เคยทำผิดต่อผู้ใด”
โพสต์ของเธอสื่อประเด็นชัดเจนและเรียบเรียงได้ดี
คอมเมนท์ต่าง ๆ จากชาวเน็ตจึงค่อย ๆ เปลี่ยนไป
“อ้าว สรุปว่ายู่จินเฉินเป็นคนที่นอกใจซะเอง!”
“ทำได้ดีมากที่ฉีกหน้าของไอ้เลวนั่นให้ทุกคนได้เห็น แถมพอหย่ากันไปแล้ว เขายังมีหน้ามาเล่นงานเธอกลับอีก เฮงซวย!”
“ช็อคค่ะ คุณนายตระกูลร่ำรวยต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดสามปี แต่งเข้าครอบครัวสูงศักดิ์แบบนี้ก็เหมือนตกลงไปในทะเลลึก!”
กระแสคอมเมนท์ของชาวเน็ตตีกลับไปอีกทางอย่างสมบูรณ์แบบ
ยู่จินเฉินไม่สนใจคอมเมนท์ด่าในอินเทอร์เน็ต เขาเอาแต่อ่านคำสัมภาษณ์งานของเจียงซุ่ยอยู่นานโดยไม่ละสายตา
เจียงซุ่ยเคยเรียนออกแบบสถาปัตยกรรมมาด้วย!
แต่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ
เขาไม่รู้จักภรรยาของตัวเองเลย หรือว่าจะบอกอีกนัยว่าไม่เคยแม้แต่จะลองพยายามทำความรู้จักเธอเลย
เมื่อได้อ่านข้อความของเจียงซุ่ยที่เป็นห่วงเป็นใยเขาในอดีต ยู่จินเฉินก็นึกถึงตอนที่เจียงซุ่ยเคยดูแลเขาเมื่ออยู่ที่บ้าน ภายในใจของชายหนุ่มก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นทันที
แต่เมื่ออ่านข้อความชี้แจงที่ให้ความรู้สึกเป็นคนแปลกหน้ากันในตอนนี้ ยู่จินเฉินก็พลันรู้สึกเหมือนมีอ่างน้ำเย็นราดใส่หัวของเขา
บางทีเขาก็ควรจะอธิบายให้เธอฟัง…
เมื่อคิดได้ดังนั้น ยู่จินเฉินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขของเจียงซุ่ย
แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด
เขาถูกบล็อก!