เมื่อรักย่อมต้องเจ็บ
ฉวีฮุ่ยส่งเสียงเหอะ และกระแนะกระแหนขึ้นว่า “เลี้ยงเสียข่าวสุกจริง ๆ คุณพ่อนี่ตาบอดมาซะตั้งหลายปี”
“พูดให้มันน้อย ๆ หน่อย!” ฟู่ชางเหิงจ้องถลึงตาใส่เธอ พลางมองฉันอย่างจนใจ และพูดออกมาว่า “นี่ก็มืดแล้ว คุณปู่ของเธอก็ไปอย่างสงบแล้ว รีบกลับเถอะ!”
“ค่ะ! ขอบคุณค่ะอาสอง” ฟู่ชางเหิงกับฉวีฮุ่ยนั้นอายุห้าสิบกว่าแล้ว ทั้งสองนั้นไม่มีลูก มีหุ้นในฟู่ซือ กรุ๊ป ชีวิตความเป็นอยู่ก็ค่อนข้างสงบ
แม้ว่าปากของฉวีฮุ่ยนั้นจะร้าย แต่ลึก ๆ แล้วเธอไม่ได้ร้ายอะไรนัก ชีวิตของทั้งคู่จึงทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกอิจฉา