เมื่อรักย่อมต้องเจ็บ
เขามองมาที่ฉัน คิ้วของเขาขมวดขึ้นมาเล็กน้อย แววตาสีเข้มของเขาจ้องมาที่ฉัน ราวกับว่าเขากำลังดูว่าที่ฉันพูดนั้นเป็นเรื่องจริงรึป่าว
ฉันเองก็นิ่ง ยิ้มและนั่งเงียบ ๆ ปล่อยให้เขามองฉัน
ผ่านไปนาน เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ได้ครับ!”
“ขอบคุณนะคะ คุณหมอเฉิง!” เวลาคุยกับคนฉลาดนั้นไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเยอะ แค่มองตาก็เข้าใจ
พอพนักงานเสิร์ฟมาเสิร์ฟอาหาร เขาก็เหลือบมองมาที่ฉันแล้วถามอย่างไม่เข้าใจว่า “คุณเสิ่นนี่ฉลาดขนาดนี้เชียว?”
ฉันยิ้ม “ชมเกินไปแล้วล่ะค่ะ ก็แค่รักษาชีวิตไว้เฉย ๆ แถมฉันกับฟู่เชิ่นเหยียนนั้นก็ไม่เหมาะสมกันตั้งแต่แรกแล้ว เด็กคนนี้ก็มาได้ไม่ตรงเวลาด้วย”
เขากินอาหารไปสองสามคำ ท่าทางนั้นดูจะพอใจมาก ก่อนจะมองมาที่ฉันแล้วพูดว่า “จะไปเมื่อไหร่ครับ?”
ฉันชะงักไปเล็กน้อย พลางเงยหน้าขึ้นมองเขา ฉันรู้สึกตกใจมาก ทีแรกนั้นกะว่าพอจัดการเรื่องเด็กเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะหย่ากับฟู่เชิ่นเหยียน ส่วนจะไปจากเมืองเจียงเมื่อไหร่นั้น ฉันยังไม่ได้คิดว่าจะไปอยู่ที่ไหนถึงจะเหมาะสม
ฉันแปลกใจมากที่เขาเดาแผนสุดท้ายของฉันได้