icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon

ของหวงท่านอ๋องอำมหิต

บทที่ 1 แรกเริ่มเรื่องราว

จำนวนคำ:3238    |    อัปเดตเมื่อ:08/08/2023

คืนนี้แม้จะเป็นยามจื่อ[1]แล้วหลิวฉูฉู่ในร่างของหลินจื่อเว่ยก็ยังนอนไม่หลับ นางขยับตัวอย่างเชื่องช้า ลุกขึ้นจากเตียงอุ่นเดินไปเปิดหน้าต่างบานเล็กบานหนึ่งแล้วนั่งลงที่ตั่งคนงามข้างหน้าต่างบานนั้น

ทันทีที่หน้าต่างบานเล็กถูกเปิดออกลมหนาวก็พัดโชยเข้ามาภายในกระทบร่างบอบบางและอ่อนแอของนางจนเกิดเป็นตุ่มขนเล็ก ๆ ไปทั้งร่างเพราะขนลุกชัน ทว่าแม้อากาศจะหนาวเพียงนั้นนางกลับนั่งนิ่ง สองมือวางบนกรอบหน้าต่างแล้วซบใบหน้าเล็กของตนเองลงมา

เรื่องราวในอดีตผุดขึ้นเบื้องหน้า หลายเรื่องที่นางได้ลืมไปแล้วด้วยเวลานั้นผ่านมาถึงสองร้อยปีตั้งแต่นางถูกกักขังอยู่ในร่างของแมวน้อย กลับยังมีสิ่งที่นางจำได้ดี ภาพอันสยดสยองที่นางฉีกทึ้งร่างกระต่ายน้อยจนเลือดไหลนองแล้วลอยออกมาจากซากศพสัตว์ตัวนั้นยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ ก่อนที่นางจะหลบหนีและถูกไต้ซือเฒ่าจับนางได้อีกครั้ง

"เจ้าต้องอยู่ในร่างของแมวตนนี้และชดใช้เวรกรรมจนกว่าจะถึงเก้าชีวิต"

ผู้คนอาจจะคิดว่าอยู่ในร่างแมวนั้นแสนสบายนัก แต่หากไม่ใช่นางคงไม่รู้ว่าแสนทรมานเพียงใด การที่วิญญาณร้ายตนหนึ่งต้องฟังบทสวดทุกวันและถูกคุมขังอยู่ที่กรงเล็ก ๆ ตลอดสองร้อยปีที่ผ่านมานั้นทำอย่างไรก็ไม่เคยชินเสียที ทุกครั้งที่ฉีกงไต้ซือผู้นั้นสวดมนต์นางยังรู้สึกราวกับว่าบทสวดนั้นกำลังเชือดเฉือนจิตวิญญาณของนางจนเจ็บปวดจนต้องดิ้นทุรนทุรายแทบจะขาดใจตายอยู่ในกรงน้อย

แม้จะร้องขอความตาย นางก็ไม่อาจตายได้ คำกล่าวที่ว่าอยู่ไม่สู้ตายหลิวฉูฉู่รับรู้ได้ลึกซึ้งมากกว่าผู้ใด

กว่าสองร้อยปีแห่งความทรมานนั้นจะผ่านมาได้จนถึงวันนี้นางลงแรงอดทนไปไม่น้อย กระทั่งชีวิตที่เก้าของนางจึงได้รับการปลดปล่อยชีวิตนี้นางยังคงกำเนิดมาในร่างแมวเช่นเคยเพียงแต่ได้รับของกำนัลล้ำค่า คือนางไม่ต้องถูกคุมขังแล้ว และยังได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ ใช้ชีวิตที่สุขสบายภายใต้แสงแดดอุ่นและความรักจากผู้เป็นนาย

ทว่านางใช้ชีวิตอย่างรื่นรมย์มาได้ไม่กี่ปีก็ต้องตกต่ำ เมื่อมารดาของเจ้านายถูกใส่ความว่าคบชู้และถูกลงโทษจนตาย ท่านหญิงหลินจื่อเว่ยแม้จะไม่ถูกลดฐานะทางสังคม แต่ฐานะในจวนกลับตกต่ำ บิดาของนางเลื่อนฐานะพระชายารองเป็นพระชายาเอก ลูกอนุทั้งหลายต่างได้ดิบได้ดี ตรงกันข้ามกับหลินจื่อเว่ยที่ถูกตราหน้าว่าอาจเป็นลูกชู้ จึงถูกจับโยนไว้ที่ท้ายจวนมีเพียงบ่าวที่ซื่อสัตย์คนเดียวคอยรับใช้

หลินจื่อเว่ยถูกพี่น้องรังแกสารพัด เดิมร่างกายอ่อนแออยู่แล้วก็ยิ่งทำให้นางเหมือนศพที่เดินได้ กระทั่งถูกผลักให้จมน้ำตาย เรื่องมันกำลังซ้ำซ้อน ชาติก่อนหลิวฉูฉู่ก็ตกน้ำเพื่อเรียกร้องความสนใจคน แต่กลับจมจริง ๆ และวิญญาณออกจากร่างถูกผู้อื่นสวมแทน

ชาตินี้คนที่ดูแลนางกลับจมน้ำอีก คนเราจะจมน้ำอะไรได้บ่อยครั้งเช่นนี้ หลิวฉูฉู่ย่อมคิดว่ามันไม่ปกติ

ในยามที่นางกำลังนั่งมองอย่างเกียจคร้านอยู่ที่หัวสะพาน ร่างแมวของนางกลับถูกคนผู้หนึ่งจับเอาไว้และในยามที่นางไม่ทันตั้งตัวก็ได้ยินคนผู้นั้นเอ่ยว่า

"ทุกอย่างที่เกี่ยวกับท่านหญิงจื่อเว่ยต้องสังหารทิ้งให้หมด"

หลิวฉูฉู่คิดว่าตนเองอาจถูกวางยา คงจะตายไม่ทรมานนักอย่างไรนางก็ตายมาหลายครั้งชักจะเคยชินแล้ว ทว่าคนที่จับนางกลับเหี้ยมโหดนัก ไม่ยอมวางยากลับใช้มีดแทงจนร่างนางพรุน ยังผ่าท้องลากไส้นางออกมาอีก

หลิวฉูฉู่จำหน้าคนผู้นั้นได้อย่างแม่นยำ นางต้องเอาคืนคนผู้นี้แม้จะผิดกฎที่นางรับปากไต้ซือไว้แล้วก็ตาม นางแค้นจนแทบจะทึ้งผมตนเองให้หลุดออกมาอยู่แล้ว

ทว่าหลังจากตายอย่างทรมานวิญญาณหลุดออกจากร่าง นางกระโจนเข้าหาคนผู้นั้นสิ่งที่ทำได้คือไม่สามารถแตะต้องผู้ใดได้ ให้ตายเถอะแล้วอย่างนี้จะให้นางอยู่มาจนสองร้อยปีเพื่อเหตุใดกัน วิชาอาคมอันใดล้วนไม่มีทั้งสิ้น

ยามนั้นโกรธมากนัก เห็นแจกันใบใหญ่ตั้งอยู่บนโต๊ะ จึงออกแรงสุดกำลังพุ่งชนแจกันจนหล่นลงมาทับหัวคนผู้นั้นแตกและร้องลั่น แม้จะไม่สาสมกับความผิดที่เขาฆ่าคน แต่ก็ยังพอบรรเทาความโกรธลงได้เล็กน้อย

วิญญาณกอดอกอย่างเย่อหยิ่ง เพียงนางออกจากร่างฉีกงไต้ซือก็ปรากฏกายทันใด

หลิวฉูฉู่ทำความเคารพเขาอย่างเสียไม่ได้ ใบหน้างามงอง้ำเมื่อมองเห็นร่างแมวของตนเอง

"ท่านจะให้ข้าตายดีสักชาติจะได้หรือไม่ ไยต้องให้แมวน้อยเช่นข้าต้องทรมานตายทุกชาติด้วยเล่า"

ฉีกงไต้ซือยกมือกล่าวถึงพระโพธิสัตว์แล้วเอ่ยว่า

"เป็นไปตามลิขิตสวรรค์ เพื่อให้เจ้าชดใช้บาปที่ก่อเอาไว้"

หลังจากนั้นนางก็ได้พบวิญญาณของหลินจื่อเว่ยที่ออกจากร่างเช่นกัน สองคนมองสบตากัน หลินจื่อเว่ยไม่รู้ว่านางคือแมวน้อยตัวนั้นเห็นนางอยู่กับไต้ซือที่อาคมแก่กล้าก็นึกว่านางเป็นเทพเซียน และร้องไห้อ้อนวอนทั้งน้ำตา

"ท่านเซียนขอร้องท่าน เข้าร่างของข้าคืนความเป็นธรรมให้ข้าหากเป็นท่านต้องทำสำเร็จแน่"

ฉีกงไต้ซือกล่าวอมิตาพุทธ เอ่ยอีกสองสามประโยค

"โอกาสแทนคุณและทำความดีเพื่อปลดปล่อยตนเองอยู่ในมือเจ้าแล้ว ชะตาเจ้าอย่างไรก็ผูกพันกับนางไม่อาจหลีกเลี่ยงได้"

"หากข้าทำความดีนี้ ข้าจะถูกปลดปล่อยหรือไม่"

หลิวฉูฉู่ย่อมไม่ยอมเสียเปรียบ นางต้องได้รับคำตอบแน่ชัดก่อนที่จะยื่นมือเข้าไปสอด

ผ่านมาสองร้อยปี นางก็คือนางไร้ความเห็นใจผู้อื่น เห็นประโยชน์เป็นสำคัญ เพียงแต่ลดความโหดเหี้ยมลงไปแล้ว บัดนี้หากจะสอดเรื่องผู้อื่นย่อมต้องลงมือเพื่อให้ตนเองรอดและได้ประโยชน์สูงสุด

นางไม่คิดทำชั่วอีกขอเพียงทำความดีแล้วนางไม่ต้องลงนรกนางก็ยินดีทำสุดชีวิต

ฉีกงไต้ซือพยักหน้า

"ผู้ทำความดีย่อมได้รับผลตอบแทน โอกาสนี้เป็นของเจ้าแล้ว"

หลิวฉูฉู่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ตัดสินใจแน่วแน่

"ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่บังอาจใส่ร้ายพระชายาและทำร้ายหลินจื่อเว่ยจนถึงแก่ความตาย ข้าในฐานะพี่สาวสองร้อยปีจะจัดการมันและเรียกร้องความยุติธรรมให้เจ้าเอง ต่อไปข้าคือหลินจื่อเว่ย หลินจื่อเว่ยคือข้าทุกเรื่องปล่อยให้พี่สาวสะสางแทนเจ้าเอง"

คงเป็นเพราะอากาศเย็นเสียดแทงกระดูกภายนอกกำลังไหลเข้ามาทางหน้าต่าง สาวใช้ที่ซื่อสัตย์ของหลินจื่อเว่ยนามจินเจาที่นอนเฝ้าอยู่ปลายเตียงจึงตื่นขึ้นมา นางขยี้ตาและมองไปยังทิศทางของลมเย็นที่พัดโชย กระทั่งสายตาปะทะเข้ากับร่างเล็กของผู้เป็นนาย

"ท่านหญิง"

เสียงเรียกของจินเจาดึงความคิดฟุ้งซ่านของหลิวฉูฉู่ให้กลับมา นางหันมามองสาวใช้ที่เห็นเป็นเงามืดกำลังลุกขึ้นจากที่นอนพร้อมกับเดินมาหานาง

"ท่านหญิงนอนไม่หลับหรือเจ้าคะ ร่างกายท่านยังอ่อนแอทั้งยังไม่หายดีเปิดหน้าต่างเช่นนี้ไข้จะกลับเอาไว้นะเจ้าคะ พวกเราตอนนี้ไม่อาจเรียกท่านหมอได้ทุกเวลาเช่นเคย"

หลิวฉูฉู่ผินใบหน้างามไปมอง ปล่อยให้จินเจาปิดหน้าต่างอย่างเร่งร้อนพลางถูฝ่ามือตนเองแล้วจับมือของท่านหญิงของตน มือเรียวเล็กขาวผ่องนุ่มนิ่มนั้นเย็นเยียบคล้ายน้ำแข็งก้อนหนึ่ง

หลิวฉูฉู่รู้สึกสงสารตนเองอยู่เล็กน้อยที่ต้องมาอยู่ในร่างของหลินจื่อเว่ยผู้อ่อนแอ ยามนี้แม้แต่จะเอ่ยปากยังไม่อาจพูดได้ เพราะหากพูดเพียงไม่กี่คำนางก็จะไอออกมา หากไอเฉย ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ทว่าทุกครั้งที่นางเริ่มไอจะหยุดไม่ได้กระทั่งมีเลือดติดออกมา อาการไอนี้หลินจื่อเว่ยนั้นเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว

ทั้งภูมิแพ้ หอบหืด หลินจื่อเว่ยล้วนเป็นทั้งหมดและอาการยังรุนแรงอีกด้วย

ที่ผ่านมาหลินจื่อเว่ยก็เลี้ยงแมวน้อยเช่นนางห่าง ๆ ไม่เคยได้สัมผัสเลยสักครั้ง แต่หลิวฉูฉู่กลับชอบยิ่งนัก นางเป็นคนยโสจะให้คนอื่นสัมผัสร่างกายได้ง่าย ๆ ได้อย่างไร ดังนั้นการเป็นสัตว์เลี้ยงของหลินจื่อเว่ยจึงไม่นับว่าลดศักดิ์ลงแต่ประการใด

ก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง หลินจื่อเว่ยอยู่ในฐานะท่านหญิงมีมารดาคอยดูแล เรื่องยาและการรักษาอันดีเลิศจึงไม่ได้ขาด

บัดนี้อยู่ในช่วงตกต่ำยาที่ได้รับจึงขาดคุณภาพไปมาก กระทั่งหมอในจวนยังไม่อาจจ่ายยาราคาแพงให้นางได้เช่นเดิม ช่างน่าอดสูนัก แต่หลิวฉูฉู่ไม่เกรงกลัว นางเก่งกาจเรื่องการรักษาและการวางยาคนยิ่งนัก สองร้อยปีที่ผ่านมานี้นอกจากฟังบทสวดแล้วทั้งวันก็เอาแต่จดจ้องไต้ซือผู้นั้นปรุงยารักษาคน

เพียงแต่ตอนนี้บ่าวของนางยังไม่อาจออกไปนอกจวนได้ คนที่ไว้ใจได้ก็ไม่มี ตอนนี้ต้องรักษาตนด้วยยาไร้ประสิทธิภาพพวกนี้ไปก่อน จนกว่าจะหาโอกาสออกนอกจวนและหาซื้อสมุนไพรมารักษาตนเองได้

เพียงแต่ยามนี้เงินติดตัวหลินจื่อเว่ยก็ไม่มีติดตัว เครื่องประดับล้ำค่าที่พอจะขายได้ก็ถูกพระชายาคนใหม่ยึดไปเสียหมด

เมื่อไม่มีเงินจึงเหมือนถูกตัดแขนตัดขา หลิวฉูฉู่จึงต้องคิดหาทางอย่างหนักเพื่อหาเงินก้อนใหญ่มารักษาร่างกายนี้ของตนเอง

อย่างน้อยยังมีเรื่องน่าดีใจอย่างหนึ่ง คนที่นางต่อสู้ด้วยร้ายกาจไม่น้อย ค่อยสมน้ำสมเนื้อที่จะสู้รบกับคนชั่วเช่นนางหน่อย

สิ่งแรกที่หลิวฉู่ฉี่คิด คือต้องหาคนหนุนหลังสักคน ทำศึกต้องหาทหารคอยคุ้มกัน หากไม่มีแล้วก็เท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ว่าแต่ว่าคนที่พอจะพึ่งพาได้ยามนี้ จะมีผู้ใดกันนะ นางไม่เชื่อว่าท่านหญิงหลินจื่อเว่ยจะไร้ที่พึ่งพาจริง ๆ

น้ำเสียงของจินเจายังเอ่ยด้วยความรู้สึกเป็นกังวล ในขณะที่ปากอ้ากว้าง หาวจนน้ำตาเล็ด

"ถึงนอนไม่หลับก็กลับไปที่เตียงเถิดนะเจ้าคะ อย่างน้อยเตียงยังคงเป็นเตียงอุ่นบ่าวจะถือมือถูเท้าให้ท่านด้วย"

อีกโรคหนึ่งที่สตรีนางนี้เป็นก็คือโรคมือเท้าเย็น ให้ตายเถิด โรคคุณหนูพวกนี้หลินจื่อเว่ยผู้นี้ไม่พลาดเลยแม้แต่โรคเดียว

หลิวฉูฉู่ชี้ไปที่โคม จินเจาจึงรีบไปจุดโคมตามคำสั่ง หลิวฉูฉู่นอนไม่หลับคงเป็นเพราะนางเป็นแมวมาถึงสองร้อยปีจึงติดนิสัยไม่หลับไม่นอนตอนกลางคืนมามาก อย่างไรก็แก้ไม่หายยามนี้จึงพลอยทรมานจินเจาสาวใช้ผู้นี้ไปด้วย

จินเจาถือโคมมาวางใกล้ ๆ แล้ววางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง สองมือของนางเริ่มถูมือถูเท้าให้ท่านหญิงที่ตนเองรักยิ่งกว่าชีวิตอย่างเบามือ คงเพราะได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กไม่นานจินเจาก็สามารถทำให้มือและเท้าของท่านหญิงอุ่นขึ้นมาได้

หลิวฉูฉู่ไม่เคยรักผู้ใดมาก่อน ยิ่งเป็นสาวใช้แล้วยิ่งคิดว่าเป็นคนที่อยู่คนละชั้นกับนาง แต่คงเพราะอยู่ในร่างสัตว์เดรัจฉานมาเนิ่นนานจึงทำให้ความรู้สึกระหว่างชนชั้นลดน้อยถอยลงไปมาก อีกทั้งยามที่เจ้าของร่างเดิมมีชีวิต จินเจาก็เป็นคนที่เลี้ยงดูแมวน้อยหลิวฉูฉู่ด้วยความรักใคร่แทนผู้เป็นนาย นางจึงมองจินเจาด้วยสายตาอ่อนแสงและขอบใจอย่างไม่ปิดบัง

หลิวฉูฉู่ยังคิดถึงหนทางหาเงินมารักษาตนเอง กระทั่งจู่ ๆ ก็คิดถึงใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา ของคนผู้หนึ่งที่นางเคยเห็นอยู่ในภาพวาดยามที่หลินจื่อเว่ยแอบดูในยามค่ำคืนอยู่เสมอ

นางกระแอมเล็กน้อยแล้วเอ่ยคำหนึ่งออกมา

"หลินจื่อเว่ยมีคู่หมั้นใช่หรือไม่ เมื่อไหร่จะถึงกำหนดแต่งงาน"

กล่าวจบนางก็ไอจนสำลัก จินเจารีบส่งผ้าให้นางปิดปาก ใบหน้าซีดเผือด เอ่ยเพียงสั้น ๆ นายสาวก็ไอแทบเป็นแทบตายนานต่อเนื่องถึงหนึ่งก้านธูปกว่าจะดีขึ้น

แน่นอนว่ามีเลือดสีแดงติดอยู่ที่ผ้าสีขาวสะอาดด้วย อาการนี้ทำเอาเจาจินแทบจะหัวใจวายตายอยู่แล้วด้วยความกังวลใจ

"ท่านหญิง ท่านคงจมน้ำจนสติไม่ดีแล้ว ท่านคือท่านหญิงหลินจื่อเว่ยนะเจ้าคะ ไยพูดเหมือนคนผู้นั้นไม่ใช่ตนเอง"

หลิวฉูฉู่ไอออกมาอีกหลายคำ พยักหน้าพลางสูดหายใจ น้ำหูน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ในใจคิดว่า

ใช่ ข้าคือหลินจื่อเว่ย มิใช่หลิวฉูฉู่อีกต่อไป!

จินเจาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

"ท่านหญิงล้มป่วยหลายวัน บ่าวเองก็ไม่กล้าบอกเจ้าค่ะ ความจริงบ่าวได้ข่าวมาว่าท่านอ๋องไม่ต้องการให้คุณหนูแต่งให้โม่อ๋องแล้วเจ้าค่ะ บัดนี้ตำแหน่งคู่หมั้นจึงกลายเป็นของคุณหนูรองหลินหลงไปแล้วเจ้าค่ะ"

นางเงยหน้ามองเจาจินดวงตาแข็งกร้าว ไอสังหารแผ่ออกจากร่างของนางโดยไม่รู้ตัว จินเจาเองไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของหลินจื่อเว่ยมาก่อนจึงรู้สึกขนลุกชันและหายใจอึดอัดไม่ใช่น้อย

หลิวฉูฉู่ยามนี้ยอมรับแล้วว่าตนเองคือหลินจื่อเว่ย สายตาที่แสดงออกไปนั้นช่างอำมหิตนัก ในใจคิดอย่างเหี้ยมโหด

คู่หมั้นผู้นั้นคือทางรอดเดียวของข้าที่จะผงาดกลับมาดังเดิม สตรีหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ทั้งนั้น!

เชิงอรรถ

1.^ ยามจื่อ คือ เวลาประมาณเที่ยงคืน

เปิดรับโบนัส

เปิด
1 บทที่ 0 บทนำ2 บทที่ 1 แรกเริ่มเรื่องราว3 บทที่ 2 No.24 บทที่ 3 ผู้ใดห้ามเจ้ากัน5 บทที่ 4 ถึงคราที่นางโดนบ้าง6 บทที่ 5 จัดการนาง7 บทที่ 6 นางผู้กล้าหาญ8 บทที่ 7 ช่วยคน9 บทที่ 8 ต้องตายอย่างแน่นอน10 บทที่ 9 ร่างกายต้องการการรักษา11 บทที่ 10 พยายามจะไม่สนใจ12 บทที่ 11 ข้าต้องการเงิน13 บทที่ 12 เจ้าไม่อาจลืมข้าได้อีก14 บทที่ 13 ท่านอ๋องได้โปรดไว้ใจข้า15 บทที่ 14 เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า16 บทที่ 15 ตัวกระตุ้นความอยาก17 บทที่ 16 ปากดี NC18 บทที่ 17 เขาเป็นโรคประสาท19 บทที่ 18 คือว่าเราสองคน20 บทที่ 19 ไม่ยอมให้แต่ง21 บทที่ 20 ข้าหาได้สนใจแม้แต่น้อย22 บทที่ 21 ปีศาจตัวน้อย23 บทที่ 22 กรรมนั้นคืนสนอง24 บทที่ 23 ต้องพึ่งพาเขาอีกแล้ว25 บทที่ 24 อย่าตามใจนางเด็ดขาด26 บทที่ 25 บทเรียนครั้งใหม่ที่ข้าจะสอนเจ้า27 บทที่ 26 ท่านอ๋องอย่าเพคะ NC28 บทที่ 27 อื้อ NC29 บทที่ 28 ความลับของท่านอ๋อง30 บทที่ 29 ช่วยน้องสาวของเจ้าด้วย31 บทที่ 30 ความกล้านี้ข้าชอบนัก32 บทที่ 31 หากเจ้าตายข้าจะเสียเวลาแก้แค้นให้เจ้าเอง33 บทที่ 32 สืบข่าว34 บทที่ 33 คนอารมณ์ขึ้นลง35 บทที่ 34 จัดการให้หมด36 บทที่ 35 บังอาจล่วงเกิน37 บทที่ 36 คำชมของหลินจื่อเว่ย38 บทที่ 37 ใช้ชีวิตภายใต้คมมีด39 บทที่ 38 เดิมทีไม่ยุ่งยาก40 บทที่ 39 ไม่เลวเหมือนกัน41 บทที่ 40 เจ้ายินดีรักษาหรือไม่42 บทที่ 41 เขาตายแล้ว43 บทที่ 42 ไม่ได้กล่าวถึง44 บทที่ 43 เจ้าจะเอาสิ่งใดมาสู้กับข้า45 บทที่ 44 คนที่ผูกพันหลายชาติภพ46 บทที่ 45 ของสำคัญของข้า47 บทที่ 46 ยังไม่มีผู้ใดรู้48 บทที่ 47 แข็งแกร่งยิ่งกว่าม้าสามตัว49 บทที่ 48 เสียวแล้วใช่หรือไม่50 บทที่ 49 นางสลบไปแล้ว51 บทที่ 50 ส่วนผสมของยาขวดนั้น52 บทที่ 51 ที่นี่คือที่ไหน53 บทที่ 52 จะเป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกับข้า54 บทที่ 53 หนี55 บทที่ 54 แทบขาดใจ56 บทที่ 55 ให้รางวัลคนดี57 บทที่ 56 ข้าอดทนเพราะรักเจ้า58 บทที่ 57 มีสมองเหมือนกันหรือ59 บทที่ 58 สะสางหนี้แค้น60 บทที่ 59 ของปลอม61 บทที่ 60 เปิดโปง62 บทที่ 61 บทสรุปของเรื่องราว63 บทที่ 62 ตัวตนที่แท้จริง64 บทที่ 63 ขึ้นสวรรค์กับข้าเถิด (ตอนจบ)