สวี่กงเหมย ดวงใจท่านแม่ทัพ
ดีตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เสียงกึกก้องของกลุ่มคนตรงหน้ายังคง
ายเจ็ดหลานของท่านเช่นนั้นน่ะหรือ” สีหน้าของคนนั่งบัลลังก์ร
แคว้นจิ้งต้องการรัชทายาทเช่นนั้นใช่หรือไหม?”น้ำเสียงทุ้มต่ำทรงพลังเย็นเ
จเอื้อมพ่ะย่ะค...” น้ำเสียงสั่นเทาข
น[ ฮ่องเต้เรียกแทนตัวเองกับเหล่าเสนาบดี] อย่างนี้เรียกไม่กล้าสินะ” สองตาคมทอดมองคนตรงหน้าจาก
นลงกับพื้นแสดงความเคารพคนบนบัลลังก์อีกหลายครั้ง เขารู้ดีว่ากระทำในการล่อแหลมครั้งนี
เรียบยกเว้นแต่ผู้ที่ถูกขานชื่อ ก่อนที่ฝ่ามือกร้านจะฉวยเอาจอกน้ำชาร่อนกระทบกับพื้นแตกกระจายตรงหน้า เศษเสี้ย
่านคงไม่ต้องทนกับสิ่งขวางหูขวางตาท่านอีกแล้ว” น้ำเสียงทุ้มยังคงราบเรียบ ทว่าทรงพลังทุกน้ำคำดำดิ่งเข้า
ยัคฆ์ ยืนนิ่งหน้ามองตรงสีหน้าเรียบอยู่ข้างบัลลังก์ในท้องพระโรงทอดสายตา
อตัวสั่นงันงก เขาลอบบีบมือที่ปร
ากรุณาธิคุ
จงยื่นเข้ามาได้ สีหน้าคร่ำเครียดของมหาบัณฑิตข้างบัลลังก์ตั้งอกตั้งใจวาดพู่กันลงบนกระดาษผืนกว้างจารึกลายลักษณ์อักษรตามคำวินิจฉัยขององค
การ” ชายอาวุโสก้มศีรษะคำนับต่อหน้าบัลลั
ันต์นัก ให้นำตัวเข้าคุกหลวงรอประหารในอีกสามวันจากนี้ เซี่ยเจาอี๋ไม่สามารถควบคุมดูแลบิดาและบุตรชายได้ ส่งเข้าตำหนักเย็น องค์ชายเจ็ดไม่สนใจการเล่าเรียน แอบอ้างบารมีเบื้องสูงข่มบุ
านชายทำให้เขาทุกข์จนแทบกระอักเลือด ใบหน้าของเขาถอดสีไม่มีเค้าความอวดดีหลงเหลืออยู่ เขาไม่นึกว่าเวลาล่ม
หวังจะอุทธรณ์โทษที่ตนได้รับ อย่างน้อยเขาก็เคยมีความดีความชอบสะสมมาบ้าง ทว่าเซวียนจางหย่งชักกระบี่ออกจากฝักเข้าขวางหน้า บ่งบอ
ือดสกุลเซี่ย ฮองเต้เห็นต่อตาเช่นนั้นก็ได้แต่โบกพระหัตถ์ไล่อย่างมิได้ใส่ใจ อ
ะราชดำเนินออกจากบัลลังก์พร้อมกับเซวียนจางหย่งพระราชนัดดาโดยมีอู