กลบุหงา
ลูกพี่จักคลอดเสียที” โมกข์เอ่ยกับน้องชายอย่างว้าวุ่นใจ เพียรกับอินเป็นน้องชายและน้องสะใภ้ที่เดินทางมาจากหัวหิน ทั้งสองมาเยี่ยมเยียนเหมือนเช่นเคย ในครานี้ประจวบเหมาะกับที่เพ็ญคลอดลูกพอดิบพอดีเพียรเป็นน
สองคน คนโตโมกข์ให้ชื่อว่าดอกรัก คนเล็กให้ชื่อว่าดอกแก้วทั้งสองเป็นเด็กน่ารัก แต่มีนิสัยค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดอกรักนั้นเรียบร้อยอ่อนหวาน เป็นเด็กน่ารักอยู่ในโอวาทของบิดามารดา ชอบงานเย็บปักถักร้อย ส่วนดอกแก้วนั้นแก่นแก้วไม่เกรงกลัวใคร ทั้งยังเฉลียวฉลาดทันคน ดอกแก้วชอบปีนป่ายต้นไม้ ไม่ชอบงานเย็บปักถักร้อย แต่สองพี่น้องก็รักกันมาก ดอกแก้วรักพี่สาวมาก ใครมารังแกพี่สาวต้องข้ามศพตนไปก่อน“แม่ดอกแก้ว ลูกนี่เหลือเกินเสียจริง งานเย็บปักถักร้อย งานบ้านงานครัวไม่ทำ กลับไปเตะต่อยปีนป่ายต้นไม้ เด็กผู้ชายคนอื่นยังไม่ซุกซนเท่าลูกเลยหนา แม่จักทำเช่นไรกับลูกดี ถึงจักได้ไม่ดื้อไม่ซน เรียบร้อยอ่อนหวานดังเช่นพี่สาวของลูกบ้าง” ดอกแก้วนั่งยิ้มแป้นไม่เถียงมารดาเลยสักคำ ก่อนจะค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปออดอ้อนตามประสา “คุณแม่เจ้าขา ลูกไม่ชอบงานเย็บปักถักร้อยนี่เจ้าคะ ปวดหลังจะแย่ คุณแม่ก็อย่าดุลูกเลยนะเจ้าคะ” “ยังจะมาเอ่ยอ้างอีก น่าจะโดนหวายสักทีสองที”“คุณพ่อเจ้าขา” ดอกแก้วหันไปขอความช่วยเหลือจากบิดา“แม่เพ็ญก็อย่าไปดุลูกนักเลย ลูกยังเล็กนัก”“คุณพี่ก็เข้าข้างลูกจนเสียคน น้องจักทำเช่นไรก็ให้ท้าย แม่ดอกแก้วเลยกลายเป็นม้าดีดกะโหลกเช่นนี้ โตขึ้นจะมิมีผู้ใดมาขอเป็นเมียนะเจ้าคะ แม่ดอกแก้วจักได้เป็นสาวแก่ทึนทึกขึ้นคาน”“มิมีผู้ใดมาขอเป็น