ปะป๊านาเนีย
ุณ
นคนที่เขาเอ่ยทักขยับตัวออกห่างคล้ายรังเกียจ ใบหน้าของเขาพ
ียบลงดินหนัก ๆ แรง ๆ ตามแรงอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะนิ่งเท่าใด
ี่ใครอนุญาตให้เข้ามาในเขตพื้
งอื่น พูดด้วยน้ำเสียงแบบที่มั่นใจได
ต่พอดีว่ามีคนเชิญผมมา
ทำแบบนั้นกับคนตรงหน้า ไม่ใช่กลัวว่าเขาจะมองเธอไม่ดี แต่เพราะไม่อยากทำนิสัยแบบนั้นกับใครเลยต่างหาก แล
อกว่าเชิญตัวเองมาก็แสดงว่าหน
อว่าเขา เขาเลยลองเชิงด้วยการเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มรับเบา ๆ ส่งกลับไปเหมือนไม่
้นทันตา เมื่อเห็นว่าเขาพลิกเ
กใจกับการรุกของเขา เธอเสียหลัก ทำท่าจะล้มไปทางด้านหลัง ศศิร์ธาเข้
ของเขากอดรัดเธอแน่น หญิงสาวพยายามยื้อร่างกายของเธอ
ใช่ไหม” เสียงหวานที่บัด
ดงออกอย่างท้าทาย ประไพพรรณีไม่เคยโมโหสุดขีดแบบนี้มาก่อน
ล้วจะได้เจอฉันเล่
นิด ชายหนุ่มถามตัวเองเงียบ ๆ ว่าเขาพึงพอใจกับการได้ใกล้ชิดผู้หญิงปากดีแบบนี้ได้อย่างไร แล้วย้
ล่อ ปล่อยแล้วจับ จับแล้วปล่อยอยู่หลายนาที จนปั่นอาร
ใต้กางเกงที่เขาสวมใส่มากขึ้นเท่านั้น แม้ไม่ได้อดอยากปากแห้ง แต่เขากลับคึกคักตื่นเต้นกับกลิ่นกายและเรือนร่า
เป้ากางเกงของเขา ศศิร์ธายิ้มมุมปากตอนที่เห็นแววตาตก
าไร อะไร ๆ ของผมมันก็ยิ่งถูกเสียดสีมากขึ
นี่เขายังจำชื่อของเธอได้อยู่นี่ แล้ววันนั้นทำไมมองเธอเหมือนคนไม่รู้จักกัน เธอ
มน้ำหนักทั้งหมดเข้าใส่ตัวเธอ กลายเป็นว่าตอนนี้ประไพพรรณีล้มหงายหลังลงไปนอนอยู่บนพื้น
สาวที่นอนอยู่ใต้ล่างของเขานิ่งเป็นนาทีก่อนจะยื่นหน้าลงหาเชื่องช้าราวกับถูกเสน่ห์ของเธอกวัก
บี่ยงใบหน้าหนี ไม่มีทางยอมให้เขาเอาเปรียบเธอได้ภายในพื้นที่ของเธอ
แล้วนั้น เขาพารถตรงไปยังอาคารสูงตรงริมแม่น้ำ ประไพพรรณี
งร
ากจะถามแบบนั้นออกไปให้ครบประโยค แต่กลับพูด
ถอะประ
ัวแล้วตามเขาขึ้นรถมาทำไม และเพราะมัวแต่ครุ่นคิด เสียงเปิดและปิดประตูรถยังอีกฟากก็ดังขึ้นเตือนสติ
ระตูรถตามเขาเพื่อ
พพรรณีมัวแต่เสียเวลามองสำรวจไปรอบ ๆ อาคารหลังนั้น พอหันมองไปที่อาจารย์พิเศษอีกที พบว่าเขา
ย์คะ ร
ยอมรอกันเลย พอวิ่งเข้ามาในลิฟต์ได้แล้ว เธอออกอาการหอบเหนื่อยเล็กน้อย มองที่เขาค่