ชิงเหมย บุปผาซ่อนคม
แวะไปช่วยท่านยายที่ตลาด ครั้นไปถึงตลาดแล้วท่านยายของนางกลับบอกให้นางกลับเรือนไปก่อน เด็กหญิงจึงยินยอมที่จะทำตา
างทางขณะที่นางกำลังเยื้องย่างกลับเรือน บรร
ือไม่เจ้าคะ” ชิงเหมยหันไปตอบพล
ายของเจ้าจะกลับเรือนก็อีกตั้งหนึ่งชั่ว
นที่จริงท่านยายก็เอาซาลาเปามาให้ข
ินให้มากๆ หน่อย จะได้แข็งแรง” เส
ยังนึกเสียดายที่เด็กหญิงไม่ได้เติบโตในจวนเฉกเช่นบุตรคนอื่นของตระกูลซิ่ว หากเป็นเช่นนั้นเด็กหญิงคงไ
า ข้าขอกลับเรื
มยเดินจากไป ระหว่างทางก็ทักทายผู้ใหญ่ที่ทักทาย
วๆ เพื่อมาฝึกฝนเพลงดาบของนาง ยามนี้นางรู้สึกได้ว่าร่างกายนี้แข็งแรงมากขึ้นกว่าคราที่นางมาเกิดใหม่แล้ว
กับมือเล็กๆ
า แรกๆ ก็รู้สึกไม่คุ้นชิน ทว่าทำไปทำมาก็ได้รู้ว่านางยังจดจำทุกท่าทางได้เป็นอย่างดี แต่ทว่ายามนี
แล้วมานั่งทบทวนบทกวีที่ท่านอาจารย์ลู่อวิ๋นสั่งมา พรุ่งนี้นางต้องทดสอบท่องบทกวีเหล่านี้โดยห้ามมองตำรา แม้ว่าจ
นหน้าประตูซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโต๊
อร์รึ” นางตะโ
ข้าเอาเหล้าท้อมาให้
ิงเหมยจึงลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วรีบเดินไปเปิดประต
ามานั่งเล่นกับพี่ก่อนหรือไม่” นางยื่นม
้าคะ” เด็กหญิงวัยแปดปีเอ่ยถามออกมาหลังจ
ล่ะ เข้า
แล้วจึงนำไหเหล้าไปเก็บไว้ในโรงครัวให้ท่านยายของนาง จากนั้นจ
ยินเสียงราวกับว่ามีผู้ใดกำลังฟันฟืนอยู่ ท่านแม่นึกว่าท่าน
เพียงนั้นเชียวรึ
อืม… กินซาลาเปาก
งเอร็ดอร่อย ชิงเหมยยิ้มออกมา ชาติภพก่อนนางไม่มีน้องสาว และนางก็ไม่ค่อยสนิทสนมกับสตรีวัยเดียวกัน เพราะนาง
ท่านแม่ว่าจะมานั่งเล่นอยู่ที่นี่นาน ชิงเหมยจึงฝากเด็กหญิงไปบอกท่านแม่ของเด็กหญิงว่าขอบน้ำใจที
าถึงเรือน ท่านน้าจิงหลิงให้หริ่งเอ๋อร์เอาเหล้ามาฝากไว้ให้ท่าน หลานเ
ับน้ำจากหลานสาวขึ้นมา
นลูกท้อที่ยายเอาให้นางเมื่อปีก่อนเป
ั้นย่อมมีรสดีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะตระกูลหลิ่วนั้นมีชื่อเสียงในด้านการหมักเหล้ามาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ชิงเหมยมองตามพลางส่ายหน้าไปมา ท่านยายข
เสี่ยหนา