สร้างชีวิตพิชิตฝันหนูน้อยนำโชคในยุค70
ันน่าเศร้าของท
“แม่คะ น้องจะไม่
จือจับมือหลินเสี่ยวเย่ไว้แน่นในขณะที่ยืนเฝ้าข้างเต
นี้ เพราะนางโจวซื่อที่พวกเธอทั้งสองเรียกขานว่า ‘คุณย่า’ นั้น เป็นที่เลื่
ะไรนัก แต่พวกเธอกลับต้องกินข้าวต้มมันเทศและผักดองเป็นอาหารหลักแทบทุกมื้อ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซักผ้าหรือทำอาห
านหนักขนาดนั้น คนเป็นย่าก็ยังคอย
บอกว่าน้องพ้นขีดอันตรายแล้วล่ะ นอนพักรักษาตั
า ไว้แม่จะไปคุยกับพ่อ อธิบายเรื่องราว
นก็ตาม แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความสับสน เพราะก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งได้ยินเสียงในหัวของหลินเสี่ยวอวี่ที่บอกว่า พ่อนี่แหละคือต้นตอปัญหาข
งหลินเสี่ยวจือและหลินเสี่ยวเย่ก็เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ ดวงตาท
งด้วยค่ะ ไปหาพ่อกัน พ่
ายคนรองของตระกูลหลินและจางอวิ๋นม่านนั้น เป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กล
จากโรงงาน ก็มักจะหอบหิ้วของฝากมากมายติดไม้
หกตอแหล คนที่เลวที่สุดก็คือมันนั่นล่ะ เพราะมันเองก็รู้เรื่องแผนการ
งอยู่บ้านเลขที่ 212 ถนนตงเหอกับเมียน้อยแล้วก็ลูกชายของมันนั่นล่ะ วันนี้ตอ
ได้น่าสงสารขนาดนี้ จวบจนกระทั่งวันที่ตัวเอ
วามคิด ประกอบกับร่องรอยความสะเทือนใจปนน้ำเสียงคล้าย
ถนนตงเหอ?
เมียน้อย? แล้ว
ูกจนเกือบขาดอากาศหายใจตาย แต่เวลาเดียวกัน สามีที่เธอรักและไว้ใจที่สุด กลับก
องแบบนี้...เรื่องแบบนี
านกำมือทั้งสองบีบแน่น ความคิ
ีทางที่จะหักหลังกันแบบนี้แน่นอน แต่อีกใจหนึ่งเธอก็ก
เร่งด่วนต้องออกไปทำ แม่ฝากพวกเธอสองคนดูแลน้องไปก่อนนะ ถ
วคนละสิบหยวน จากนั้น เธอก็ตัดสินใจได้ในทันทีอย่างไม่มีลั
พวกเธอกำลังจะไปทำอะไร แต่พินิจจากสีหน้าที่ฉายปรากฏใ
่ 212 ถนนตงเหอได้ในที่สุด แต่เมื่อไปถึงเธอกลับพบว่าประตูบ้านนั้นปิดสนิท แต่ด้วยความรู้สึกไม่ยอมแพ้ที่
ังแว่วมา และได้พบกับกลุ่มหญิงสูงอายุสองสามคนที่กำลังนั่งพัก
ลขที่ 212 ไปไหน? พอดีคุณแม่ของเธอล้มป่วยหนักน่ะค่ะ ญาติขอ
าดูเป็นกังวลอย่างมากขณะพูด
ให้ยายคิดก่อน อย่าเร่งรัดยายมาก ขอยายค
ลขที่ 212? นั่นมันบ้านขอ
ลี่เมิ่ง เธอบอกกับฉันว่า วันนี้เธอจะไปฉลองวัน
จากบ้านช่วงเก้าโมงกว่า ๆ ยังเห็นลี
ูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ทำให้ข้อมูลที่จางอว
งนั้น เธอก็ยังพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ ถามต่อพร้อมด้วยความหวังอันลิบลี่ที
้วพอจะทราบมั้ยคะว่าสา
ือนจะชื่อหลินเจียงนะ ได้ยินว่าทำ
จโฉ โจโฉก็ปรากฏ ดูนั่นสิ นั่นมัน
็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียวกันมาก ทั้งสองเดินจูงมือกันพร้อมกับพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนิทสนม ผู้
ายตัวเล็กอายุราวสามขวบได้ เด็กชายคนนั้นหน้าตาล
สามีที่เธอรักและไว้ใจที่สุดแล้วล่ะก็ จางอวิ๋นม่านก็คงเผลอหลุ
งอยู่ตรงหน้า ต่อให้จางอวิ๋นม่านจะไม่อยากเชื่อ
ลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามอย่าง
ู้ชายที่เธอรักที่สุด นี่ค
เป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจ และเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะสามารถฝากฝังชีวิตด้วยได้ แต่จางอวิ๋นม่านกลับยืนกรานเด็ดเดี่ยว เพราะถูกความเอาใจใส่และคำพูดหวานหูที่หลินเจียงมอบให้ตลอดเกือบห
ีลูกศิษย์ลูกหามากมายอยู่ทั่วทุกหนแห่ง แม้พวกท่านจะมองว่าหลินเจียงเป็นคนไม่น่าไว้ใจ แต่เพราะเ
าดแอบโอนสิทธิ์การงานที่พ่อแม่สู้อุตส่าห์ใช้เส้นสายหามาแทบตาย มอบให้แก่หลินเจียงไปทำแทน เรื่องนี้ทำให้
ยและโดนส่งตัวไปใช้แรงงานเพื่อปรับทัศนคติ ทั้งสองคนเลือกที่จะไปโดยไม่บอกกล่าวจางอวิ๋นม่านแม้ส
อาได้ จึงเอ่ยปากหนักกำชับจางอวิ๋นม่านครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ให้เธอพูดถึงพ่อแ
เธอต้องอยู่ที่บ้านของหลินเจียง คอยปรนนิบัติดูแลพ่อแม่สามี ทำงานบ้านสารพัดอย่าง ใครๆแถวนั
เย็นชาใส่เพียงใด แต่ด้วยคำพูดปลอบโยนและความเอาใจใส่ของหลินเจียง ก็
ป็นว่า ทุกสิ่งที่เธอเชื่อมั่นมาโดยตลอ
้แต่ยืนโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่
ือฆ่าคนสองคนตรงหน้าที่ไม่ต่างอะไรจาก ‘หมาตัวผู้กับตัวเมีย’ ให้ตายๆไปซะ แต่เมื่อนึ
นม่าน ทอประกายฉายอารมณ์ความคลุ้มคลั่งสุดน่าสะพรึงก
แกสองตัวต้องอับอายขายขี้หน้าไปยันโคตรเหง้า! ต้องกลายมาเป็นหน