icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon

ผีผายามังกร

บทที่ 2 ตัดเข้าโฆษณา

จำนวนคำ:2339    |    อัปเดตเมื่อ:12/01/2022

บทที่ ๑ ตัดเข้าโฆษณา

คงจะกล่าวได้ว่า หลายสิ่งเกิดขึ้นบนโลกใบนี้อย่างหาสาเหตุมิได้ แม้แต่การเวียนว่ายตายเกิดก็ยังไม่อาจหาสาเหตุชี้ชัดได้ว่าเพราะเหตุใด

ทว่าอาจจะพอนิยามได้ว่ามันคือ ปรากฏการณ์กระแสวิญญาณไหลเวียน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้ที่วายชนม์จากดินแดนหนึ่งจะไปปรากฏอีกดินแดนหนึ่ง ณ ห้วงแห่งกาลเวลาที่อาจจะเป็นอดีตกาลหรืออนาคต หรือแม้แต่ผู้ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ในร่างที่มิใช่ของตน

เหตุการณ์เช่นนี้ไหลเวียนไม่มีสิ้นสุด ตราบใดที่ขุมพลังงานจากดวงวิญญาณนำมาซึ่งเสถียรภาพและสมดุลของความเป็นไปแห่งยุค ทว่าข้อผิดพลาดของปรากฏการณ์ดังกล่าวยังมีอยู่มาก เฉกเช่นดวงวิญญาณนั้นได้พกพาความทรงจำที่มีมาจากชาติก่อนมาด้วย

เรื่องปริศนาที่ชวนฉงนไม่แพ้ปรากฏการณ์นั้น ก็คงจะเป็นเรื่องราวของดินแดนที่ถูกเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ อย่างเช่น เหตุใดหากเดินทางไปยังพิกัดของละติจูดกับลองจิจูดดังกล่าว มันกลับพาไปสู่น่านน้ำทะเลที่ว่างเปล่า

ทั้งที่ครั้งหนึ่ง ณ ดินแดนแห่งนั้นมีทั้งผู้อาศัยอยู่ ที่ไม่ใช่เพียงมนุษย์สามัญ...

ถ้าเช่นนั้นจะขอกล่าวขานถึงดินแดนแห่งนี้สักหน่อย คิดเสียว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าขานให้ท่านทั้งหลายได้ยินยลก็แล้วกัน

อันว่าแคว้นต้าเหลียงนั้นมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับบุรุษรูปงามกับมังกรสวรรค์ในสมัยบรรพกาล

บุรุษผู้นั้นจะมาเป็นมหาจักรพรรดิผู้เกรียงไกรสยบทุกหย่อมหญ้าไว้ด้วยพลานุภาพเหนืออนันต์ที่ใช้ล้างผลาญเหล่ามาร

มือข้างหนึ่งถือเจดีย์ทองคำ ส่วนมืออีกข้างถือดอกบัว

หนึ่งอาวุธสังหาร หนึ่งเครื่องมือเยียวยา

หนึ่งเทพเซียน หนึ่งสัตว์เทพแห่งสรวงสวรรค์ ร่วมกันปราบเหล่ามารและขจัดภยันตรายย่อมเป็นเรื่องน่ายินดี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหน้าที่ให้เทพแต่ละองค์มารับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้อยู่ตลอดอันตรกัปหรือช่วงอายุขัยของมนุษย์

แม้นในบางกัปบางกัลป์นั้นจะปรากฏเรื่องราวของเทพเซียนผู้จำต้องสังหารมังกรคู่กายของตนลง หากมันได้กลายมาเป็นหายนะแห่งแคว้นต้าเหลียง เพื่อรักษาซึ่งความสงบสุขเอาไว้

ทว่าทุกสิ่งย่อมดำรงไว้ซึ่งความดีงามตามที่สวรรค์กำหนด

หากแต่เรื่องราวที่เล่าขานนั้น มิใช่ความจริงแม้แต่น้อย ความดีงามที่สวรรค์สรรค์สร้างถูกทำลายลงด้วยกามารมณ์และเรื่องฉาวคาวโลกีย์ เมื่อความจริงแล้วตั้งแต่บรรพกาลแรกเริ่ม มหาจักรพรรดิผู้เป็นดุจเทพเซียนอันบริสุทธิ์ลงมาจุติดังคำกล่าวว่าเป็นถึงโอรสสวรรค์ผู้นั้นเกิดมีใจปฏิพัทธ์รักใคร่กับสัตว์เทพข้างกายตน

สวรรค์มิอาจทนเห็นและมวลประชามิอาจทนดูความอุจาดที่สองสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นประสานเป็นหนึ่งเดียว จึงได้ส่งคืนมังกรให้เป็นสัตว์รับใช้เทพเซียนบนสรวงสวรรค์โดยการบรวงสรวงแด่เทพผู้พิพากษาให้ลงมาสังหารสัตว์เทพตนนั้นเสีย

หลังแยกพวกเขาออกจากกันต่างฝ่ายต่างสิ้นใจตายไปในทันที เมื่อขาดผู้ปกครองและขาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้กำราบเหล่ามารปีศาจทั่วทั้งพื้นพิภพและสวรรค์ก็ปั่นป่วน พวกเขาจึงได้นำทั้งสองมาอยู่รวมกันอีกครั้งและสร้างวิหารไว้ให้เพื่อเคารพบูชา

ชาวต้าเหลียงได้เขียนตำนานเล่าขานใหม่ว่ากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่นั้นย่อมมีมังกรเคียงข้างบัลลังก์ หากแต่มังกรนั้นก็เป็นเพียงสิ่งเล่าขาน สิ่งที่เปรียบเทียบแทนความยิ่งใหญ่ ความชาญฉลาด ความปรีชาสามารถของฮ่องเต้ มิได้มีมังกรดังที่เป็นถึงสัตว์เทพข้างกายดั่งในนิทานปรัมปรา

แม้ว่าจะมิได้คืนชีพเทพจักรพรรดิขี่มังกรปราบมารผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นเหมือนอย่างเคย แต่ก็ใช่ว่าสวรรค์นั้นจะขาดเทพผู้รับหน้าที่กำราบอสุรา

กาลต่อมาได้มีเทพเซียนผู้หนึ่ง ได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับสัตว์เทพเคียงข้างกาย ความสง่างามและท่วงท่าในการปราบมารนั้นเป็นที่เลื่องลือในหมู่เทพและหมู่มาร เซียนหนุ่มผู้นั้นนุ่งห่มอาภรณ์สีขาวพิสุทธิ์ราวกับเมฆลอยล่องบนฟ้า ขณะที่สัตว์เทพเคียงกายเป็นมังกรสีดำสนิท

ดาบทั้งหกเล่มคลี่กางออกราวกับปีกของพญาอินทรีย์รอบกายของเทพเซียนในอาภรณ์ขาวผู้ทรงมังกรสีดำทมิฬกลางเวหาประมือกับมารจากขุมนรกด้วยท่าทีสง่าดุจน้ำแข็งสลักต้องแสงอาทิตย์ ส่วนมังกรทมิฬตนนั้นรับหน้าที่ในการกลืนกินเหล่ามารเข้าไปในตัว สูบกลืนพลังทิพย์ของพวกมันเพื่อต่ออายุขัยของตนเอง

ทั้งสีขาวของอาภรณ์ที่เทพเซียนผู้นั้นสวมใส่และผิวกายสีดำทมิฬของมังกรตนนั้นสอดประสานกันอย่างลงตัวราวกับสัญลักษณ์แห่งความสมดุลดังเช่นหยินและหยาง

หากว่าการสอดประสานกลับมิใช่เพียงแค่เรื่องการปราบมาร...

ภาพการเสพสังวาสแสนอภิรมย์ของร่างสูงระหงผิวขาวหยกอันบริสุทธิ์ขณะพลีกายให้แก่สัตว์เทพย่ำยีด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข ดาบทั้งหกเล่มปักรอบกองฟางบนผืนนาของแดนมนุษย์ราวกับประกาศว่านี้คือบัลลังก์การเสพสุขของทั้งสอง

หนึ่งเดือยใหญ่จากมังกรขยับเข้าออกในกลีบบัวตูมสีอ่อนดังเช่นผิวขาวดุจหยกเนียนชั้นดี ใบหน้างามที่มีสัญลักษณ์เทพสวรรค์เชิดขึ้น ริมฝีปากอ้าออกร้องครางถึงนามของมังกรตนนั้นด้วยความสุขสม

ก่อนที่ฟ้าจะผ่าลงมายังดาบสีขาวพิสุทธิ์

สลักคำว่า ลิ่วเจี่ยน เอาไว้ทั้งหกเล่ม นำมาซึ่งการหยุดยั้งการกระทำอันน่าสังเวชของเทพและมังกรตนนั้นเอาไว้กลางคัน

ร่างของเทพเซียนผู้นั้นโผเข้าสู่อ้อมอกของมังกรหนุ่มผู้เป็นคนรัก เช่นเดียวกันกับมังกรทมิฬตนนั้นก็ยกสองแขนขึ้นมาโอบกอดปกป้องร่างนี้เอาไว้แนบกาย จ้องตาเขม็งใส่เหล่าผู้มาเยือนทั้งหลายอย่างไร้ซึ่งความเกรงกลัว

หนึ่งในเทพเซียนผู้ไม่อาจทนรับความวิปลาสได้ปรากฏกายพร้อมกับนำนางฟ้าตนหนึ่งมาโยนจนนางล้มพับลงตรงหน้า นางเป็นเพียงเทพธิดาบรรเลงผีผา ริอาจผันตัวไปเป็นแม่สื่อแม่ชักนำความวินาศมาสู่เหล่าเทพเซียนทำให้ต้องแปดเปื้อน!

หนึ่งนางแม่สื่อ หนึ่งเทพอัปรีย์ หนึ่งมังกรจัญไร

ทั้งสามล้วนถูกลงทัณฑ์ให้ไปรับเคราะห์กรรมที่ตนตั้งใจก่อ

หนึ่งนางเนรเทศให้ตกสวรรค์ไปพบกับความอัปยศและมีรูปโฉมอัปลักษณ์

อีกหนึ่งตนถูกขับไล่ลงจากสรวงสวรรค์ไปสถิตยังภพมาร ให้ตกระกำลำบากและหาหนทางสู่ความตาย

อีกหนึ่งตัวลบล้างความทรงจำและทรมานมันทั้งเป็น ร้อยปี พันปี หมื่นปี ก็จะไม่มีวันจดจำเรื่องราวนี้ได้

เรื่องราวเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าเหล่าเทพเซียนนั้น ช่างไร้ปราณีและขาดคุณธรรม!

ถุย! ผิดแล้ว เหล่าเทพเซียนนั้นตายด้านและไร้หัวใจต่างหาก!

“ราศีใดในที่นี้มีเกณฑ์จะได้เนื้อคู่เป็นคนที่เด็กกว่าถึงสิบปี !”

“สิบกว่าปีเลยนะนั่น...” เสียงทุ้มนั้นเอ่ยงึมงำเพียงลำพัง

โห นี่ถ้านับตอนนี้เขากำลังอายุสามสิบปีพอดีถ้วน

หากเป็นราศีของเขาละก็... เนื้อคู่ก็จะอายุประมาณยี่สิบต้น ๆ บวกลบกับอายุสามสิบปีของเขา ไม่สาวน้อยวัยยี่สิบ ก็สาวใหญ่รุ่นราวคราวป้าประมาณสี่สิบปีน่ะสิ

...เวรกรรมแท้โมเอ๋ย

“ราศีนั้นก็คือ... คือออ!!” เสียงดนตรีเร้าอารมณ์ให้ตื่นเต้นไปได้สามวินาทีภาพก็ตัดเข้าโฆษณาในทีวีที่กำลังฉายกลางโรงอาหารของพนักงาน

ขณะนั้นเขากำลังนั่งลุ้นไปกับคุณป้าแม่บ้านทั้งหลายที่พอรายการตัดเข้าโฆษณานั้นก็พากันตบขาตบเข่าอย่างเซ็งจิตกันยกใหญ่

“หมอโมเข้าเวรบ่ายหรอจ้ะวันนี้” ป้าแม่บ้านคนหนึ่งหันกลับมาคุยกับเขาอย่างเป็นมิตร

เบื้องหลังของเหล่าสาววัยทองคือร่างอ้วนท้วนของอาจารย์แพทย์วัยสามสิบปีที่มีชื่อเล่นสั้น ๆ ว่าโม น้อง ๆ พยาบาลรวมไปถึงป้าแม่บ้านก็เรียกเขาสั้น ๆ ว่าหมอโมกันทั้งนั้น

คนที่ถูกเรียกว่าหมอโมยิ้มจนแก้มปริบวกกับผิวขาวและภายในโรงอาหารที่ร้อนอบอ้าวนั้นทำให้แก้มของเขาเหมือนซาลาเปาลูกโต ๆ ที่เปียกเหงื่อ

ซึ่งอาจารย์แพทย์โมเรส สุขสว่าง ผู้นี้เป็นนักเรียนทุนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำชื่อดังทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพียงเวลาไม่กี่ปีก็ได้เป็นอาจารย์แพทย์ มีข่าวลือซุบซิบกันไปว่าด้วยงานที่ท่วมท้นบวกกับเพิ่งถูกสาวเทมาไม่นานแม้แต่เวลาจะออกกำลังกายก็ไม่มีเขาเลยต้องมาอยู่ในสภาพนี้ หรือความจริง... เขาอาจจะอ้วนตั้งแต่แรกเริ่มแล้วก็เป็นได้

แพทย์สั่งห้ามกินของหวานกับคนไข้แต่คนไข้แอบกินได้ฉันใด

แพทย์ก็เป็นหนึ่งในคนที่กินมันจนน้ำหนักเกินเกณฑ์ได้ฉันนั้น

กาแฟเช้า ชาไข่มุกเที่ยง ยังไม่รวมของหวานระหว่างมื้อ และรวมไปถึงช็อคโกแลตบาร์ที่พกไว้ตอนไปราวด์

เอาเถิด ชีวิตนี้จะต้องการอะไรอีกนอกจากอาหารอร่อยและนอนเต็มอิ่ม

ทว่า... เรื่องดงเรื่องดวงเนี่ย ฟังหูไว้หูสักหน่อยก็ไม่เสียหายใช่ไหมเล่า

หลังจากที่ป้าคนนั้นไถ่ถาม เขาก็พยักหน้ารับพร้อมกับดูดน้ำเปล่าปิดท้ายก่อนจะลุกเอาจานชามไปเก็บ โดยไม่คิดจะนั่งรอดูรอลุ้นกับรายการทำนายดวงตามราศีชื่อดังนั่นต่ออีกแล้ว

แต่พอเขาลุกขึ้นอาการวิงเวียนหน้ามืดก็ปรากฏขึ้นมาทันที ก่อนมือที่ถือจานข้าวจะถูกปล่อยให้ร่วงตก

มือหนึ่งเท้ากับโต๊ะค้ำน้ำหนักไว้ อีกมือหนึ่งจับที่อกเสื้อด้วยความรู้สึกเสียดแน่นเจ็บร้าวไปหมด

คุณหมอโมโยกหน้าโยกหลังก่อนจะพยายามยกมือขึ้นบอกในเชิงว่าไม่เป็นอะไร แต่สักพักก็ล้มพับลงไปนอนหมดสติกับพื้นพร้อมกับชีพจรที่อ่อนลงทุกขณะ จนกระทั่งหยุดลงในที่สุด

เปิดรับโบนัส

เปิด
1 บทที่ 1 ลิขสิทธิ์ และคำเตือน2 บทที่ 2 ตัดเข้าโฆษณา3 บทที่ 3 ไร้ยางอาย (1)4 บทที่ 4 ไร้ยางอาย (2)5 บทที่ 5 ไร้ยางอาย (3)6 บทที่ 6 ไร้ยางอาย (4)7 บทที่ 7 ฉานฉูรับราชโองการ (1)8 บทที่ 8 ฉานฉูรับราชโองการ (2)9 บทที่ 9 ฉานฉูรับราชโองการ (3)10 บทที่ 10 ฉานฉูรับราชโองการ (4)11 บทที่ 11 ฉานฉูรับราชโองการ (5)12 บทที่ 12 ฉานฉูรับราชโองการ (6)13 บทที่ 13 ฉานฉูรับราชโองการ (7)14 บทที่ 14 กาลกิณี (1)15 บทที่ 15 กาลกิณี (2)16 บทที่ 16 กาลกิณี (3)17 บทที่ 17 นางไม่พูด (1)18 บทที่ 18 นางไม่พูด (2)19 บทที่ 19 นางไม่พูด (3)20 บทที่ 20 นางไม่พูด (4)21 บทที่ 21 นางไม่พูด (5)22 บทที่ 22 นางไม่พูด (6)23 บทที่ 23 นางไม่พูด (7)24 บทที่ 24 สังเวยแพทย์ (1)25 บทที่ 25 สังเวยแพทย์ (2)26 บทที่ 26 สังเวยแพทย์ (3)27 บทที่ 27 สังเวยแพทย์ (4)28 บทที่ 28 สังเวยแพทย์ (5)29 บทที่ 29 เครื่องสังเวย (1)30 บทที่ 30 เครื่องสังเวย (2)31 บทที่ 31 เครื่องสังเวย (3)32 บทที่ 32 เครื่องสังเวย (4)33 บทที่ 33 ตัวล่อ (1)34 บทที่ 34 ตัวล่อ (2)35 บทที่ 35 ตัวล่อ (3)36 บทที่ 36 เปิดหูเปิดตา (1)37 บทที่ 37 เปิดหูเปิดตา (2)38 บทที่ 38 นักเล่านิทานพเนจร (1)39 บทที่ 39 นักเล่านิทานพเนจร (2)40 บทที่ 40 นักเล่านิทานพเนจร (3)41 บทที่ 41 เหม็นเน่า (1)42 บทที่ 42 เหม็นเน่า (2)43 บทที่ 43 เหม็นเน่า (3)44 บทที่ 44 เจ้าหุบเขาเสวี่ยและเซิน (1)45 บทที่ 45 เจ้าหุบเขาเสวี่ยและเซิน (2)46 บทที่ 46 เจ้าหุบเขาเสวี่ยและเซิน (3)47 บทที่ 47 เจ้าหุบเขาเสวี่ยและเซิน (4)48 บทที่ 48 เจ้าหุบเขาเสวี่ยและเซิน (5)49 บทที่ 49 มนต์ดำ (1)50 บทที่ 50 มนต์ดำ (2)51 บทที่ 51 มนต์ดำ (3)52 บทที่ 52 ปราบมังกร (1)53 บทที่ 53 ปราบมังกร (2)54 บทที่ 54 ปราบมังกร (3)55 บทที่ 55 ปราบมังกร (4)56 บทที่ 56 ปราบมังกร (5)57 บทที่ 57 ขี่มังกร (1)58 บทที่ 58 ขี่มังกร (2)59 บทที่ 59 ขี่มังกร (3)60 บทที่ 60 ขี่มังกร (4)61 บทที่ 61 ขี่มังกร (5)62 บทที่ 62 คนโปรด (1)63 บทที่ 63 คนโปรด (2)64 บทที่ 64 คนโปรด (3)65 บทที่ 65 ตะลุมบอน (1)66 บทที่ 66 ตะลุมบอน (2)67 บทที่ 67 ตะลุมบอน (3)68 บทที่ 68 ไม่ต้อง (1)69 บทที่ 69 ไม่ต้อง (2)70 บทที่ 70 ไม่ต้อง (3)71 บทที่ 71 โง่เง่า (1)72 บทที่ 72 โง่เง่า (2)73 บทที่ 73 โง่เง่า (3)74 บทที่ 74 โง่เง่า (4)75 บทที่ 75 โง่เง่า (5)76 บทที่ 76 อย่าหนีข้าไป (1)77 บทที่ 77 อย่าหนีข้าไป (2)78 บทที่ 78 ก็ไม่เลว (1)79 บทที่ 79 ก็ไม่เลว (2)80 บทที่ 80 ก็ไม่เลว (3)81 บทที่ 81 ก็ไม่เลว (4)82 บทที่ 82 ก็ไม่เลว (5)83 บทที่ 83 ก็ไม่เลว (6)84 บทที่ 84 สอด (1)85 บทที่ 85 สอด (2)86 บทที่ 86 สอด (3)87 บทที่ 87 ซื่อซื่อ (1)88 บทที่ 88 ซื่อซื่อ (2)89 บทที่ 89 ซื่อซื่อ (3)90 บทที่ 90 ซื่อซื่อ (5)91 บทที่ 91 ชายแก่ (1)92 บทที่ 92 ชายแก่ (2)93 บทที่ 93 ชายแก่ (3)94 บทที่ 94 ชายแก่ (4)95 บทที่ 95 จุก (1)96 บทที่ 96 จุก (2)97 บทที่ 97 จุก (3)98 บทที่ 98 เหี่ยว (1)99 บทที่ 99 เหี่ยว (2)100 บทที่ 100 เหี่ยว (3)