การแต่งงานที่ไม่คาดคิดของฉันกับ CEO
ทันใดนั้น จักรยานเสือภูเขาหลายคันก็วิ่งอย่างรวดเร็วมาหยุดตรงหน้าเรา
ผู้ชายที่นำหน้ากลุ่มใช้เท้าข้างหนึ่งยันจักรยานของเขา แล้วเหยียดตัวตรงขึ้นมองมาที่ฉัน และสังเกตเห็นเสื้อที่คลุมบนไหล่ของฉัน
“ให้ตายเถอะ ตู้หยวุน นายจีบสาวได้เก่งขนาดนี้เชียว นี่ขนาดอยู่บนภูเขาที่แห้งแล้งในกลางดึก นายก็ยังหาผู้หญิงได้อีกเหรอเนี่ย”
ผู้ชายที่ยืนข้าง ๆ เตะยางหน้าจักรยานของเขา
“นี่นายตาบอดเหรอไงนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ ชายที่นำหน้าก็กวาดมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียด แล้วเขาก็ตกใจเมื่อเห็นเลือดที่ขาของฉัน
“นี่ มันเกิดอะไรขึ้นละเนี่ย“ เขาถามขึันด้วยความสงสัย
ทันทีนั้น ก็มีแสงไฟจากรถยนต์สว่างขึ้นใกล้ ๆ
รถคันสีดำงกำลังแล่นเข้ามาถึงช้าๆ คนขับกลับรถที่ข้างถนนที่ไม่ได้ห่างไกลเท่าไหร่อย่างชำนาญ แล้วก็จอดรถตรงหน้าเรา
จากนั้น ก็มีชายคนหนึ่งลงมาจากรถ ดูเหมือนคนอายุประมาณสามสิบต้น ๆ สวมใส่สูทแบบรีดเรียบอย่างดี
ผู้ชายที่นั่งข้างฉันลุกขึ้นเดินเข้าไปในรถแล้วนั่งที่ที่นั่งคนขับ พอเห็นแบบนี้แล้ว ชายที่ว่าเขาจีบสาวเมื่อตะกี้นี้ก็ด่าเล่นเขาว่า
“เฮ้ย...นายทำแบบนี้ได้ยังไงวะ ตู้หยวุน เราตกลงกันก่อนแล้วนี่ จะขี่กลับไปด้วยกัน แต่ลับหลังเรา นายกลับเรียกรถมารับซะงั้น ไอ้เหี้ยเอ๊ย”
ผู้ชายที่ชือตู้หยวุน่นั้นเปิดหน้าต่างข้างหน้าลงแล้วโยนก้นบุหรี่ทิ้งออกมาพร้อมเม้มปากยิ้มกวนประสาท
“ฉันเหนื่อยแล้ว ไอ้สัส หล่าวหยางจะขี่จักรยานของฉันกลับไปพร้อมกับพวกนายแทน”
พอพูดจบ เขาก็หันมามองฉันจากในรถ “นั่น คุณอยากจะนั่งหนาวตายอยู่ข้างนอกเหรอไงครับ?”
ฉันกลัวว่า จู่ ๆ เขาจะขับรถออกไปโดยไม่รอฉัน จึงรีบไปเปิดประตูตรงที่นั่งข้างคนขับ แต่ฉันก็เกิดลังเลใจขึ้นมาก่อนที่จะเข้าไปในรถ
รถของเขาสะอาดสะอ้านทั้งภายในและภายนอก แต่เนื้อตัวฉัน......
หลังจากคิดลังเลในการตัดสินอยู่พักหนึ่ง ฉันก็เข้าไปในรถ แต่ก็ไม่กล้านั่งลง และหนีบขาทั้งสองไว้แน่น โดยกังวลว่า ถ้าฉันขยับตัวสักนิดก็จะทิ้งรอยเท้าที่สกปรกในรถ
แต่คิดไม่ถึงนัก จู่ ๆ เขาก็สตาร์ทรถ ฉันจึงหงายหลังเอนลงนั่งที่ที่นั่ง
ฉันก็จ้องมองไปที่เขาทันทีพร้อมใบหน้าที่ร้อนแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษ…ฉันขอโทษนะคะ…แล้วฉันจะจ่ายค่าล้างรถให้ค่ะ” ฉันพูด
เขาเม้มปากนิด ๆ ยิ้มอย่างนุ่มนวล
“ค่าล้างรถของผมเป็นหมื่นต่อครั้งครับ หากมีคราบสกปรกฝังแน่น ผมก็ต้องจ่ายเพิ่มนะ“
ขณะที่เขาพูดถึง “คราบฝังแน่น“ เขาก็เหลือบมองมาที่ขาของฉันด้วย
ตั้งเป็นหมื่นนี่นะ? นั่นมันเว่อร์ไร้สาระ โดยทั่วไปแล้วค่าล้างรถสูงสุดก็แค่ห้าสิบเหรียญเอง ทำไมค่าล้างรถของเขาถึงได้แพงหูฉี่อย่างนี้ มันจะแพงกว่าการรักษากับล้างไตหรืดไงเนี่ย
แต่รถของเขาก็ดูดีหรูหรามีราคามากกว่าของเหอซวี่จริง ๆ
ทว่าฉันไม่มีเงินในตอนนี้เลย ฉันมีแค่โทรศัพท์เครื่องเดียวในมือของฉันเท่านั้นเอง
“ตอนนี้ ฉันไม่มีเงินสดติดตัวเลยค่ะ แต่ถ้าคุณเชื่อใจฉันละก็ กรุณาให้หมายเลขโทรศัพท์ของคุณไว้ แล้วฉันจะส่งเงินให้คุณทีหลังค่ะ”
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อบันทึกหมายเลขของเขาไว้ แต่โทรศัพท์มันดับอยู่
ฉันพยายามเปิดโทรศัพท์ โชคดีที่ยังเปิดเครื่องได้ ฉันถามถึงชื่อของเขาเพื่อที่จะบันทึกไว้กับหมายเลขโทรศัพท์ของเขา เขาบอกว่า เขาชื่อตู้หยวุน
พอฉันกดบันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว ฉันก็ได้รับข้อความจำนวนมากมายจากหลีโลว่
พอคิดว่า เธอคงเป็นห่วงฉันมาก ฉันจึงรีบโทรออกไปหาเธอทันที แต่ระหว่างการต่อสายอยู่นั้น หน้าจอโทรศัพท์ก็ดับเป็นสีดำ แบตเตอร์รี่หมดเกลี้ยงแล้ว
“คุณจำเบอร์ของเพื่อนคุณได้ไหมล่ะครับ” เขาปลดล็อกโทรศัพท์ของเขาแล้วยื่นให้ฉัน
ฉันพยักหน้าตอบ แล้วรับโทรศัพท์มากดหมายเลขของหลีโลว่
คงเป็นเพราะว่า มันแสดงเบอร์ที่ไม่รู้จัก หลีโลว่จึงรับโทรศัพท์อย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ หลีโลว่พูดอยู่ค่ะ”
“โลว่โลว่จ๊ะ นี่ฉันเองนะ” ฉันพึมพำ
เมื่อได้ยินเสียงฉัน หลีโลว่ก็โพล่งออกมาว่า “เสี่ยวหยวู นี่เธออยู่ที่ไหนน่ะ? มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอ ใช่ไหมจ๊ะ? เมื่อฉันได้รับโทรศัพท์เธอก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึกมันผิดปกติ ฉันเลยรีบไปหาเธอที่บ้านนะ แต่เธอก็ไม่อยู่บ้าน แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนจ๊ะ?เสี่ยวหยวู ฉันโทรหาเธอทั้งคืนแล้ว แต่เธอก็ไม่รับสาย จากนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ปิดไปเลย เธอรู้ไหมว่า ฉันเป็นห่วงเธอจะตายอยู่แล้วนะ“
พอได้ยินความเป็นห่วงใยจากว่าหลีโลว่ น้ำตาของฉันก็ไหลอาบแก้ม
ฉันปาดน้ำตาแล้วพูดปนสะอื้นว่า “ฉันไม่เป็นไรจ้ะ ตอนนี้ ฉันอยู่ที่ โถงยี่ทาวน์ จ้ะ”
“เธออยู่กับสามีเหรอจ๊ะ?” เธอถาม
“ใช่จ้ะ”
“นี่เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่าจ๊ะ เขาไม่รู้เหรอว่า เธอกำลังท้องอยู่นะ ถึงยังพาคุณออกไปทำไมกัน เธอต้องระวังให้มากที่สุด รู้ไหม?” หลีโลว่กล่าวในโทรศัพท์
“ฉันสบายดี ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ“ เมื่อได้ยินเธอพูดถึงลูก ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเองไว้แล้ววางสายทันที
ตู้หยวุนคงได้ยินเรื่องที่เราคุยกันทางโทรศัพท์แล้ว เพราะเขาขมวดคิ้วแน่น เหลือบมองมาที่ท้องของฉันและขาที่ยังมีเลือดไหลอยู่ของฉัน
จากแววตาของเขาที่มองมา ฉันรู้สึกได้เลยว่า เขาคงมีสติปัญญามากพอที่จะเข้าใจกับเรื่องราวที่ฉันเพิ่งผ่านมาทั้งหมด
แต่เขาก็ไม่ถามอะไรฉันเลย
ฉันคืนโทรศัพท์ให้เขาแล้วเบือนหน้าหนีจากเขา
ตู้หยวุนจุดบุหรี่อีกมวนอย่างเงียบ ๆ
นาทีนี้ ความเงียบก็เข้าครอบคลุมไปทั้งรถ