การแต่งงานที่ไม่คาดคิดของฉันกับ CEO
ขอแค่ฉันไม่ถูกรถชนตายไปเสีย ฉันก็มีโอกาสที่จะได้ออกไปจากตรงนี้
แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเบรกดัง เอี๊ยด ๆ
แรงชนไม่ได้รุนแรงอะไรนัก แต่การที่ฉันเหวี่ยงตัวเองลงบนถนนทำให้ฉันกลิ้งไปกับพื้น
เมื่อได้ยินเสียงดัง “ปั้ง” ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมอง
ท่ามกลางความมืดมิดนั้น ฉันเห็นใครบางคนอยู่นั่น ทว่าฉันแทบจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขาเลย เขาจุดบุหรี่ขึ้นอย่างช้า ๆ เปลวไฟของไฟแช็กก็สะท้อนเข้าไปในดวงตาของเขา
ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี
เขาพ่นควันบุหรี่ออกมา แล้วกวาดสายตามองฉัน ฉันรู้สึกอายมากจนอยากจะซ่อนตัวไปจากสายตาของเขา สักพัก เขาจึงเอ่ยปากพูด
“น้องสาว จะกระโจนทั้งที ทำไมไม่เลือกสักหน่อยล่ะ? ทำไมต้องเป็นจักยานรเก่า ๆ เส็งเคร็งของผมด้วย?
เสียงของเขานุ่มลึกดึงดูดใจ แต่สิ่งที่เขาพูดทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างจัด
ใช่จริง ๆ ด้วย เขาเพียงแค่ขี่จักรยานรเสือภูเขาคันหนึ่ง แสงไฟที่ฉันเห็นเมื่อสักครู่ คงมาจากไฟฉายหน้ารถจักรยานรของเขา
บางที เขาคงเห็นว่า ฉันแต่งกายสกปรก ไม่เรียบร้อย เขาเลยคิดว่า ฉันจงใจจะแบล็กเมล์เขา
ทันทีที่เขาหันมาสบตาฉัน เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วสีหน้าเย้ยหยันของเขาก็หายไป
ฉันรีบหลบสายตาเขา และไม่คิดจะอธิบายอะไร ฉันได้แต่กอดขาตัวเองไว้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยพยายามไม่สนใจเขา
พอเขาเห็นว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขอค่าชดเชยอะไร และไม่สนใจกับการเยาะเย้ยของเขา เขาก็เอามือที่คีบบุหรี่ครึ่งมวนนั้น วางบนแฮนด์ของจักรยานรแล้วขี่จากไป
จักรยานรของเขาหายลับไปบริเวณทางโค้งข้างหน้า ในที่สุด ฉันก็ร้องไห้ออกมา
นาทีนี้ ฉันอยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อนฉัน แม้ว่าเขาจะหัวเราะเยาะฉันก็ตาม เพราะอย่างน้อย ฉันก็ไม่ต้องอยู่คนเดียว
ในหุบเขาที่ดึกสงัดเยี่ยงนี้ เสียงร้องไห้ครวญครางของฉัน ดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
หลังจากนั้น ก็มีแสงไฟส่องมาที่ฉันอีกครั้ง แล้วฉันก็ได้ยินเสียงรถเบรกลง ฉันเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปทางต้นเสียงด้วยความแปลกใจ ปรากฏเห็นจักรยานรเสือภูเขาคันเดิมจอดอยู่
ผู้ชายคนนั้นกลับมาที่นี่อีกครั้ง แล้วเขาก็นั่งลงสูบบุหรี่อยู่ริมถนนอย่างสบายใจพลางถามขึ้นว่า “ร้องไห้เสียงดังขนาดนี้ ไม่กลัวผีจะออกมาหาเหรอ?”
ฉันอึ้งกับคำถามของเขา แล้วจ้องมองเขาทั้งน้ำตา และเขาก็มองกลับมาที่ฉันเช่นกัน
แสงจากไฟฉายส่องมาที่เราสองคนพอดี ทะลุควันที่บางเบา ฉันได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
เขาหล่อมาก หล่อราวกับเทพบุตร เขามีเสน่ห์ในแบบฉบับที่ผู้ชายควรจะมี แม้ว่า เขาจะสวมแค่ชุดกีฬา และผมด้านหน้าของเขายังมีคราบเหงื่อเกาะอยู่ แต่เขาก็ยังดูแมน ๆ และสุขรุม ขาและแขนของเขาเผยให้เห็นกล้ามที่แข็งแรงพอเหมาะ
อาจเป็นเพราะฉันไม่ได้เรียกร้องค่าชดเชยใด ๆ ก่อนหน้านี้ เขาจึงเชื่อว่า ฉันไม่ได้คิดจะแบล็กเมล์เขา ขณะนี้ เขามองฉันอย่างหงุนงง และสงสัย
“คุณดูไม่ค่อยดีเลยนะ” เขาเหลือบมองเท้าของฉัน ที่มีรอยคราบเลือดเปื้อนอยู่
ฉันเอามือกอดอกไว้แน่นตามสัญชาตญาณ และพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ฉันแค่…รู้สึกหนาว”
เขาพยักหน้า แล้วเอาบุหรี่คาบไว้ ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบเสื้อคลุมจากกระเป๋าเป้บนจักรยานร จากนั้น เขาก็เอาเสื้อนั้นมาคลุมไหล่ให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ“
ฉันรู้สึกซึ้งใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของเขา แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี เสื้อคลุมของเขาหอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ดูเหมือนว่า จะเพิ่งซักมา แต่เนื้อตัวของฉันมันสกปรกมาก
“ผมคิดว่า คุณควรไปโรงพยาบาลนะ” เขากล่าว
โรงพยาบาล? เหอซวี่ก็เป็นหมอ เขาทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล และเขาก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ฉันตกอยู่ในสภาพนี้
ฉันจึงพูดขึ้นอย่างเศร้า ๆ ว่า “ฉันแค่อยากกลับบ้านค่ะ”
แล้วคำว่า “บ้าน“ ก็ทำให้ใจฉันต้องปวดร้าวอีกครั้ง
นั่นยังเป็นบ้านของฉันอยู่หรือเปล่าละ?
เขามองมาที่ฉันพักหนึ่ง สายตาของเขาแสดงให้เห็นถึงอารมณ์บางอย่างที่ฉันก็ไม่เข้าใจ เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ได้ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านเองครับ”
ฉันคิดว่างานนี้คงจะยากไปหน่อย เมื่อมองไปที่จักรยานรเสือภูเขาของเขา
เขาคงเดาออกว่า ฉันกำลังคิดอะไรอยู่ จึงหัวเราะหึ ๆ ก่อนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก
“หล่าวหยาง ขับรถมาทางนี้หน่อยซิ” เขาตัดสายทันที หลังจากบอกตำแหน่งกับคนที่ปลายสายเรียบร้อยแล้ว
ฉันแก้เขินด้วยการนวดไหล่ของตัวเองเบา ๆ อย่างเงียบ ๆ
แล้วเขาก็จุดบุหรี่อีกมวนหนึ่ง
เขาคงเป็นคนที่สูบบุหรี่จัดมาก
“คุณ...ไม่กลัวผมจะหลอกคุณเหรอ?” เขาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วอบอุ่น
ฉันเอียงคอมองด้วยความรู้สึกท้อแท้
“ฉันไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว”ฉันบอกเขา